เราทำงานในห้างที่หนึ่ง ตอนก่อนโควิดก็อยู่กันเเบบปกติทั่วไป แต่ก็จะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นบ้าง คืออย่างเช่นceo จะมีแนวคิดที่ว่าเซลล์หาเงินมาจ่ายเงินเดือนพนักงานคืออวยแต่เซลล์ พูดเหมือนแผนกอื่นไม่ได้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นช่าง แม่บ้าน รปภ. การตลาด ฯลฯ แต่พอมาช่วง ที่โควิดระบาด ผจก.คนเก่าโดนออก และเปลี่ยน ผจก.คนใหม่ขึ้นมาแทน(เป็นเซลล์) ซึ่งต่อมา บ.จะลดคนออกเนื่องจากโควิดแต่ใช้วิธีให้พนักงานย้ายสาขาไปที่ไกลๆให้พนักงานลาออกเองแทน คือมีพนักงาน6คน จะย้ายไป2คน ซึ่งพอถามว่าใครจะได้ออก ผจก.อ้ำๆอึ้งๆบอกไม่รู้ ceo เป็นคนเลือก เราก็ถามว่าเลือกจากอะไรจับสลากเหรอเขาบอกดูจากการทำงาน เราก็งงว่าจะดูจากการทำงานได้ไงในเมื่อ ceo ไม่ได้อยู่สาขานี้ สรุปเราโดนเลือกกับอีกคนหนึ่ง แต่หัวหน้ารู้ว่าเราทำงานเลยให้เราอยู่ต่อ ผจก.ก็เหมือนไม่พอใจว่าทำไมไม่เอาเราออก แล้วก็ไปบอกคนอื่นที่โดนออกว่า หัวหน้าเป็นคนเลือกออก ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเลือก ทีนี้ก็ทำงานต่อมาจนเจอช่วงล๊อคดาวน์ที่ห้างโดนปิด ก็จะมีแต่ช่างที่มาทำงานแผนกอื่นทำงานที่บ้าน แล้วที่นี้เซลล์เมียของช่างA ได้ wfh ซึ่งเรามองว่าไม่ต่างกับหยุดอยู่บ้านเพราะอยู่บ้านจะทำงานอะไรได้ของก็อยู่ออฟฟิศ แต่ผัวไม่ได้หยุด ก็เลยแรกๆเริ่มมีแว๊บหายไปข้างนอกบ้าง เข้างาน 10 โมง มาสแกนนิ้วไว้แล้วมาอีกทีเที่ยงบ้าง บ่าย2บ้าง ช่างBเห็นเลยทำตาม สุดท้ายภาระงานตกอยู่ที่คนที่อยู่หน้างานคือเรากับช่างC ผจก.รู้ เพราะมีช่วงหนึ่งเราไปถามรปภ.ว่าเห็นช่างกะ10โมงมาหรือยัง รปภ.บอกทาสแกนนิ้วแล้วไปตั้งแต่9โมงแล้วเราเลยลองแกล้งลาป่วย ผจก.ถามว่ามีคนอยู่ที่ทำงานไหมเราบอกกะ10โมงมาแล้ว ผ่านไปสักพักอยู่ๆขับรถมาเฉยคิดว่าผจก.โทรบอกให้มาเข้างานเพราะเราจะกลับบ้าน และ ผจก.เปิดร้านธุรกิจส่วนตัวและให้ช่างAช่างBไปทำงานให้ตอนกลางคืน คือเป็นวันทำงานปกติที่เข้ากะดึก ก็ทิ้งงานและไปรับงานนอก ภาระงานก็ตกที่กะเช้าเพราะกะดึกมาสแกนนิ้วแล้วก็ออกไปกันเลย ถ้าถามว่าผจก.รู้ไหมว่าทิ้งงานไปก็คงรู้อยู่แล้วแหละเพราะกะเช้าก็ทีเราไปทำกับช่างC ถ้าวันไหนอยู่กะกลางวันผจก.จะโทรมาถามช่างAว่าอยู่กะกับใครพอบอกอยู่คู่กับเราทีนี้ก็มาบอกเราว่าผจก.ให้ไปดูเครื่องทำน้ำอุ่นที่บ้าน แล้วก็หายไปทั้งวันทิ้งเราทำงานคนเดียวแล้วก็มาบอกผจก.สั่ง ทีนี้ต่อมามีเรื่องที่ว่ามีพนักงานพาคนนอกมามั่วสุมกินเหล้าในเวลางาน หัวหน้ารู้เลยเอาไปคุยในที่ประชุม ผจก.ถามเลยว่าใครคะ! คงคิดว่าหัวหน้าเราจะตอบว่าเป็นเรากับช่างC พอบอกว่าเป็นช่างAกับช่างBปุ๊ป ผจก.บอกไม่ผิดคะ ให้เลิกทำแล้วจบ ทีนี้เข้ายิ่งได้ใจเลยเพราะรู้ว่าต่อให้ทำอะไรผิดเดี๋ยวผจก.ก็ช่วย แต่ก็ยังมีแว๊บไปข้างนอกอยู่ ทีนี้มีช่วงหนึ่งที่ทำงานมีการย้ายเครื่องสแกนนิ้วแล้วระบบใช้งานไม่ได้ให้ลงเวลาทำงานออนไลน์ในลิ้งค์บริษัทแทน ช่างAเขาบอกว่าเมียที่บ้านเป็นโควิดแจ้งปากเปล่าไม่มีผลตรวจ ซึ่งตรงกับช่วงอาทิตย์สงกานต์พอดี ผจก.บอกให้หยุดกักตัวเท่ากับว่าจะได้หยุด1อาทิตย์กับวันหยุดขอวตัวเองอีก1อาทิตย์เป็น2อาทิตย์ คนขาดทุกคนในแผนกต้องมาควงกะเดือดร้อนกันหมดทุกคน ทั้ง เช้า-บ่าย บ่าย-ดึก ดึก-เช้า พอมาทีนี้มีคนไปรู้มาว่าวันที่ว่าหยุดกักตัวไปมีเวลามาสแกนนิ้วเข้าทำงานออนไลน์ปกติ แล้วเราไปต่างจังหวัดมาซึ่งมีเพื่อนเราเป็นโควิดพอดีเราเลยบอกว่าเราใกล้ชิดคนติดโควิดมีผลตรวจจริง ผจก.เหมือนจะรู้นะว่าเรารู้ว่าคนของเขาแอบลงเวลาทำงาน ผจก.เลยถามเราว่าอยู่บ้านเดียวกันไหม ถ้าไม่ได้อยู่หยุดไม่ได้ เราบอกแต่อยู่ด้วยกันเป็นอาทิย์ตอนมาต่างจังหวัด ผจก.ก็บอกไม่เป็นไรให้มาทำงานไม่ต้องกักตัวเป็นก่อนค่อยว่ากัน แต่อีกคนได้กักตัวทั้งๆที่แค่บอกปากเปล่าหรือต่อให้มีใบรับรองอะไรก็เหอะแต่ได้หยุด ทีนี้มาเรื่องแว๊บไปข้างนอกคือ เมีบช่างAเป็นเซลล์จะรับเรื่องจากลูกค้ามาแจ้งช่างอีกที แล้วตอนแจ้งก็จะแบบรอผัวตัวเองไม่อยู่แล้วค่อยแจ้งแบบรอแจ้งแต่ตอนคนอื่นอยู่ อย่างเช่นพอผัวแว๊บไปข้างนอกก็จะแจ้งงานมาล่ะ หรือไม่ถ้าเป็นงานประจำกะก็จะรอผัวตัวเองหยุดหรือเปลี่ยนกะค่อยแจ้งตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะนึกว่าบังเอิญแต่พอนานๆไปเข้าว่า มันแปลกๆ สุดท้ายก็มีปัญหาเกี่ยงงานกันเข้าอยู่ๆ ผจก.เอาHRมาคุย ช่างAช่างBเงียบกริบ มาโดนเรากับช่างC เราโดนเรื่องบล๊อคไลน์เมียช่างA เขาบอกแจ้งงานเราส่วนตัวไม่ได้ คือไลน์กรุ๊ปก็มีแต่เขาเหมือนกับจะเป็นรายคนให้ไปทำพอเราเปิดอ่านก็จะกลายเป็นเรารับเรื่องไว้แล้วต้องไปทำคนเดียวซึ่งเขาไม่แจ้งผัวเขา ช่างCโดนเรื่องมาสายบอกจะไล่ออก แต่กินเหล้าไม่เห็นจะโดนอะไร หลังๆมาเริ่มหนักเริ่มมีแบบ บอกลาพักร้อน ลาป่วย ลากิจ แต่แอบมาสแกนนิ้วให้ขึ้นเวลางานแล้วกลับบ้าน ทำมาเป็นปีจนสุดท้ายหนักขึ้นเรื่อยๆแบบคนนั้นคนนี้ต้องสลับวันหยุดมาควงกะทำงานแทนให้ มาทีนี้ช่างCลาป่วยหรือลาอะไรนี่แหละลาแบบถูกต้อง ผจก.บอกHRจะให้ใบเตือน หัวหน้าเลยบอกถ้างั้นต้องให้ช่างAด้วยเพราะแอบมาสแกนนิ้ว ผจก.เลยเรียกช่างช่างAไปคุยเพื่อเตี๊ยมคำตอบในที่ประชุม จากนั้น2-3วัน ผจก.เรียกประชุม ผจก.บอกว่าเราไปทำงานที่ไหนก็จะโดนไล่ออกบอกเราเข้ากับคนอื่นไม่ได้เพราะไม่ช่วยกันปกปิดเรื่องที่คนของผจก.กินเหล้าในเวลางานและแอบมาสแกนนิ้วแล้วกลับบ้าน บอกที่เรายังอยู่ได้ถึงทุกวันนี้เพราะเราทำงานเพราะเขาจะเอาออกตั้งแต่ตอนเขาได้ขึ้นเป็นผจก.แล้ว(ด้วยเหตุผลส่วนตัว) เราก็งงคนทำงานจะโดนไล่ออก ทีนี้มาถึงช่างAลูกรักผจก. ผจก.บอกแค่ว่าถ้าจะทิ้งงานไปรับลูกหรือไปไหนให้พิมพ์ไลน์บอกหัวหน้าทิ้งไว้ เขาจะอนุญาตหรือไม่ก็ช่างให้ไปได้เลยเพราะถือว่าบอกแล้วหนักเลยทีนี้ความคิดของคนที่อยู่ระดับบริหาร บอกให้ทิ้งงานได้ พอมาเรื่องแอบมาสแกนนิ้วช่างAเขาไม่ยอมรับคิดว่าเราไม่มีหลักฐานก็เลยทะเลาะกับช่างCแต่แค่มีปากเสียงกันเฉย แต่พอมาเรามีหลักฐานว่าวันไหนวันไหนบ้าง ผจก.เห็นแล้วก็นั่งทำหน้ามึน แล้วก็มาโวยวายบอกจะให้ใบเตือนทุกคนถือว่ารับทราบเรื่องที่เรารู้ว่าลูกรักเขาแอบมาสแกนนิ้วแล้วกลับบ้าน เราเลยบอกจะให้เรื่องอะไรคนไม่ได้ทำอะไรผิด กินเหล้าในที่ทำงานยังบอกไม่ผิด เมียช่างAได้ยินเลยวิ่งมาพูดแทรกแทนผัวบอกเรื่องผ่านมาแล้วพูดทำ

อะไร เราเลยบอกหุบปากไปมันเรื่องของแผนกช่าง จากนั้นเขาก็ด่าเราสารพัดทั้วไอ้

เราก็ด่ากลับ แล้วก็มาจบตรงที่บอกแบ่งงานแบ่งหน้าที่กัน ช่างAรับงานแจ้งซ่อมจากเมียเขา ช่างBรับผิดชอบงานกลางคืน ช่างCรับผิดชอบงานเซทอัพ เรารับงานเอกสาร ระบบสื่อสารทั้งหมด ทีนี้คิดว่าเรื่องจะจบแล้ว ถนัดจากนั้นมา2-3วัน เราโดนเรียกไปเซนใบเตือน ข้อหาแสดงกริยาไม่ดีต่อผจก. เราเลยถามแล้วอีกคนไม่โดนเหรอ ผจก.ถามว่าใครเหรอ ช่างCเหรอ ไม่งั้นก็เรียกมาจะได้ให้ใบเตือนเรื่องทะเลาะวิวาท เราเลยบอกอีกแล้วช่างAล่ะ ผจก.บอก เขาได้ใบเตือนเรื่องมาสายไปแล้ว(แอบมาสแกนนิ้วแล้วกลับบ้าน)เปลี่นเป็นมาสายโทษจะได้เบาๆ ถ้าเราโดนแล้วเมียช่างAไม่โดนเหรอ ผจก.บอกมีแค่เราที่กระทำต่อเขาสงสยเพราะเมีช่างAยืนข้างหลังผจก.เขาเลยไม่เห็น เราเลยไม่เซนผจก.เล่นแง่เอาพยานพวกเดียวกันมาแล้วบอกแจ้งเราแล้ว ใบเตือนนั้นเป็นผล ผ่านมาสักพักช่างAอยู่มาบอกเราว่ามีอะไรให้คุยกับผจก.บอกเขาทำผิดเขาก็ไปคุยกับผจก. เราก็งงว่าคุยอะไรในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิด ทีนี้ช่างCเลยลาออก หลังจากนั้นบอกแบ่งงานกันแล้วแต่เมียช่างAก็ยังเอางานคนอื่นมารอแจ้งงานเราเหมือนเดิมอยู่ดี ผจก.บอกทำงานรับผิดชอบตามกะ แล้วจะแบ่งงานเพื่องานที่บอกเรารับผิดชอบเราทำคนเดียวต่อให้แจ้งตอนเราไม่อยู่ช่างAกับช่างBก็ไม่ทำบอกเป็นงานเราแต่งานเขามาแจ้งเราได้บอกงานตามกะ หลังจากนั้นเราเจอทั้งจัดตารางกะแกล้ง ให้เข้างานบ่าย2ออก5ทุ่มแล้วมาเข้า8โมงเพราะวันนั้นมีจดมิเตอร์ประจำเดือนแล้วเขาไม่อยากให้ลูกรักเขาทำโดนจัดให้ไปอยู่ในวันที่มีเซทอัพงานคนเดียว ให้ทำงาน10วันติดกันไม่จัดวันหยุดให้บอกเพื่อให้เพื่อนร่วมงานใช้พักร้อนบอกไม่ผิดกฎหมายแรงงาน และมีวันหนึ่งเราไปทำงานให้ลูกค้าแล้วเมียช่างAแจ้งงานซ้อนกันมาเราติดงานแรกอยู่และยังทำไม่เสร็จจัดตารางกะให้เราอยู่คนเดียว เราไม่ได้อ่านไลน์มาเห็นไลน์ทีหลังเราก็ไปทำให้ แล้วก็มาวันที่ให้คีย์มิเตอร์ไฟปกติเป็นงานกะเช้าแต่วันนั้นเราเข้าบ่าย2มาแจ้งงานเราบอกจะเอาก่อนเที่ยงแล้วเอกสารก็อยู่ออฟฟิศแต่ไม่แจ้งช่างAที่อยู่หน้างาน เราไม่ได้ตอบไลน์ ไปถึงที่ทำงานก็มาแจ้งเราให้ดูกล้องให้ลูกค้าเพราะของหายและก็มาทวงมิเตอร์ไฟกับเราแต่ไม่แจ้งช่างAที่อยู่ ให้เราทำ2งานวันรุ่งขึ้นเราโดนใบเตือน2ใบ ในแรกเรื่องก่อนหน้าที่เมียช่างAซ้อนแล้วเราติดงานลูกค้าที่แจ้งงานมาตอนแรกอยู่ ผจก.บอกเราจงใจทำให้งานล่าช้าเพราะเราบล็อคไลน์เมียช่างAตั้งแต่เมื่อ3ปีก่อนหน้า ใบที่สองเรื่องตามงานมิเตอร์ไฟเป็นงานกะเช้าจะเอาก่อนเที่ยง แต่เราเข้างานบ่าย2ไม่ได้ทำให้ เราแค่บอกว่าเขางานบ่าย2 เขาบอกเราแสดงคำพูดไม่ดีทำให้องค์กรเสียหายเพราะในกลุ่มมีแม่บ้าน รปภ.ที่เป็นซัพอยู่ เราไม่เซนเพราะเราบอกไปแล้วว่าใบแรกเราติดงานแรกอยู่และจัดตารางให้เราเข้าคนเดียว เสร็จงานแรกเราก็ไปทำให้ ใบ2 เราก็แจ้งเข้าไปว่าเข้างานบ่าย2 เขาก็ไปเรียกคนของเขามาเป็นพยานว่าแจ้งเราแล้ว ใบเตือนนั้นมีผล มาปลายปีประเมินผจก.ประเมินคะแคนเราต่ำกว่าคนอื่นๆเพราะกะจะไม่ให้เราได้โบนัสบวกกับใบเตือนที่ออกมาลบใบละ5คะแนน แต่เราโชดดีหน่อยตรงที่ว่ารอบประเมินมันตัดไปก่อนวันได้ใบเตือน2ใบหลังไป2วันเราเลยยังได้โบนัสอยู่ 2เดือนก่อนออกเราก็เลยหยุดวันที่มีจดมิเตอร์ไปจะได้ไม่ต้องมีจัดตารางกะแกล้งแจ้งงานแกล้งเหมือนก่อน ผจก.เขาก็ไม่พอใจ สุดท้ายแล้วโควิดผิด เพราะถ้าไม่มีโควิค ต่อให้เปลี่ยนผจก. ก็จะไม่มี wfh ก็จะไม่มีสแกนนิ้วแล้วกลับบ้าน ก็จะไม่ได้เห็นนิสัยจริงๆของคน
ลาออกจากงานเพราะโควิด