เพจ ‘อานนท์’ โพสต์ ขอบคุณ จากนี้ไม่ขอรับอะไรแล้ว ชี้ ลูกไม่ต้องการของเล่น แต่ต้องการ ‘พ่อ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4297869
เพจ ‘อานนท์’ โพสต์ ขอบคุณ จากนี้ไม่ขอรับอะไรแล้ว ชี้ ลูกไม่ต้องการของเล่น แต่ต้องการ ‘พ่อ’
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์ข้อความระบุว่า
อยากขอบคุณหลายๆคน
ที่เอ็นดูซื้อของเล่นมาฝากเด็กๆเสมอ แต่หลังจากนี้ขออนุญาตไม่รับอะไรแล้วจริงๆค่ะ ลูกไม่ได้ต้องการของเล่น แต่ต้องการ “พ่อ”
หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมาก
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=24255450980736303&id=100000942179021&ref=embed_post
‘กัณวีร์’ ถาม ทำไมรัฐบาลนิ่งเฉย ไม่จริงจังปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์-กวาดล้างกลุ่มจีนเทา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4298041
‘กัณวีร์’ ถาม ทำไมรัฐบาลนิ่งเฉย ไม่จริงจังกับการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ประกาศกวาดล้างกลุ่มจีนเทา หลอกคนไทยและต่างชาติ เกือบ 2,000 คน ไปทำงานแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ? จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ใครเป็นเจ้าภาพ NRM
วันที่ 24 พฤศจิกายน นาย
กัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า ผ่านมากว่า 1 เดือน ที่ตนได้ขอหารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีคนไทยเหยื่อการค้ามนุษย์ในเมืองเล้าก์ก่ายขอความช่วยเหลือแต่ยังไม่เห็นรัฐบาลจะประกาศจริงจังในการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ หลอกลวงคนไทยและชาวต่างชาติไปทำงานในเมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง รัฐฉานเหนือ ประเทศเมียนมา
นาย
กัณวีร์ ระบุว่า จากการติดตามกรณีนี้ ตั้งแต่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นำคนไทย 266 คน จากเมืองเล้าก์ก่าย ผ่านการช่วยเหลือของรัฐบาลเมียนมาและจีน ได้กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 เข้าสู่การคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ล่าสุด วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ได้ปล่อยตัว คนไทย 98 คนจากเล้าก์เก่าได้กลับบ้านชุดแรก ยังทำการคัดกรองที่เหลือ 162 คน จากที่มีหมายจับคดีอื่น 6 คน
นอกจากนี้ยังมีคนที่เดินทางกลับมาผ่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงรายแล้ว 41 คน กำลังกลับออกมาอีก 24 คน และมีรายงานว่ายังเหลือคนไทยในเล้าก์ก่ายอีกกว่า 160 คน
รวมแล้วกรณีนี้น่าจะมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 500 คน ที่ไปทำงานในเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อนับรวมกับชาวต่างชาติ ที่ได้รับการช่วยเหลือ หรือหลบหนีออกมาหลังการเข้ากวาดล้างกลุ่มจีนเทา ที่ไปเปิดอาคารนำคนต่างชาติ เฉพาะ ตึกหมายเลข 9
ตามข้อมูลที่ได้คุยกับเหยื่อค้ามนุษย์ และการรายงานทางการข่าว น่าจะมีต่างชาติ รวมคนไทย เกือบ 2,000 คน ที่ถูกหลอกลวงไปทำงาน เช่น ชาวจีนกว่า 600 คน เวียดนามกว่า 500 คน และยังมีลาว ฟิลิปปินส์ รวมถึงรัสเซีย
เฉพาะคนไทยไม่ต่ำกว่า 500 คน (เท่าที่นับจำนวนได้จากหลายกลุ่ม) น่าจะเป็นการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ กลุ่มใหญ่ที่สุด หลังจากกรณีทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
นาย
กัณวีร์ กล่าวว่า นี่จึงน่าจะเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะขยายผลไปสู่การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ประกาศกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานที่ผิดกฎหมาย บังคับทรมาน ถูกกักขัง ไม่สามารถหลบหนีได้ และต้องทำงานมาหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท และมีคดีที่แจ้งความไปยังตำรวจไซเบอร์ กว่า 360,000 คดี เฉพาะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้ยังไม่เห็นประสิทธิภาพในการจัดการตามกลไกส่งต่อระดับชาติ National Referral Mechanism (NRM) ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเพื่อยกระดับประเทศไทยในสถานการณ์การค้ามนุษย์ ซึ่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ TIP Report 2022 โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ Tier 2 ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นจากระดับ Tier 2 Watch List ในปีที่ผ่านมา
มีรายงานว่าการทำงานในศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า NRM ที่ศูนย์การเรียนรู้มหานคร เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ยังหาเจ้าภาพหลักในการจัดการเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับ NRM ไม่ได้เลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นโอกาสสำคัญในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่ตกเป็นเหยื่อในประเทศเพื่อนบ้าน
“
ยังไม่เห็นการประกาศกวาดล้างขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องยกระดับร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะทางการจีน ที่เห็นแล้วว่าได้เปิดฉากกวาดล้างกลุ่มจีนเทาในเมืองเล้าก์ก่าย เพราะคนจีนได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เหล่านี้ด้วย และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนไทยเกี่ยวข้องกับการพาคนข้ามชายแดนไทยไปทำงานผิดกฎหมายได้จำนวนมากเช่นนี้ จะมีใครในประเทศไทยรู้เห็นหรือได้ประโยชน์หรือไม่”
นาย
กัณวีร์ ระบุว่า จึงชวนให้สงสัยว่าทำไมถึงไม่มีการประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง หรือผลประโยชน์มหาศาลของขบวนการนี้ ตกอยู่ในมือใคร เพราะไม่ใช่แต่เมืองเล้าก์ก่าย ขบวนการนี้ยังเปิดทำการแบบนี้อีกหลายเมืองใกล้ชายแดนไทย
“ยังไงผู้เกี่ยวข้อง รอชี้แจงในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่รับเรื่องร้องเรียนจากญาติ เตรียมเชิญมาชี้แจง เร็วๆนี้”
นายกัณวีร์ ย้ำว่าได้นำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเร็วๆนี้
เปิดบัญชีบิ๊กตู่ มีร้อยล้าน ปอร์เช่-อัลพาร์ด ที่ดินชะอำ เชียงใหม่ ปากช่อง ปืนอีก 9 กระบอก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4298047
เปิดบัญชีบิ๊กตู่ มีร้อยล้าน มีปอร์เช่ ที่ดินชะอำ เชียงใหม่ ปากช่อง ปืนอีก 9 กระบอก
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง โดยพบว่า พล.อ.
ประยุทธ์ มีทรัพย์สิน 98,663,683.38 บาท ขณะที่คู่สมรส มีทรัพย์สิน 31,527,479.54 บาท รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 130,191,162.92 บาท
โดยแบ่งเป็นเงินฝากของพล.อ.
ประยุทธ์ 13 ล้านบาท เงินลงทุน 64 ล้าน ที่ดิน 3.2 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 10 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ 5 ล้านบาท
ส่วนภรรยา มีเงินฝาก 10 ล้านบาท ที่ดิน 5.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.2 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ 12 ล้านบาท ทั้งคู่ไม่มีหนี้สิน
ทั้งนี้พบว่ามีที่ดิน 5 แปลง ทั้งที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ส่วนรถยนต์ พบว่ามีรถฟอร์ดเรนเจอร์ เบนซ์ รถปอร์เช่ รุ่น พานาเมร่า โตโยต้าอัลพาร์ด 2 คัน
แหวนและกำไลข้อมือ 10 วง นาฬิกา 9 เรือน สร้อยคอทองคำพร้อมพระ 6 เส้น ปืน 9 กระบอก ชุดเครื่องประดับ แหวน ต่างหู และสร้อย 25 ชุด มูลค่า 10 ล้านบาท
JJNY : เพจ‘อานนท์’โพสต์ ลูกต้องการ ‘พ่อ’│‘กัณวีร์’ถาม ทำไมรัฐบาลนิ่งเฉย ไม่จริงจังปราบจีนเทา│เปิดบัญชีตู่│เปิดเซฟ ‘ป้อม’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4297869
เพจ ‘อานนท์’ โพสต์ ขอบคุณ จากนี้ไม่ขอรับอะไรแล้ว ชี้ ลูกไม่ต้องการของเล่น แต่ต้องการ ‘พ่อ’
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “อานนท์ นำภา” โพสต์ข้อความระบุว่า
อยากขอบคุณหลายๆคน
ที่เอ็นดูซื้อของเล่นมาฝากเด็กๆเสมอ แต่หลังจากนี้ขออนุญาตไม่รับอะไรแล้วจริงๆค่ะ ลูกไม่ได้ต้องการของเล่น แต่ต้องการ “พ่อ”
หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมาก
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=24255450980736303&id=100000942179021&ref=embed_post
‘กัณวีร์’ ถาม ทำไมรัฐบาลนิ่งเฉย ไม่จริงจังปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์-กวาดล้างกลุ่มจีนเทา
https://www.matichon.co.th/politics/news_4298041
‘กัณวีร์’ ถาม ทำไมรัฐบาลนิ่งเฉย ไม่จริงจังกับการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ประกาศกวาดล้างกลุ่มจีนเทา หลอกคนไทยและต่างชาติ เกือบ 2,000 คน ไปทำงานแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ? จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ใครเป็นเจ้าภาพ NRM
วันที่ 24 พฤศจิกายน นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยว่า ผ่านมากว่า 1 เดือน ที่ตนได้ขอหารือต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีคนไทยเหยื่อการค้ามนุษย์ในเมืองเล้าก์ก่ายขอความช่วยเหลือแต่ยังไม่เห็นรัฐบาลจะประกาศจริงจังในการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ หลอกลวงคนไทยและชาวต่างชาติไปทำงานในเมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง รัฐฉานเหนือ ประเทศเมียนมา
นายกัณวีร์ ระบุว่า จากการติดตามกรณีนี้ ตั้งแต่การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นำคนไทย 266 คน จากเมืองเล้าก์ก่าย ผ่านการช่วยเหลือของรัฐบาลเมียนมาและจีน ได้กลับถึงไทยเมื่อวันที่ 20 พ.ย.66 เข้าสู่การคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ล่าสุด วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ได้ปล่อยตัว คนไทย 98 คนจากเล้าก์เก่าได้กลับบ้านชุดแรก ยังทำการคัดกรองที่เหลือ 162 คน จากที่มีหมายจับคดีอื่น 6 คน
นอกจากนี้ยังมีคนที่เดินทางกลับมาผ่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงรายแล้ว 41 คน กำลังกลับออกมาอีก 24 คน และมีรายงานว่ายังเหลือคนไทยในเล้าก์ก่ายอีกกว่า 160 คน
รวมแล้วกรณีนี้น่าจะมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 500 คน ที่ไปทำงานในเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อนับรวมกับชาวต่างชาติ ที่ได้รับการช่วยเหลือ หรือหลบหนีออกมาหลังการเข้ากวาดล้างกลุ่มจีนเทา ที่ไปเปิดอาคารนำคนต่างชาติ เฉพาะ ตึกหมายเลข 9
ตามข้อมูลที่ได้คุยกับเหยื่อค้ามนุษย์ และการรายงานทางการข่าว น่าจะมีต่างชาติ รวมคนไทย เกือบ 2,000 คน ที่ถูกหลอกลวงไปทำงาน เช่น ชาวจีนกว่า 600 คน เวียดนามกว่า 500 คน และยังมีลาว ฟิลิปปินส์ รวมถึงรัสเซีย
เฉพาะคนไทยไม่ต่ำกว่า 500 คน (เท่าที่นับจำนวนได้จากหลายกลุ่ม) น่าจะเป็นการช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ กลุ่มใหญ่ที่สุด หลังจากกรณีทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
นายกัณวีร์ กล่าวว่า นี่จึงน่าจะเป็นโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะขยายผลไปสู่การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ ทลายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ประกาศกวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลอกลวงคนไทยไปทำงานที่ผิดกฎหมาย บังคับทรมาน ถูกกักขัง ไม่สามารถหลบหนีได้ และต้องทำงานมาหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท และมีคดีที่แจ้งความไปยังตำรวจไซเบอร์ กว่า 360,000 คดี เฉพาะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้ยังไม่เห็นประสิทธิภาพในการจัดการตามกลไกส่งต่อระดับชาติ National Referral Mechanism (NRM) ที่รัฐบาลไทยได้ดำเนินการเพื่อยกระดับประเทศไทยในสถานการณ์การค้ามนุษย์ ซึ่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ TIP Report 2022 โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ Tier 2 ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นจากระดับ Tier 2 Watch List ในปีที่ผ่านมา
มีรายงานว่าการทำงานในศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า NRM ที่ศูนย์การเรียนรู้มหานคร เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ยังหาเจ้าภาพหลักในการจัดการเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับ NRM ไม่ได้เลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นโอกาสสำคัญในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ที่ตกเป็นเหยื่อในประเทศเพื่อนบ้าน
“ยังไม่เห็นการประกาศกวาดล้างขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ที่ต้องยกระดับร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะทางการจีน ที่เห็นแล้วว่าได้เปิดฉากกวาดล้างกลุ่มจีนเทาในเมืองเล้าก์ก่าย เพราะคนจีนได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เหล่านี้ด้วย และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีคนไทยเกี่ยวข้องกับการพาคนข้ามชายแดนไทยไปทำงานผิดกฎหมายได้จำนวนมากเช่นนี้ จะมีใครในประเทศไทยรู้เห็นหรือได้ประโยชน์หรือไม่”
นายกัณวีร์ ระบุว่า จึงชวนให้สงสัยว่าทำไมถึงไม่มีการประกาศกวาดล้างอย่างจริงจัง หรือผลประโยชน์มหาศาลของขบวนการนี้ ตกอยู่ในมือใคร เพราะไม่ใช่แต่เมืองเล้าก์ก่าย ขบวนการนี้ยังเปิดทำการแบบนี้อีกหลายเมืองใกล้ชายแดนไทย
“ยังไงผู้เกี่ยวข้อง รอชี้แจงในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่รับเรื่องร้องเรียนจากญาติ เตรียมเชิญมาชี้แจง เร็วๆนี้”
นายกัณวีร์ ย้ำว่าได้นำเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเร็วๆนี้
เปิดบัญชีบิ๊กตู่ มีร้อยล้าน ปอร์เช่-อัลพาร์ด ที่ดินชะอำ เชียงใหม่ ปากช่อง ปืนอีก 9 กระบอก
https://www.matichon.co.th/politics/news_4298047
เปิดบัญชีบิ๊กตู่ มีร้อยล้าน มีปอร์เช่ ที่ดินชะอำ เชียงใหม่ ปากช่อง ปืนอีก 9 กระบอก
เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากตำแหน่ง โดยพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีทรัพย์สิน 98,663,683.38 บาท ขณะที่คู่สมรส มีทรัพย์สิน 31,527,479.54 บาท รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 130,191,162.92 บาท
โดยแบ่งเป็นเงินฝากของพล.อ.ประยุทธ์ 13 ล้านบาท เงินลงทุน 64 ล้าน ที่ดิน 3.2 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 10 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ 5 ล้านบาท
ส่วนภรรยา มีเงินฝาก 10 ล้านบาท ที่ดิน 5.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.2 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆ 12 ล้านบาท ทั้งคู่ไม่มีหนี้สิน
ทั้งนี้พบว่ามีที่ดิน 5 แปลง ทั้งที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ส่วนรถยนต์ พบว่ามีรถฟอร์ดเรนเจอร์ เบนซ์ รถปอร์เช่ รุ่น พานาเมร่า โตโยต้าอัลพาร์ด 2 คัน
แหวนและกำไลข้อมือ 10 วง นาฬิกา 9 เรือน สร้อยคอทองคำพร้อมพระ 6 เส้น ปืน 9 กระบอก ชุดเครื่องประดับ แหวน ต่างหู และสร้อย 25 ชุด มูลค่า 10 ล้านบาท