คือเรื่องที่เราจะมาเล่าวันนี้เป็นประสบป์การโดนเอาชื่อไปใช้ซื้อของโดยที่ตัวเองไม่รู้เรื่อง คือจะว่าเราโง่ก็ได้ ต้องเล่าก่อนว่าตอนเราอยู่ปี 1 เรากำลังหารูมเมทอยู่ ในตอนนั้นก็มีรุ่นพี่ที่เรารู้จักมาจากแอพก็มาอยู่ด้วยบอกว่าจะหารค่าเช่า ไอเราก็เป็นเด็กตาใสไม่รู้เรื่องยอมให้เขาเข้ามาอยู่ด้วยเพราะเราต้องการหารค่าห้อง ทีนี้พออยู่ไปได้สักพักเขาก็ยุให้เราซื้อ Ipad มาเพื่อเรียนแล้วเขาเสนอตัวว่าจะทำเรื่องให้ ตอนแรกเราก็ไม่ยอมแต่เขาก็เสนอตัวจะออกเงินให้จนสุดท้ายเราถึงได้ยอม แต่พอเขาทำเรื่องแล้วผมก็ไปทำเรื่องเองและบอกเขาว่า "จะทำเรื่องซื้อของเอง ให้ยกเลิกที่สั่งไปได้เลย" ซึ่งกระบวนการทุกอย่างเรานั่งทำอยู่ด้วยกันกับเขา
ทีนี่พอผ่านมาได้สักพักอีพี่เขามาขอแสกนหน้า เพราะเขาเรียน IT เขาต้องการนำไปส่งอาจารย์ ในตอนแรกเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเราแล้วทำไมเด็กปี 2 อย่างอีพี่เขาเก่งถึงสามารถทำระบบแสกนหน้าได้เลยหรอ แต่สุดท้ายเขาก็นำโทรศัพท์ของเขามาสแกนหน้าเราอยู่ดี แต่เรื่องนี้ก็จบแต่โดยดี ประเด็นอยู่ที่ว่าหลังจากนั้น โทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าเรามียอดค้างชำระ 2000 กว่าบาท เราจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่เราก็สงสัยว่าทำไมถึงมียอดค้าง สืบไปสืบมาก็พบว่าพี่ตัวต้นเรื่อง เอาที่สแกนใบหน้าผมไปสมัครแอพ Thisshop เอาง่ายๆคือเป็นแอพที่ไว้ซื้อของแต่เราสามารถผ่อนชำระได้ เขาเอาไปซื้อ Ipad ราคา 24,000+ แต่ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเอาไปซื้ออะไร เพราะธุรกรรมทุกอย่างทำจากมือถือเขาเราไม่รู้อะไรเลย ที่นี้พอเราโทรไปถามเขาก็บอกเดี๋ยวเขาจัดการเอง แต่ก็ยังมีคนโทรมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายพี่คนนี้เริ่มจะออกห่างและเริ่มติดต่อไม่ได้ ผมจึงไปแจ้งความ
รอบแรกผมทำแค่บันทึกประจำวันไว้ แต่นานวันเขาไม่มีเรื่องอะไรจนสุดท้ายเราถึงได้ไปคุยกับทนายที่สถานีตำรวจ คืออยากบ่นมากว่าทำไมตำรวจไทยถึงไม่มีความอยากทำงาน รับฟังเรื่องแบบผ่านๆ คือตอนเราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟัง ตำรวจไม่ช่วยอะไรเลยแบบไม่เลยจริงๆ ทนายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วที่

กว่า คือ ตอนย้อนกลับไปรวบรวมหลักฐานเราเพิ่งมาสังเกตุว่า เขาไม่พูดอะไรที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของหรือเขาทำอะไรไปเลย เวลาที่เราคุยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เขาจะโทรหรือพูดคุยกันต่อหน้าเท่านั้น ซึ่งสิ่งพวกนี้ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง
สรุป อยากมาบ่นเรื่องที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่เจอไม่มีเลยคนที่ตั้งใจหรือพยายามทำความเข้าใจและตั้งใจจะช่วยผู้เสียหายจริง ส่วนใครที่ต้องการหารูมเมทมาหาค่าห้องก็พยายามหาคนที่รู้จักกันมานานแล้ว หรือหาคนดีๆ และเป็นเหตุการณ์ที่เราได้รู้เลยว่ากฎหมายไทย ไม่เอื้ออำนวยให้คนที่ถูกเลย ถ้าไม่มีเงินไม่ว่าจะถูกหรือผิดคุณจะโดนว่าผิดอยู่ดี
สุดท้ายเราอยากเตือให้ระวังคนคนนี้ให้ดีอย่าให้มันมาหลอก เพราะ จากที่ฟังๆ ไม่ได้มีแค่คนสองคนที่โดน

ชื่อ ไ*เ*อร์
เรียน:บริหารธธุรกิจ(ธุรกิจบันฑิต)
ปัจจุบันเรียน ม.กรุงเทพ ปี 3 (ไม่ทราบแน่ชัด)
-เคยเป็นเด็กค่าย Gmm
-ที่บ้านปล่อยเช่ารถ
มาแชร์ประสบป์การณ์โดนหลอกให้เอาชื่อตัวเองไปซื้อของแต่เอาเรื่องไม่ได้ของก็ไม่ได้
ทีนี่พอผ่านมาได้สักพักอีพี่เขามาขอแสกนหน้า เพราะเขาเรียน IT เขาต้องการนำไปส่งอาจารย์ ในตอนแรกเราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเราแล้วทำไมเด็กปี 2 อย่างอีพี่เขาเก่งถึงสามารถทำระบบแสกนหน้าได้เลยหรอ แต่สุดท้ายเขาก็นำโทรศัพท์ของเขามาสแกนหน้าเราอยู่ดี แต่เรื่องนี้ก็จบแต่โดยดี ประเด็นอยู่ที่ว่าหลังจากนั้น โทรศัพท์โทรเข้ามาบอกว่าเรามียอดค้างชำระ 2000 กว่าบาท เราจำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ แต่เราก็สงสัยว่าทำไมถึงมียอดค้าง สืบไปสืบมาก็พบว่าพี่ตัวต้นเรื่อง เอาที่สแกนใบหน้าผมไปสมัครแอพ Thisshop เอาง่ายๆคือเป็นแอพที่ไว้ซื้อของแต่เราสามารถผ่อนชำระได้ เขาเอาไปซื้อ Ipad ราคา 24,000+ แต่ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเอาไปซื้ออะไร เพราะธุรกรรมทุกอย่างทำจากมือถือเขาเราไม่รู้อะไรเลย ที่นี้พอเราโทรไปถามเขาก็บอกเดี๋ยวเขาจัดการเอง แต่ก็ยังมีคนโทรมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายพี่คนนี้เริ่มจะออกห่างและเริ่มติดต่อไม่ได้ ผมจึงไปแจ้งความ
รอบแรกผมทำแค่บันทึกประจำวันไว้ แต่นานวันเขาไม่มีเรื่องอะไรจนสุดท้ายเราถึงได้ไปคุยกับทนายที่สถานีตำรวจ คืออยากบ่นมากว่าทำไมตำรวจไทยถึงไม่มีความอยากทำงาน รับฟังเรื่องแบบผ่านๆ คือตอนเราเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ตำรวจฟัง ตำรวจไม่ช่วยอะไรเลยแบบไม่เลยจริงๆ ทนายก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วที่
สรุป อยากมาบ่นเรื่องที่ตำรวจส่วนใหญ่ที่เจอไม่มีเลยคนที่ตั้งใจหรือพยายามทำความเข้าใจและตั้งใจจะช่วยผู้เสียหายจริง ส่วนใครที่ต้องการหารูมเมทมาหาค่าห้องก็พยายามหาคนที่รู้จักกันมานานแล้ว หรือหาคนดีๆ และเป็นเหตุการณ์ที่เราได้รู้เลยว่ากฎหมายไทย ไม่เอื้ออำนวยให้คนที่ถูกเลย ถ้าไม่มีเงินไม่ว่าจะถูกหรือผิดคุณจะโดนว่าผิดอยู่ดี
สุดท้ายเราอยากเตือให้ระวังคนคนนี้ให้ดีอย่าให้มันมาหลอก เพราะ จากที่ฟังๆ ไม่ได้มีแค่คนสองคนที่โดน
ชื่อ ไ*เ*อร์
เรียน:บริหารธธุรกิจ(ธุรกิจบันฑิต)
ปัจจุบันเรียน ม.กรุงเทพ ปี 3 (ไม่ทราบแน่ชัด)
-เคยเป็นเด็กค่าย Gmm
-ที่บ้านปล่อยเช่ารถ