เครดิต: รหัสวิทยา
การพยากรณ์ดวงนวางค์จักร
มีวิธีพยากรณ์หลายวิธีด้วยกัน
มีกฎเกณฑ์คือ
------------------------------------------
ข้อ 1. ให้พิจารณาดาวในดวงชะตา กับในดวงนวางค์จักร ว่าใครเด่นกว่ากัน ดวงชะตาเดิมคือดวงกำเนิด หรือเบื้องต้นของชีวิต ส่วนดวงนวางค์จักร คือหลักหรือบั้นปลายของชีวิต
.
เช่นอาทิตย์ในพื้นดวงชะตาเป็นอุจจ์ ก็ทายว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จรุ่งโรจน์ แต่เมื่อขับดาวน์เข้าดวงนวางค์จักร ปรากฏว่าอาทิตย์เป็นนิจ ก็ทายว่าแต่วาระสุดท้ายจะตกต่ำ
.
ถ้าดาวที่อยู่ที่เดิมทั้งดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักร เรียกว่าดาวเกาะ “วรโคตรนวางค์” ถือว่ามีคุณภาพสำคัญเทียบเท่ากับอุจจ์ ยกตัวอย่างเช่นอาทิตย์ในดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักรสถิตราศีเดียวกัน คือดวงอาทิตย์นี้ได้วรโคตรนวางค์ จึงเป็นอาทิตย์ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับอุจจ์
.
ประการในการพิจารณาดาวเกาะวรโคตรนวางค์มีดังนี้
.
ราศีต้นธาตุหรือแม่ธาตุ คือราศีเมษ กรกฎ ตุล และมกร ดาวใดสถิตราศีนั้นมีสมผุสระหว่าง 0 - 3 องศา 20 ลิบดา ก็คือสถิตอยู่ในนวางค์แรก หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
.
ราศีกลางธาตุ คือราศีพฤษภ สิงห์ พิจิก และกุมภ์ ดาวใดสถิตราศีนั้นในนวางค์ 5 คือมีสมผุสระหว่าง 13 องศา 20 ลิปดา - 16 องศา 40 ลิปดา หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
.
ราศีปลายธาตุ คือราศีเมถุน กันย์ ธนู และมีน ดาวใดสถิตราศีนั้นในนวางค์ 9 (สุดท้าย) คือมีสมผุสระหว่าง 26 องศา 40 ลิปดา - 30 องศา หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
------------------------------------------
ข้อ 2. เนื่องจากดวงชะตาส่วนใหญ่ เวลาเกิดไม่แน่นอน ลัคนาจึงไม่สู้แน่นอนด้วย กรณีเช่นนี้ท่านให้ถือเอาดาวที่มีองศาสูงสุดในดวงชะตาเป็นลัคนา เพราะทางโหราศาสตร์ยกย่องว่าเป็นดาวที่มีสมผุสแก่ มีอาวุโสมากกว่าดาวสมผุสอ่อน
.
ยกตัวอย่างเช่นดวงชะตาหนึ่ง ดาวที่มีองศาสูงสุดคือดาวอังคาร คืออยู่ในตำแหน่ง 29 องศา 5 ลิปดา สุดปลายราศีพอดี ก็ถือว่าดาวอังคารนี้เป็นลัคนาที่ 2 ของดวงนวางค์จักร
------------------------------------------
ข้อ 3. ดวงนวางค์จักร โบราณเรียกกันว่าไส้ชะตา ถ้าต้องการจะล่วงรู้ความตื้นลึกหนาบางของดวงชะตาให้ถ่องแท้ ก็จำเป็นจะต้องศึกษาในดวงดวงนวางค์จักรควบคู่กันไป และถือว่ามีความสำคัญเท่ากัน
------------------------------------------
ข้อ 4. ดวงนวางค์จักร เป็นดวงที่ขับขึ้นเพื่อใช้ดูความลึกซึ้งของดวงชะตา จึงไม่เป็นประโยชน์ในการเอามาดูดวงจรอย่างเช่นดวงราศีจักรหรือดวงกำเนิดนั้น
------------------------------------------
ข้อ 5. เนื่องจากราหูและเกตุไม่ใช่ดาว แต่เป็นจุดคำนวณจากคราส ตลอดจนพิษร้ายของแนวทางเดินย้อนวิถีจักรของคราส จึงไม่ควรนำมาร่วมในการพิจารณากับดาวที่มีองศาสูงสุด เพื่อเอามาแทนลัคนา (ดังที่จะได้เคยกล่าวไว้ในข้อ 2)
เรียบเรียงจากหนังสือ : ปัจฉิมภาคแห่งโหราศาสตร์
เขียนโดย : อ.พลูหลวง
ดวงนวางค์จักร
การพยากรณ์ดวงนวางค์จักร
มีวิธีพยากรณ์หลายวิธีด้วยกัน
มีกฎเกณฑ์คือ
------------------------------------------
ข้อ 1. ให้พิจารณาดาวในดวงชะตา กับในดวงนวางค์จักร ว่าใครเด่นกว่ากัน ดวงชะตาเดิมคือดวงกำเนิด หรือเบื้องต้นของชีวิต ส่วนดวงนวางค์จักร คือหลักหรือบั้นปลายของชีวิต
.
เช่นอาทิตย์ในพื้นดวงชะตาเป็นอุจจ์ ก็ทายว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จรุ่งโรจน์ แต่เมื่อขับดาวน์เข้าดวงนวางค์จักร ปรากฏว่าอาทิตย์เป็นนิจ ก็ทายว่าแต่วาระสุดท้ายจะตกต่ำ
.
ถ้าดาวที่อยู่ที่เดิมทั้งดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักร เรียกว่าดาวเกาะ “วรโคตรนวางค์” ถือว่ามีคุณภาพสำคัญเทียบเท่ากับอุจจ์ ยกตัวอย่างเช่นอาทิตย์ในดวงราศีจักรและดวงนวางค์จักรสถิตราศีเดียวกัน คือดวงอาทิตย์นี้ได้วรโคตรนวางค์ จึงเป็นอาทิตย์ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับอุจจ์
.
ประการในการพิจารณาดาวเกาะวรโคตรนวางค์มีดังนี้
.
ราศีต้นธาตุหรือแม่ธาตุ คือราศีเมษ กรกฎ ตุล และมกร ดาวใดสถิตราศีนั้นมีสมผุสระหว่าง 0 - 3 องศา 20 ลิบดา ก็คือสถิตอยู่ในนวางค์แรก หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
.
ราศีกลางธาตุ คือราศีพฤษภ สิงห์ พิจิก และกุมภ์ ดาวใดสถิตราศีนั้นในนวางค์ 5 คือมีสมผุสระหว่าง 13 องศา 20 ลิปดา - 16 องศา 40 ลิปดา หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
.
ราศีปลายธาตุ คือราศีเมถุน กันย์ ธนู และมีน ดาวใดสถิตราศีนั้นในนวางค์ 9 (สุดท้าย) คือมีสมผุสระหว่าง 26 องศา 40 ลิปดา - 30 องศา หมายความว่าดาวนั้นเกาะวรโคตรนวางค์
------------------------------------------
ข้อ 2. เนื่องจากดวงชะตาส่วนใหญ่ เวลาเกิดไม่แน่นอน ลัคนาจึงไม่สู้แน่นอนด้วย กรณีเช่นนี้ท่านให้ถือเอาดาวที่มีองศาสูงสุดในดวงชะตาเป็นลัคนา เพราะทางโหราศาสตร์ยกย่องว่าเป็นดาวที่มีสมผุสแก่ มีอาวุโสมากกว่าดาวสมผุสอ่อน
.
ยกตัวอย่างเช่นดวงชะตาหนึ่ง ดาวที่มีองศาสูงสุดคือดาวอังคาร คืออยู่ในตำแหน่ง 29 องศา 5 ลิปดา สุดปลายราศีพอดี ก็ถือว่าดาวอังคารนี้เป็นลัคนาที่ 2 ของดวงนวางค์จักร
------------------------------------------
ข้อ 3. ดวงนวางค์จักร โบราณเรียกกันว่าไส้ชะตา ถ้าต้องการจะล่วงรู้ความตื้นลึกหนาบางของดวงชะตาให้ถ่องแท้ ก็จำเป็นจะต้องศึกษาในดวงดวงนวางค์จักรควบคู่กันไป และถือว่ามีความสำคัญเท่ากัน
------------------------------------------
ข้อ 4. ดวงนวางค์จักร เป็นดวงที่ขับขึ้นเพื่อใช้ดูความลึกซึ้งของดวงชะตา จึงไม่เป็นประโยชน์ในการเอามาดูดวงจรอย่างเช่นดวงราศีจักรหรือดวงกำเนิดนั้น
------------------------------------------
ข้อ 5. เนื่องจากราหูและเกตุไม่ใช่ดาว แต่เป็นจุดคำนวณจากคราส ตลอดจนพิษร้ายของแนวทางเดินย้อนวิถีจักรของคราส จึงไม่ควรนำมาร่วมในการพิจารณากับดาวที่มีองศาสูงสุด เพื่อเอามาแทนลัคนา (ดังที่จะได้เคยกล่าวไว้ในข้อ 2)
เรียบเรียงจากหนังสือ : ปัจฉิมภาคแห่งโหราศาสตร์
เขียนโดย : อ.พลูหลวง