ส่องบทบาท”ศิริกัญญา”ดาวจรัสแสงดวงใหม่ เทียบ”อุ๊งอิ๊ง-พิธา”อนาคตแคนดิเดตนายกฯ
https://www.matichon.co.th/clips/news_4362167
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ส่องบทบาท “
ศิริกัญญา ตันสกุล”ดาวจรัสแสงดวงใหม่ กลางศึกงบประมาณ เทียบ”
อุ๊งอิ๊ง-พิธา”อนาคตแคนดิเดตนายกฯ คนธรรมดาที่ก้าวสู่ผู้นำการเมืองยุคใหม่ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ตัดเกรดฝ่ายค้าน ก้าวไกลเสมอตัว ปชป.คืนฟอร์มนิดหน่อย
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_661877/
การประชุมสภาผู้แทนราษฏร พิจารณา ร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ หลายคนมองว่า ดีกรีความดุเดือดในการฟาดฟันเชือดเฉือนเอาเป็นเอาตาย กันของฝ่ายค้านและรัฐบาลมันหายไป ที่ปกติแล้วมักใช้เวทีอภิปรายงบฯ เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับย่อย ส่วนจะด้วยเหตุผล หรือมีอะไรเป็นปัจจัย เงื่อนไขสำคัญ ก็ยากที่จะฟันธง
แต่เชื่อว่าประชาชนเจ้าของประเทศ ได้เห็นแล้ว การเมืองในสภา เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น มากน้อยเพียงใด ใครชอบมากชอบน้อย ก็ให้คะแนนกันตามอัธยาสัย โดยการทำหน้าที่ของ ก้าวไกล จะว่าไป ก็ไม่ใช่ฝ่ายค้านมือใหม่แล้ว เพราะ 4 ปีก่อน ก็แสดงให้เห็นถึงฝีมือในการฟาดฟันกับรัฐบาล “
ลุงตู่” มาแล้ว และมาครั้งนี้ เปิดด้วย “
ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้านป้ายแดงก็ถือว่า ทำได้สมราคา ตามติดมาด้วย”
สิริกัญญา” ข้อมูลแน่น เนื้อหาชัด ตรงประเด็น หวดรัฐบาลไปหลายที ถือว่า ยังรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เหมือนเดิม
ส่วนคนอื่นๆของก้าวไกลต้องยอมรับให้โอกาสคนรุ่นใหม่มากเป็นพิเศษและทำได้ดีในเชิงข้อมูล แต่ในทางกลับกัน ยังมีบางคนถูกตอบโต้ ใช้ข้อมูลเก่า ทำให้สับสน จนทำให้พรรคเสียรังวัดไปเล็กน้อยด้วยกัน รวมๆ แกนนำหลักทำได้ดีแต่ลูกพรรค สส.หน้าใหม่ ยังต้องปรับปรุง คะแนนที่ได้โดยรวมจึงเอาจเป็นแบบเสมอตัว บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น กับสัมพันธ์เพื่อไทย ที่ยังคลุมเครือ ยังมองไม่ออกว่า หลังจากนี้ เพื่อไทย ยังคงมอง ก้าวไกลเป็นมิตร เหมือนกับผู้นำจิตวิญญาณ ก้าวไกล ยกย่องเพื่อไทยว่าเป็นมิตร อยู่หรือไม่
ขยับมาที่พรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 ประชาธิปัตย์ ขจัดปัญหาภายใน ได้หัวหน้าพรรคชัดเจนแล้ว แม้จะอยู่นอกสภา แต่บรรดาลูกพรรค ส.ส.ทั้ง 25 คน กลับทำหน้าที่ได้สมราคาฝ่ายค้านมืออาชีพ ค้านเพื่อไทยแบบหัวชนฝาเหมือนในอดีต “
จุรินทร์” อภิปรายได้ครบรส ลูกล่อลูกชน ครบสูตร แถมเลียบๆเคียงๆ จนสะเทือนไปถึงชั้น 14 เหล่าองครักษ์ ต้องประท้วงกันวุ่นวายไปหมด
หรือแม้แต่ “
สุณัชชา” สส.หญิงจากเมืองตรัง ก็ทำผลงานได้เข้าตากรรมการ ทำให้บรรดา “
ทูลหัวของบ่าว” นั่งไม่ติดเก้าอี้ ส่วนในรายอื่นๆของพรรคที่ทำหน้าที่อภิปราย ก็หนักแน่น ชัดเจนแถมพอลงมติก็ไม่มีเสียงแตกลบคำปรามาส พรรคอะไหล่รอเสียบได้พอสมควร ตีแต้มบวกได้ไม่น้อยกับการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ส่วนพรรคฝ่ายค้านลำดับ 3 ไทยสร้างไทย มี ส.ส.6 คน ลูกทีมของ “
คุณหญิงสุดารัตน์” ในการอภิปราย ถือว่า ทำได้ดี โดยเฉพาะ
“เลขาฯ ฐากร” แต่พอถึงขั้น ลงมติ กลับเสียงหายไปครึ่งหนึ่ง และเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวที่มีงูเห่า ทำให้เสียแต้มไปพอสมควร
ส่วนเกรดของรัฐบาลนั้น ถือว่า สอบผ่านเกือบทุกคน ยกเว้นบางคนออกตัวแทนนายใหญ่ มากเกินไปหน่อย รวมๆแล้ว ศึกงบฯ 67 เวทีอภิปรายย่อยๆ ครั้งนี้ ก็พอจะเดาทางอภิปรายทั่วไป หรือ อภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคตได้ ว่าคู่ปรับที่แท้จริง จะเป็นพรรคใด แล้วใครกันแน่ที่กำลังรอเสียบ หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี
กัณวีร์ ถามนายกฯ จะส่งเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรม จชต. แต่กลับดำเนินคดีนักกิจกรรม
https://www.matichon.co.th/politics/news_4363267
กัณวีร์ ถามนายกฯ จะส่งเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรม จชต. แต่กลับดำเนินคดีนักกิจกรรม
เมื่อวันที่ 7 มกราคม นาย
กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยกรณีมีหมายเรียกไปยังนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 9 คน ในข้อหายุยงปลุกปั่นและอั้งยี่ซ่องโจร จากการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมแต่งชุดมลายูฉลองเทศกาลฮารีรายอ เมื่อเดือนเมษายน 2566 โดยให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี
นาย
กัณวีร์ เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศเพียงไม่ถึง 3 เดือน ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การแถลงนโยบายไม่ตรงปก การแถลงงบประมาณที่ไม่ตรงปก รัฐบาลนี้ยิ่งทำให้ประเทศนี้กลายเป็น ประเทศไม่ตรงปก
“
อย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการแถลงงบ 67 ว่าให้ความสำคัญกับความมั่นคง และจะให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มั่งคั่ง ใน 4 ปีที่ท่านบริหารประเทศ และเดือนหน้าจะลงพื้นที่ไปส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม จชต.ให้เห็นว่า จชต.มีดีมากมาย”
นาย
กัณวีร์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่องนี้ จะรู้ หรือไม่รู้ ว่ากำลังมีการใช้กฎหมายปิดปากกับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการดำเนินคดีกับคนที่ทำกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอยากส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยิ่งพูดยิ่งไม่ตรงปก
“
ผมเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ไปร่วมกิจกรรมในวันนั้น ได้เห็นพลังของเยาวชน และประชาชน ที่ต้องการสื่อสารสันติภาพด้วยการแต่งกายและวัฒนธรรม การกล่าวคำปฎิญญาก็เป็นการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มีตรงไหนที่หมิ่นเหม่ความมั่นคง และการแต่งชุดมลายูในวันนั้นก็จุดพลัง Soft Power เศรษฐกิจใน จชต.คึกคักจากชุดมลายูที่กลายเป็นกระแสนิยมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และก็พากันมาท่องเที่ยวใน จชต.มากขึ้น”
นาย
กัณวีร์ เปิดเผยว่า หากรัฐจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนแม้กระทั่งการแต่งกาย จะยิ่งย้อนแย้งกับการสมัครเป็นคณะมนตรีเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อย่างที่ตนอภิปรายไว้ในการชี้แจงงบประมาณ ว่าจะมีใครเลือก หากในประเทศเรายังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นาย
กัณวีร์ ยังได้นำคำกล่าวปฏิญญาของเยาวชนในวันนั้นมาชี้แจงว่าเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่สัญญาว่า จะยืนหยัดและเชิดชูคุณค่าของความยุติธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะยึดมั่นศรัทธาต่อศาสนา ชาติ และมาตุภูมิ เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และเยาวชนคือความหวังของชาติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของความเป็นหนึ่งเดียวจุดหมายคือ เอกภาพของมวลมนุษยชาติ เท่านั้น
JJNY : ”ศิริกัญญา”ดาวจรัสแสงดวงใหม่│ตัดเกรดฝ่ายค้าน ก้าวไกลเสมอตัว│กัณวีร์ถามนายกฯ│กวาดล้างศูนย์ฮามาสกาซาตอนเหนือได้แล้ว
https://www.matichon.co.th/clips/news_4362167
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ส่องบทบาท “ศิริกัญญา ตันสกุล”ดาวจรัสแสงดวงใหม่ กลางศึกงบประมาณ เทียบ”อุ๊งอิ๊ง-พิธา”อนาคตแคนดิเดตนายกฯ คนธรรมดาที่ก้าวสู่ผู้นำการเมืองยุคใหม่ ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
ตัดเกรดฝ่ายค้าน ก้าวไกลเสมอตัว ปชป.คืนฟอร์มนิดหน่อย
https://www.innnews.co.th/video/general-news-clips/news_661877/
การประชุมสภาผู้แทนราษฏร พิจารณา ร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ หลายคนมองว่า ดีกรีความดุเดือดในการฟาดฟันเชือดเฉือนเอาเป็นเอาตาย กันของฝ่ายค้านและรัฐบาลมันหายไป ที่ปกติแล้วมักใช้เวทีอภิปรายงบฯ เป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับย่อย ส่วนจะด้วยเหตุผล หรือมีอะไรเป็นปัจจัย เงื่อนไขสำคัญ ก็ยากที่จะฟันธง
แต่เชื่อว่าประชาชนเจ้าของประเทศ ได้เห็นแล้ว การเมืองในสภา เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น มากน้อยเพียงใด ใครชอบมากชอบน้อย ก็ให้คะแนนกันตามอัธยาสัย โดยการทำหน้าที่ของ ก้าวไกล จะว่าไป ก็ไม่ใช่ฝ่ายค้านมือใหม่แล้ว เพราะ 4 ปีก่อน ก็แสดงให้เห็นถึงฝีมือในการฟาดฟันกับรัฐบาล “ลุงตู่” มาแล้ว และมาครั้งนี้ เปิดด้วย “ชัยธวัช” ผู้นำฝ่ายค้านป้ายแดงก็ถือว่า ทำได้สมราคา ตามติดมาด้วย”สิริกัญญา” ข้อมูลแน่น เนื้อหาชัด ตรงประเด็น หวดรัฐบาลไปหลายที ถือว่า ยังรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้เหมือนเดิม
ส่วนคนอื่นๆของก้าวไกลต้องยอมรับให้โอกาสคนรุ่นใหม่มากเป็นพิเศษและทำได้ดีในเชิงข้อมูล แต่ในทางกลับกัน ยังมีบางคนถูกตอบโต้ ใช้ข้อมูลเก่า ทำให้สับสน จนทำให้พรรคเสียรังวัดไปเล็กน้อยด้วยกัน รวมๆ แกนนำหลักทำได้ดีแต่ลูกพรรค สส.หน้าใหม่ ยังต้องปรับปรุง คะแนนที่ได้โดยรวมจึงเอาจเป็นแบบเสมอตัว บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น กับสัมพันธ์เพื่อไทย ที่ยังคลุมเครือ ยังมองไม่ออกว่า หลังจากนี้ เพื่อไทย ยังคงมอง ก้าวไกลเป็นมิตร เหมือนกับผู้นำจิตวิญญาณ ก้าวไกล ยกย่องเพื่อไทยว่าเป็นมิตร อยู่หรือไม่
ขยับมาที่พรรคฝ่ายค้านอันดับ 2 ประชาธิปัตย์ ขจัดปัญหาภายใน ได้หัวหน้าพรรคชัดเจนแล้ว แม้จะอยู่นอกสภา แต่บรรดาลูกพรรค ส.ส.ทั้ง 25 คน กลับทำหน้าที่ได้สมราคาฝ่ายค้านมืออาชีพ ค้านเพื่อไทยแบบหัวชนฝาเหมือนในอดีต “จุรินทร์” อภิปรายได้ครบรส ลูกล่อลูกชน ครบสูตร แถมเลียบๆเคียงๆ จนสะเทือนไปถึงชั้น 14 เหล่าองครักษ์ ต้องประท้วงกันวุ่นวายไปหมด
หรือแม้แต่ “สุณัชชา” สส.หญิงจากเมืองตรัง ก็ทำผลงานได้เข้าตากรรมการ ทำให้บรรดา “ทูลหัวของบ่าว” นั่งไม่ติดเก้าอี้ ส่วนในรายอื่นๆของพรรคที่ทำหน้าที่อภิปราย ก็หนักแน่น ชัดเจนแถมพอลงมติก็ไม่มีเสียงแตกลบคำปรามาส พรรคอะไหล่รอเสียบได้พอสมควร ตีแต้มบวกได้ไม่น้อยกับการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ส่วนพรรคฝ่ายค้านลำดับ 3 ไทยสร้างไทย มี ส.ส.6 คน ลูกทีมของ “คุณหญิงสุดารัตน์” ในการอภิปราย ถือว่า ทำได้ดี โดยเฉพาะ “เลขาฯ ฐากร” แต่พอถึงขั้น ลงมติ กลับเสียงหายไปครึ่งหนึ่ง และเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวที่มีงูเห่า ทำให้เสียแต้มไปพอสมควร
ส่วนเกรดของรัฐบาลนั้น ถือว่า สอบผ่านเกือบทุกคน ยกเว้นบางคนออกตัวแทนนายใหญ่ มากเกินไปหน่อย รวมๆแล้ว ศึกงบฯ 67 เวทีอภิปรายย่อยๆ ครั้งนี้ ก็พอจะเดาทางอภิปรายทั่วไป หรือ อภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคตได้ ว่าคู่ปรับที่แท้จริง จะเป็นพรรคใด แล้วใครกันแน่ที่กำลังรอเสียบ หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี
กัณวีร์ ถามนายกฯ จะส่งเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรม จชต. แต่กลับดำเนินคดีนักกิจกรรม
เมื่อวันที่ 7 มกราคม นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยกรณีมีหมายเรียกไปยังนักกิจกรรมเพื่อสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 9 คน ในข้อหายุยงปลุกปั่นและอั้งยี่ซ่องโจร จากการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมแต่งชุดมลายูฉลองเทศกาลฮารีรายอ เมื่อเดือนเมษายน 2566 โดยให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี
นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศเพียงไม่ถึง 3 เดือน ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การแถลงนโยบายไม่ตรงปก การแถลงงบประมาณที่ไม่ตรงปก รัฐบาลนี้ยิ่งทำให้ประเทศนี้กลายเป็น ประเทศไม่ตรงปก
“อย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการแถลงงบ 67 ว่าให้ความสำคัญกับความมั่นคง และจะให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มั่งคั่ง ใน 4 ปีที่ท่านบริหารประเทศ และเดือนหน้าจะลงพื้นที่ไปส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม จชต.ให้เห็นว่า จชต.มีดีมากมาย”
นายกัณวีร์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแถลงเรื่องนี้ จะรู้ หรือไม่รู้ ว่ากำลังมีการใช้กฎหมายปิดปากกับประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นการดำเนินคดีกับคนที่ทำกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอยากส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในพื้นที่ ยิ่งพูดยิ่งไม่ตรงปก
“ผมเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ไปร่วมกิจกรรมในวันนั้น ได้เห็นพลังของเยาวชน และประชาชน ที่ต้องการสื่อสารสันติภาพด้วยการแต่งกายและวัฒนธรรม การกล่าวคำปฎิญญาก็เป็นการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่มีตรงไหนที่หมิ่นเหม่ความมั่นคง และการแต่งชุดมลายูในวันนั้นก็จุดพลัง Soft Power เศรษฐกิจใน จชต.คึกคักจากชุดมลายูที่กลายเป็นกระแสนิยมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และก็พากันมาท่องเที่ยวใน จชต.มากขึ้น”
นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า หากรัฐจำกัดสิทธิเสรีภาพประชาชนแม้กระทั่งการแต่งกาย จะยิ่งย้อนแย้งกับการสมัครเป็นคณะมนตรีเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ อย่างที่ตนอภิปรายไว้ในการชี้แจงงบประมาณ ว่าจะมีใครเลือก หากในประเทศเรายังมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายกัณวีร์ ยังได้นำคำกล่าวปฏิญญาของเยาวชนในวันนั้นมาชี้แจงว่าเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่สัญญาว่า จะยืนหยัดและเชิดชูคุณค่าของความยุติธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะยึดมั่นศรัทธาต่อศาสนา ชาติ และมาตุภูมิ เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และเยาวชนคือความหวังของชาติ เพื่อประโยชน์สูงสุดของความเป็นหนึ่งเดียวจุดหมายคือ เอกภาพของมวลมนุษยชาติ เท่านั้น