ภาพรวมการนำเข้าส่งออก ยังมีแนวโน้มที่ดี

กระทู้สนทนา
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจโลกไตรมาส 4 ปี 2566 คาดว่าจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากการเผชิญ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1.เศรษฐกิจที่จะชะลอตัวอย่างพร้อมเพรียง (Synchronized slowdown) โดยที่ผ่านมาภาคการผลิตทั่วโลก (โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว) ที่วัดจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (Manufacturing PMI) หดตัวมาโดยตลอด ผลจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ประกอบกับความต้องการสินค้าต่างๆ เริ่มหมดลงทำให้ภาคการผลิตมีปัญหา และในปัจจุบันภาคบริการเริ่มมีปัญหาแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากดอกเบี้ยสูง         2.ดอกเบี้ยสูงยาวนานขึ้น (Higher for longer) ในช่วงที่ผ่านมาเงินเฟ้อในประเทศพัฒนาแล้วลดลงมาพอสมควรจากเงินเฟ้อภาคการผลิตเป็นหลัก อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปเงินเฟ้อจะลดลงยากมากขึ้น เนื่องจากเป็นเงินเฟ้อในส่วนภาคบริการ นอกจากนั้นราคาน้ำมันที่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ก็มีส่วนทำให้เงินเฟ้อในระยะต่อไปกดลงได้ยากเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนั้น ธนาคารกลางต่างๆ ก็จำเป็นต้องคงดอกเบี้ยยาวนานขึ้นซึ่งจะยิ่งกดดันเศรษฐกิจ และ 3.ความแตกต่างระหว่างสหรัฐที่เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นโดยเฉพาะยุโรปและจีนที่จะชะลออย่างมีนัยสำคัญ (US and The Rest) โดยที่ผ่านมาเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตค่อนข้างแข็งแกร่งจากการปรับขึ้นค่าจ้าง ทำให้การจับจ่ายยังเติบโตดี แต่ในระยะต่อไปการเงินที่มีปัญหามากขึ้นจะกระทบต่อการใช้จ่ายของทั้งประชาชนและภาคธุรกิจ ด้านเศรษฐกิจของยุโรปจะยิ่งเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยจากนโยบายการเงินที่ตึงตัวต่อ ในขณะที่เศรษฐกิจจีนก็มีความเสี่ยงจะซึมยาวและเข้าสู่ "ทศวรรษที่หายไป" เช่นเดียวกับญี่ปุ่นเมื่อช่วงทศวรรษ 1990” 
 
           ขณะที่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงมาก แต่อนาคตมีความหวังจากความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายกระตุ้นจากภาครัฐ โดยเราประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ดีกว่าปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากเสถียรภาพทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลเพื่อไทยจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้อีก 1% โดยเราคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะขยายตัวได้ 4.1% (เทียบกับประมาณการเดิมที่ 3%) จากปี 2566 ที่ขยายตัว 2.7%
 
           พร้อมกันนี้ยังคาดว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้าสู่ตลาดไทยอีกครั้งเมื่อพิจารณาจาก 1.แนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจจีน 2.การเสร็จสิ้นการปรับลดอันดับเครดิต ผลประกอบการ และ GDP 3.นโยบายการเงินที่เริ่มลดระดับความตึงตัวของ Fed และ 4.มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและการท่องเที่ยว โดยความเสี่ยงสำคัญ 2 ประการที่ยากจะมองข้าม ได้แก่ ประการแรก ด้วยระดับน้ำที่ต่ำและฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลสำคัญ การเกิดเอลนีโญระดับรุนแรงจะสร้างความเสียหายต่อผลผลิต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของเกษตรกรแต่จะถูกผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาช่วยในไตรมาสที่ 1 ประการที่สอง ในกรณีที่รัฐบาลเลือกที่จะกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจส่งผลต่อความเข้มแข็งทางการคลัง 

ref : https://www.scb.co.th/th/about-us/news/sep-2566/innovest-x-economic-4q2023.html
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่