ขอชื่นชมและขอบคุณการแก้ปัญหาของบริษัท AIS

ขอมาอัปเดต เผื่อใครเปิดผ่านมานะครับ จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่า ข้อความด้านล่างที่ผมเคยเขียนไว้นี้ ขอยกเลิกทั้งหมดเลยแล้วกันครับ ทุกวันนี้ปัญหาหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ตอนนี้รู้สึกอึดอัด คับข้องใจมากๆ ไม่อยากจะต้องขายบ้านทิ้งเพียงเพื่อต้องหนีเพื่อนบ้านที่แค่มาเช่าอยู่ด้วยซ้ำ รู้สึกว่าเกิดเป็นคนธรรมดานี่มันหาที่พึ่งพิงอะไรจากใครไม่ได้เลย

ขอแบ่งปันประสบการณ์ครับ ส่วนใหญ่จะมาบ่น แต่คราวนี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจมาเล่าให้ฟังครับ
 
เกริ่นก่อนว่าผมไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัท AIS และการติดต่อกับบริษัทครั้งนี้ก็ไม่ใช่ในฐานะลูกค้า เรื่องเล่าจะยาวสักหน่อยนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับผม
 
เรื่องมีอยู่ว่าบ้านของผมอยู่ในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวบางบัวทอง ภายในโครงการค่อนข้างเงียบพอสมควร ลักษณะบ้านเป็นทาวน์เฮ้าส์หน้ากว้าง 6 เมตร แบ่งเป็นที่จอดรถครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งทำตัวบ้านยื่นออกมา ทำให้ระยะห่างระหว่างประตูบ้านถึงรั้วบ้านแค่ประมาณ 2.5 เมตร ก็คือใกล้พอสมควร บ้านอยู่ในซอย ไม่ใช่ถนนเมน ดังนั้นถนนหน้าบ้านจะค่อนข้างแคบ จอดรถหน้าบ้านได้ฝั่งเดียว ผลก็คือบ้านที่หันหน้าชนกันมีระยะห่างกันไม่มากเท่าไร
 
ซึ่งจริงๆ ถ้าทุกคนเคารพสิทธิ์กันก็ไม่ควรจะมีปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือบ้านที่อยู่ตรงข้ามผมจะจอดรถปิ๊กอัพหน้าบ้านตัวเอง แทนที่จะเอาเข้าไปในบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ได้ว่าอะไรหรอก ยังเข้า/ออกบ้านได้อยู่ แต่จะไม่ค่อยถนัดนัก
 
แต่เรื่องที่ทำให้รำคาญใจก็คือการที่เจ้าของบ้านจะชวนเพื่อนมานั่งกินเหล้าคุยกัน มีตั้งแต่ 3-4 คนทุกบ่อยๆ วันเว้นวัน หรือ 2-3 วันติดๆ กันก็บ่อยครั้ง บางทีกินตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มเย็นๆ ตั้งแต่ 4 โมงไปจนถึง 3-4-5 ทุ่ม ส่วนใหญ่จะมากันประมาณ 3-6 คน แต่วันดีคืนดีประมาณสิบวันครั้ง (เดือนละ 2-3 ครั้ง) ที่จำนวนคนมาจะเยอะเป็นสิบกว่าคน (บ้านก็หลังแค่นี้) และตำแหน่งที่กินก็คือออกมาตั้งโต๊ะข้างนอก ระหว่างตัวบ้านกับรั้วบ้าน (ก็คืออยู่นอกตัวบ้าน แต่ยังอยู่ในรั้ว) ซึ่งรั้วบ้านของโครงการก็จะเป็นเหล็กซี่ห่างๆ น่ะครับ ไม่มีการปิดบังภาพและเสียงใดๆ ทั้งสิ้น
 
ทีนี้เวลาเราอยู่ข้างนอกบ้านเนี่ย มันจะมีเสียงแวดล้อมยืนพื้นอยู่ เพราะฉะนั้นเวลาคุยกันจะต้องใช้เสียงดังกว่าปกติ พอนึกออกไหมครับ และยิ่งคุยกันออกรส เสียงมันจะดังขึ้นเป็นพักๆ เถียงกันก็มีบ้าง เสียงหัวเราะเอยอะไรเอย แค่เสียงคุยปกติก็ดังเข้ามาในบ้านได้ยินชัด เหมือนมีคนมาคุยอยู่ข้างหู ซึ่งจริงอยู่ว่ามันไม่ได้ดังแบบเปิดเพลงงานวัด แต่มันน่ารำคาญครับ ยิ่งทุกบ่อยๆ วันนึงหลายๆ ชั่วโมง ผมนั่งทำงานในบ้านเลยได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ  แต่ต่อให้นั่งเปิดทีวีดูหนัง แต่การมีคนมาคุยอยุ่ข้างๆ มันก็น่ารำคาญมากนะครับ
 
ทางแก้ก็คือปิดประตูบ้าน จะช่วยลดเสียงได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมด คือเสียงที่ลอดเข้ามาก็ยังได้ยินชัดอยู่ดี (แม้จะเปิดทีวีดูหนัง ไม่ได้นั่งทำงานก็ตาม) เลยเกิดคำถามขึ้นว่า ในเมื่อเราอยู่ในบ้านของเราเงียบๆ ไม่ได้ไปกวนใคร ทำไมเราจะไม่มีสิทธิ์เปิดประตูให้อากาศระบาย คนที่ทำเสียงดังไม่ใช่หรอที่ควรจะเคารพสิทธิ์คนอื่น
 
ด้วยเหตุนี้ก็เลยต้องเดินไปพูดกันดีๆ ครับ คุยกับตัวเจ้าของบ้านว่าช่วยเข้าไปกินกันในบ้านได้ไหม หรือขยับโต๊ะเข้าไปนั่งตรงโรงรถให้ห่างจากรั้วบ้านซึ่งตัวเองก็ไม่ได้จอดรถอยู่แล้ว เสียงมันจะได้ไม่เข้าบ้านผมตรงๆ แต่ทางที่ดี เข้าไปนั่งกินกันในบ้านเลยดีกว่า ปิดประตูให้ด้วย ผมยอมให้คุณจอดรถหน้าบ้านทั้งๆ ที่เป็นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าอะไร แต่เรื่องเสียงนี่ไม่ไหวจริงๆ เจ้าของบ้านพยักหน้ารับ
 
ผ่านไปไม่กี่วัน ก็มากินกันเหมือนเดิม ผมยังทำใจดีสู้เสือ เดินไปบอกอีก ไหนเราตกลงกันแล้ว ไม่เห็นคุณทำอย่างที่บอกเลย -- เจ้าของบ้านตอบกลับมาว่า ผมก็เกรงใจพี่ แต่เพื่อนมันเสียงดังกัน ไม่รู้จะห้ามยังไง ถ้ามันเสียงดังอีก พี่เดินมาบอกเองเลยได้ไหม -- ผมแย้งไปว่า ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง คุณนั่งกินเหล้ากัน 6-7 คน ผมเดินไปบอกเดี๋ยวก็มีเรื่องกันน่ะสิ ผมก็อยู่บ้านคนเดียวด้วยเนาะ
 
แล้วก็ตามที่คาดคือ เกิดเรื่องขึ้นอีก คราวนี้มาประมาณ 10 คนได้ มากันตั้งแต่บ่ายสอง จนถึงสามทุ่มกว่าเกือบสี่ทุ่มยังไม่เลิก ผมเลยตัดสินใจเดินไปตะโกนถามข้ามรั้วว่า "ใกล้เลิกกันหรือยังครับ ดึกแล้ว เสียงเข้าบ้านผม"  แต่ผมไม่ยิ้มอะนะ อารมณ์เสียพอสมควร เจ้าของบ้านตอบมาว่า เดี๋ยวเลิกแล้วครับ แต่ขณะที่ผมเดินกลับก็ได้ยินเสียงแซวกลับมาจากสมาชิกในวง  ถ้าเป็นคนอารมณ์ร้อนมีอาวุธอยู่ในมืออาจจะเปรี้ยงปร้าง เป็นข่าวกันไปแล้วก็ได้
 
เหตุการณ์ก็ยังเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ แต่ผมไม่เดินไปคุยแล้ว ผมแจ้งตำรวจไปสองครั้ง ไม่รู้ว่ามาหรือไม่มา แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น ผมอยู่ละแวกนี้ไม่รู้สึกว่าพึ่งพาตำรวจในเรื่องนี้ได้ อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวอะนะ ความเป็นจริงเขาอาจจะทำหน้าที่เต็มที่แล้ว?
 
ทีนี้เกี่ยวข้องกับ AIS อย่างไร  ก็คือเพื่อนบ้านคนนี้และเพื่อนๆ ของเขาเป็นพนักงานเดินสายไฟเบอร์เน็ตบ้านของ AIS ครับ
 
เพื่อนผมเลยแนะนำว่า ลองโทรแจ้งที่บริษัทดูไหม และนั่นคือสิ่งที่ผมทำครับ ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจเลยว่าทางบริษัทจะช่วยดูแลให้ผมไหมเพราะพฤติกรรมเหล่านี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล มันเป็นอะไรที่เหนื่อยหน่ายใจมากๆ การที่เราผ่อนบ้านมาสิบปี แล้วมาเจอคนเช่าชั่วคราวมาเป็นเพื่อนบ้านที่ไม่มีความเกรงใจกันแบบนี้ ทั้งที่พูดกันดีๆ แจงเหตุผลแล้ว แต่ก็ไม่สนใจความเดือดร้อนของเราเลย
 
หลังจากแจ้งเรื่องไป เหตุการณ์ก็ดีขึ้นครับ ล่าสุดนี้ผมเห็นเขาไปปาร์ตี้กันที่บ้านอีกหลังซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเดียวกัน แต่บ้านหลังนั้นอยู่ถนนเมนซึ่งไม่มีบ้านตรงข้ามให้รำคาญใจ เลยอยากจะขอบคุณ AIS จริงๆ ที่ช่วยดูแลให้ ทั้งที่เป็นพฤติกรรมส่วนตัวและไม่ได้เกี่ยวกับการทำงาน // ผมไม่ได้ใช้บริการของ AIS แต่ประทับใจในการบริการ และคิดว่าครั้งต่อไป คงจะพิจารณาครับ
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผ่านมาประมาณสองอาทิตย์ที่สถานการณ์ยังดีอยู่ ผมยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปอีกนานแค่ไหน และถ้าเขากลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกผมจะทำยังไงต่อไป  ใครมีคำแนะนำดีๆ มาบอกกัน จะขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่