ต้องขออธิบายก่อนนะครับว่า ผมทำงานกิจการร้านอาหารครอบครัว ก่อนหน้านี้(ช่วง2019ก่อนโควิดมา)ตอนเรียนผมเคยทำงานมิสเตอร์โดนัท พนักงานเอาท์ซอร์ทในออฟฟิศของธนาคาร พอเรียนจบ ป.ตรี ได้วุฒิมา ผมก็อยากยกระดับตัวเองขึ้น หางานใหม่ งานนิติบุคคลคอนโดติดต่อมาให้เงินเดือน15, 000 ผมเลยออกจากงานออฟฟิศธนาคาร แล้วไปทำนิติบุคคลคอนโดทำได้3เดือนรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานนี้ เลยหางานใหม่อีกครั้งหลายที่มาก แต่แต่ละที่ให้ประมาณ13,000-14,000 ทีนี้บ้านผมอยู่พัฒนาการแต่ละที่ที่ผมติดต่อผมไปสัมภาษณ์งาน ผมไปสัมภาษณ์ก็ผ่านทุกที่ แต่พอมาคิดคำนวนค่าเดินทางไปกลับ ค่าอาหาร ค่าห้องค่าไฟค่าส่วนกลาง(เพราะผมเช่าห้องอยู่เอง)หมื่น4แทบไม่เหลือเลย พ่อเลยชวนให้มาทำงานร้านเค้า(กิจการครอบครัว)ให้ค่าแรง12, 000 ทีนี้พอโควิดมารายได้ลด เหลือ8, 000/เดือน สำหรับใครหลายคนอาจน้อยแหละ แต่สำหรับผมที่โสดตัวคนเดียว 8พันหักค่าใช้จ่ายรวม4พัน ก็เหลือใช้เหลือเก็บเพราะผมไม่ต้องเสียค่ารถเดินทางและค่าอาหาร ผมเลยไม่อยากไปเป็นลูกจ้างที่อื่นอีก อยากมีกิจการ/สินค้าของตัวเองในอนาคต แต่มีเพื่อนที่รู้จักกันมานาน2คน ทำงานเงินเดือนเยอะกว่าน่ะแหละ มาบอกกับผมว่าทำไมไม่ออกไปหางานทำ เรียนรู้ที่อื่น พอใจเหรอที่มีแค่นี้ คนนึงนี่จู้จี้จุกกับผมถึงการมีแฟน "เมื่อไหร่จะมีแฟน ทำไมไม่รู้จักหา" "รู้จักแต่งตัว เลิกดูหนังการ์ตูนไร้สาระได้แล้ว" (ทั้งที่ผมก็ไม่ได้แต่งตัวแย่อะไรนะ😄) ผมพยายามบอกว่าผมก็มีเส้นทางของตัวเอง ไม่ได้นอนงอมืองอเท้า และเรื่องแฟนนี่ไม่ค่อยสนใจ เพราะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมี รักตัวเองเป็น อยู่เองได้ ไม่ได้ขอให้ใครมารัก แต่ถ้าจะมีใครมารักก็ขอให้รักในสิ่งที่เราเป็นเรา ไม่ใช่ให้เราเป็นแบบที่เขาต้องการ(เราก็มั่นใจว่าเราไม่ใช่คนเลวเห็นแก่ตัวแต่แค่ไม่ค่อยสนใจความรัก) ใจนึงก็รู้ในความหวังดี(หรือมันอยากชูตัวเองให้ดูดีก็ไม่รู้) แต่ก็อึดอัดที่มีเพื่อนมาทำตัวเดือดร้อนกับชีวิตเราทั้งที่เราไม่เดือดร้อน เราก็พยายามในทางของเรา ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีอยากบอกว่า

ก็เกรงใจ
คิดยังไงครับ กับการที่มีเพื่อนมาทำหวังดีกำหนดชีวิตเราทั้งๆที่เราไม่ได้เดือดร้อน