สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ขึ้นอยู่กับว่า เป็นคนชอบใช้ชีวิตกับธรรมชาติ ชอบขุดดิน ถางหญ้า รดน้ำต้นไม้เป็นงาน อดิเรกรึเปล่า และเกษียณแล้ว มีรายได้ จากแหล่งอื่นมาเลี้ยงดูชีวิตไหม เช่น บำนาญราชการ หรือขั้นต่ำก็ บำนาญประกันสังคมเดือนละสัก 4-5 พันบาท ถ้ามีได้แบบนี้ก็ลุยเลยครับ
ผมเออรี่รีไทล์ มาตอนอายุ 40 ปลาย ๆ ก็ซื้อที่ดิน 4 ไร่ ไม่ไกลจาก กทม. ใช้เวลา ชม. กว่าก็มาถึงที่สวน แล้วก็ปลูกบ้าน ขุดดินทำบ่อเลี้ยงปลา ออกแบบคล้าย ๆ กับรีสอร์ท ใช้เงินขุดบ่อไป 8หมื่น แล้วเอาดินที่ขุดได้มาถมที่ตัวเองกันน้ำท่วม ทำแบบนี้ผม ประหยัดค่าถมดินไปครึ่งล้าน แถมได้บ่อเลี้ยงปลาสวย ๆ ในสวน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ไล่ปลูกต้นไม้ ส่วนมาก 90 % ของต้นไม้ที่ปลูกในสวน เป็นไม้ผลทั้งนั้น ไม้ดอกมีแค่ไกล้ตัวบ้านเพื่อความสวยงามของสวน ผมมีผลไม้ ต่าง ๆ นับได้รวม 30 กว่าชนิด ไม่รวมไก่ไข่ และปลา ที่เป็นผลผลิตจากสวนอีก
ผ่านมา 3 ปี ตอนนี้ ที่สวนเริ่มให้ผลผลิตเก็บกินแล้ว อย่างกล้วย ฝรั่ง นี่กินแทบไม่ทัน ส่วนผลไม้อื่น ๆ ก็ ทยอยออกมามีให้กินทั้งปี อีกสัก 3 ปี ผมคิดว่า ผลผลิตน่าจะเหลือกินเหลือแจกเพื่อนบ้าน หรือ แปรรูป ถนอมอาหารไว้กิน
ทุกวันนี้ อยู่กับสวน มีความสุขมาก ตัดชีวิตที่วุ่นวายในเมืองที่อดทนอยู่มาตลอดชีวิต ไม่ต้องเจออากาศพิษ ไม่ต้องเจอรถติด มาอยู่ที่สวน ถึงแม้พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอในการสร้างอาหารลดค่าใช้จ่ายในชีวิต ได้อากาศดี ทุกเช้าตื่นมารับลมจากธรรมชาติ ตัดหญ้าทำสวนเป็นการออกกำลังกายดีกว่าไปอุดอู้อยู่ในฟิตเนสที่อากาศไม่ถ่ายเทปะปนกับคนมากมายที่ไม่รู้จัก พื้นที่ ๆ อยู่ก็ไม่ห่างไกลความเจริญแต่ราคาสินค้ามี่ขายในตลาดนัดถูกกว่าใน กทม. มาก ๆ ข้าวมันไก่ 25 บาทยังมีให้เห็น อาหารส่วนมากถูกกว่า กทม. ประมาณ 20-30% ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงไปมาก อยากไปไหนมาไหนชีวิตก็ใช้จักรยานเป็นหลักถือเป็นการออกกำลังกาย ถ้าอยากเข้าห้างใหญ่ก็ขับรถไป สิบ กม. ก็ถึงห้างใหญ่ละ ไม่ต่างจากอยู่กทม.เลย
จากชีวิตที่ผ่านมา อยู่เมือง ทำงานหนักมาทั้งชีวิต สะสมทรัพย์สินจนมีเงินทองเรียกได้ว่ารวยเลยล่ะ แต่ท้ายที่สุด ผมค้นพบว่า ชีวิตมันไม่ได้ต้องใช้เงินอะไรมากมายขนาดนั้น การมีแหล่งอาหารเป็นของตัวเอง และใช้ชีวิตง่าย ๆ และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ อันที่จริงแล้ว การดำรงค์ชีวิตได้ในแต่ละเดือนใช้เงินแค่ไม่กี่พันบาท ชีวิตมันก็มีความสุขมากมายแล้ว คิดไปแล้วมันดีกว่าในอดีตที่ผมทุ่มทั้งชีวิต อยู่บนงานและความเครียด เพื่อหารายได้เดือนละหลายแสนบาท แล้วก็เอาเงินที่หามาได้ไปถลุงกับชีวิตหรูอยู่แพงบุฟเฟ่มือละเป็นพันบาท แต่สุดท้ายทุกวันก็ต้องกลับไปนั่งเครียดทำงาน วน ๆ ไป จนถามตัวเองไม่ได้ว่าความสุขที่แท้จริงมันอยู่ที่ไหน สุดท้ายจึงมาค้นพบชีวิตแบบที่ผมเล่ามานี่แหละ
ชีวิตคนเรานะ ต้องฝึกคิดว่าเราอยู่บนโลกนี้ จริง ๆ แล้ว ต้องการอะไรกันแน่ เพราะชีวิตเราทุกคนมีเวลาจำกัดบนโลกใบนี้ บางคนทำงานเครียดจนเกษียณ หาความสุขไม่เจอมาเกือบทั้งชีวิต จนสร้างเงินทองมากมาย แต่หลังเกษียณไม่กี่ปี ก็ตายจากโลกนี้ไป บทสุดท้ายชีวิตได้เราอะไรจากสิ่งที่เราทำ
ผมเออรี่รีไทล์ มาตอนอายุ 40 ปลาย ๆ ก็ซื้อที่ดิน 4 ไร่ ไม่ไกลจาก กทม. ใช้เวลา ชม. กว่าก็มาถึงที่สวน แล้วก็ปลูกบ้าน ขุดดินทำบ่อเลี้ยงปลา ออกแบบคล้าย ๆ กับรีสอร์ท ใช้เงินขุดบ่อไป 8หมื่น แล้วเอาดินที่ขุดได้มาถมที่ตัวเองกันน้ำท่วม ทำแบบนี้ผม ประหยัดค่าถมดินไปครึ่งล้าน แถมได้บ่อเลี้ยงปลาสวย ๆ ในสวน หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ไล่ปลูกต้นไม้ ส่วนมาก 90 % ของต้นไม้ที่ปลูกในสวน เป็นไม้ผลทั้งนั้น ไม้ดอกมีแค่ไกล้ตัวบ้านเพื่อความสวยงามของสวน ผมมีผลไม้ ต่าง ๆ นับได้รวม 30 กว่าชนิด ไม่รวมไก่ไข่ และปลา ที่เป็นผลผลิตจากสวนอีก
ผ่านมา 3 ปี ตอนนี้ ที่สวนเริ่มให้ผลผลิตเก็บกินแล้ว อย่างกล้วย ฝรั่ง นี่กินแทบไม่ทัน ส่วนผลไม้อื่น ๆ ก็ ทยอยออกมามีให้กินทั้งปี อีกสัก 3 ปี ผมคิดว่า ผลผลิตน่าจะเหลือกินเหลือแจกเพื่อนบ้าน หรือ แปรรูป ถนอมอาหารไว้กิน
ทุกวันนี้ อยู่กับสวน มีความสุขมาก ตัดชีวิตที่วุ่นวายในเมืองที่อดทนอยู่มาตลอดชีวิต ไม่ต้องเจออากาศพิษ ไม่ต้องเจอรถติด มาอยู่ที่สวน ถึงแม้พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอในการสร้างอาหารลดค่าใช้จ่ายในชีวิต ได้อากาศดี ทุกเช้าตื่นมารับลมจากธรรมชาติ ตัดหญ้าทำสวนเป็นการออกกำลังกายดีกว่าไปอุดอู้อยู่ในฟิตเนสที่อากาศไม่ถ่ายเทปะปนกับคนมากมายที่ไม่รู้จัก พื้นที่ ๆ อยู่ก็ไม่ห่างไกลความเจริญแต่ราคาสินค้ามี่ขายในตลาดนัดถูกกว่าใน กทม. มาก ๆ ข้าวมันไก่ 25 บาทยังมีให้เห็น อาหารส่วนมากถูกกว่า กทม. ประมาณ 20-30% ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงไปมาก อยากไปไหนมาไหนชีวิตก็ใช้จักรยานเป็นหลักถือเป็นการออกกำลังกาย ถ้าอยากเข้าห้างใหญ่ก็ขับรถไป สิบ กม. ก็ถึงห้างใหญ่ละ ไม่ต่างจากอยู่กทม.เลย
จากชีวิตที่ผ่านมา อยู่เมือง ทำงานหนักมาทั้งชีวิต สะสมทรัพย์สินจนมีเงินทองเรียกได้ว่ารวยเลยล่ะ แต่ท้ายที่สุด ผมค้นพบว่า ชีวิตมันไม่ได้ต้องใช้เงินอะไรมากมายขนาดนั้น การมีแหล่งอาหารเป็นของตัวเอง และใช้ชีวิตง่าย ๆ และได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ อันที่จริงแล้ว การดำรงค์ชีวิตได้ในแต่ละเดือนใช้เงินแค่ไม่กี่พันบาท ชีวิตมันก็มีความสุขมากมายแล้ว คิดไปแล้วมันดีกว่าในอดีตที่ผมทุ่มทั้งชีวิต อยู่บนงานและความเครียด เพื่อหารายได้เดือนละหลายแสนบาท แล้วก็เอาเงินที่หามาได้ไปถลุงกับชีวิตหรูอยู่แพงบุฟเฟ่มือละเป็นพันบาท แต่สุดท้ายทุกวันก็ต้องกลับไปนั่งเครียดทำงาน วน ๆ ไป จนถามตัวเองไม่ได้ว่าความสุขที่แท้จริงมันอยู่ที่ไหน สุดท้ายจึงมาค้นพบชีวิตแบบที่ผมเล่ามานี่แหละ
ชีวิตคนเรานะ ต้องฝึกคิดว่าเราอยู่บนโลกนี้ จริง ๆ แล้ว ต้องการอะไรกันแน่ เพราะชีวิตเราทุกคนมีเวลาจำกัดบนโลกใบนี้ บางคนทำงานเครียดจนเกษียณ หาความสุขไม่เจอมาเกือบทั้งชีวิต จนสร้างเงินทองมากมาย แต่หลังเกษียณไม่กี่ปี ก็ตายจากโลกนี้ไป บทสุดท้ายชีวิตได้เราอะไรจากสิ่งที่เราทำ
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยลองทำสวนเกษตรบ้างพวกโคกหนองนาหรือสวนผัก เกษียณล่ะไปรอดไหม