1. สปอนเซ่อร์ เข้าตลอด ต่อยอดเป็นสินค้า รายการเบื้องหลัง / คอนเสิร์ต ได้หลากหลาย แม้มีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่ก็เป็นกระแสอยู่ดี
คุณหน่อง คือ บุคลากรด้าน Soft Power แห่งปี มาจากความพยายามที่อยากให้งาน พรีเมี่ยม ออกมาให้ได้ พยายามคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาปรุง
2. เป็นละครที่ทำให้คนกลับมาดูทีวี หลังจากที่ติดหน้าจอมือถือมาสามปี
3. โจทย์สำคัญๆ เขาตีแตกนะ ทำให้อยุธยา ดูมีชีวิต รวมถึงพิษณุโลก และคลองในประวัติศาสตร์
4. ในภาพรวมดูสนุก ประกอบกับเสื้อผ้า ฉาก งานภาพ ตระการตา บทสนทนา ฟังได้เรื่อยๆ นักแสดงเล่นเก่ง ฝีมือดี
ยายกุย อึ่ง-พี่เพิ่ม พี่ผิน-พี่แย้ม นางเอก พระเอก เจ้าฟ้าเพชร เจ้าฟ้าพร ความกุ๊กกิ๊กของแม่ปราง-พ่ออินทร์ เป็นเสาหลักที่เอาอยู่
5. มีข้อด้อยอยู่บ้าง คือ บางช่วง ก็ดูตื้นๆ เกินไป เช่น บทของย่า หมู่สง แม่กลิ่น เรื่องราวเมื่อ 2 พันปีก่อน ความรักของแม่แก้วและคู่รัก ขาดความละเมียด
เหมือนมีอินโทรไว้แต่ไม่ลงลึก คือ ด้วยศักยภาพของนักแสดงที่คัดมา sub-plots ลงลึกจริงจังได้หมด ทุกคนคือ พระ-นาง ใน part ตัวเอง แบบ
ต้องสู้อุปสรรค และความรู้สึกต่างๆนานา เราไม่เห็นจุดนี้ จึงพูดได้ ว่า สนุก ดูเพลิน น่ารัก เข้าถึงง่าย ส่วนในรายละเอียด ที่พลาดไปบ้าง ทีมงาน
ควรตามอ่านแฟนละครยุคใหม่ ที่เขาคาดหวังความบันเทิงที่ทำออกมาแบบมืออาชีพ ไม่ต้องเซอร์วิสคนดู -- จูบ+หกล้มแล้วมีคนรับได้ พอจำเจ แล้วพยายาม พอพยายามแล้ว มันไม่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นการ์ตูนไปหน่อย และสมัยนี้ งานที่ดูเหมือนติ๊กต็อก ไม่เวิร์ค เพราะติ๊กต็อกทำได้ดีกว่า เคยดูคู่กรรม ยุคจินตหรา-วรุฒ ไม่เห็นมีบทจูบเลย แต่ดูแล้วอินกับความรัก วิธีการเล่าเรื่องมีรสนิยม และนั่นคือเหตุผล ที่คนดูละครหรือภาพยนตร์ งานศิลปะที่หาไม้ได้ในคลิ๊ปวิดิโอที่อัดกันเองอย่างคนทั่วๆไป หรือลิซ่า กับ เฟดเดอริค ยิ่งเขาไม่เคยจูบกันให้คนอื่นดู ไม่เคยแสดงความรักโต้งๆ คนยิ่งจินตนาการความโรแมนติกไปได้เยอะ
6. คนที่เลิกดูเรื่องนี้ ไปเลย เท่าที่สำรวจ เป็นคนส่วนน้อย เราไม่สามารถล้มละครทั้งเรื่องได้ ด้วยจุดด่างพร้อยที่เล็กกว่าความสำเร็จที่พรหมลิขิตพิชิตได้
เป็นก้าวที่กล้า และก้าวยาวกว่าละครเรื่องอื่น แม้ว่า จะไม่มั่นคงไม่เพอร์เฟค แต่กระโดดผ่านแม้เซนิดหน่อย ซึ่งจริงๆ งานนี้ ลงทุนหนัก
ความเสี่ยงทางธุรกิจ มีสูง ถ้าผลงานไม่ปัง คือ พังหนัก แต่ด้วยคุณภาพบุคลากรทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง พรหมลิขิต จึงฝ่าวิกฤตได้
และทำให้ช่วงเวลา 20.30-22.30 วันจันทร์-พุธ คนไทยมีความสุข
พรหมลิขิต ถึงโดนด่า ก็ฆ่าไม่ตาย
คุณหน่อง คือ บุคลากรด้าน Soft Power แห่งปี มาจากความพยายามที่อยากให้งาน พรีเมี่ยม ออกมาให้ได้ พยายามคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีมาปรุง
2. เป็นละครที่ทำให้คนกลับมาดูทีวี หลังจากที่ติดหน้าจอมือถือมาสามปี
3. โจทย์สำคัญๆ เขาตีแตกนะ ทำให้อยุธยา ดูมีชีวิต รวมถึงพิษณุโลก และคลองในประวัติศาสตร์
4. ในภาพรวมดูสนุก ประกอบกับเสื้อผ้า ฉาก งานภาพ ตระการตา บทสนทนา ฟังได้เรื่อยๆ นักแสดงเล่นเก่ง ฝีมือดี
ยายกุย อึ่ง-พี่เพิ่ม พี่ผิน-พี่แย้ม นางเอก พระเอก เจ้าฟ้าเพชร เจ้าฟ้าพร ความกุ๊กกิ๊กของแม่ปราง-พ่ออินทร์ เป็นเสาหลักที่เอาอยู่
5. มีข้อด้อยอยู่บ้าง คือ บางช่วง ก็ดูตื้นๆ เกินไป เช่น บทของย่า หมู่สง แม่กลิ่น เรื่องราวเมื่อ 2 พันปีก่อน ความรักของแม่แก้วและคู่รัก ขาดความละเมียด
เหมือนมีอินโทรไว้แต่ไม่ลงลึก คือ ด้วยศักยภาพของนักแสดงที่คัดมา sub-plots ลงลึกจริงจังได้หมด ทุกคนคือ พระ-นาง ใน part ตัวเอง แบบ
ต้องสู้อุปสรรค และความรู้สึกต่างๆนานา เราไม่เห็นจุดนี้ จึงพูดได้ ว่า สนุก ดูเพลิน น่ารัก เข้าถึงง่าย ส่วนในรายละเอียด ที่พลาดไปบ้าง ทีมงาน
ควรตามอ่านแฟนละครยุคใหม่ ที่เขาคาดหวังความบันเทิงที่ทำออกมาแบบมืออาชีพ ไม่ต้องเซอร์วิสคนดู -- จูบ+หกล้มแล้วมีคนรับได้ พอจำเจ แล้วพยายาม พอพยายามแล้ว มันไม่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นการ์ตูนไปหน่อย และสมัยนี้ งานที่ดูเหมือนติ๊กต็อก ไม่เวิร์ค เพราะติ๊กต็อกทำได้ดีกว่า เคยดูคู่กรรม ยุคจินตหรา-วรุฒ ไม่เห็นมีบทจูบเลย แต่ดูแล้วอินกับความรัก วิธีการเล่าเรื่องมีรสนิยม และนั่นคือเหตุผล ที่คนดูละครหรือภาพยนตร์ งานศิลปะที่หาไม้ได้ในคลิ๊ปวิดิโอที่อัดกันเองอย่างคนทั่วๆไป หรือลิซ่า กับ เฟดเดอริค ยิ่งเขาไม่เคยจูบกันให้คนอื่นดู ไม่เคยแสดงความรักโต้งๆ คนยิ่งจินตนาการความโรแมนติกไปได้เยอะ
6. คนที่เลิกดูเรื่องนี้ ไปเลย เท่าที่สำรวจ เป็นคนส่วนน้อย เราไม่สามารถล้มละครทั้งเรื่องได้ ด้วยจุดด่างพร้อยที่เล็กกว่าความสำเร็จที่พรหมลิขิตพิชิตได้
เป็นก้าวที่กล้า และก้าวยาวกว่าละครเรื่องอื่น แม้ว่า จะไม่มั่นคงไม่เพอร์เฟค แต่กระโดดผ่านแม้เซนิดหน่อย ซึ่งจริงๆ งานนี้ ลงทุนหนัก
ความเสี่ยงทางธุรกิจ มีสูง ถ้าผลงานไม่ปัง คือ พังหนัก แต่ด้วยคุณภาพบุคลากรทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง พรหมลิขิต จึงฝ่าวิกฤตได้
และทำให้ช่วงเวลา 20.30-22.30 วันจันทร์-พุธ คนไทยมีความสุข