เมื่อวันที่ 8 เราได้รับหมายศาล โดยเขาจะไปติดที่บ้านตามชื่อในทะเบียนบ้าน
ขออธิบายก่อนว่า นี้เป็นครั้งแรกที่เราได้รับหมายศาลจากบริษัทเครดิต ซึ่งตอนนั้นช็อกมาก แต่แล้วพอตั้งสติได้ เราก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นศาลบัตรเครดิตเมื่อเราได้รับหมายศาลจากบัตรเครดิต เราจะต้องทำยังไง จากช่องทาง TT,FB, google ทั้งหมด และพอเรารวบรวมข้อมูลได้เเล้ว
สิ่งต่อไปคือ อ่านหมายศาลอย่างตั้งใจ ให้ละเอียดและเช็คว่า ของเราเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด เพื่อเช็คอายุความ ถ้าบัตรที่โดนฟ้อง หมดอายุความแล้ว ให้ลองหาทนายเพื่อสู้คดีดูค่ะ แต่ของเราเป็นบัตรกดเงินสด เราลองเช็คคร่าวๆ ยังไม่หมดอายุความ และต้องไปศาลและทำเรื่องขอผ่อนกับเขาค่ะ
วันที่ไปศาล เขานัดเรา 9.00 ตามสถานที่นัดขึ้นศาล
*แนะนำว่าให้ไปก่อนเวลาค่ะ เพราะตึกที่เราไป อาจจะหายากมากค่ะสำหรับคนที่ไปครั้งแรก
1.เมื่อเข้าไปด้านในของตัวอาคารแล้ว เราก็เข้าไปที่ศาลค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ เขาจะขอบัตรประชาชนเราค่ะ เพื่อออกบัตรคิวให้ค่ะ และเราก็รอเรียกคืว
2. เมื่อถึงคิวเราแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะถามหรือขอดูหมายเลขศาล ให้เอาตัวหมายศาลไปด้วยนะคะ ตอนนั้น เราดูไม่เป็นค่ะ ไปครั้งแรก เราเลยยกทั้งชุดให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกับบัตรประชาชน ***เจ้าหน้าที่เขาบริการดีมากนะคะ
3. จากที่เขาดูเสร็จ เขาจะให้เราเข้าไปในห้องบัลลังก์ศาลหรือห้องไกล่เกลี่ยค่ะ เพื่อรอเรียกชื่อ ***จะบอกว่า คนที่เป็นหนี้และถูกหมายศาลเรียกเยอะมากค่ะ เราไม่ต้องอายนะคะ ขอแค่เรากล้าจะไปไกล่เกลี่ยกับเขาก็พอค่ะ แต่บางคนไม่มา เขาก็น่าจะบังคับคดีค่ะ
4. เมื่อทนายฝั่งโจทก์หรือบริษัทเจ้าหนี้มา เขาก็จะเรียกเราไปไกล่เกลี่ยก่อนค่ะ ไม่ต้องเข้าบัลลังก์ศาล จะมีโต๊ะเป็นสีขาว มีเก้าอี้ เหมือนเราพูดคุยธรรมดาค่ะ ในส่วนของเรา แจ้งมาว่าให้ผ่อนเดือนละ 1,000 บาท เริ่มผ่อนไม่เกินวันที่เท่านี้ เขาจะมีแจ้งในหนังสือไกล่เกลี่ยค่ะ ถ้าเรายินยอมก็เซ็น พอเซ็นเสร็จก็จะมีหนังสือไกล่เกลี่ยให้คนละ 1 ชุด โจทก์ 1 /จำเลย 1 ***แต่ถ้าใครมีปัญหาหรือไกลเกลี่ยไม่ลงตัว เขาจะให้ขึ้นบัลลังก์
5.เมื่อคุยเสร็จแล้ว เขาจะให้รอเซ็นสัญญาฉบับใหม่ค่ะ จะมีโต๊ะสำหรับเซ็นสัญญาใหม่ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ 4 คนมีอายุนิดหน่อยค่ะ และจะถามเราย้ำอีกทีว่า คุยกับทนายฝั่งโจทก์และโอเคแล้วใช่มั้ย ถ้าเราโอเค เขาก็จะให้เซ็น และนั่งรอคุยอัยการ การคุยกับอัยการ ก็เข้าไปคุยในห้อง ธรรมดาทั่วไปค่ะ เขาอาจจะเรียกไป 2-3 คนหรือคนเดียว แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ก็น่าเกรงใจค่ะ
6. คุยกับอัยการ เขาจะถามเราซ้ำว่า ได้อ่านสัญญาใหม่แล้ว เป็นไงบ้าง ติดตรงไหนมั้ยและโอเคหรือเปล่า ถ้าโอเคก็กลับบ้านได้
สรุปแล้ว วันนั้น เราเสร็จจากการขึ้นศาลบัตรเครดิต ประมาณ 11.20 น. ใช้เวลาเกือบๆ ประมาณ 2 ชม.กว่าๆค่ะ
ส่วนการแต่งกาย: จากที่เราไปมาวันนั้น ที่เห็น ก็แต่งทั่วไปค่ะ แต่น่าจะไม่โป๊ ไม่กางเกงขาสั้น ไม่กระโปรงสั้น ส่วนใหญ่ ใส่ขายาว เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด คอกรม คอปก เดรสแต่ไม่สั้นมากค่ะ บางคนก็ใส่รองเท้าแตะค่ะ
****รีวิวนี้ เป็นการรีวิวการไปขึ้นศาลบัตรเครดิตค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นค่ะ แนะนำ เมื่อได้รับหนังสือฟ้องแล้วให้ทุกคนไปขึ้นศาลตามหนังสือฟ้องหนี้บัตรเครดิตเพื่อไกล่เกลี่ย จะได้ไม่ต้องถูกบังคับคดี ตอนแรก เราก็คิดว่า เป็นเรื่องน่าอาย น่ากลัว เกิดมาไม่เคยโดนฟ้องแบบบนี้ ทำตัวไม่ถูก แต่แนะนำให้ไปค่ะ ไปตามนัด จะได้คุยกันค่ะ
รีวิว!!การไปขึ้นศาลหนี้บัตรเครดิต
ขออธิบายก่อนว่า นี้เป็นครั้งแรกที่เราได้รับหมายศาลจากบริษัทเครดิต ซึ่งตอนนั้นช็อกมาก แต่แล้วพอตั้งสติได้ เราก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการขึ้นศาลบัตรเครดิตเมื่อเราได้รับหมายศาลจากบัตรเครดิต เราจะต้องทำยังไง จากช่องทาง TT,FB, google ทั้งหมด และพอเรารวบรวมข้อมูลได้เเล้ว
สิ่งต่อไปคือ อ่านหมายศาลอย่างตั้งใจ ให้ละเอียดและเช็คว่า ของเราเป็นบัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด เพื่อเช็คอายุความ ถ้าบัตรที่โดนฟ้อง หมดอายุความแล้ว ให้ลองหาทนายเพื่อสู้คดีดูค่ะ แต่ของเราเป็นบัตรกดเงินสด เราลองเช็คคร่าวๆ ยังไม่หมดอายุความ และต้องไปศาลและทำเรื่องขอผ่อนกับเขาค่ะ
วันที่ไปศาล เขานัดเรา 9.00 ตามสถานที่นัดขึ้นศาล
*แนะนำว่าให้ไปก่อนเวลาค่ะ เพราะตึกที่เราไป อาจจะหายากมากค่ะสำหรับคนที่ไปครั้งแรก
1.เมื่อเข้าไปด้านในของตัวอาคารแล้ว เราก็เข้าไปที่ศาลค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ เขาจะขอบัตรประชาชนเราค่ะ เพื่อออกบัตรคิวให้ค่ะ และเราก็รอเรียกคืว
2. เมื่อถึงคิวเราแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะถามหรือขอดูหมายเลขศาล ให้เอาตัวหมายศาลไปด้วยนะคะ ตอนนั้น เราดูไม่เป็นค่ะ ไปครั้งแรก เราเลยยกทั้งชุดให้เจ้าหน้าที่ดู พร้อมกับบัตรประชาชน ***เจ้าหน้าที่เขาบริการดีมากนะคะ
3. จากที่เขาดูเสร็จ เขาจะให้เราเข้าไปในห้องบัลลังก์ศาลหรือห้องไกล่เกลี่ยค่ะ เพื่อรอเรียกชื่อ ***จะบอกว่า คนที่เป็นหนี้และถูกหมายศาลเรียกเยอะมากค่ะ เราไม่ต้องอายนะคะ ขอแค่เรากล้าจะไปไกล่เกลี่ยกับเขาก็พอค่ะ แต่บางคนไม่มา เขาก็น่าจะบังคับคดีค่ะ
4. เมื่อทนายฝั่งโจทก์หรือบริษัทเจ้าหนี้มา เขาก็จะเรียกเราไปไกล่เกลี่ยก่อนค่ะ ไม่ต้องเข้าบัลลังก์ศาล จะมีโต๊ะเป็นสีขาว มีเก้าอี้ เหมือนเราพูดคุยธรรมดาค่ะ ในส่วนของเรา แจ้งมาว่าให้ผ่อนเดือนละ 1,000 บาท เริ่มผ่อนไม่เกินวันที่เท่านี้ เขาจะมีแจ้งในหนังสือไกล่เกลี่ยค่ะ ถ้าเรายินยอมก็เซ็น พอเซ็นเสร็จก็จะมีหนังสือไกล่เกลี่ยให้คนละ 1 ชุด โจทก์ 1 /จำเลย 1 ***แต่ถ้าใครมีปัญหาหรือไกลเกลี่ยไม่ลงตัว เขาจะให้ขึ้นบัลลังก์
5.เมื่อคุยเสร็จแล้ว เขาจะให้รอเซ็นสัญญาฉบับใหม่ค่ะ จะมีโต๊ะสำหรับเซ็นสัญญาใหม่ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ 4 คนมีอายุนิดหน่อยค่ะ และจะถามเราย้ำอีกทีว่า คุยกับทนายฝั่งโจทก์และโอเคแล้วใช่มั้ย ถ้าเราโอเค เขาก็จะให้เซ็น และนั่งรอคุยอัยการ การคุยกับอัยการ ก็เข้าไปคุยในห้อง ธรรมดาทั่วไปค่ะ เขาอาจจะเรียกไป 2-3 คนหรือคนเดียว แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร แต่ก็น่าเกรงใจค่ะ
6. คุยกับอัยการ เขาจะถามเราซ้ำว่า ได้อ่านสัญญาใหม่แล้ว เป็นไงบ้าง ติดตรงไหนมั้ยและโอเคหรือเปล่า ถ้าโอเคก็กลับบ้านได้
สรุปแล้ว วันนั้น เราเสร็จจากการขึ้นศาลบัตรเครดิต ประมาณ 11.20 น. ใช้เวลาเกือบๆ ประมาณ 2 ชม.กว่าๆค่ะ
ส่วนการแต่งกาย: จากที่เราไปมาวันนั้น ที่เห็น ก็แต่งทั่วไปค่ะ แต่น่าจะไม่โป๊ ไม่กางเกงขาสั้น ไม่กระโปรงสั้น ส่วนใหญ่ ใส่ขายาว เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด คอกรม คอปก เดรสแต่ไม่สั้นมากค่ะ บางคนก็ใส่รองเท้าแตะค่ะ
****รีวิวนี้ เป็นการรีวิวการไปขึ้นศาลบัตรเครดิตค่ะ ไม่ได้มีเจตนาอื่นค่ะ แนะนำ เมื่อได้รับหนังสือฟ้องแล้วให้ทุกคนไปขึ้นศาลตามหนังสือฟ้องหนี้บัตรเครดิตเพื่อไกล่เกลี่ย จะได้ไม่ต้องถูกบังคับคดี ตอนแรก เราก็คิดว่า เป็นเรื่องน่าอาย น่ากลัว เกิดมาไม่เคยโดนฟ้องแบบบนี้ ทำตัวไม่ถูก แต่แนะนำให้ไปค่ะ ไปตามนัด จะได้คุยกันค่ะ