สวัสดีค่ะ เราอายุ 23 ปี กำลังเรียน อีก2เดือนใกล้จบการศึกษาและเข้าสู่วัยทำงานแล้ว วันนี้มีคำถามที่อยากได้ความคิดเห็นจากหลายๆคน เกริ่นก่อนว่า ที่บ้านของเรา เป็นสายหัวโบราณระดับนึง ซึ่งการมีแฟนในวัยเรียนและการดื่มแอลกอฮอล์เป็นข้อห้ามเด็ดขาด ครอบครัวกลัวเรารักไม่เป็น กลัวอกหักแล้วจะฆ่าตัวตาย เหมือนญาติที่รู้จักกันคนนึง อารมณ์เหมือนเป็นปมให้ครอบครัว กลัวเราดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะโดนพาไปทำอะไรไม่ดี ควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวเราติดจนเสียการเรียน แต่เราเองก็แอบมีแฟนมาตั้งแต่อายุ 19 ปี คือเริ่มเข้ามหาลัย และตอนนี้ก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ เรารู้สึกว่ามันดีตรงที่ เหมือนเรามีเพื่อน มีคนคอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจกัน ซึ่งส่วนตัวเราเป็นคนมีเพื่อนน้อย ด้วยสาขาที่เรียนส่วนมากเพื่อนจะเป็นผู้ชาย แรกๆที่บ้านห่วงมาก เพราะไม่มีเพื่อนผู้หญิง จนเราพิสูจน์ว่าเพื่อนผู้ชายที่เราคบ ไม่ใช่เป็นคนประเภทแบบที่ครอบครัวกังวล เพื่อนที่คบไม่มีคนสูบบุหรี่ แต่มีสังสรรค์บ้าง และเพื่อนไม่เคยบังคับให้กิน แต่พยายามบอกให้เราลองกินบ้าง เผื่อในอนาคตจะได้เอาตัวรอดได้ เราก็กินแอลกอฮอล์เป็นบ้างตั้งแต่นั้นมา แต่คออ่อนสุดๆ คือกินให้รู้ว่าเมาเป็นไง ระดับไหนควรพอ เพราะสายอาชีพนี้ คิดว่าจะต้องมีการสังสรรค์แบบนี้แน่ๆ ซึ่งแน่นอนว่า อีกมุมนึงของคนโต ก็จะบอกเราเสมอว่าห้ามลองเด็ดขาด เราเองก็เข้าใจความเป็นห่วงของครอบครัว แต่เราก็ยังลองดื่มไป แต่ไม่ได้บ่อย วันเกิดเพื่อนที หรือวันสำคัญเท่านั้น คำถามแรก* สำหรับทุกคน แบบนี้เป็นความผิดมากมั้ย เราควรสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำมั้ย จนตอนนี้ที่บ้านก็ยังไม่รู้ว่าเราดื่มแอลกอฮอล์ได้แล้ว มันถือว่าเป็นการโกหกที่ผิดบาปมากมั้ย แต่จุดประสงค์ของเราคือ ดื่มเพื่อรู้ ไม่บอกครอบครัวเพราะไม่อยากให้คิดมากและเป็นห่วง
กลับมาที่เรื่องการมีแฟน อย่างที่บอก เรามีแฟนคนนึง เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แรกๆเราค่อนข้างหวงตัวมาก ก็ด้วยสิ่งที่ครอบครัวปลูกฝังมาตลอด เราก็ทำตามในช่วงแรก แต่พอนานๆเข้า ประมาณเกือบปีที่2ที่คบกัน แต่ไม่เปิดสถานะ ไม่เคยบอกที่บ้านให้รู้ เราสองคนก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน ซึ่งตอนนั้นเราเรียนอยู่ และควบคุมตลอด เราศึกษาเอง กรั่นกรองด้วยตัวเองว่าต้องป้องกันยังไงบ้าง ต่างคนก็ต่างครั้งแรก แต่ไม่เคยละเลยเรื่องการควบคุมเลย และเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันบ่อยนัก ในตอนนั้นเราก็ไม่บอกที่บ้านให้รับรู้ จนตอนนี้ เราโตขึ้น แต่ก็ยังใช้เงินครอบครัวกินและอยู่ เราเคยคิดว่าจะบอกความจริงกับที่บ้านดีมั้ย คำถามที่สอง* เราควรบอกที่บ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย เราควรสำนึกผิดมั้ย ทุกคนคิดว่ามันเป็นความผิดมหันต์ของเรามั้ยที่ทำลงไป
จากแรกๆจนถึงตอนนี้เราก็รู้สึกผิดมาตลอด เหมือนโกหกพ่อแม่ แต่อีกใจก็คิดว่า ในวัยแบบเจนเรา เราควรศึกษาและควรป้องกันได้ด้วยตัวเอง เราควรคิดวิธีที่ไม่ทำให้ใครเกิดความเดือดร้อน คำถามที่สาม* ทุกคนคิดว่า เราโตพอจะตัดสินใจเรื่องแบบนี้เองได้หรือยัง เราควรปรับมุมมองเรื่องแบบนี้ยังไงระหว่าง คิดแบบที่ครอบครัวปลูกฝัง แต่ลำบากใจตัวเอง และทำให้รู้สึกผิดตลอดเวลา กับ เปลี่ยนมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าครอบครัวรู้ความจริงก็ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเรา
เหมือนอยู่ๆ ตอนนี้ความคิดมันเริ่มตกตะกอน เริ่มคิดมาก ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวัง แต่ก็ทำลงไปแล้ว การแก้ไขของเราคือ การป้องกันและควบคุม ไม่รู้ว่ามันมากพอมั้ยย หรือทุกคนคิดว่าเราควรหยุดการกระทำพวกนี้ทั้งหมด สับสนมากๆค่ะ
สับสนใจ ครอบครัวVSตัวเอง
กลับมาที่เรื่องการมีแฟน อย่างที่บอก เรามีแฟนคนนึง เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แรกๆเราค่อนข้างหวงตัวมาก ก็ด้วยสิ่งที่ครอบครัวปลูกฝังมาตลอด เราก็ทำตามในช่วงแรก แต่พอนานๆเข้า ประมาณเกือบปีที่2ที่คบกัน แต่ไม่เปิดสถานะ ไม่เคยบอกที่บ้านให้รู้ เราสองคนก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกัน ซึ่งตอนนั้นเราเรียนอยู่ และควบคุมตลอด เราศึกษาเอง กรั่นกรองด้วยตัวเองว่าต้องป้องกันยังไงบ้าง ต่างคนก็ต่างครั้งแรก แต่ไม่เคยละเลยเรื่องการควบคุมเลย และเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันบ่อยนัก ในตอนนั้นเราก็ไม่บอกที่บ้านให้รับรู้ จนตอนนี้ เราโตขึ้น แต่ก็ยังใช้เงินครอบครัวกินและอยู่ เราเคยคิดว่าจะบอกความจริงกับที่บ้านดีมั้ย คำถามที่สอง* เราควรบอกที่บ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้มั้ย เราควรสำนึกผิดมั้ย ทุกคนคิดว่ามันเป็นความผิดมหันต์ของเรามั้ยที่ทำลงไป
จากแรกๆจนถึงตอนนี้เราก็รู้สึกผิดมาตลอด เหมือนโกหกพ่อแม่ แต่อีกใจก็คิดว่า ในวัยแบบเจนเรา เราควรศึกษาและควรป้องกันได้ด้วยตัวเอง เราควรคิดวิธีที่ไม่ทำให้ใครเกิดความเดือดร้อน คำถามที่สาม* ทุกคนคิดว่า เราโตพอจะตัดสินใจเรื่องแบบนี้เองได้หรือยัง เราควรปรับมุมมองเรื่องแบบนี้ยังไงระหว่าง คิดแบบที่ครอบครัวปลูกฝัง แต่ลำบากใจตัวเอง และทำให้รู้สึกผิดตลอดเวลา กับ เปลี่ยนมุมมองแบบคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าครอบครัวรู้ความจริงก็ทำให้ทุกคนผิดหวังในตัวเรา
เหมือนอยู่ๆ ตอนนี้ความคิดมันเริ่มตกตะกอน เริ่มคิดมาก ไม่อยากให้พ่อแม่ผิดหวัง แต่ก็ทำลงไปแล้ว การแก้ไขของเราคือ การป้องกันและควบคุม ไม่รู้ว่ามันมากพอมั้ยย หรือทุกคนคิดว่าเราควรหยุดการกระทำพวกนี้ทั้งหมด สับสนมากๆค่ะ