นาน ๆ ทีจะตั้งกระทู้พันทิป วันนี้ขอมาเล่าประสบการณ์ตัวเองในปีนี้ กับการเป็นมะเร็งรังไข่ ระยะ 1C1 ค่ะ
จุดเริ่มต้น
นึกย้อนกลับไป เราเริ่มท้องโตผิดปกติตั้งแต่ประมาณกลางปี 2565 แต่ไม่ได้คิดอะไร นึกว่ากินเยอะ ท้องป่อง จนมาปี 2566 เรามีอาการท้องโตแบบเห็นได้ชัดมากขึ้นค่ะ ลักษณะเหมือนคนท้อง 4 - 5 เดือนได้มั้ง แบบยืนแล้วก้มมองไม่เห็นเท้าตัวเองอ่ะค่ะ เพื่อนเริ่มทักให้ไปหาหมอเถอะ เพราะท้องใหญ่และแข็ง แต่เราก็ปล่อยผ่านมาตลอด คิดว่าอาจจะเพราะกินบุฟเฟต์เยอะ พุงเลยโต น้ำหนักขึ้นด้วย จาก 45 กิโล ขึ้นมาแตะ 50 กิโล บางคืนมีปวดท้องเหมือนลำไส้บิดตัวข้างใน แต่กินยาธาตุน้ำขาวแล้วดีขึ้น อ่ะ ไม่เป็นไรหรอก
จนวันที่ 27 พ.ค. 66 ตัดสินใจไปหาหมอที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาฯ เพราะคิดว่าท้องไม่ยุบสักที หาหมอให้มันจบ ๆ
ก็เดินดุ่ม ๆ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาส่งไปตรวจแผนกศัลย์ หมอทำอัลตร้าซาวด์ท้อง พบน้ำในท้องเยอะจนไปกดอวัยวะภายในลงด้านล่าง แล้วก็จะส่งไปแผนก GI เพื่อรักษาต่อในสัปดาห์ถัดไป แต่ตอนกำลังจ่ายเงิน หมอเรียกกลับไป แล้วส่งเราไปแผนกฉุกเฉินเพื่อเจาะน้ำในท้องไปตรวจค่ะ
หมอกับพยาบาล ER ก็มาเจาะน้ำในท้อง สีออกน้ำตาลขุ่น ๆ (ผลออกมาภายหลัง ไม่พบเซลส์มะเร็ง) พร้อมกับทำอัลตราซาวด์อีกครั้ง คราวนี้อัลตราซาวด์บริเวณช่วงท้องด้านล่างด้วย ซึ่งพบเป็นก้อนสักอย่างบริเวณรังไข่ จากนั้นส่งเคสเราไปพบแผนกสูติฯ ซึ่งได้นัดหมายให้เราทำ CT Scan แต่คิว CT ที่ศูนย์กาญจนาฯ รอนานมาก เราจึงไปทำที่ รพ. อื่นแทน
ผล CT ออกมา ปรากฏว่ามีเนื้องอกขนาด 20 ซ.ม. ที่รังไข่ด้านซ้าย หมอที่ศูนย์กาญจนาฯ ดูผลสแกนแล้ว ต้องผ่าตัดพร้อมตรวจชิ้นเนื้อ จึงขอส่งเคสเราไปรักษาที่ศิริราช
แชร์ประสบการณ์มะเร็งรังไข่ ฉบับแพ้ยาเคมีบำบัดรุนแรง (Anaphylaxis) เปลี่ยนยาจนกว่าจะได้
จุดเริ่มต้น
นึกย้อนกลับไป เราเริ่มท้องโตผิดปกติตั้งแต่ประมาณกลางปี 2565 แต่ไม่ได้คิดอะไร นึกว่ากินเยอะ ท้องป่อง จนมาปี 2566 เรามีอาการท้องโตแบบเห็นได้ชัดมากขึ้นค่ะ ลักษณะเหมือนคนท้อง 4 - 5 เดือนได้มั้ง แบบยืนแล้วก้มมองไม่เห็นเท้าตัวเองอ่ะค่ะ เพื่อนเริ่มทักให้ไปหาหมอเถอะ เพราะท้องใหญ่และแข็ง แต่เราก็ปล่อยผ่านมาตลอด คิดว่าอาจจะเพราะกินบุฟเฟต์เยอะ พุงเลยโต น้ำหนักขึ้นด้วย จาก 45 กิโล ขึ้นมาแตะ 50 กิโล บางคืนมีปวดท้องเหมือนลำไส้บิดตัวข้างใน แต่กินยาธาตุน้ำขาวแล้วดีขึ้น อ่ะ ไม่เป็นไรหรอก
จนวันที่ 27 พ.ค. 66 ตัดสินใจไปหาหมอที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาฯ เพราะคิดว่าท้องไม่ยุบสักที หาหมอให้มันจบ ๆ
ก็เดินดุ่ม ๆ ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาส่งไปตรวจแผนกศัลย์ หมอทำอัลตร้าซาวด์ท้อง พบน้ำในท้องเยอะจนไปกดอวัยวะภายในลงด้านล่าง แล้วก็จะส่งไปแผนก GI เพื่อรักษาต่อในสัปดาห์ถัดไป แต่ตอนกำลังจ่ายเงิน หมอเรียกกลับไป แล้วส่งเราไปแผนกฉุกเฉินเพื่อเจาะน้ำในท้องไปตรวจค่ะ
หมอกับพยาบาล ER ก็มาเจาะน้ำในท้อง สีออกน้ำตาลขุ่น ๆ (ผลออกมาภายหลัง ไม่พบเซลส์มะเร็ง) พร้อมกับทำอัลตราซาวด์อีกครั้ง คราวนี้อัลตราซาวด์บริเวณช่วงท้องด้านล่างด้วย ซึ่งพบเป็นก้อนสักอย่างบริเวณรังไข่ จากนั้นส่งเคสเราไปพบแผนกสูติฯ ซึ่งได้นัดหมายให้เราทำ CT Scan แต่คิว CT ที่ศูนย์กาญจนาฯ รอนานมาก เราจึงไปทำที่ รพ. อื่นแทน
ผล CT ออกมา ปรากฏว่ามีเนื้องอกขนาด 20 ซ.ม. ที่รังไข่ด้านซ้าย หมอที่ศูนย์กาญจนาฯ ดูผลสแกนแล้ว ต้องผ่าตัดพร้อมตรวจชิ้นเนื้อ จึงขอส่งเคสเราไปรักษาที่ศิริราช