เป็นหนี้บัตรเครดิต 30,000 โดนฟ้องขึ้นศาล ทนายยืนข้อเสนอให้จ่ายขั้นต่ำ 2,000 ซึ่งเราคิดว่าไม่น่าจะจ่ายไหว เพราะเรามีภาระค่อยข้างเยอะ เเละเป็นเเม่เลี้ยงเดี่ยว ลูก 2 คน จึงตัดสินใจรอเข้าบัลลังค์เพื่อขอไกล่เกลี่ยในชั้นศาล เเต่เมื่อถึงเวลา เรากลับไม่ได้เข้าห้องพิจารณา  (อาจจะด้วยไม่มีประสบการณ์บวกกับความไม่รอบคอบ ไปเซ็นชื่อในใบที่เค้าติ๊กว่าไม่สู้คดีเเละให้ศาลตัดสิน) ก็มีหนังสือจากศาลให้เราเซ็นว่าให้เราจ่ายทั้งหมดในจำนวนที่โดนฟ้อง ถ้าไม่จ่ายจะทำการยึดทรัยพ์อายัดเงินเดือน เราจึงไม่ได้เซ็นเอกสารไป พอเมื่อเราไม่เซ็น เพราะมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราตั้งใจไว้ ทางเจ้าหน้าที่จึงเรียกเราเข้าไปในห้องพิจารณาคดี เเละทำการนัดขึ้นศาลอีกรอบ เเละได้เเนะนำเราว่าให้เราโทรไปไกล่เกลี่ยกับโจทย์โดนตรง เพื่อทำการไกล่เกลี่ยลดจำนวนเงินที่ต้องส่ง เมื่อเราโทรไป ทางเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตเเนะให้เราตกลงจ่ายที่ 2,000 ไปก่อน ผ่อนไปสัก 2 เดือนเเล้วค่อยโทรมาลดได้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ว่าบริษัทจะอนุมัติไหม ตอนนี้เรากลัวเลือกไม่ถูกกว่าควรเชื่อเจ้าหน้าที่บัตรไหมที่เค้าเเนะนำ กลัวว่าจะไม่สามารถลดการจ่ายให้น้อยลงได้ หรือจะปล่อยให้เค้าสื่อทรัพย์ไปเลย เพราะเราไม่มีมรดกอะไรอยู่เเล้ว เงินเดือนก็ 2 หมื่น กันเศษอีกร้อยกว่าบาท หักประกันสังคมเเล้วเหลือประมาณ 19,300 บาท (หักลบภาระรายเดือนที่ต้องจ่ายประจำทั้งของลูกเเละของเราจะเหลือติดบัญชีไว้ใช้ในชีวิตประจำวันเดือนละ 5,000 กว่าบาท) เคลียดมากอยากผ่อนจ่ายเเต่ 2,000 คือผ่อนไม่ไหวจริงๆ ถ้าเค้าลดให้สักเดือนละ 1,000 เรายินดีผ่อนเเน่นอน  😮‍💨