บรอดคาสต์ จักแก้เกมส์อย่างไร เมื่อพรหมลิขิตเสียเชิงตอนจบ

ค่ายนี้ มีบทละครเก่าดีๆ อยู่ในมือ และเป็นเจ้าของละครสร้างกระแสระดับชาติมาแล้ว
อย่าง เรยา-ดอกส้มสีทอง ซึ่งต้องยอมรับในความเก่งกาจของการสร้างอารมณ์ร่วมของคนในชาติ
ข้อเสนอแนะจากเจ้าของกระทู้
1. ไปถ่ายทำเพิ่ม แล้วลงในแอพพลิเคชั่น / entertainment platforms  เน้นขายตลาดนานาชาติ  
เพราะการคลายปมยังไม่สมบูรณ์ ไม่เข้มข้น  เอาจริงๆ เรื่องนี้ควรจบวันพุธ มีเหตุผลต้องอธิบายอีก 2 วันถึงจะจบได้
2. ทำละครพีเรียดเรื่องใหม่  เอาดาราชุดนี้แหละ อุปกรณ์ เรือ ผ้าสไบ ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
ทักษะมีอยู่แล้ว สร้างกันมาแล้วจากพรหมลิขิต ทาส-ยกมาเลยทั้งชุด อาทิ
"เรือนมยุรา" พระเอก ชื่อ พระนาย เล่นโดย พ่อเกรท นางเอก แม่นกยูง-เบลล่า 
"รัตนโกสินทร์ ของ ว วินิจฉัยกุล" นางเอก แม่เพ็ง พิมประภา ตั้งประภากร / หลิงหลิง ศิริลักษณ์ พระเอกเป็นขุนนางฝ่ายตุลาการ-เด่นคุณ
น้องพระเอกเป็นลูกครึ่งไทย-จีน ปีเตอร์แพน  เพื่อนๆนางเอกในวัง พีพี-ซีน   
แฟนเก่าพระเอก สวยเลิศเชิดหยิ่ง แบบแต้ว แต่แต้วคงไม่เล่น เป็นตัวประกอบ
3. เลิกสมมุติฐานที่ว่า จะขายเลิฟซีน และมุขติ๊กต็อก ได้ แม้เส้นเรื่องไม่แข็งแรง เพราะในยุคนี้ทำเช่นนั้นไม่ได้
คนดูต้องการความบันเทิงที่ปนสาระได้อย่างลงตัว โดยไม่ถไลออกนอกมาตรฐาน เพราะคนชินกับซีรี่ย์เกาหลีที่ดูจริงจัง
เราเชื่อว่าถ้าปรับจุดนี้ พรหมลิขิต ไม่แพ้แดจังกรึม ถ้าเส้นเรื่องแข็งแรง  ทุกตอนมีเรื่องย่อย ที่จบใน part ของคนแต่ละคู่  
4. ทำความเข้าใจกับคำว่า story เรารู้สึกเหมือนดูถ่ายวิดิโอสรุปย่อ แต่ไม่มีที่มาที่ไปให้น่าลุ้นน่าตื่นเต้น  
ปัญหาของพรหมลิขิตเป็นเช่นนั้น คือ ฉายภาพปลายเหตุ แต่ไม่เล่าเรื่อง ทุกปมย่อย ไม่มีพลังของ sub-plots ย่อยๆ
ซีนพีค ของวันสุดท้าย คือ การคลายปม เรื่องแม่แพรจีน ที่ต้องไปให้ถึง ไคลแม็กซ์ ที่ดาราจะต้องใช้ฝีมือในซีนพิฆาตด้วยวาจาอย่างตราตรึง
อาทิ ฉากที่ขุนคลัง ต้องมาพูดต่อหน้าขุนหลวง  เพราะนี่คือ เส้นเรื่องที่ปูมา อารมณ์ที่แม่แพรจีนโดนผู้ชายจีบสักครั้ง น่าจะต้องมี

แต่วันสุดท้าย มีการเริ่มประเด็นใหม่ เรื่องคุณเทียด กับเรื่องพ่อเรือง แล้วก็จบแบบรวบรัด 
คือ การไม่เล่าเยิ่นเย้อก็ถูก แต่สั้น จนลืมคำว่า ดราม่าและขาดความคมคาย นั้นน่าห่วง 
ขณะเดียวกัน ความรักของแม่ปรางก็กลายเป็นแค่ไม้ประดับ ทั้งที่ดาราทั้งคู่มีศักยภาพ ไปถึง
พระเอก-นางเอก รองได้เลย เหล่านี้ เพิ่มได้อีก 2 ตอน เมื่อไม่มีพลังของ story เรื่องราวย่อมไม่เร้าอารมณ์ 
เพราะไม่ได้เล่าแบบ story อย่างซีนคุณย่าจากไป ยังขยี้ได้อีก เพราะคุณย่าทำเรื่องไว้ คุณย่าได้ขอโทษแล้ว
แต่หากพูดจาแบบสำนึกผิด ตื่นรู้ ยอมรับว่าประสพการณ์ของย่าบางทีไม่ได้ใช้ได้กับทุกยุคสมัย
ซีนนี้จะดูมีราคาทางละคร ขณะเดียวกัน คือ ดราม่า เล่นใหญ่เกินเหตุ
นางร้ายสมัยใหม่ไม่ต้องดูแรง มันดูขาดรสนิยม ต่างจากละครบางประเภท เช่น ลำยอง ทองประกายแสด อันนี้ คือ เล่นใหญ่เถอะ
 เพราะเป็นเรือชีวิตแนวทะเลคลั่ง

หากว่าเขียนให้คนเอ็นดูแม่กลิ่นได้ด้วย แม้นางจะเอาแต่ใจ ขี้หงุดหงิด
เราว่าคู่นี้จะน่าดู หมู่สง คือชายคนเดียวที่เห็นนางพิเศษในมุมที่ผู้ปกครองไม่เห็น ซึ่งถ้าเล่าประมาณนี้ จะฟิน
เมื่อตัวละครจูบกัน มันจะดูมีค่า เพราะการจูบนั้นคือ การเยียวยาใจ จากชายที่พร้อมจะเข้าใจ
หรือ อาจจะไม่จำเป็นต้องมีฉากจูบเลย แต่คนดูสัมผัสได้ถึงความรัก
เช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องฉีดหน้าให้แต่ง ถ้าดาราเล่นได้ถึงบท 

อย่างไรก็ดี พรหมลิขิต ประสพความสำเร็จในการสร้างกระแสจริง อย่างปฏิเสธไม่ได้ 
และเราไม่สามารถเอาข้อด้อยในคลายปม มาล้มละครทั้งเรื่อง 
ไม่เหมือนการวิ่งแล้วสะดุดล้มที่เส้นชัย เพราะสปอนเซ่อร์เข้าแน่นทุกตอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่