ทริปนี้เกิดจากไปบังเอิญเจอทัวร์ต่างประเทศ  จูไห่-มาเก๊า ราคา 6,990 บาท + ค่าภาษีสนามบิน 2,200 บาท + ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นอีก 2,000 บาท  รวมแค่ 11,190 บาท  3 วัน 2 คืน  ตกใจกับราคาว่าทำไมถูกจัง  เลยติดต่อผ่านเอเจนซี่นิดหน่อยไป  โดยทริปนี้ไปกันทั้งสิ้น 4 คน  ไปขอส่วนลดกับทางนิดหน่อยอีก  แบบว่าถูกแล้วก็อยากถูกอีก  ขอเป็น 11,000 บาทถ้วน  เค้าก็ให้  เอ้า..ให้ก็จ่ายเงินสิรออะไร  ไปกับทัวร์ชื่อ ทราเวลคลับ เดิมวันที่จองคือ 14-16/12/23 แต่บังเอิญมีการเลื่อนไฟล์  โดยทางนิดหน่อยแจ้งมาในวันที่ 30/11/23 ว่าเนื่องจากไฟล์บินยกเลิกเพราะคนจีนเข้าไทยน้อยลง  เลยเลื่อนมาเป็น 22-24 แทน  ซึ่งทางเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว  ช่วงวันที่ไปไกด์บอกว่าก็เป็นช่วงที่อากาศลดลงมาหนาวสุดซะด้วย   หนาวเลขตัวเดียวกันเลยทีเดียว  ราคา 11,000 นี้  รวมอาหารครบทุกมื้อแล้วด้วย  คือถ้าไม่ซื้ออะไร  ราคานี้ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว  nidnoitravel.com/tour/nidn232570/  ข้อมูลก็ตาม link นี้เลยคะ

เริ่มวันเดินทาง  ไกด์นัดพบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิตอน 7.30 ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 10  เวลาบิน 10.35 วันนี้เราจะบินกับสายการบินแอร์มาเก๊า  เที่ยวบิน NX995   ไอ้เราก็กะเวลาเก่งด้วยสิ  ไปถึง 8 โมงจ้า ไปเป็นคนสุดท้ายเลยทีเดียว  เกือบไม่รอด  เวลาเช้าๆแบบนี้  อย่าประมาทเส้นสาทรเด็ดขาด  GPS บอกเวลาเท่าไหร่ก็คูณ 2 กันไปเลย  มีอาหารบนเครื่องด้วยนะ  ก็ถือว่าได้กินมื้อเที่ยงบนเครื่อง  อาหารเค้าจะมีให้เลือก 2 อย่างคือ  บะหมี่หมู  กับข้าวกระเพรากุ้ง (อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า  มันเผ็ดๆ  รสชาติใช้ได้เลย  แต่น้อยไปหน่อย)  บินไม่ถึง 3 ชม ก็มาถึงมาเก๊าอย่างปลอดภัย  เวลาที่มาเก๊าจะเร็วกว่าไทย 1 ชม นะคะ  มาถึงที่มาเก๊าประมาณบ่าย 2 ครึ่ง  ผ่าน ตม มากันอย่างง่ายดาย  ไกด์จะพาไปขึ้นรถ  แล้วข้ามด่านไปจูไห่ทันที  ผู้ร่วมทัวร์มีทั้งสิ้น 14 คนเท่านั้น  ดูส่วนตัวมากกกก  รถทัวร์มารับนี่แทบจะนั่งกันคนละเบาะเลยทีเดียว  ด่านที่ไกด์พาไปจะเป็นด่านใหม่  คนไม่เยอะ  แต่ก็ใช้เวลาพอสมควร  เนื่องจาก ตม ขาเข้าจูไห่ค่อนข้างจะเช็คข้อมูลละเอียด  เลยทำให้ช้า  


เมื่อข้ามด่านไปที่แรกที่ไกด์พาไปคือ Ponto Square เป็นห้างขนาดใหญ่ที่ตกแต่งสวยงาม  แนวสถาปัตยกรรมยุโรป  ไกด์บอกคนส่วนมากมาถ่ายรูป  ไม่ได้มาช๊อปปิ้ง 555  ก็สวยจริงแหละ  ได้รูปไปเยอะอยู่



ถ่ายรูปจนหนำใจทางไกด์ก็พาไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารชื่อ Nanyueyucun  อ่านว่าอะไรก็ไม่แน่ใจ  อาหารที่พามาก็จะเป็นอาหารจีน  เลี่ยนๆ  ดีที่ไกล์จะมีน้ำพริกมาจากไทยมาให้  คนไทยเราแค่มีน้ำพริกกินกับอะไรก็อร่อย  คลุกข้าวก็อร่อย  กินกับอาหารอื่นๆก็อร่อย  น้ำพริกไกด์ช่วยชีวิตแท้ๆ  แต่อาหารที่นี่รสชาติรับได้อยู่นะ  มีไวน์ให้ด้วย  แต่ไม่ได้กิน  มีน้ำชา(ร้อน) น้ำอัดลมกับเปล่าแบบไม่เย็น  ที่นี่เค้าไม่มีน้ำเย็น อาหารแนวโต๊ะจีนมีหลากหลาย  กินอิ่มแน่นอน  


จากนั้นก็พาเข้าที่พักชื่อว่า HUI CHANG HOTEL เป็นโรงแรม 3 ดาว  ห้องที่พักลองหาในอากู๋ตกคืนละ 1 พันบาทไทย  ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนที่พัก  ทำให้ไม่ต้องจัดกระเป๋าทุกวันให้เหนื่อย  ห้องพักดี  กว้างขวาง  เตียงได้เป็นเตียงใหญ่ 1 กับเตียงเล็ก 1 นอน 3 คนได้เลย  ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ  มีของใช้ครบครัน  เสียแค่น้ำเวลาปรับมันจะร้อนไปไม่ก็เย็นไป  ปรับไปกลางๆลำบากนิดนึง  เวลานอนไม่ต้องเปิดแอร์นอนเลย  เปิดหน้าต่างนิดนึงก็นอนได้ละ  เพราะหนาวมาก  อุณหภูมิเลขตัวเดียว  ตรงข้ามโรงแรมก็จะเป็นแหล่งร้านอาหาร  ของกินเยอะแยะ  วันนี้มีโชว์อะไรด้วยก็ไม่รู้  มีสาวๆมาเต้นโชว์ด้วย  ใส่ชุดแบบเต้นท้าหนาวกันเลยทีเดียว  ถ้าใครไม่อิ่มออกมาหาของกินตรงข้ามโรงแรมได้เลย  มีเพียบ  มียัน 7-11  นี่ซื้อไส้กรอกมาลอง  รสชาติคล้ายๆกุนเชียงเลย



เช้ามาวันที่ 2  วันนี้จะเที่ยวที่จูไห่ทั้งวัน  ตื่นมาด้วยอุณหภูมิ 7 องศา  หนาวมากกกกกกกกกก  วันนี้คือวันที่หนาวที่สุด  เลขตัวเดียวเกือบทั้งวัน สูงสุดวันนี้ก็ 11 องศา  แล้วลมแรงอีกต่างหาก  ขนลุกขนพองกันไป  วันนี้ไกด์นัดที่รหัส 6-7-8 คือตื่น 6 โมง  อาหารเช้า 7 โมง  รถออก 8 โมง อาหารเช้าโรงแรม  ขอให้คำจำกัดความว่า  เห้...มากกกกกกกกกก  โอ้โหอย่างกับโรงทาน  วางเป็นถาดๆให้คนมารุมตักรุมกิน  แล้วโรงแรมนี้ทัวร์จีนเยอะด้วยสิ    สภาพ....ไม่อยากกินเลย  แต่เดี๋ยวไม่มีแรงเดิน  อาหารมีแค่ข้าวต้ม  กับพวกผักดอง(มั้ง)  เส้นก๋วยเตี๊ยวผัดซอส  ผัดผัก  แต่ที่อร่อยสุดคือ  ไข่ต้มคะ  ไกด์มีเตรียมโอวันตินกับกาแฟซองมาให้ลูกทัวร์ด้วย  ใครอยากได้ก็ไปกดน้ำร้อนทำกินได้เลย  



รีวิวจูไห่กันก่อน  ขอให้คำนิยามเมืองนี้ว่า  สวย สะอาด อากาศดี  หนาวขนตั้ง  สิ่งปลูกสร้างสวย ทันสมัย  ห้องน้ำใช้ได้สะอาดมีประตูครบ  ถึงจะแบบนั่งยองๆก็ตาม  บ้านเมืองไม่แออัด  และที่สำคัญ  สำคัญมาก สำคัญที่สุดคือกลิ่นบุหรี่ฉ่ำปอด  ใครแพ้กลิ่นบุหรี่อย่ามาเด็ดขาดนะ  คือคนที่นี่เค้าสูบบุหรี่กันทุกที่แบบไม่สนป้ายไม่สนว่าที่ไหน  ไม่ว่าในลิฟท์ ในรถ ในโรงแรม ในร้านอาหาร ตามทางเดิน  ทุกที่จริงๆ  สูบกันเป็นปกติของบ้านเค้า  แต่ไม่ปกติของเรา  กลิ่นมันเลยมีทุกที่  ดมกันให้ฉ่ำไปเลย นอกเหนือเรื่องกลิ่นก็ไม่มีอะไรติ  เมืองสวยจนไม่คิดว่าเป็นเมืองจีน  สะอาดจนตกใจ  ฟุตบาทก็ดี  ทางเดินก็ดี  ดีไปหมดจนงง  ดีจนพอไปเทียบกับบ้านเราละอายเลย  


ที่เที่ยวมื้อแรกที่พาไปคือ  ร้านค้ารัฐบาล  มาซื้อบัวหิมะกันเถอะ  ราคาบัวหิมะที่นี่ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,500 บาท  แล้วแต่ค่าเงินนะคะ  ก่อนหน้าเค้าจะพาเราเดินทัวร์  จากนั้นพาเข้าห้องเย็น  ไปฟังเค้าขายของ  มีอะไรจะบอกคือเค้าจะมีขายของตัวอย่างที่ยังไม่จำหน่าย  จริงๆคือจะแจก  แต่จะแจกสำหรับคนอยากได้เท่านั้น  ยกตัวอย่างสบู่  เค้าบอกว่าจะขาย 70 หยวน  ถ้าเราซื้อ  เค้าจะให้สบู่เรา  พร้อมอั่งเปาอีก 70 หยวนคืนมา  สรุปก็เหมือนแจกฟรี  แต่เค้าจะไม่บอกว่ามีอั่งเปา  เค้าจะทำเป็นขาย  เพื่อดูว่าเราอยากจะได้ของเค้าไปทดลองใช้จริงๆมั๊ย  บอกเลยว่าทัวร์นี้ไม่มีใครซื้อสักคน 555 ก็ไม่ได้อยากลองอ่ะ  เอามาทำไมให้หนักกระเป๋า  แต่บอกไว้เผื่อคนอยากลองนะคะ  ไม่มีสาธิตนวดเท้านะ  ในใบทัวร์บอกมี  แต่ไม่มี ก็ดี  ไม่เสียเวลา  แค่ฟังขายของก็เสียเวลาเที่ยวละ  ที่นี่ข้างในเค้าไม่ให้ถ่ายรูป  เพราะมันมีพวกของโบราณอยู่


หิวแล้วววววว  เพราะข้าวเช้ากินไม่เยอะ  เน้นแต่ไข่  ไกด์ก็พาไปทานอาหารกลางวัน  ร้านชื่ออะไรก็ไม่รู้อีกแหละ  ภัตตาคารอาหารจีนอีกตามเคย  ก็จะมันๆหน่อย  เอาน่า  น้ำพริกช่วยคุณได้   หน้าร้านจะมีไอติมขาย  กินข้าวเสร็จก็จัดไอติมสตอเบอรี่ต่อได้เลย  หนาวมาเราต้องกินของเย็นทับ  จะได้หายหนาว  อ่อ..ร้านนี้ก็ไม่มีน้ำเย็นให้นะ  เค้าจะให้น้ำอัดลมมาขวด  น้ำเปล่า  และชาร้อนมาแทน  แต่ไม่หวั่น  อากาศแบบนี้ไม่เอาน้ำเย็นก็ได้  น้ำเปล่าเค้าจะเป็นรสชาติน้ำต้ม  ไม่ค่อยชินเหมือนกัน  วันนี้ได้นั่งโต๊ะใหญ่ 14 คนรวมกันเลย  มีโต๊ะจีนที่ไหนใหญ่กว่านี้มั๊ยเนี่ย