โดย
อนันตภาค [หนึ่งในนามปากกาที่ผมใช้ในการเขียนเรื่องสั้น]
กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์:
1. หุ่นยนต์จะกระทำการหรือละเว้นการกระทำใดๆอันจะก่อให้เกิดภยันตรายต่อมนุษย์ไม่ได้
2. หุ่นยนต์จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์ยกเว้นกรณีที่คำสั่งนั้นๆขัดต่อกฎข้อที่ 1
3. หุ่นยนต์จะต้องป้องกันตนเองตราบที่การกระทำดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎข้อที่ 1 และ 2
เชษฐ์เป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาหุ่นยนต์วิทยา เขากำลังเตรียมนำเสนอหัวข้อการวิจัยเพื่อขอทุนต่อคณะกรรมการพิจารณาการให้ทุนของมหาวิทยาลัย หัวข้อที่เชษฐ์เตรียมนำเสนอเป็นการวิจัยเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ของการสร้างพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ในหุ่นยนต์ โดยเขาวางแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ต้นแบบสองตัวที่จะมีความสัมพันธ์แบบแม่ลูก โดยตัวหนึ่งเขาจะตั้งชื่อว่ามาตา ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ของมันจะถูกโปรแกรมให้คอยปกป้องหุ่นยนต์ลูกของมัน ซึ่งเขาจะตั้งชื่อให้สื่อความหมายของความสัมพันธ์ของหุ่นยนต์ทั้งสองว่าธีตา การทดลองของเขาจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนโดยจะเริ่มจากความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐาน แล้วจะค่อยเพิ่มความสลับซับซ้อนของความสัมพันธ์ขึ้นเป็นลำดับ เชษฐ์หวังว่าการทดลองจะช่วยปูทางไปสู่การออกแบบหุ่นยนต์ให้สามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ในระดับสูง หากการทดลองประสบความสำเร็จ ก็มีความเป็นไปได้ที่วงการอุตสาหกรรมต่างๆจะสามารถนำเทคนิคการออกแบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต
วันนี้เป็นวันที่เชษฐ์จะต้องมานำเสนอรายละเอียดของแผนการวิจัยของเขาต่อคณะกรรมการพิจารณาเพื่อขออนุมัติ การนำเสนอดำเนินไปโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ จนมาถึงช่วงถามตอบซึ่งคณะกรรมการแสดงความกังวลทางด้านจริยธรรมต่อการทดลองในลักษณะดังกล่าว “คณะกรรมการทุกคนไม่มีข้อข้องใจในด้านเทคนิคที่คุณนำเสนอ แต่พวกเราเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่จะออกไปสู่สาธารณชน เราเข้าใจดีว่าการทดลองของคุณมีเจตนาดีที่จะพยายามเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการโปรแกรม AI และวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ให้สามารถรองรับนวัตกรรมใหม่ๆในอนาคตได้ แต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการสร้างพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ตามที่คุณเสนอมาจะสร้างประโยชน์อะไรต่อสังคมได้” หนึ่งในคณะกรรมการยิงคำถามแรกที่หนักอึ้ง
“ผมเชื่อว่าหากเราสามารถโปรแกรมหุ่นยนต์ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ได้ เราจะสามารถต่อยอดขยายผลการวิจัยนี้ไปในการเพิ่มระดับสติปัญญาให้หุ่นยนต์สามารถคิดแบบมนุษย์ได้ โปรแกรม AI เป็นเพียงโปรแกรมที่กำหนดให้หุ่นยนต์ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้นเอง แต่การวิจัยของผมจะเป็นการก้าวข้ามเทคนิคในปัจจุบันที่จะเปิดโอกาสให้โปรแกรมเมอร์ในอนาคตสามารถที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับหุ่นยนต์ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันจะช่วยให้เราเข้าใจถึงการกำเนิดของสติปัญญา ความนึกคิด ตลอดจนอารมณ์ในมนุษย์ ตรงนี้แหละครับที่เป็นหัวใจของการทดลองในครั้งนี้ ท่านคณะกรรมการไม่ต้องเป็นห่วงในแง่ของจริยธรรม การทดลองจะเน้นที่การสังเกตการตอบสนองของหุ่นยนต์ต่อแรงกระตุ้นต่างๆ โดยเฉพาะผลที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง นี่เป็นมิติใหม่ของการวิจัยด้านหุ่นยนต์วิทยาที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากครับ”
แม้ว่าคณะกรรมการบางคนยังคงไม่มั่นใจนักกับแนวทางของเชษฐ์ แต่มติเสียงส่วนใหญ่ก็ยังคงให้ความไว้วางใจเชษฐ์พอที่จะให้เขาดำเนินการตามที่เสนอแผนวิจัยมาได้
วันนี้ช่างเป็นวันที่ยิ่งใหญ่วันหนึ่งในชีวิตของเขา
นที ผู้ช่วยของเชษฐ์ ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท แทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อเขาลองสร้างสถานการณ์จำลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรม AI ด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม เขาพบว่ามันสามารถโต้ตอบกับเขาได้ราวกับมนุษย์คนหนึ่ง หากใครก็ตามที่ไม่ทราบมาก่อนว่ากำลังโต้ตอบอยู่กับคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถแยกแยะได้เลยระหว่างคอมพิวเตอร์กับคนจริงๆ ไม่ว่านทีจะลองใช้สถานการณ์ที่ซับซ้อนเพียงใดก็ตาม เจ้าคอมพิวเตอร์ก็สามารถตอบโต้กับเขาได้อย่างฉลาดเฉียบแหลม ในการทดสอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมาตาและธีตา การโต้ตอบของหุ่นยนต์ทั้งสองจะแสดงผลผ่านทางจอมอนิเตอร์ นทีสังเกตว่าการเลือกใช้คำ ประโยค สำนวน รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกที่ใส่เข้ามาในข้อความโต้ตอบของเจ้าหุ่นยนต์ทั้งสองช่างไม่แตกต่างอะไรกับการสนทนาระหว่างมนุษย์ มันเหลือเชื่อจริงๆ เขาคงจะต้องยกเครดิตนี้ให้กับโปรแกรมเมอร์ที่สามารถเขียนโปรแกรมจำลองนี้ได้อย่างแยบยล แสดงให้เห็นการเลือกใช้วงจรตรรกะที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
นทีทนรอไม่ไหวที่จะเริ่มนำ AI นี้ไปใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง มาตาและธีตาจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการหุ่นยนต์วิทยาอย่างแน่นอน
การพัฒนาหุ่นยนต์มาตาและธีตาเป็นไปตามกำหนดการโดยไม่มีอุปสรรคสำคัญใดๆเกิดขึ้น เชษฐ์พอใจกับความคืบหน้าของโครงการ เขาได้มอบหมายให้นทีเป็นหัวหน้าทีมเขียนโปรแกรมการต่อเชื่อมคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบแม่ลูกระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะทำหน้าที่เป็นสมองสั่งการ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ชนิดนี้เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลได้รวดเร็วกว่าคอมพิวเตอร์แบบธรรมดาจึงเหมาะกับการนำมาใช้กับการสร้างความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง ความสัมพันธ์ในลักษณะแม่ลูกนี้จะเป็นความสัมพันธ์ในระดับที่สูงกว่าความสัมพันธ์ระดับเหตุและผลโดยทั่วไป นทีทดลองการเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งสองโดยการส่งสัญญาณกระตุ้นไปยังหุ่นยนต์ตัวใดตัวหนึ่งและลองวัดดูผลกระทบที่ปรากฏขึ้นกับสมองคอมพิวเตอร์ของหุ่นยนต์อีกตัว นทีพบว่าหุ่นยนต์ทั้งสองแสดงความสัมพันธ์แบบแม่ลูกได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อนทีลองจำลองอาการ “ป่วย” กับธีตา เขาพบว่า AI ของมาตาจะจำลองอาการ “เป็นทุกข์เป็นร้อน” แทน นอกจากนี้ นทียังโปรแกรม AI ของมาตาให้ต้องพยายามหาทางแก้ไขอาการ “ป่วย” ของธีตาให้ได้ ตราบใดที่อาการนี้ยังเกิดอยู่กับธีตา มาตาก็จะรู้สึกไม่สบายอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนทีเพิ่มความรุนแรงของอาการ “ป่วย” มากขึ้นเท่าใด มาตาก็จะเกิดอาการไม่สบายมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่น่าประหลาดก็คือ การเชื่อมโยงของ AI ของหุ่นยนต์ทั้งสองเกิดขึ้นได้ในทันทีทันใดแม้ว่าหุ่นยนต์ทั้งสองจะอยู่ห่างกันเพียงใด นทีเริ่มการทดลองโดยให้หุ่นทั้งสองอยู่ในห้องเดียวกัน จากนั้นเขาก็เพิ่มระยะห่างระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองขึ้นเรื่อยๆ และไม่ว่าระยะห่างจะเป็นเช่นไร ผลการทดลองก็ยังเป็นเช่นเดิม เป็นปรากฏการณ์ที่คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ในทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า entanglement เป็นอย่างยิ่ง ในปรากฏการณ์ entanglement อนุภาค 2 อนุภาคที่มีจุดกำเนิดเดียวกันแต่มี spin ต่างกัน เมื่อถูกแยกออกจากกันและนำไปไว้ยังสถานที่ที่อยู่ห่างจากกันเท่าใดก็ตาม นักวิจัยพบว่าอนุภาคทั้งสองสามารถจะส่งผ่านข้อมูลที่ได้รับที่อนุภาคหนึ่งไปยังอีกอนุภาคหนึ่งได้ในทันทีทันใด เป็นปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ที่ระบุว่าอนุภาคใดๆไม่สามารถเดินทางเร็วกว่าความเร็วแสงได้
แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ประหลาดระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม สิ่งที่เชษฐ์คำนึงถึงก็คือมันสนับสนุนการทดลองที่กำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้เป็นอย่างดี
เชษฐ์คิดว่าหุ่นทั้งสองพร้อมแล้วสำหรับการทดลองในขั้นต่อไป
ก่อนหน้าที่การทดลองขั้นต่อไปจะเริ่มขึ้น นทีมาขอพบกับเชษฐ์เพื่อแสดงความกังวลที่เขายังคงมีอยู่เกี่ยวกับการทดลองในครั้งนี้
“พี่ครับ พี่แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะทำการทดลองต่อไป” นทีไม่เสียเวลาอารัมภบท
“ทำไมล่ะนที คุณไม่สบายใจเรื่องอะไรกัน” เชษฐ์พอจะทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร แต่อยากถามเพื่อให้แน่ใจ
“ผมว่าการทดลองมันออกจะโหดร้ายอยู่นะครับพี่”
“คุณนี่ไม่มีวิญญาณนักวิทยาศาสตร์เสียเลย ลองคิดดูสิว่าโลกนี้จะยังล้าหลังขนาดไหน ถ้านักวิทยาศาสตร์ไม่กล้าคิดไม่กล้าทดลอง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะเพิ่มพูนความรู้ จะหาความก้าวหน้าได้อย่างไรกัน”
“มันก็จริงของพี่ครับ แต่การทดลองบางประเภทมันก็ล่อแหลมต่อความถูกต้องทางด้านจริยธรรมนะครับ”
“คุณนี่มันคิดมากไปเอง อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงการทดลองกับหุ่นยนต์เท่านั้น เราไม่ได้ใช้มนุษย์หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตมาใช้ทดลองสักหน่อย”
“ก็นั่นแหละครับ แต่หุ่นยนต์สองตัวนี้มีลักษณะพิเศษที่ไม่ธรรมดา ผมได้เฝ้าดูความสัมพันธ์ของมันทั้งสองพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ถ้าพี่ได้ใกล้ชิดและได้สังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ พี่จะเข้าใจความกังวลของผม ผมจะพูดยังไงดีถึงจะทำให้พี่เข้าใจ ผมว่าเจ้าหุ่นยนต์ทั้งสองมันมีความผูกพันที่ใกล้ชิดกันราวกับแม่ลูกจริงๆ เวลาผมลองสร้างอาการ “ไม่สบาย” ให้มันตัวใดตัวหนึ่ง หุ่นยนต์อีกตัวจะแสดงอาการตอบสนองที่ผมต้องขอเรียกว่า “เป็นห่วงเป็นใย” ผมขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ผมลองกระตุ้นวงจรสมองของธีตาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งมีผลทำให้การทำงานของวงจร AI ผิดปกติ ปรากฏว่าสมองของมาตาก็จะเกิดอาการผิดปกติที่เหมือนกันในทันทีทันใดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่ามันมีญาณพิเศษที่รับรู้กันระหว่างแม่ลูก ผมว่าในมนุษย์เราก็มีอะไรที่คล้ายๆกัน”
“พี่ว่านทีอาจจะคิดมากไปเอง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นแค่สิ่งที่เกิดจากการเขียนซอฟแวร์ AI ที่ยอดเยี่ยมของทีมโปรแกรมเมอร์ของเราก็ได้ อย่าลืมว่าเทคนิคโปรแกรมมิ่งในปัจจุบันสามารถทำอะไรได้น่าทึ่งอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ไม่เว้นแม้แต่การจำลองปฏิสัมพันธ์ระหว่างหุ่นยนต์สองตัวที่อาจจะทำให้ผลที่ได้ดูคล้ายกับพฤติกรรมของมนุษย์ก็ได้ พี่ว่าคุณควรจะลองเช็คเรื่องนี้ให้ดีอีกที อย่าเพิ่งด่วนสรุป”
“ถ้ามันเป็นอย่างที่พี่ว่าก็ดี แต่สิ่งที่ผมสังเกตเห็นในห้องทดลองทำให้ผมไม่สบายใจที่จะเริ่มการทดลองในขั้นต่อไป มันอาจจะขัดกับหลักจริยธรรมก็ได้ครับ”
“คุณนี่ชักจะเพี้ยนแล้ว พี่แนะนำว่าคุณควรจะลาพักผ่อนไปสักวันสองวันก่อนจะเริ่มการทดลองเฟสต่อไป เพราะพี่ตัดสินใจแล้วว่าเราจะทำการทดลองในขั้นต่อไปทันทีหลังจากคุณกลับมาแล้ว นทีคิดว่ายังไง”
“อาจจะดีก็ได้ครับพี่”
[กรุณาอ่านต่อหน้าที่ 2]
ธีตา [เรื่องสั้นไซไฟที่ท้าทายกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์] หน้าที่ 1 จาก 2
อนันตภาค [หนึ่งในนามปากกาที่ผมใช้ในการเขียนเรื่องสั้น]
กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์:
1. หุ่นยนต์จะกระทำการหรือละเว้นการกระทำใดๆอันจะก่อให้เกิดภยันตรายต่อมนุษย์ไม่ได้
2. หุ่นยนต์จะต้องเชื่อฟังคำสั่งของมนุษย์ยกเว้นกรณีที่คำสั่งนั้นๆขัดต่อกฎข้อที่ 1
3. หุ่นยนต์จะต้องป้องกันตนเองตราบที่การกระทำดังกล่าวไม่ขัดต่อกฎข้อที่ 1 และ 2
เชษฐ์เป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาหุ่นยนต์วิทยา เขากำลังเตรียมนำเสนอหัวข้อการวิจัยเพื่อขอทุนต่อคณะกรรมการพิจารณาการให้ทุนของมหาวิทยาลัย หัวข้อที่เชษฐ์เตรียมนำเสนอเป็นการวิจัยเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้ของการสร้างพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ในหุ่นยนต์ โดยเขาวางแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ต้นแบบสองตัวที่จะมีความสัมพันธ์แบบแม่ลูก โดยตัวหนึ่งเขาจะตั้งชื่อว่ามาตา ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI ของมันจะถูกโปรแกรมให้คอยปกป้องหุ่นยนต์ลูกของมัน ซึ่งเขาจะตั้งชื่อให้สื่อความหมายของความสัมพันธ์ของหุ่นยนต์ทั้งสองว่าธีตา การทดลองของเขาจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอนโดยจะเริ่มจากความสัมพันธ์ขั้นพื้นฐาน แล้วจะค่อยเพิ่มความสลับซับซ้อนของความสัมพันธ์ขึ้นเป็นลำดับ เชษฐ์หวังว่าการทดลองจะช่วยปูทางไปสู่การออกแบบหุ่นยนต์ให้สามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ในระดับสูง หากการทดลองประสบความสำเร็จ ก็มีความเป็นไปได้ที่วงการอุตสาหกรรมต่างๆจะสามารถนำเทคนิคการออกแบบดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ในอนาคต
วันนี้เป็นวันที่เชษฐ์จะต้องมานำเสนอรายละเอียดของแผนการวิจัยของเขาต่อคณะกรรมการพิจารณาเพื่อขออนุมัติ การนำเสนอดำเนินไปโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ จนมาถึงช่วงถามตอบซึ่งคณะกรรมการแสดงความกังวลทางด้านจริยธรรมต่อการทดลองในลักษณะดังกล่าว “คณะกรรมการทุกคนไม่มีข้อข้องใจในด้านเทคนิคที่คุณนำเสนอ แต่พวกเราเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่จะออกไปสู่สาธารณชน เราเข้าใจดีว่าการทดลองของคุณมีเจตนาดีที่จะพยายามเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการโปรแกรม AI และวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ให้สามารถรองรับนวัตกรรมใหม่ๆในอนาคตได้ แต่คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการสร้างพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ตามที่คุณเสนอมาจะสร้างประโยชน์อะไรต่อสังคมได้” หนึ่งในคณะกรรมการยิงคำถามแรกที่หนักอึ้ง
“ผมเชื่อว่าหากเราสามารถโปรแกรมหุ่นยนต์ให้มีพฤติกรรมเลียนแบบมนุษย์ได้ เราจะสามารถต่อยอดขยายผลการวิจัยนี้ไปในการเพิ่มระดับสติปัญญาให้หุ่นยนต์สามารถคิดแบบมนุษย์ได้ โปรแกรม AI เป็นเพียงโปรแกรมที่กำหนดให้หุ่นยนต์ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเท่านั้นเอง แต่การวิจัยของผมจะเป็นการก้าวข้ามเทคนิคในปัจจุบันที่จะเปิดโอกาสให้โปรแกรมเมอร์ในอนาคตสามารถที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับหุ่นยนต์ได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน มันจะช่วยให้เราเข้าใจถึงการกำเนิดของสติปัญญา ความนึกคิด ตลอดจนอารมณ์ในมนุษย์ ตรงนี้แหละครับที่เป็นหัวใจของการทดลองในครั้งนี้ ท่านคณะกรรมการไม่ต้องเป็นห่วงในแง่ของจริยธรรม การทดลองจะเน้นที่การสังเกตการตอบสนองของหุ่นยนต์ต่อแรงกระตุ้นต่างๆ โดยเฉพาะผลที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง นี่เป็นมิติใหม่ของการวิจัยด้านหุ่นยนต์วิทยาที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากครับ”
แม้ว่าคณะกรรมการบางคนยังคงไม่มั่นใจนักกับแนวทางของเชษฐ์ แต่มติเสียงส่วนใหญ่ก็ยังคงให้ความไว้วางใจเชษฐ์พอที่จะให้เขาดำเนินการตามที่เสนอแผนวิจัยมาได้
วันนี้ช่างเป็นวันที่ยิ่งใหญ่วันหนึ่งในชีวิตของเขา
นที ผู้ช่วยของเชษฐ์ ซึ่งเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท แทบจะไม่เชื่อสายตาตนเองกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า เมื่อเขาลองสร้างสถานการณ์จำลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของโปรแกรม AI ด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม เขาพบว่ามันสามารถโต้ตอบกับเขาได้ราวกับมนุษย์คนหนึ่ง หากใครก็ตามที่ไม่ทราบมาก่อนว่ากำลังโต้ตอบอยู่กับคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถแยกแยะได้เลยระหว่างคอมพิวเตอร์กับคนจริงๆ ไม่ว่านทีจะลองใช้สถานการณ์ที่ซับซ้อนเพียงใดก็ตาม เจ้าคอมพิวเตอร์ก็สามารถตอบโต้กับเขาได้อย่างฉลาดเฉียบแหลม ในการทดสอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างมาตาและธีตา การโต้ตอบของหุ่นยนต์ทั้งสองจะแสดงผลผ่านทางจอมอนิเตอร์ นทีสังเกตว่าการเลือกใช้คำ ประโยค สำนวน รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกที่ใส่เข้ามาในข้อความโต้ตอบของเจ้าหุ่นยนต์ทั้งสองช่างไม่แตกต่างอะไรกับการสนทนาระหว่างมนุษย์ มันเหลือเชื่อจริงๆ เขาคงจะต้องยกเครดิตนี้ให้กับโปรแกรมเมอร์ที่สามารถเขียนโปรแกรมจำลองนี้ได้อย่างแยบยล แสดงให้เห็นการเลือกใช้วงจรตรรกะที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
นทีทนรอไม่ไหวที่จะเริ่มนำ AI นี้ไปใช้ในการสร้างความสัมพันธ์ฉันท์แม่ลูกระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง มาตาและธีตาจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการหุ่นยนต์วิทยาอย่างแน่นอน
การพัฒนาหุ่นยนต์มาตาและธีตาเป็นไปตามกำหนดการโดยไม่มีอุปสรรคสำคัญใดๆเกิดขึ้น เชษฐ์พอใจกับความคืบหน้าของโครงการ เขาได้มอบหมายให้นทีเป็นหัวหน้าทีมเขียนโปรแกรมการต่อเชื่อมคอมพิวเตอร์ควอนตัมเพื่อสร้างความสัมพันธ์แบบแม่ลูกระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง คอมพิวเตอร์ควอนตัมจะทำหน้าที่เป็นสมองสั่งการ เนื่องจากคอมพิวเตอร์ชนิดนี้เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลได้รวดเร็วกว่าคอมพิวเตอร์แบบธรรมดาจึงเหมาะกับการนำมาใช้กับการสร้างความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสอง ความสัมพันธ์ในลักษณะแม่ลูกนี้จะเป็นความสัมพันธ์ในระดับที่สูงกว่าความสัมพันธ์ระดับเหตุและผลโดยทั่วไป นทีทดลองการเชื่อมโยงระหว่างคอมพิวเตอร์ทั้งสองโดยการส่งสัญญาณกระตุ้นไปยังหุ่นยนต์ตัวใดตัวหนึ่งและลองวัดดูผลกระทบที่ปรากฏขึ้นกับสมองคอมพิวเตอร์ของหุ่นยนต์อีกตัว นทีพบว่าหุ่นยนต์ทั้งสองแสดงความสัมพันธ์แบบแม่ลูกได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่อนทีลองจำลองอาการ “ป่วย” กับธีตา เขาพบว่า AI ของมาตาจะจำลองอาการ “เป็นทุกข์เป็นร้อน” แทน นอกจากนี้ นทียังโปรแกรม AI ของมาตาให้ต้องพยายามหาทางแก้ไขอาการ “ป่วย” ของธีตาให้ได้ ตราบใดที่อาการนี้ยังเกิดอยู่กับธีตา มาตาก็จะรู้สึกไม่สบายอยู่ตลอดเวลา ยิ่งนทีเพิ่มความรุนแรงของอาการ “ป่วย” มากขึ้นเท่าใด มาตาก็จะเกิดอาการไม่สบายมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่น่าประหลาดก็คือ การเชื่อมโยงของ AI ของหุ่นยนต์ทั้งสองเกิดขึ้นได้ในทันทีทันใดแม้ว่าหุ่นยนต์ทั้งสองจะอยู่ห่างกันเพียงใด นทีเริ่มการทดลองโดยให้หุ่นทั้งสองอยู่ในห้องเดียวกัน จากนั้นเขาก็เพิ่มระยะห่างระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองขึ้นเรื่อยๆ และไม่ว่าระยะห่างจะเป็นเช่นไร ผลการทดลองก็ยังเป็นเช่นเดิม เป็นปรากฏการณ์ที่คล้ายคลึงกับปรากฏการณ์ในทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า entanglement เป็นอย่างยิ่ง ในปรากฏการณ์ entanglement อนุภาค 2 อนุภาคที่มีจุดกำเนิดเดียวกันแต่มี spin ต่างกัน เมื่อถูกแยกออกจากกันและนำไปไว้ยังสถานที่ที่อยู่ห่างจากกันเท่าใดก็ตาม นักวิจัยพบว่าอนุภาคทั้งสองสามารถจะส่งผ่านข้อมูลที่ได้รับที่อนุภาคหนึ่งไปยังอีกอนุภาคหนึ่งได้ในทันทีทันใด เป็นปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ที่ระบุว่าอนุภาคใดๆไม่สามารถเดินทางเร็วกว่าความเร็วแสงได้
แต่ไม่ว่าความสัมพันธ์ประหลาดระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม สิ่งที่เชษฐ์คำนึงถึงก็คือมันสนับสนุนการทดลองที่กำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้เป็นอย่างดี
เชษฐ์คิดว่าหุ่นทั้งสองพร้อมแล้วสำหรับการทดลองในขั้นต่อไป
ก่อนหน้าที่การทดลองขั้นต่อไปจะเริ่มขึ้น นทีมาขอพบกับเชษฐ์เพื่อแสดงความกังวลที่เขายังคงมีอยู่เกี่ยวกับการทดลองในครั้งนี้
“พี่ครับ พี่แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะทำการทดลองต่อไป” นทีไม่เสียเวลาอารัมภบท
“ทำไมล่ะนที คุณไม่สบายใจเรื่องอะไรกัน” เชษฐ์พอจะทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร แต่อยากถามเพื่อให้แน่ใจ
“ผมว่าการทดลองมันออกจะโหดร้ายอยู่นะครับพี่”
“คุณนี่ไม่มีวิญญาณนักวิทยาศาสตร์เสียเลย ลองคิดดูสิว่าโลกนี้จะยังล้าหลังขนาดไหน ถ้านักวิทยาศาสตร์ไม่กล้าคิดไม่กล้าทดลอง ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะเพิ่มพูนความรู้ จะหาความก้าวหน้าได้อย่างไรกัน”
“มันก็จริงของพี่ครับ แต่การทดลองบางประเภทมันก็ล่อแหลมต่อความถูกต้องทางด้านจริยธรรมนะครับ”
“คุณนี่มันคิดมากไปเอง อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงการทดลองกับหุ่นยนต์เท่านั้น เราไม่ได้ใช้มนุษย์หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตมาใช้ทดลองสักหน่อย”
“ก็นั่นแหละครับ แต่หุ่นยนต์สองตัวนี้มีลักษณะพิเศษที่ไม่ธรรมดา ผมได้เฝ้าดูความสัมพันธ์ของมันทั้งสองพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ถ้าพี่ได้ใกล้ชิดและได้สังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่ พี่จะเข้าใจความกังวลของผม ผมจะพูดยังไงดีถึงจะทำให้พี่เข้าใจ ผมว่าเจ้าหุ่นยนต์ทั้งสองมันมีความผูกพันที่ใกล้ชิดกันราวกับแม่ลูกจริงๆ เวลาผมลองสร้างอาการ “ไม่สบาย” ให้มันตัวใดตัวหนึ่ง หุ่นยนต์อีกตัวจะแสดงอาการตอบสนองที่ผมต้องขอเรียกว่า “เป็นห่วงเป็นใย” ผมขอยกตัวอย่างสักเรื่องหนึ่ง ผมลองกระตุ้นวงจรสมองของธีตาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งมีผลทำให้การทำงานของวงจร AI ผิดปกติ ปรากฏว่าสมองของมาตาก็จะเกิดอาการผิดปกติที่เหมือนกันในทันทีทันใดได้อย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่ามันมีญาณพิเศษที่รับรู้กันระหว่างแม่ลูก ผมว่าในมนุษย์เราก็มีอะไรที่คล้ายๆกัน”
“พี่ว่านทีอาจจะคิดมากไปเอง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นแค่สิ่งที่เกิดจากการเขียนซอฟแวร์ AI ที่ยอดเยี่ยมของทีมโปรแกรมเมอร์ของเราก็ได้ อย่าลืมว่าเทคนิคโปรแกรมมิ่งในปัจจุบันสามารถทำอะไรได้น่าทึ่งอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ไม่เว้นแม้แต่การจำลองปฏิสัมพันธ์ระหว่างหุ่นยนต์สองตัวที่อาจจะทำให้ผลที่ได้ดูคล้ายกับพฤติกรรมของมนุษย์ก็ได้ พี่ว่าคุณควรจะลองเช็คเรื่องนี้ให้ดีอีกที อย่าเพิ่งด่วนสรุป”
“ถ้ามันเป็นอย่างที่พี่ว่าก็ดี แต่สิ่งที่ผมสังเกตเห็นในห้องทดลองทำให้ผมไม่สบายใจที่จะเริ่มการทดลองในขั้นต่อไป มันอาจจะขัดกับหลักจริยธรรมก็ได้ครับ”
“คุณนี่ชักจะเพี้ยนแล้ว พี่แนะนำว่าคุณควรจะลาพักผ่อนไปสักวันสองวันก่อนจะเริ่มการทดลองเฟสต่อไป เพราะพี่ตัดสินใจแล้วว่าเราจะทำการทดลองในขั้นต่อไปทันทีหลังจากคุณกลับมาแล้ว นทีคิดว่ายังไง”
“อาจจะดีก็ได้ครับพี่”
[กรุณาอ่านต่อหน้าที่ 2]