ขอระบายในฐานะผู้เสียหายคนหนึ่ง…?

ผมอายุ 22 ปี ทำงานเป็นไรเดอร์ส่งอาหารในขอนแก่น ในวันหนึ่งช่วงปลายฤดูหนาวปี 2566 ผมได้พาแฟนไปกินเลี้ยงหมูกะทะตามปกติที่เคยทำ ก่อนจะได้ออกไปทำงานตามปกติในคืนนั้น ผมก็รับอาหารไปตามปกตินั้นแหละ แต่ในช่วงเวลา ตี1.50-2.00 มีคนเมาขี่รถเก๋งส่ายไปส่ายมาแล้วข้ามเลนมาชนผม ตอนนั้นถนนโล่งสว่าง โชคดีที่ไม่มีรถตามหลัง หรือคันอื่นๆ คนชนกลับบ้านไปนอน ส่วนผมนอนอยู่บนถนนอยู่นานกว่าจะมีชาวบ้านผมเจอ ผมรู้สึกตัวอีกที่ก็ตอนมีเจ้าหน้าที่กำลังพาผมขึ้นรถฉุกเฉิน ผมอยู่นำตัวเข้าพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส หัวแตกมีเลือดในสมอง กระดูกไหปลาร้าซ้ายหัก กระดูกสะโพกแตกละเอียด แล้วจะมีปอดทะลุ ได้เจาะท่อตามร่างกาย ผมต้องได้รับผ่าตัดด่วน ซึ่งกว่าจะได้ผ่าตัดก็ผ่านไปสัปดาห์กว่าๆ คนชนเดินเข้ามาเยี่ยมผมแล้วมาถามว่าเขาชนยังไง แล้วมาบอกว่าผมมาชนมากกว่า แล้วเขาก็ไม่เคยมาหาผมอีกเลย ผมได้ยินว่าลุงเขาพยายามป้ายความผิดมาหาผมว่าผมไปชนรถเขา ก่อนจะจำนนต่อกล้องวงจรปิด ผมผ่าตัดสะโพกแล้วยึดน็อคใส่กระดูกตลอดชีวิต ก่อนผมจะย้ายตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน คนชนมีการจ่ายค่ารักษามา แต่มันไม่พอ ถึงจะใช้พรบ.แล้วก็ตาม ผมต้องไปกู้หนี้ยืมคนรอบข้าง ซึ่งปัจจุบันนี้ยังชดใช้ไม่หมด คนชนจะชดเชยผมด้วยเงิน 4000/เดือน เป็นเวลา 48 เดือน ซึ่งมันร่วมทุกอย่างไม่ว่าค่ารักษา ค่าเสียรายได้ ฯลฯ แต่ผมยอมรับเงินจำนวนนี้ไม่ได้เพราะผมต้องการเงินมาชดใช้หนี้ต่างๆที่เกิดขึ้นกับการรักษาตัวเอง แล้วผมก็ได้ขึ้นศาลกับเขา ศาลตัดสินว่า รอลงอาญา ปรับสามหมื่น กับชดเชยเงินให้ผมเป็นเงิน แปดแสนกว่าๆ ซึ่งเขาจ่ายค่าปรับตัวเอง แล้วบอกผมว่าจะขอผ่อนเดือนละ 5500 จนหมด ผมก็เข้าใจเขาแล้วก็ตกลง เพราะผมต้องการเงินมาชดใช้หนี้ แต่เขาก็หายไป ติดต่อไม่ได้ บล็อกการติดต่อ ตำรวจก็ทำไรไม่ได้ ศาลก็บอกว่ามันจบแล้วกับศาล ส่วนพวกคุณต้องตกลงกันเอง ชีวิตผมพัง เป็นหนี้ ขาก็ไม่สามารถเดินปกติได้ เขาแนะนำให้จ่ายทนาย แต่ผมก็ไม่มีเงิน เขาอ้างแต่ว่าเขาจน แต่เขาชนผมจนเดินปกติยังไม่ได้ ผมไม่ได้ไปชนเขา ผมแค่ทำงานหาเงินไปกินตอนเช้าเอง ทำไมกฏหมายไทยมันถึงให้ท้ายคนทำผิด แบบนี้ผมก็ชนใครก็ได้ใช้ไหม ยังไงเราก็ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายอยู่แล้ว แค่จ่ายค่าปรับก็จบ ผมไม่รู้ว่าตัวเองจะทนอยู่กับแรงกดดันนี้ได้ไหม ผมอยากมาระบายกับใครสักคน ผมเป็นคนเสียหายนะ…

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่