บริษัทเอกชนค้าปลีก รับเหนื่อยใจยอดขาย คนชั้นกลาง-ล่าง ไม่มีเงินซื้อ เน้นประหยัด



แหล่งข่าวระดับสูงจากวงการค้าปลีกยอมรับกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ภาพรวมของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ไม่ฟื้นตัวดีนัก โดยเฉพาะกำลังซื้อของกลุ่มตลาดกลาง-ล่างที่ยังดูเหนื่อยและอ่อนแรงมาก ขณะที่ต้นทุนค่าครองชีพของคนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้น จากราคาสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มสูง ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ รวมทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในเกณฑ์สูง จึงทำให้คนกลุ่มนี้ค่อนข้างระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย

ส่วนกลุ่มตลาดบนยังเป็นกลุ่มที่มีกําลังซื้อและพร้อมที่จะจับจ่าย ปัญหาในขณะนี้หลัก ๆ มาจากคนไม่มีกำลังซื้อ ไม่มีเงิน และขาดความเชื่อมั่น

นอกจากภาพรวมของเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังมีปัญหา อีกด้านหนึ่งยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องของเงินฝืด อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ราคาพลังงานที่สูง ทำให้ผู้บริโภคมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และในแง่ของผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบในแง่ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ที่ผ่านมา แม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล รวมถึงเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ อาจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ แต่จังหวัดที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดในภาคอีสานยังอยู่ในภาวะที่ทรง ๆ ตัว คาดว่าภาวะเช่นนี้จะซึมยาวมาจนถึงปีนี้

แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกอีกรายหนึ่งแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่าอย่างไรก็ตาม ในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อในช่วงนี้ อาจจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่มีโควิด-19 เพราะว่าช่วงโควิด แม้จะมีเงินแต่ว่าก็ไม่สามารถทำกิจกรรมอะไรได้มากนัก ส่วนตอนนี้ แม้จะมีเงิน แต่ค่าของเงินก็จะลดลงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเข้ามามากขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจก็ยังต้องการการกระตุ้นจากภาครัฐ

“เศรษฐกิจในช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วงที่ต้องประคับประคอง ปกติคนเราจะไม่ใช้จ่าย หรือใช้จ่ายอย่างประหยัด ถ้าคิดว่าจะไม่มีรายได้เข้ามาในอนาคต ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้เขามีความหวัง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคัก ถ้าทำให้เขาเชื่อตรงนี้ได้เนี่ยการจับจ่ายใช้สอยมันก็จะเกิดขึ้น”

จับตาซึมยาวถึงกลางปี

ขณะที่ “วิโรจน์ วชิรเดชกุล” รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจ 1 บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มเยลลี่คาราจีแนน เจเล่ บิวตี้, ปลาแผ่น เบนโตะ, โลตัส ขาไก่ ฯลฯ กล่าวในเรื่องนี้ว่า จากการที่ได้ออกไปเยี่ยมลูกค้าในต่างจังหวัดในหลายจังหวัดในช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา

พบว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่ควร หลัก ๆ น่าจะมาจากการไม่มีเม็ดเงินอัดฉีดเข้ามาในระบบ คนระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น สเปนด์เงินน้อยลง เมื่อคนไม่มั่นใจว่าจะมีรายได้ในอนาคต จึงประหยัด ใช้เงินน้อย

โดยในช่วงไตรมาส 4 หลาย ๆ ธุรกิจได้มีการปรับโยกงบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ มีการลดงบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์ลง เพื่อให้มีตัวเลขกำไรดี มีการลดงบฯโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อโยกไปจัดโปรโมชั่นที่จุดขาย หลายรายเก็บกระสุนไว้ เพราะทุ่มไปก็ไม่มีประโยชน์

สำหรับ 2567 นี้ ก็คาดว่า ในแง่ของเศรษฐกิจและกำลังซื้อก็อาจจะยังไม่ฟื้นตัวมากนัก เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่กว่าจะผ่านสภาและได้ใช้ก็คาดว่าเลยกลางปีไปแล้ว ซึ่งตรงนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ไม่มีเม็ดเงินในระบบ และเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการหลาย ๆ ราย ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มั่นใจ

โดยในช่วงไตรมาสแรกหลาย ๆ คนอาจจะเน้นเพลย์เซฟ และเวทแอนด์ซี ยังไม่กล้าใช้งบฯเนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน

ที่มา: https://www.prachachat.net/marketing/news-1469022

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่