🌤️“มาตาลดา”ละครที่ดีที่สุดแห่งปี ความภูมิใจของละครไทย

กำลังจะสิ้นสุด ปี 2566 ขอเขียนกระทู้ถึงละครที่ทำให้กลับมาดูสดทุกวัน แต่ไม่ได้มาเขียนกระทู้เลยตอนนั้น
ละครเรื่องนั้น เป็นละคร “ม้านอกสายตา” เป็นละครที่ไม่คิดว่า จะทำได้ดีขนาดนี้เมื่อเทียบ กับเรื่องอื่นๆ ที่น่าจะได้งบเยอะกว่า อย่าง  พรหมลิขิต , แค้น , หมอหลวง ,เกมรักทรยศ  ที่ขนตัวท็อปลงหวังให้ละครปัง
เมื่อเทียบกัน ความรู้สึกแรก มาตาลดา ไม่ดึงดูดให้ดูเท่ากับละครเหล่านั้น แต่เมื่อละครออนสดนี่สิ ที่ทำให้ จากม้านอกสายตา ทะยานสู่ อันดับ 1 ละครแห่งปี
“ทำให้ละครมาตาลดา ส่องสว่าง เป็นผลงาน เชิดหน้าชูตาให้กับ ช่อง3ได้จริงๆ”

ผมใช้คำว่า “ยินดีกับผู้สร้าง คุณได้สร้างละครที่ก้าวผ่านมาตรฐานละครไทยแล้ว คุณทำได้ ทำถึง ทำดี นั่นคือ มาตาลดา”

และนี่คือ 7 เหตุผลทั้งหมดที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า “มาตาลดา คือละครไทยที่สุดของปีนี้ และดีกว่าหลายๆปี”

1.บทละครที่มีชิวีต เน้นความรู้สึก นี่แหละคือสิ่งที่ยกระดับมาตาลดาเหนือกว่าละครเรื่องอื่นๆ
ผมใช้คำว่า “ไม่บ่อยครั้งที่จะเจอบท ที่มีความละเอียดขนาดนี้” คือต้องเข้าใจก่อนว่า ละครที่ดี บทดีบ้างไม่ดีบ้าง มีเยอะมาก แต่ละครที่ดี และบทละครที่ทำให้เรารุ้สึกว่า “คนสร้างใส่ใจในรายละเอียดมีน้อยมาก”
และมาตาลดา คือละครแบบนั้น เขาใส่ใจในรายละเอียดของบทที่ทำให้เรารู้สึกว่า “บทที่ดีไม่ต้องมีท่ายาก ไม่ต้องสลับซับซ้อน บางครั้งบทที่ดี มาจากการที่ “สร้างละครให้เข้าถึงคนดู” นั่นแหละคือสิ่งสำคัญง่ายสุด เมื่อคนดูเชื่อ นั่นบ่งบอกว่า คุณทำการบ้านมามากพอ คุณทำให้คนดูรู้สึกตาม และมีอารมร่วมกับตัวละคร
ที่บอกบทบะครมีชีวิต เราสามารถพูดได้ว่า ละครเรื่องนี้เล่นกับความรู้สึกคนดูเก่งมากๆ ละครปกติไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะนำดสนอ แล้วคนดูรู้สึกตามตัวละคร “ทำอย่างไรให้คนดูรู้สึกตามตัวละคร โดยที่เขาไม่รู้สึกว่าละครบังคับให้คนดูอิน นี่แหละคือจุดที่ยาก เพราะถ้าคนดูไม่เชื่อ คนดูไม่รู้สึกตาม เราจะรู้สึกว่า บทน่ารำคาน นี่แหละคือสิ่งที่ยากสำหรับละครเรื่องนี้ที่ กล้าพูดได้เต็มปากว่า ละครไทย ทำได้ ทำถึง และทำได้ดีมากๆ”
ผมดูละครเรื่องนี้ รู้ไหม ซีรีย์เรื่องแรกที่ผมนึกถึงคือ “Hospital Playlist” ซีรีย์อันดับ 1 ในใจผม เล่าคร่าวๆคือมันเป็นซีรีย์ที่เกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของเพื่อน ที่เรารู้สึกและรับรู้ได้ว่า “ยิ่งเราดูพวกเขา เรายิ่งรู้สึกอบอุ่นหัวใจ” ซีรีย์ให้พลังบวกที่เยอะมากๆ และแม้แต่ซีรีย์เกาหลีด้วยกันเอง ยังมีน้อยเรื่องที่ทำได้
ที่ผมบอกว่า ผมดูมาตา ทำให้ผมนึกถึง HP เป็นเพราะว่า ละครมาตาลดา มีบทที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น “รู้สึกอบอุ่นหัวใจ”  ละครทำให้เรารับรู้พลังบวก ที่มากกว่า ละครทั่วไปทำได้ “มันเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ที่จะทำให้คนดูได้รับพลังบวก และทำให้คนเชื่อ เพราะถ้าคนไม่เชื่อ คนดูจะรู้สึกละครเรื่องนั้นถีบเราออกมาจากละคร” นี่แหละคือสิ่งที่ ละครมาตาลดาทำได้ ..พวกคุณทุกคนเก่งมาก ที่ทำให้คนดู ดูแล้วเชื่อ “แค่คุณทำให้คนดูเชื่อ นั่นคือละครคุณถึงเป้าหมายที่คุณคาดไม่ถึงแล้ว” เพราะไม่ว่าจะละคร ซีรีย์ หนัง ทุกวันนี้ที่ได้ดี ไม่ใช่มาจากบทที่เขียนดี จนไม่มีที่ติ แต่มันต้องมาจาก เขียนแล้วคนดูเชื่อตาม ด้วย

2.คาแรคเตอร์แบบมาตาลดา เขาคือแสงสว่างที่ปล่อยพลังบวกให้กับทุกคน
“เหนื่อยไหมเป็นหนึ่ง” ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ แต่ความหมายยิ่งใหญ่มหาศาลมาก ประโยคนี้ที่ออกจากปากมาตา “ผมใช้คำว่ามันมีพลังบวกมหาศาลยิ่งกว่าคำใดๆ” เอาตรงๆ ประโยคนี้จะฟังดูธรรมดามากเลย “ถ้าไม่ได้ มาจากตัวละคร มาตาลดา” เพราะอะไรนะหรอ ? เพราะถ้าเป็นคนอื่นเราจะไม่ฉุดใจคิด
และคิดว่ามันเป็นแค่ประโยคธรรมดา ที่ถามผ่านๆ  แต่เมื่อมันผ่านตัวละคร มาตา มันแสดงให้เห็นถึงคำว่า “น้ำใสใจจริง” โลกทุกวันนี้ เอาตรงๆไม่มีใครใจดี หรือมีเวลามากมายมาสนใจ หรือแคร์เรามากมายขนาดนั้น จนบางครั้งตัวเราเองยังไม่เคยถามตัวเองเลย “ว่าที่เราใช้ชีวิตตอนนี้ เราเหนื่อยไหม ?” เราต้องการใครสักคนให้เราได้ระบายสิ่งที่เราได้รับมาเรื่อยๆรึปล่าว? ตัวละครมาตาลดา “เป็นเหมือนดอกทานตะวัน ที่ส่องแสงปล่อยพลังบวกใส่คนรอบข้าง” บทนี้เป็นบทที่เขียนขึ้นไม่ง่าย และผมกลับมองว่า “มันเล่นยาก และถ้าเล่นไม่ถึงคนดูจะไม่เชื่อ ว่าเขาปล่อยพลังบวก” ต้องปรบมือให้กับ คนเขียนบทและคนดีไซน์ออกมาเป็นตัวละคร รวมไปถึงคนแสดง “คุณเก่งมาก ละครสักเรื่องนึงการจะทำให้คนดูรัก เราต้องทำให้คนดูเชื่อว่า บทของเขามันมีขีวิต มีจิตใจ และเมนคาแรคเตอร์ต้องไม่หวั่นไหว” จริงอยู่ที่ตัวละครที่ดีมากมาก จะมีมิติลึกมากๆ มักจะเป็นคาแรคเตอร์ ที่มีการพัฒนาไปข้างหน้าแบบมีนัยยะสำคัญและมีที่มาที่ไป ยกตัวอย่างเช่นตัวละครโลกิ ทั้ง2ซีซั่น
แต่ขณะเดียวกันตัวละครที่ดีและสามารถชนได้กับตัวละครที่มีการพัฒนาคาแรคเตอร์ได้นั้น ส่วนตัวผมมองว่า “คือตัวละครที่ยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองยึดถือ” เพราะมองแล้วว่ามันคือหัวใจหลัก ที่ไม่ควรสั่นคลอนหรือ เปลี่ยนแปร และใช่ครับ ตัวละครมาตาลดา เป็นแบบนั้น เขาเป็นตัวละครที่ “ส่องสว่างในขณะที่เรากำลังหลงทาง”  เป็นเหมือนประภาคาร กลางทะเลที่ส่องสว่างรอเรือหลงทางกลับบ้าน ต้องปรบมือให้กับทีมงานทุกคน

3.มันยากนะ กับการที่จะสร้างละครให้กำลังใจคนดู โดยที่เขาไม่รู้สึกยัดเยียด
นี่แหละคือ พ้อยหลักที่สามารถพูดได้ว่า “ละครไทยสู้ต่างชาติได้แล้ว”  สเตปแรกคือบทละครที่สมจริง แต่ขั้นที่เหนือกว่า “คือคุณสร้างละครที่สอนคนดูและพวกเขาเชื่อ” ถ้านึกไม่ออก เราลองนึกถึงละครคุณธรรม ถามจริงๆ มีใครเชื่อฟังสั่งที่ละครคุณธรรมสอนบ้าง ?  ไม่ใช่ว่าหลักสอนมันไม่ดี แต่มันมาจาก บทละครที่เมื่อแทรก การสอนคนดู มันดูประดัดประเดิด และทำให้คนดูรู้สึกว่า “ไม่อิน” มันเลยเป็นที่มาที่ทำให้ละครถีบหัวคนดูออกมา
เอาง่ายๆ มาตาลดา เหมือนยาที่รสชาติทานง่าย แต่ละครคุณธรรมหรือละครทั่วไปที่อยู่ดีๆ ก้ยัดคำสอนโต้งๆ มันเหมือนยาขม “คนทั่วไปเขาไม่เชื่อ”

4.ความหลากหลายที่ไม่ยัดเยียด
เอ้อนี่สิ ถึงเรียกว่า “ไม่ยัดเยียด” ผมโครตเกลียด ละคร,ซีรีย์,หนัง ที่ต้องการส่งเสริมความหลากหลาย แต่ใช้วิธีผิด แบบสั่งคนดูว่า “ต้องดู ถ้าไม่ดูแสดงว่าเป็นพวกเหยียด”  เหตุผลสั้นๆง่ายๆ “สิ่งที่ทำให้คนดู ดูแล้วและเขารู้สึกไม่ได้ถูกยัดเยียด “นั่นแหละคือการส่งเสริมความหลากหลาย” แต่ถ้าคุณทำไม่ได้ คุณยังทำไม่ถึง ก็ดูตัวอย่าง ค่ายเจ้าหญิงที่ปีนี้เละเทะแล้วกัน  กลับมาที่มาตาลดา เขาทำได้ โดยเฉพาะ บทพ่อเกรส ต้องยกนิ้วให้ เหลือเชื่ออะ “แม้เขาจะเปลี่ยนไปแต่เขาก้ยังมีสถานะตัวเองเป็นพ่อ” และสิ่งที่เหนือยิ่งกว่า คือ “แม้พ่อเกรสสอนให้มาตาเป็นดอกทานตะวันที่ส่งพลังบวกแค่ไหน แต่ตัวเขาเองกลับมีอดีตและปัจจุบันที่รอวันก้าวผ่าน” ตัวละครนี้มีมิติมากๆ
ทุกครั้งที่พ่อเกรสพูด มันเป็นคำสอนที่ “คนเป็นพ่อและแม่ควรสอนลูก ถึงแม้ลูกเราจะไม่ได้เก่งไปซะทุกด้าน แต่อย่างน้อย ลูกเราเป็นคนที่มีจิตใจดี และเข้มแข็ง ผมว่านี่คือสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนต่างรู้สึกปรารถนา “

5.โปรดักชั่น
ผมขอปรบมือให้รัวๆ เห้ย เฉดสีละครไทยเริ่มขยับเข้าใกล้ระดับสากลเรื่อยๆ เรื่องแรกที่ต้องชม เรื่องสีในละครตอนฉายสดนี่แหละ ผมเอาตรงๆ ผมเป็นคนที่ชอบสีสดแบบสี ที่มันไม่ดูหมอง เพราะถ้าหมอง สังเกตหลายครั้ง มันจะมีปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นปากซีด หน้าซีด  คือผมสังเกตหลายครั้ง จะมีละครอยู่หลายเรื่อง อินดี้ อยากใช้ภาพแบบ หมองๆ  ไม่รุ้ว่าเอาเท่หรือยังไง แต่บอกตรงๆ “ถ้าละครไม่ดีจริงๆ ผมไม่ทนดูนะ”
ยกตัวอย่างเช่น หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร นี่คือซีรีย์จีน อันดับ 1 ที่ผมชอบ บทมันดีมากๆ ดีมากแบบคนดูเอาแต่พิมพ์ว่า “คนดูโง่ไปเลย” แม้ซีรีย์จะดี แต่ติดที่ “ ใช้ภาพหมองกว่าสีจริงในการแสดง คือถ้าไม่ติดว่า บทกับการแสดง ขึ้นหิ้ง คงเลิกดู   ในขณะเดียวกัน ละครไทย “ถ้ากล้าสร้าง และทำไม่ถึง ผมบอกเลยคนแบบผมมีเยอะมาก บทยิ่งเป้ ภาพยิ่งหมอง ยิ่งทำให้ ไม่อยากดูต่อ
ดังนั้น ทุกค่ายครับ “ขอความกรุณา ความรู้พื้นฐาน อย่าใช้ภาพที่มันเอาความสดของสีออกเลย มันโครตไม่ส่งเสริมการอยากดู” เหมือน “ต้มจืดผักสด กับ ต้มจืดค้างคืนจนผักซัดอะ คุณเลือกทานอะไร ?”
ในขณะเดียวกัน แสง ไฟ สวยอยู่แล้ว สถานที่ถ่ายทำ ผมมองว่า เลือกมาได้ดีมาก โดยเฉพาะบ้านของเป็นหนึ่ง ไม่รู้ผมรู้สึกไปเองมั้ย แต่ผมรู้สึกว่า เวลาเห็นโซนห้องครัวทุกครั้ง ผมรู้สึกมันอบอุ่น คงเป็นเพราะส่วนใหญ่ เป็นหนึ่งกับมาตา ทำกิจกรรมร่วมกันที่นี่ซะส่วนใหญ่ด้วยแหละครับ และที่ต้องชมคือ เขาใช้พื้นที่ ได้คุ้มค่า มันไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัด ปกติ ผมจะอึดอัดเวลาเห็นโลเคชั่นเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา และสิ่งที่ผมชอบอีกจุดนึงคือ ”ละครมีปมว่าเป็นหนึ่งไม่ชอบให้ใครเข้าบ้านง่ายๆ แม้แต่พ่อแม่ ผมว่าจุดนี้มันเลยเป็นเหมือนคอมฟอทโซนของมาตากับเป็นหนึ่ง ได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน โดยไม่มีใครมาขัด มันทำให้ ความสัมพันธ์ตัวละครไปข้างหน้า จุดนี้ผมว่ามันสำคัญนะ  หลายๆครั้ง ละครทั่วไปพระนางมารักกันก่อนจบ เอาตรงๆ โครตไม่เชื่อ “เหมือนเห็นคนดูโง่” ละครที่ดีมันต้องให้เห็นความสัมพันธ์ที่ค่อยพัฒนาแบบนี้แหละ

6.การแสดง
6.1.มาตาลดาคือ ละครที่ดีที่สุดของ เต้ย จรินทร์พร
คงไม่ต้องบอกนะครับหมายความว่าอะไร ถ้านึกไม่ออก ถ้า เบลล่าตัวแทน กาละเกด เต้ยก้คือมาตาลดา ไม่มีใครมาแทนได้ และเอาจริงๆ ตัวละครนี้โครตยาก “คุณจะสร้างคาแรคเตอร์ที่ใส จนคนดูเชื่อ และไม่รู้สึกเกลียดนี่แหละที่ยาก”  ขอแสดงความยินดีกับคุณเต้ยด้วยครับ
6.2. เจมส์ จิ บทปุริม เนี่ย อย่างที่เคยเอ่ยถึง เจมจิ ต้องเล่นบทแบบนี้จริงๆ บทคุณชาย หล่อ นิ่งๆ สุขุม ดูแล้วคนเชื่อ  “แม้ปกติ เจมเป็นคนเฮฮา แต่ต้องยอมรับว่า บทที่เจมเล่นขึ้นกว่าคือบทแนวนี้“ แต่ที่ต้องชมคือ บทที่เจมมีความรักและแสดงออก ทำออกมาได้ดี
6.3. พี่ชาย บท พ่อเกรซ  ขอแสดงความยินดีด้วยครับ ถ้าพี่ชายได้”สมทบชายยอดเยี่ยม” ผมเอ่ยถึงสั้นๆแค่นี้ได้ไหม “คำว่ายอดเยี่ยมมันอธิบายไปหมดแล้ว” ถ้าผมเป็นผู้สร้าง ผมคงรู้สึกโครตโชคดี ที่พี่ชายมาเล่นให้
6.4. ริว บท ไตรฉัตร  เหลือเชื่อ ผมเหลือเชื่อที่ฝีมือการแสดงริว พัฒนาเร็วมาก คือผมพึ่งดูเลือดเจ้าพระยาย้อนหลังเสร็จ เรื่องนั้นก้ดี และที่แปลกใจคือ ริวในเลือดเจ้าพระยา กับริวในมาตาลดา เห้ยคาแรคเตอร์ต่างกัน แต่เล่นถึงเฉย  ตอนเลือดเจ้าพระยา เล่นเป็นพระเอกฮา แต่ดันเล่นถึง พอมาเรื่องนี้ เล่นเป็นคนเท่ๆ ก้ถึงเช่นกัน เอาตรงๆ พระเอกใหม่ทั้งหมด ไปๆมาๆ ริวที่ผมรู้จัก หลังๆสุด กลับแสดงได้ดีกว่า และเข้าถึงบทบาท ทำให้ผมเชื่อกว่ามาก มันไม่มีความรู้สึก “ทำไมคนนี้มันเล่นแล้วขาดๆเกินๆ ไม่อินกับคนเล่น” ช่อง 3 โครตโชคดีที่ส่งบทให้ลองหลายแบบ แล้วดันเกิดจริงๆ
6.5. อแมนด้า สวยสมมงครับ คำนี้จริงๆ
6.6. ส่วนตัวละครอื่นๆ ผมคงไม่ต้องบอกว่าเล่นดีแค่ใหน ไม่งั้นผมไม่เลือกมาเป็นละครแห่งปีแบบนี้
ถ้าผู้จัด และช่องผ่านมาเห็น “นักแสดงคนเรื่องนี้ เล่นโครตดีครับยกนิ้วให้เลย”
6.7 น้องหมา ทั้ง 3 ตัวเก่งมากๆ เจ้าหมาน้อย

7.ต้องปรบมือให้ ผู้สร้างที่กล้าที่จะสร้างละครดีๆแบบนี้
ผมทราบครับ ผมทราบว่าหลายๆคนอยากให้ละครปัง ละครเป็นที่พูดถึงวงกว้าง ส่งผลเป็นพรุแตกแบบ บุพเพ แต่ แต่ แต่  แล้วไงครับ ? ขนาดบุพเพ2 เองยังเอาตัวเองไม่รอดตอนนี้ ?
ผมไม่รู้หรอกว่าการจะสร้างละครสักเรื่องมันยากขนาดใหน ต้องฝ่าด่านอรหันต์มากแค่ใหน  แต่ในฐานะคนดู “เราดีใจ และปลื้มใจครับ ที่คุณพยายามผลิตละครที่มีคุณภาพออกมา”ละครแนวนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสร้างขึ้น มันต้องมีการตีความหลายๆอย่าง  และยิ่งมีความเป็นละครสอนคนดูอ่อนๆ มันยิ่งทำให้ละครมันยากขึ้นไปอีก
ผมกราบขอบคุณที่ช่องอนุมัติ และทีมผู้สร้าง นักแสดงทุกคนทุ่มเท ทำผลงานชิ้นนี้ขึ้น
ตอนนี้ คุณได้สร้าง มาตรฐานใหม่ของตัวคุณเองแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใด หรือความบังเอิญ หรือมีที่มาที่ไป ต่างๆ แต่คุณสามารถทำมันได้แล้วครับ

มาตาลดา มีความความรู้สึก มีความรัก มีครอบครัว มีชีวิต มีการสื่อสารถึงคนดู และนั่นคือละคร“มาตาลดา”

“ขอเป็น 1 ในกำลังใจ ที่ยืนปรบมือให้แล้วบอกว่า..พวกคุณสุดยอด ผมกล้าพูดได้ว่าละครไทย สู้ต่างชาติได้แล้ว เพราะพวกคุณเลย” 🙏🏻


แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
มาตาลดา หัวใจคือบทดีมาก มีองค์ประกอบทุกอย่างลงตัว เริ่มแรกมีสารตั้งต้นที่ดี บทดีมาตั้งแต่นิยายแล้ว พอเป็นละครบทก็ดีมาก ต้องยกเครดิตให้พี่จ๋า และทีมเขียนบทของพี่จ๋าเลย พี่จ๋าเป็นทั้งผู้จัด ตัดต่อเอง และเขียนบทเองอีกด้วย เค้าเหมือนสั่งสมประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเพื่อทำละครเรื่องนี้เลยกลั่นกรองออกมาอย่างที่พวกเราได้เห็นกัน มันดีมาก เค้าใส่ใจและตั้งใจกับทุกขั้นตอน มีนักจิตวิทยาและคุณหมอจริงๆที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาและมีส่วนร่วมในละครเรื่องนี้จริงๆ และการคัดเลือกนักแสดงมารับบทต่างๆ ในเรื่อง มันลงตัวไปหมด ทุกคนเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ มันเป็นธรรมชาติ ลื่นไหลและกลมกล่อมมากๆ
สำหรับเราไม่รู้ว่าใช่ละครที่ดีที่สุดมั้ย แต่เรารักละครเรื่องนี้ที่สุด ที่หนึ่งในดวงใจเลย เป็นหนึ่ง หนึ่งในดวงใจไม่มีสอง ♥️
ปล.คิดถึงเป็นหนึ่งกับมาตาจังเลยค่ะ หวังว่าสักวันหนึ่งพวกเค้าจะกลับมาเจอกันในบทดีที่แบบนี้อีก 😊♥️


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่