สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ต้องบอกว่าวิกฤติของฮอนด้านั้นทำตัวเองมากกว่า
ช่วงแรก City ก็มาทรงดีๆอยู่ โดนสะกิดดอกแรกคือตอนมีข่าวว่าพวกรถไฟฟ้ากำลังเข้ามา แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ หนักสุดคือตอน Yaris Ativ เพราะส่วนแบ่งการตลาดของ B segment / ECO car โดนแย่งไปเยอะมาก (Ativ กินส่วนแบ่งการตลาดหลัก 50-60% มาตลอด) แล้วช่วงหลังคนหันไปสนใจรถไฟฟ้าขนาดเล็กมากขึ้น อันนี้แผลแรกนะ
แผลที่สอง การมาถึงของ BRV ที่ดันทำราคาซะแพงเวอร์ แต่ออพชั่นห่วยแตก คนเลยหันไปดูรุ่นอื่นกันแทน จนสุดท้าย Veloz ก็ขึ้นอันดับ1 ใน MPV segment (สองรอบละที่โดน Toyota แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปกิน)
รักษาแผล โชคดีที่ได้ยามาทาแผลใจจาก HRV เพราะมันขายได้เยอะมากในตลาด crossover
ฟื้นเล็กน้อย จากการที่ Civic ยังพอขายได้บ้าง แต่ช่วงแรกที่เปิดตัวถ้าเทียบยอดขายกับตอนที่ FC/FK เปิดตัวออกมา จะเห็นได้ว่ายอดน้อยลงเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ก็พอได้กระเตื้องบ้างตอนออกตัว EHEV ออกมา แต่โดยรวมพอเทียบกับความสำเร็จตอน FC/FK ถือว่าห่างกันพอสมควร
ซ้ำแผลเก่า เหมือนจะยังไม่เข็ดหลาบ ดันไปเอา WRV จากอินโดมาซะงั้น แถมตั้งราคาเหมือนไม่อยากขาย+ออพชั่นที่โล้นยิ่งกว่า ทำให้ตอกฝาโลงตาม BRV กันไปติดๆ
แถมตลาด ECO car 5ประตู ก็ดันมาแพ้ Yaris ที่ลากขาย platform เดิมๆมาจะสิบปีอีก (อันนี้นิดๆหน่อยๆ ยอดต่างกันไม่เยอะ)
ต่อลมหายใจ ยังดีนะที่ CRV ตัวใหม่ทำมาดี จนหลายๆคนชอบ แต่ก็ติดปัญหาส่งมอบรถได้ช้านี่แหละ แต่ก็ถือว่าตัวนี้มาช่วยได้เยอะเลย
ส่วนตลาด D Segment ขนาดออกตัว Accord G11 ออกมาแล้ว ก็ยังไม่วายแพ้ Camry ACV70 ที่ยังเป็นโฉมเก่าอยู่
ส่วนตัวเป็นแฟนบอยโตโยต้า แต่ก็ติดตามฮอนด้ามาตลอด ผมคิดว่าวิกฤติฮอนด้าน่าจะเริ่มจริงๆหนักๆในอีก 4-5ปี ต่อจากนี้
ปัญหาหลักเลยเท่าที่ผมติดตามมานะ
1. ออพชั่น อันนี้น่าด่าแบบสุดๆ คือไม่รู้จะกั๊กไปไหน ยิ่งไอ้ LW กล้องส่องผีเนี่ย พอเถอะ ตลาดอื่นได้ BSM กันหมด
2. การออกมาพูดอธิบายจากทางฮอนด้าประเทศไทย คือแต่ละคำตอบถ้าได้ลองไปฟังคุณแทบจะอยากกำหมัดแล้วสาวใส่หน้าคนตอบเลยแหละ เช่น
- HRV ตัวล่างไม่มีแอร์หลังเพราะระบบการหมุนเวียนของแอร์ดี แต่ทำไมตัวกลางกับตัวท็อปมีแอร์หลังอะ เอ้า ไม่ได้ใช้ระบบแอร์เดียวกันหรอกเรอะ
- BSM ในไทยไม่มีออพชั่นนี้เพราะว่า LW เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยมากกว่า ที่ตลกคือมีร้านรับติดตั้งข้างนอกในราคาแค่หมื่นต้นๆ และยี่ห้ออื่นก็มีใช้กันหมด ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร
- Civic พับเบาะหลังไม่ได้เพราะจะมีปัญหากับโครงสร้างตัวถัง เอ้า แต่ตัว mnc ทำไมพับเบาะหลังได้ เอ้าาาาาา
- Accord ขนาดรถระดับท็อป ที่ขึ้นชื่อว่า D Segment รถระดับผู้บริหาร ตัวท็อปราคา 1.8ล้าน ก็ยังไม่มีเบาะหลังปรับไฟฟ้า ทั้งที่ Camry เขาใส่มาตั้งนานแล้ว
ก็หวังว่าฮอนด้าประเทศไทยจะช่วยปรับปรุงให้มันทันเจ้าอื่นบ้าง รถจีนก็มาบุกตลาด คู่แข่งอย่างโตโยต้าก็ยัดออพชั่นมาสู้
ส่วนฮอนด้าก็ยังกั๊กต่อไป
ช่วงแรก City ก็มาทรงดีๆอยู่ โดนสะกิดดอกแรกคือตอนมีข่าวว่าพวกรถไฟฟ้ากำลังเข้ามา แต่ก็ยังไม่เท่าไหร่ หนักสุดคือตอน Yaris Ativ เพราะส่วนแบ่งการตลาดของ B segment / ECO car โดนแย่งไปเยอะมาก (Ativ กินส่วนแบ่งการตลาดหลัก 50-60% มาตลอด) แล้วช่วงหลังคนหันไปสนใจรถไฟฟ้าขนาดเล็กมากขึ้น อันนี้แผลแรกนะ
แผลที่สอง การมาถึงของ BRV ที่ดันทำราคาซะแพงเวอร์ แต่ออพชั่นห่วยแตก คนเลยหันไปดูรุ่นอื่นกันแทน จนสุดท้าย Veloz ก็ขึ้นอันดับ1 ใน MPV segment (สองรอบละที่โดน Toyota แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปกิน)
รักษาแผล โชคดีที่ได้ยามาทาแผลใจจาก HRV เพราะมันขายได้เยอะมากในตลาด crossover
ฟื้นเล็กน้อย จากการที่ Civic ยังพอขายได้บ้าง แต่ช่วงแรกที่เปิดตัวถ้าเทียบยอดขายกับตอนที่ FC/FK เปิดตัวออกมา จะเห็นได้ว่ายอดน้อยลงเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ก็พอได้กระเตื้องบ้างตอนออกตัว EHEV ออกมา แต่โดยรวมพอเทียบกับความสำเร็จตอน FC/FK ถือว่าห่างกันพอสมควร
ซ้ำแผลเก่า เหมือนจะยังไม่เข็ดหลาบ ดันไปเอา WRV จากอินโดมาซะงั้น แถมตั้งราคาเหมือนไม่อยากขาย+ออพชั่นที่โล้นยิ่งกว่า ทำให้ตอกฝาโลงตาม BRV กันไปติดๆ
แถมตลาด ECO car 5ประตู ก็ดันมาแพ้ Yaris ที่ลากขาย platform เดิมๆมาจะสิบปีอีก (อันนี้นิดๆหน่อยๆ ยอดต่างกันไม่เยอะ)
ต่อลมหายใจ ยังดีนะที่ CRV ตัวใหม่ทำมาดี จนหลายๆคนชอบ แต่ก็ติดปัญหาส่งมอบรถได้ช้านี่แหละ แต่ก็ถือว่าตัวนี้มาช่วยได้เยอะเลย
ส่วนตลาด D Segment ขนาดออกตัว Accord G11 ออกมาแล้ว ก็ยังไม่วายแพ้ Camry ACV70 ที่ยังเป็นโฉมเก่าอยู่
ส่วนตัวเป็นแฟนบอยโตโยต้า แต่ก็ติดตามฮอนด้ามาตลอด ผมคิดว่าวิกฤติฮอนด้าน่าจะเริ่มจริงๆหนักๆในอีก 4-5ปี ต่อจากนี้
ปัญหาหลักเลยเท่าที่ผมติดตามมานะ
1. ออพชั่น อันนี้น่าด่าแบบสุดๆ คือไม่รู้จะกั๊กไปไหน ยิ่งไอ้ LW กล้องส่องผีเนี่ย พอเถอะ ตลาดอื่นได้ BSM กันหมด
2. การออกมาพูดอธิบายจากทางฮอนด้าประเทศไทย คือแต่ละคำตอบถ้าได้ลองไปฟังคุณแทบจะอยากกำหมัดแล้วสาวใส่หน้าคนตอบเลยแหละ เช่น
- HRV ตัวล่างไม่มีแอร์หลังเพราะระบบการหมุนเวียนของแอร์ดี แต่ทำไมตัวกลางกับตัวท็อปมีแอร์หลังอะ เอ้า ไม่ได้ใช้ระบบแอร์เดียวกันหรอกเรอะ
- BSM ในไทยไม่มีออพชั่นนี้เพราะว่า LW เหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยมากกว่า ที่ตลกคือมีร้านรับติดตั้งข้างนอกในราคาแค่หมื่นต้นๆ และยี่ห้ออื่นก็มีใช้กันหมด ก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร
- Civic พับเบาะหลังไม่ได้เพราะจะมีปัญหากับโครงสร้างตัวถัง เอ้า แต่ตัว mnc ทำไมพับเบาะหลังได้ เอ้าาาาาา
- Accord ขนาดรถระดับท็อป ที่ขึ้นชื่อว่า D Segment รถระดับผู้บริหาร ตัวท็อปราคา 1.8ล้าน ก็ยังไม่มีเบาะหลังปรับไฟฟ้า ทั้งที่ Camry เขาใส่มาตั้งนานแล้ว
ก็หวังว่าฮอนด้าประเทศไทยจะช่วยปรับปรุงให้มันทันเจ้าอื่นบ้าง รถจีนก็มาบุกตลาด คู่แข่งอย่างโตโยต้าก็ยัดออพชั่นมาสู้
ส่วนฮอนด้าก็ยังกั๊กต่อไป
ความคิดเห็นที่ 7
ไม่เกี่ยวอะไรกับวิกฤตรถน้ำมันเลยครับ มโนเองล้วนๆ
มันเป้นศึกระหว่าง HONDA vs TOYOTA เท่านั้น
ปีนี้ HR-V ขายดิบขายดีระดับ 1,700-2,000 คันทุกเดือนตลอด 9 เดือนแรก มียอดขายรวม 10 เดือน 19k คัน มากที่สุดของยอดขาย HR-V ในรอบ 8 ปี มันจึงไม่เกี่ยวอะไรกับ BEV จีนที่เข้ามาขายเลยครับ ที่ HR-V ขายดิบขายดีขนาดนั้นแต่ก็ยังลดราคาทำยอดก็เพราะเหตุผลเดียว YARIS CROSS เปิดตัวและทำยอดขายในเดือนตุลาคมซึ่งเป้นเดือนแรกได้สูงถึง 2,400 คัน ในขณะที่ HR-V ตกลงมาต่ำกว่า 1,700 คันเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ 1,450 คัน ทำให้ HONDA ต้องรีบลดราคามาทำยอดขายไม่ให้ตลาดไหลไป YARIS CROSS จนเสียตำแหน่งผู้นำถาวรเหมือนที่เคยเกิดกับ CITY และ YARIS ATIV มาแล้ว (ปีที่แล้วลดราคา CITY สู้ไม่ได้เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต แค่ขายราคาเต็มก็ไม่มีผลิตพอส่งมอบแล้ว)
CITY ลดราคาก็เพราะยังสู้ศึกกับ YARIS ATIV และ YARIS HB ต่อไป
WR-V, BR-V ลดราคาก็เพราะจะเคลียร์สต็อคไม่ให้มันข้ามปี เพราะยังไง HONDA ไทยก็ไม่คิดจะเอา WR-V, BR-V ของ HONDA อินโดมาขายราคาถูกๆตัดยอด HR-V กับ CITY HB ที่ HONDA ไทยผลิตเองอยู่แล้ว
ณ เวลานี้ การลดราคาลงมาแข่งกับรถจีนไม่เคยอยู่ในสายตาของ HONDA ครับ เพราะศัตรูมีแค่หนึ่งเดียวนั่นคือ TOYOTA
มันเป้นศึกระหว่าง HONDA vs TOYOTA เท่านั้น
ปีนี้ HR-V ขายดิบขายดีระดับ 1,700-2,000 คันทุกเดือนตลอด 9 เดือนแรก มียอดขายรวม 10 เดือน 19k คัน มากที่สุดของยอดขาย HR-V ในรอบ 8 ปี มันจึงไม่เกี่ยวอะไรกับ BEV จีนที่เข้ามาขายเลยครับ ที่ HR-V ขายดิบขายดีขนาดนั้นแต่ก็ยังลดราคาทำยอดก็เพราะเหตุผลเดียว YARIS CROSS เปิดตัวและทำยอดขายในเดือนตุลาคมซึ่งเป้นเดือนแรกได้สูงถึง 2,400 คัน ในขณะที่ HR-V ตกลงมาต่ำกว่า 1,700 คันเป็นครั้งแรกในรอบปีที่ 1,450 คัน ทำให้ HONDA ต้องรีบลดราคามาทำยอดขายไม่ให้ตลาดไหลไป YARIS CROSS จนเสียตำแหน่งผู้นำถาวรเหมือนที่เคยเกิดกับ CITY และ YARIS ATIV มาแล้ว (ปีที่แล้วลดราคา CITY สู้ไม่ได้เพราะขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต แค่ขายราคาเต็มก็ไม่มีผลิตพอส่งมอบแล้ว)
CITY ลดราคาก็เพราะยังสู้ศึกกับ YARIS ATIV และ YARIS HB ต่อไป
WR-V, BR-V ลดราคาก็เพราะจะเคลียร์สต็อคไม่ให้มันข้ามปี เพราะยังไง HONDA ไทยก็ไม่คิดจะเอา WR-V, BR-V ของ HONDA อินโดมาขายราคาถูกๆตัดยอด HR-V กับ CITY HB ที่ HONDA ไทยผลิตเองอยู่แล้ว
ณ เวลานี้ การลดราคาลงมาแข่งกับรถจีนไม่เคยอยู่ในสายตาของ HONDA ครับ เพราะศัตรูมีแค่หนึ่งเดียวนั่นคือ TOYOTA
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถยนต์
รถ Honda ป้ายแดง ลด 2 แสน! วิกฤตรถน้ำมัน
วิกฤตรถน้ำมันมาแล้ว