#SABUY #ทันหุ้น – ตลาดหลักทรัพย์แจ้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี SABUY ไม่พบเป็นธุรกรรม Naked Short Selling ชี้ผู้ขายมีหุ้นในครอบครองก่อนขายมากกว่าจำนวนที่ขาย โดยได้รับโอนมาก่อนส่งคำสั่งขาย ชี้มีการตรวจสอบต่อเนื่อง ด้านซีอีโอ SABUY เดินหน้ารวบรวมรายชื่อ นัด “รักษาราชการแทนอธิบดี DSI” สอบเอาผิดอังคารหน้า
จากกรณีหนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น นำเสนอ ข่าว "บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)" หรือ SABUY พบหลักฐานมีการทำ Naked Short Selling” ว่า บริษัทได้พบหลักฐานว่า หุ้น SABUY ถูกชอร์ตหุ้น โดยที่ไม่มีการยืมหุ้นมาขายหรือ "Naked Short Sell" ซึ่งนับว่าผิดกฎเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ ที่ห้ามทำธุรกรรม Naked short selling หลังจากพบว่าในช่วงเดือนตุลาคม 2566 มีหุ้นจำนวนหนึ่งของผู้ถือใหญ่ของบริษัท ที่ถือผ่านคัสโตเดียนได้ หายไปเกือบ 20 ล้านหุ้น ทั้งๆ ที่ผู้ถือหุ้นรายนั้น ไม่ได้มีการให้ยืมหุ้นใดๆ เลย
ซึ่งหลักฐานดังกล่าว นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY ได้ระบุมีความเป็นไปได้ว่า บริษัทประสบกับปัญหาการโดนชอร์ตเซลโดยไม่มีหุ้นหรือ "Naked Short Sell" ซึ่งผิดกฎตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นในบริษัท ทำให้ราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลดลงโดยไม่เป็นธรรม และสร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้น Sabuy โดยได้มอบหลักฐานให้ตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบ
@ตลท.แจงไร้เน็กเก็ตชอร์ต
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกเอกสารชี้แจงว่า กรณีปรากฏข่าว จากสื่อรายหนึ่งเมื่อ 14 ธันวาคม โดยมีเนื้อหาระบุ "บจ.รายหนึ่งพบหลักฐานการทำ Naked Short Selling หลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น พบหุ้นของผู้ถือหุ้นรายหนึ่งหายไปรวม 20 ล้านหุ้น โดยไม่ได้ให้ยืมหุ้น" ตลาดหลักทรัพย์ ขอแจ้งผลการตรวจสอบ ดังนี้
1. จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบว่าเป็นธุรกรรม Naked Short Selling เนื่องจากผู้ขายมีหุ้นในครอบครองก่อนขายในจำนวนที่มากกว่าจำนวนที่ขาย โดยได้รับโอนมาก่อนส่งคำสั่งขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ ได้รับหลักฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
2. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 บจ.รายดังกล่าวได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เรื่อง “แจ้งการมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่” โดยมีการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นที่สอดคล้องกับธุรกรรมตามข้อ 1
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้ส่งเอกสารแนบถึงการแจ้งขายหุ้นของ SABUY นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ที่ได้โอนขายหุ้นจำนวน 20.585 ล้านหุ้น หรือ 1.11% ให้กับ GEM Global Yield LLC SCS (GEM) ซึ่งเป็นกองทุนจากสหรัฐอเมริกา โดยได้แจ้งขายเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
ตลาดหลักทรัพย์ ระบุอีกว่า ได้มีการตรวจสอบการทำธุรกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้เน้นย้ำมาตรฐานการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หากพบการกระทำผิด หรือเข้าข่ายฝ่าฝืนซึ่งไม่เป็นไปตามข้อบังคับ จะมีบทลงโทษทางวินัยต่อไป
หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยหรือพบการกระทำผิดเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ได้ที่ SET Contact Center 0 2009 9999 หรือ SETContactCenter@set.or.th
@SABUY ยืนยันไม่คิดให้ยืมหุ้น
ด้านนายชูเกียรติ เปิดเผยภายหลังจากได้รับคำชี้แจงของตลาดหลักทรัพย์ว่า โดยระบุว่าหุ้นที่หายไปจากคัสโตเดียนนั้นเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ผู้ถือหุ้นรายได้ขายหุ้นให้กับ GEM ดังนั้นจึงไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการขายหุ้นตามปกติ
และอยากให้เข้าใจจุดยืนว่าช่วงก่อนหน้านั้นผู้ถือหุ้นไม่ได้ขายหุ้น หรือยินยอมในการให้ยืมไปขายหุ้น ดังนั้นการที่หุ้นของผู้ถือหุ้นดังกล่าวหายไปในเดือนตุลาคม ต้องสืบสวนว่าจะเกี่ยวข้องกับ Naked Short Selling หรือไม่ ซึ่งทางบริษัทจะเดินหน้าในการหาความจริงเรื่องนี้
ประเด็นสำคัญเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเจ้าของหุ้นไม่รู้ว่ามีการเอาหุ้นไปให้ยืม และไม่ได้ยินยอมให้ยืม ดังนั้นหากมีการยืมหุ้นไปทั้งๆ ที่ไม่ยินยอม หรือจะเป็นกลไกการ Neked Short Sell และดึงหุ้นในคัสโตเดียนไปไม่บอกกล่าวก็ไม่สามารถรับได้เช่นกัน ที่สำคัญในการเซ็นยินยอมให้ยืมหุ้นใดๆ เจ้าของต้องรับรู้ในสาระด้วย ไม่ใช่แอบซ่อนเขียนตอนเปิดบัญชีโดยที่เจ้าของหุ้นไม่รู้
@รวมเหยื่อแจ้ง DSI
ด้านเพจ SABUY CEO ของนายชูเกียรติ รุจนพรจี ได้โพสต์ ถึงผู้ถือหุ้น SABUY สามารถลงชื่อร่วมการเดินทางไปแจ้งความกับ DSI ในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบการขายหุ้นตามที่แจ้งเอาไว้ว่า การทำรายการตามที่มีหลักฐานในเดือนตุลาคม 2566 ถือว่าเป็น Naked Short หรือไม่
รวมถึงพิสูจน์ความจริง เพื่อเราจะร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยของเรา ให้เป็นแหล่งออม แหล่งระดมทุน และ อนาคตของพวกเราครับ ท่านที่มีสิทธิคือคนที่ถือหุ้นช่วงตุลาคม 2566 สำหรับผู้ถือหุ้นที่ลงชื่อไว้ ทางบริษัทนัด พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี DSI (รักษาราชการแทน อธิบดี DSI) วันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 10.30 น. ให้ไปพบท่านที่อาคาร DSI ขอให้เจอกันที่ล็อบบี้เวลา 10.00 น.
@วงการแนะฟ้องคัสโตเดียน
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในวงการตลาดทุน เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า กรณีที่หุ้น SABUY หายไป จากคัสโตเดียนนั้น ยังไม่อาจจะมองได้ว่าเป็น Neked Short Sell แต่คนกังวลเรื่องนี้จึงเอา Neked Short Sell เป็นแพะ โดยยอมรับว่าการตรวจสอบคัสโตเดียนทำได้ยาก ดังนั้นการที่หุ้นหายจากคัสโตเดียนก็ควรจะเอาผิดคัสโตเดียนมากกว่า
https://thunhoon.com/article/284741
ตลท.แจงไร้เน็กเก็ตชอร์ต SABUYรวมพลฟ้องDSI
#SABUY #ทันหุ้น – ตลาดหลักทรัพย์แจ้งผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี SABUY ไม่พบเป็นธุรกรรม Naked Short Selling ชี้ผู้ขายมีหุ้นในครอบครองก่อนขายมากกว่าจำนวนที่ขาย โดยได้รับโอนมาก่อนส่งคำสั่งขาย ชี้มีการตรวจสอบต่อเนื่อง ด้านซีอีโอ SABUY เดินหน้ารวบรวมรายชื่อ นัด “รักษาราชการแทนอธิบดี DSI” สอบเอาผิดอังคารหน้า
จากกรณีหนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น นำเสนอ ข่าว "บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)" หรือ SABUY พบหลักฐานมีการทำ Naked Short Selling” ว่า บริษัทได้พบหลักฐานว่า หุ้น SABUY ถูกชอร์ตหุ้น โดยที่ไม่มีการยืมหุ้นมาขายหรือ "Naked Short Sell" ซึ่งนับว่าผิดกฎเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ ที่ห้ามทำธุรกรรม Naked short selling หลังจากพบว่าในช่วงเดือนตุลาคม 2566 มีหุ้นจำนวนหนึ่งของผู้ถือใหญ่ของบริษัท ที่ถือผ่านคัสโตเดียนได้ หายไปเกือบ 20 ล้านหุ้น ทั้งๆ ที่ผู้ถือหุ้นรายนั้น ไม่ได้มีการให้ยืมหุ้นใดๆ เลย
ซึ่งหลักฐานดังกล่าว นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY ได้ระบุมีความเป็นไปได้ว่า บริษัทประสบกับปัญหาการโดนชอร์ตเซลโดยไม่มีหุ้นหรือ "Naked Short Sell" ซึ่งผิดกฎตลาดหลักทรัพย์ และยังเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นในบริษัท ทำให้ราคาหุ้น SABUY ปรับตัวลดลงโดยไม่เป็นธรรม และสร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้น Sabuy โดยได้มอบหลักฐานให้ตลาดหลักทรัพย์ตรวจสอบ
@ตลท.แจงไร้เน็กเก็ตชอร์ต
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกเอกสารชี้แจงว่า กรณีปรากฏข่าว จากสื่อรายหนึ่งเมื่อ 14 ธันวาคม โดยมีเนื้อหาระบุ "บจ.รายหนึ่งพบหลักฐานการทำ Naked Short Selling หลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น พบหุ้นของผู้ถือหุ้นรายหนึ่งหายไปรวม 20 ล้านหุ้น โดยไม่ได้ให้ยืมหุ้น" ตลาดหลักทรัพย์ ขอแจ้งผลการตรวจสอบ ดังนี้
1. จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบว่าเป็นธุรกรรม Naked Short Selling เนื่องจากผู้ขายมีหุ้นในครอบครองก่อนขายในจำนวนที่มากกว่าจำนวนที่ขาย โดยได้รับโอนมาก่อนส่งคำสั่งขาย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ ได้รับหลักฐานจากผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
2. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 บจ.รายดังกล่าวได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์เรื่อง “แจ้งการมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่” โดยมีการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นที่สอดคล้องกับธุรกรรมตามข้อ 1
ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ได้ส่งเอกสารแนบถึงการแจ้งขายหุ้นของ SABUY นายอานนท์ชัย วีระประวัติ ที่ได้โอนขายหุ้นจำนวน 20.585 ล้านหุ้น หรือ 1.11% ให้กับ GEM Global Yield LLC SCS (GEM) ซึ่งเป็นกองทุนจากสหรัฐอเมริกา โดยได้แจ้งขายเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566
ตลาดหลักทรัพย์ ระบุอีกว่า ได้มีการตรวจสอบการทำธุรกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้เน้นย้ำมาตรฐานการกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ หากพบการกระทำผิด หรือเข้าข่ายฝ่าฝืนซึ่งไม่เป็นไปตามข้อบังคับ จะมีบทลงโทษทางวินัยต่อไป
หากผู้ลงทุนมีข้อสงสัยหรือพบการกระทำผิดเกณฑ์การซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถแจ้งตลาดหลักทรัพย์ ได้ที่ SET Contact Center 0 2009 9999 หรือ SETContactCenter@set.or.th
@SABUY ยืนยันไม่คิดให้ยืมหุ้น
ด้านนายชูเกียรติ เปิดเผยภายหลังจากได้รับคำชี้แจงของตลาดหลักทรัพย์ว่า โดยระบุว่าหุ้นที่หายไปจากคัสโตเดียนนั้นเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ผู้ถือหุ้นรายได้ขายหุ้นให้กับ GEM ดังนั้นจึงไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นการขายหุ้นตามปกติ
และอยากให้เข้าใจจุดยืนว่าช่วงก่อนหน้านั้นผู้ถือหุ้นไม่ได้ขายหุ้น หรือยินยอมในการให้ยืมไปขายหุ้น ดังนั้นการที่หุ้นของผู้ถือหุ้นดังกล่าวหายไปในเดือนตุลาคม ต้องสืบสวนว่าจะเกี่ยวข้องกับ Naked Short Selling หรือไม่ ซึ่งทางบริษัทจะเดินหน้าในการหาความจริงเรื่องนี้
ประเด็นสำคัญเรื่องนี้อยู่ที่ว่าเจ้าของหุ้นไม่รู้ว่ามีการเอาหุ้นไปให้ยืม และไม่ได้ยินยอมให้ยืม ดังนั้นหากมีการยืมหุ้นไปทั้งๆ ที่ไม่ยินยอม หรือจะเป็นกลไกการ Neked Short Sell และดึงหุ้นในคัสโตเดียนไปไม่บอกกล่าวก็ไม่สามารถรับได้เช่นกัน ที่สำคัญในการเซ็นยินยอมให้ยืมหุ้นใดๆ เจ้าของต้องรับรู้ในสาระด้วย ไม่ใช่แอบซ่อนเขียนตอนเปิดบัญชีโดยที่เจ้าของหุ้นไม่รู้
@รวมเหยื่อแจ้ง DSI
ด้านเพจ SABUY CEO ของนายชูเกียรติ รุจนพรจี ได้โพสต์ ถึงผู้ถือหุ้น SABUY สามารถลงชื่อร่วมการเดินทางไปแจ้งความกับ DSI ในสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบการขายหุ้นตามที่แจ้งเอาไว้ว่า การทำรายการตามที่มีหลักฐานในเดือนตุลาคม 2566 ถือว่าเป็น Naked Short หรือไม่
รวมถึงพิสูจน์ความจริง เพื่อเราจะร่วมกันพัฒนาตลาดทุนไทยของเรา ให้เป็นแหล่งออม แหล่งระดมทุน และ อนาคตของพวกเราครับ ท่านที่มีสิทธิคือคนที่ถือหุ้นช่วงตุลาคม 2566 สำหรับผู้ถือหุ้นที่ลงชื่อไว้ ทางบริษัทนัด พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดี DSI (รักษาราชการแทน อธิบดี DSI) วันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 10.30 น. ให้ไปพบท่านที่อาคาร DSI ขอให้เจอกันที่ล็อบบี้เวลา 10.00 น.
@วงการแนะฟ้องคัสโตเดียน
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงในวงการตลาดทุน เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า กรณีที่หุ้น SABUY หายไป จากคัสโตเดียนนั้น ยังไม่อาจจะมองได้ว่าเป็น Neked Short Sell แต่คนกังวลเรื่องนี้จึงเอา Neked Short Sell เป็นแพะ โดยยอมรับว่าการตรวจสอบคัสโตเดียนทำได้ยาก ดังนั้นการที่หุ้นหายจากคัสโตเดียนก็ควรจะเอาผิดคัสโตเดียนมากกว่า https://thunhoon.com/article/284741