อยากทราบความเห็นพี่ๆเพื่อนๆครับว่าด้วย condition ชีวิตแบบนี้ "ถ้าผมลาออกจากงานประจำมาทำงานอิสระตามข้อมูลดังนี้" คิดว่าจะรอดไหมครับ
ข้อมูลการทำงานประจำ
- ผมทำงานบริษัทเอกชน (บจก.) แห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ. ธุรกิจหลักเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทแม่ผ่านวิกฤต ปี 40 มาแล้ว
- ผมเป็นสถาปนิก ตำแหน่งงาน "หัวหน้าส่วนงานสถาปัตย์" ซึ่งอยู่ในแผนกการตลาดอีกที มีผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นหัวหน้าโดยตรง อายุงาน 9 ปี 8 เดือนโดยประมาณ
- เงินเดือน 49,975.- มีค่าที่พักรายเดือนให้ 3,000.- รวม 52,975.- บริษัทมีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสหกรณ์ มีค่ารักษาพยาบาลให้ไม่เกินเงินเดือน 1 เดือน/ปี (ไปหาหมอแล้วเอาบิลมาเบิก) นอกนั้นก็สวัสดิการตามกฏหมายทั่วไป และไม่มีโบนัส (เคยมีแต่ไม่มีมาเกิน 10 ปีแล้ว)
ข้อมูลอาชีพอิสระ
- ขายนาฬิกา/สินค้าวินเทจอื่นๆ ทาง FB/IG และมีหน้าร้านในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งแถวจตุจักร
- เช่าร้านกัน 4 คน ร้านเปิดทุกวันยกเว้นวัน จ. แต่ผมเข้าหน้าร้านเฉพาะ ส.-อา. (วันธรรมดาเป็นเพื่อนๆอีก 3 ท่าน ผลัดกันไปเปิดร้าน)
- เราแค่หารค่าเช่าร้านกันเฉยๆ ต่างคนต่างขาย แยกสินค้าของใครของมัน
- ส่วนตัวผมเองเริ่มขายในช่องทางออนไลน์ในปี 2018 จนถึงปัจจุบัน และเริ่มทำหน้าร้านในปี 23 นี้ เดือน เมษายนที่ผ่านมา
- รายได้เฉลี่ยออกมาตามตารางด้านล่าง ถ้าใครขี้เกียจดูตาราง สรุปคือเฉลี่ย Gross profit เดือนละประมาณ 7 หมื่น (โดยผมยังไม่ได้หักเงินเดือนตัวเอง)
((สีเขียวคือรายรับ สีส้มคือรายจ่าย สีฟ้าครือสรุป สีเหลืองคือกำไรขั้นต้น))
- ตารางนี้คือยอดขายจากการที่ผมใช้ชีวิตแบบ ทำงานประจำ จ.-ศ. ไปหน้าร้าน ส.-อา. (แต่การขายออนไลน์มันก็ทำได้ตลอด 24/7 อยู่แล้ว)
ข้อมูลหนี้สิน/ทรัพย์สิน
- หนี้บ้านเหลือไฟแนนซ์ราวๆ 4.1-4.2 ล้าน ตอนนี้ผ่อนเดือนละ 25,900.- อีก 1 ปีถึงจะขอปรับลดดอกเบี้ยหรือ Re-finance ได้ ตอนนี้ผ่อนมาน่าจะเข้าไปปีที่ 8 แล้ว
- หนี้บัตรเครดิต 3 ใบ ราวๆ 85,000.-
- มีรถยนต์ Toyota Prius อายุ 11 ปี 1 คัน ผ่อนหมดแล้ว
- สินทรัพย์ความคล่องตัวสูงหน่อย (หุ้น, กองทุน, คริปโต) รวมราวๆ 250,000.-
- สินทรัพย์ความคล่องตัวปานกลาง (นาฬิกาวินเทจ) รวมราวๆ 400,000.-
- สินทรัพย์ความคล่องตัวต่ำ (บ้านเดี่ยว 170 ตรม. บนที่ดิน 52 ตรว. ย่านบางใหญ่ นนทบุรี ที่ยังติดไฟฟแนนซ์ตามข้อมูลข้างต้น)
- เงินออม (เงินสด, สลากออมสิน, เงินสหกรณ์บริษัท, เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ราวๆ 400,000.-
- เงินสดและทองคำจากตอนที่แต่งงาน (ยังไม่ได้เช็คมูลค่าตลาด เพราะพอพ่อแม่ให้มาก็เก็บไว้เลย แต่คิดว่าคงไม่เยอะมาก อาจจะแค่ 1-2 แสน)
ข้อมูลชีวิตด้านต่างๆและเหตผลที่อยากลาออกจากงานประจำ
ผมเพิ่งแต่งงานมา 2 ปีกว่าๆ ภรรยาเป็นข้าราชการประจำ (ครู) พ่อแม่ผมเป็นข้าราชการเกษียณแต่บำนานหลังจากหักหนี้ต่างๆน่าจะไม่เยอะมาก คิดว่าราวๆเดือนละ 6-7 พัน/คน ซึ่งผมเองให้ท่านรวมสองคนเดือนละ 9,000.- พ่อกับแม่ไม่ได้รบกวนอะไรอื่น เอาจริงๆแม่น่าจะเก็บเงินที่ผมให้ไว้เพื่อเก็บออมแทนผมในวันที่ท่านไม่อยู่ด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ ส.-อา. ผมจะกลับบ้านไปนอนบ้านพ่อแม่ เพื่อเตรียมไปขายของในช่วง ส.-อา. วันธรรมดาผมอยู่คอนโดภรรยาย่านแบริ่ง ขับรถไปทำงานแถวๆตึกเนชั่น (ราวๆ 6-7 กม. จากที่พัก) รายจ่ายต่างๆในการดำเนินชีวิตเท่าที่ผมบันทึกไว้ เช่น กิน, เที่ยว, ซื้อของใช้เข้าบ้าน, กิจกรรมบันเทิง, Shopping ของฟุ่มเฟือย, ค่าน้ำมัน, ค่าทางด่วน, ฯลฯ ผมใช้แอพพลิเคขั่นบันทึกไว้คิดว่าน่าจะครบแบบ 99% เริ่มบันทึกจริงจังปีนี้ อยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 55,000.- บาท (ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ผมเป็นคนออก เพราะเงินเดือนภรรยาไม่เยอะ และเค้าต้องผ่อนคอนโด) งานประจำที่ผมทำ เดือน เม.ย. ปี 68 นี้ก็จะอายุงานครบ 10 ปีแล้ว เอาจริงๆก็เบื่อและอิ่มตัวมากๆ (ผมจบ ป.ตรี วุฒิ สถ.บ. พระจอมฯบางมด) Routine ชีวิต คือ จ.-ศ. ทำงานประจำ ส.-อา. ไปขายของ เข้างาน 8.30 น. เลิกงาน 17.30 น. จากบางนาไปรับภรรยาแถวปากน้ำและก็กลับคอนโด บางวันต้องไปเอาของที่จะมาขายกว่าจะกลับห้องก็ 3-4 ทุ่ม ถ้าไปเอาของมาใหม่ก็ต้องตรวจเช็คทำความสะอาด และก็มีแพ็คของเตรียมส่งพัสดุให้ลูกค้า แล้วก็นอน เช้ามาถ้าต้องมีของลงขายก็จะต้องไปถ่ายรูปสินค้าเพื่อลงขาย ก่อนเข้างาน 8.30 น. ชีวิตวนเวียนแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2018 (แต่มายุ่งจริงจังช่วงปี 2020 ที่ขายได้เยอะขึ้น เพราะเริ่มยิง Ads ในช่องทางออนไลน์) เมื่อก่อนตอนยังไม่ได้ทำหน้าร้าน ส.-อา. ก็พาภรรยา/พ่อแม่ไปเที่ยว นู่นนั่นนี่ ได้ มีเวลาทำอะไรของตัวเอง เช่น ดูหนัง, เดินตลาดของเก่า, อ่านหนังสือ, ฯลฯ แต่พอมีหน้าร้าน ส.-อา. ก็ต้องไปอยู่หน้าร้าน ภรรยาก็อยู่คอนโด คืน ส. ผมค้างบ้านแม่ (บ้านของตัวเองไม่ค่อยได้ไปอยู่ ตอนนี้ก็ประกาศขายอยู่) ก่อนที่จะกลับคอนโดในเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งคืน ศ.-ส. ภรรยาจะอยู่คอนโดคนเดียว เพราะถ้าเค้ามาที่หน้าร้านด้วยบางทีเค้าก็เบื่อๆไม่มีอะไรทำ เลยนอนอยู่ห้องซะมากกว่า ตอนที่คิดจะทำหน้าร้าน ผมก็ถามภรรยาว่าโอเคไหม เวลามันจะหายไปเลยนะ เค้าก็ว่าโอเค แถมยังพูดสนับสนุนให้ทำด้วยซ้ำ แต่พอเอาเข้าจริงนานเข้าก็เริ่มมีปัญหา "ปัญหาของการไม่มีเวลาว่าง" ภรรยาผมอายุ 29 ผม 38 เค้าน่าจะอยู่ในวัยที่อยากเที่ยว อยากใช้ชีวิตนู่นนั่นนี่อยู่ การที่เวลาของผมมันไม่ค่อยจะว่างก็เริ่มทำให้เค้าคงเบื่อๆ คิดนู่นคิดนี่ จนเค้าว่าเค้ามีอาการซึมเศร้า จนสุดท้ายไปหมอที่ รพ. จุฬา แต่น่าจะไม่หนักมาก หมอก็ให้ยามาทานและนัดไปตรวจเรื่อยๆทุก 2 เดือน ตอนนี้น่าจะปกติแล้ว (เท่าที่ผมรู้สึก) และไปตรวจล่าสุดหมอก็ลดการจ่ายยาลงแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว (มั้ง) ผมก็เลยถามๆปรึกษาเค้าว่า ถ้าผมลาออกมาขายของอย่างเดียวก็น่าจะมีเวลาใช้ชีวิตกับเค้ามากขึ้น (ผญ. ย่อมต้องการให้เรามีเวลาให้เค้า อันนี้ที่ผมคิด) และถ้าผมออกจากงานประจำจริงๆ ก็จะมีหลายสิ่งที่ผมอยากทำ ดังนี้ครับ
- ศ.-อา. เข้าหน้าร้านขายของ
- จ.-พฤ. ที่ว่าง จะสามารถไปคลุกคลีกับคนอื่นในวงการ เพื่อหาช่องทาง/ความรู้ที่จะมาเพิ่มยอดขายของตัวเองได้มากขึ้น
- เรียน ป.โท (เรียนวันธรรมดาก็จะราคาถูกกว่า)
- คิดว่าถ้ามีเวลาว่างน่าจะมีเวลาศึกษาในสิ่งอื่นๆที่เราสนใจได้มากขึ้น เช่น การเงิน/การลงทุน เพราะตอนนี้ผมได้แต่ซื้อหุ้นที่ดูมั่นคง บริษัทใหญ่ๆหน่อย มีปันผล พวกบริษัทเล็กๆหุ้นซิ่งๆพวกนี้ยังไม่มีเวลามาไล่ดูเองเลย หรือ อาจจะไปศึกษาเรื่องหุ้น ตปท. อะไรพวกนี้ครับ และงานศิลปะ ก็เป็นอีกอย่างที่อยากทำ
คำถามคือ...เพื่อนๆคิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ ถ้าผมลาออกจะรอดไหมกับ Condition รายรับ/รายจ่ายจากอาชีพอิสระแบบนี้ หรือ ก็ทนๆอยู่ไปแบบนี้แหละทำงานประจำยืนพื้นไปก่อน...? ยากจังครับชีวิต คิดไม่ออก
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ป.ล. น่าจะกระทู้แรกที่ถามจริงจัง Tag ผิด Tag ถูกขออภัยนะครับ
ปรึกษาและขอความเห็นครับ คิดว่าแบบนี้ผมสามารถลาออกได้ไหมครับ?
ข้อมูลการทำงานประจำ
- ผมทำงานบริษัทเอกชน (บจก.) แห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ. ธุรกิจหลักเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บริษัทแม่ผ่านวิกฤต ปี 40 มาแล้ว
- ผมเป็นสถาปนิก ตำแหน่งงาน "หัวหน้าส่วนงานสถาปัตย์" ซึ่งอยู่ในแผนกการตลาดอีกที มีผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นหัวหน้าโดยตรง อายุงาน 9 ปี 8 เดือนโดยประมาณ
- เงินเดือน 49,975.- มีค่าที่พักรายเดือนให้ 3,000.- รวม 52,975.- บริษัทมีสวัสดิการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและสหกรณ์ มีค่ารักษาพยาบาลให้ไม่เกินเงินเดือน 1 เดือน/ปี (ไปหาหมอแล้วเอาบิลมาเบิก) นอกนั้นก็สวัสดิการตามกฏหมายทั่วไป และไม่มีโบนัส (เคยมีแต่ไม่มีมาเกิน 10 ปีแล้ว)
ข้อมูลอาชีพอิสระ
- ขายนาฬิกา/สินค้าวินเทจอื่นๆ ทาง FB/IG และมีหน้าร้านในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งแถวจตุจักร
- เช่าร้านกัน 4 คน ร้านเปิดทุกวันยกเว้นวัน จ. แต่ผมเข้าหน้าร้านเฉพาะ ส.-อา. (วันธรรมดาเป็นเพื่อนๆอีก 3 ท่าน ผลัดกันไปเปิดร้าน)
- เราแค่หารค่าเช่าร้านกันเฉยๆ ต่างคนต่างขาย แยกสินค้าของใครของมัน
- ส่วนตัวผมเองเริ่มขายในช่องทางออนไลน์ในปี 2018 จนถึงปัจจุบัน และเริ่มทำหน้าร้านในปี 23 นี้ เดือน เมษายนที่ผ่านมา
- รายได้เฉลี่ยออกมาตามตารางด้านล่าง ถ้าใครขี้เกียจดูตาราง สรุปคือเฉลี่ย Gross profit เดือนละประมาณ 7 หมื่น (โดยผมยังไม่ได้หักเงินเดือนตัวเอง)
((สีเขียวคือรายรับ สีส้มคือรายจ่าย สีฟ้าครือสรุป สีเหลืองคือกำไรขั้นต้น))
- ตารางนี้คือยอดขายจากการที่ผมใช้ชีวิตแบบ ทำงานประจำ จ.-ศ. ไปหน้าร้าน ส.-อา. (แต่การขายออนไลน์มันก็ทำได้ตลอด 24/7 อยู่แล้ว)
ข้อมูลหนี้สิน/ทรัพย์สิน
- หนี้บ้านเหลือไฟแนนซ์ราวๆ 4.1-4.2 ล้าน ตอนนี้ผ่อนเดือนละ 25,900.- อีก 1 ปีถึงจะขอปรับลดดอกเบี้ยหรือ Re-finance ได้ ตอนนี้ผ่อนมาน่าจะเข้าไปปีที่ 8 แล้ว
- หนี้บัตรเครดิต 3 ใบ ราวๆ 85,000.-
- มีรถยนต์ Toyota Prius อายุ 11 ปี 1 คัน ผ่อนหมดแล้ว
- สินทรัพย์ความคล่องตัวสูงหน่อย (หุ้น, กองทุน, คริปโต) รวมราวๆ 250,000.-
- สินทรัพย์ความคล่องตัวปานกลาง (นาฬิกาวินเทจ) รวมราวๆ 400,000.-
- สินทรัพย์ความคล่องตัวต่ำ (บ้านเดี่ยว 170 ตรม. บนที่ดิน 52 ตรว. ย่านบางใหญ่ นนทบุรี ที่ยังติดไฟฟแนนซ์ตามข้อมูลข้างต้น)
- เงินออม (เงินสด, สลากออมสิน, เงินสหกรณ์บริษัท, เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ราวๆ 400,000.-
- เงินสดและทองคำจากตอนที่แต่งงาน (ยังไม่ได้เช็คมูลค่าตลาด เพราะพอพ่อแม่ให้มาก็เก็บไว้เลย แต่คิดว่าคงไม่เยอะมาก อาจจะแค่ 1-2 แสน)
ข้อมูลชีวิตด้านต่างๆและเหตผลที่อยากลาออกจากงานประจำ
ผมเพิ่งแต่งงานมา 2 ปีกว่าๆ ภรรยาเป็นข้าราชการประจำ (ครู) พ่อแม่ผมเป็นข้าราชการเกษียณแต่บำนานหลังจากหักหนี้ต่างๆน่าจะไม่เยอะมาก คิดว่าราวๆเดือนละ 6-7 พัน/คน ซึ่งผมเองให้ท่านรวมสองคนเดือนละ 9,000.- พ่อกับแม่ไม่ได้รบกวนอะไรอื่น เอาจริงๆแม่น่าจะเก็บเงินที่ผมให้ไว้เพื่อเก็บออมแทนผมในวันที่ท่านไม่อยู่ด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ ส.-อา. ผมจะกลับบ้านไปนอนบ้านพ่อแม่ เพื่อเตรียมไปขายของในช่วง ส.-อา. วันธรรมดาผมอยู่คอนโดภรรยาย่านแบริ่ง ขับรถไปทำงานแถวๆตึกเนชั่น (ราวๆ 6-7 กม. จากที่พัก) รายจ่ายต่างๆในการดำเนินชีวิตเท่าที่ผมบันทึกไว้ เช่น กิน, เที่ยว, ซื้อของใช้เข้าบ้าน, กิจกรรมบันเทิง, Shopping ของฟุ่มเฟือย, ค่าน้ำมัน, ค่าทางด่วน, ฯลฯ ผมใช้แอพพลิเคขั่นบันทึกไว้คิดว่าน่าจะครบแบบ 99% เริ่มบันทึกจริงจังปีนี้ อยู่ที่เฉลี่ยเดือนละ 55,000.- บาท (ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ผมเป็นคนออก เพราะเงินเดือนภรรยาไม่เยอะ และเค้าต้องผ่อนคอนโด) งานประจำที่ผมทำ เดือน เม.ย. ปี 68 นี้ก็จะอายุงานครบ 10 ปีแล้ว เอาจริงๆก็เบื่อและอิ่มตัวมากๆ (ผมจบ ป.ตรี วุฒิ สถ.บ. พระจอมฯบางมด) Routine ชีวิต คือ จ.-ศ. ทำงานประจำ ส.-อา. ไปขายของ เข้างาน 8.30 น. เลิกงาน 17.30 น. จากบางนาไปรับภรรยาแถวปากน้ำและก็กลับคอนโด บางวันต้องไปเอาของที่จะมาขายกว่าจะกลับห้องก็ 3-4 ทุ่ม ถ้าไปเอาของมาใหม่ก็ต้องตรวจเช็คทำความสะอาด และก็มีแพ็คของเตรียมส่งพัสดุให้ลูกค้า แล้วก็นอน เช้ามาถ้าต้องมีของลงขายก็จะต้องไปถ่ายรูปสินค้าเพื่อลงขาย ก่อนเข้างาน 8.30 น. ชีวิตวนเวียนแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2018 (แต่มายุ่งจริงจังช่วงปี 2020 ที่ขายได้เยอะขึ้น เพราะเริ่มยิง Ads ในช่องทางออนไลน์) เมื่อก่อนตอนยังไม่ได้ทำหน้าร้าน ส.-อา. ก็พาภรรยา/พ่อแม่ไปเที่ยว นู่นนั่นนี่ ได้ มีเวลาทำอะไรของตัวเอง เช่น ดูหนัง, เดินตลาดของเก่า, อ่านหนังสือ, ฯลฯ แต่พอมีหน้าร้าน ส.-อา. ก็ต้องไปอยู่หน้าร้าน ภรรยาก็อยู่คอนโด คืน ส. ผมค้างบ้านแม่ (บ้านของตัวเองไม่ค่อยได้ไปอยู่ ตอนนี้ก็ประกาศขายอยู่) ก่อนที่จะกลับคอนโดในเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งคืน ศ.-ส. ภรรยาจะอยู่คอนโดคนเดียว เพราะถ้าเค้ามาที่หน้าร้านด้วยบางทีเค้าก็เบื่อๆไม่มีอะไรทำ เลยนอนอยู่ห้องซะมากกว่า ตอนที่คิดจะทำหน้าร้าน ผมก็ถามภรรยาว่าโอเคไหม เวลามันจะหายไปเลยนะ เค้าก็ว่าโอเค แถมยังพูดสนับสนุนให้ทำด้วยซ้ำ แต่พอเอาเข้าจริงนานเข้าก็เริ่มมีปัญหา "ปัญหาของการไม่มีเวลาว่าง" ภรรยาผมอายุ 29 ผม 38 เค้าน่าจะอยู่ในวัยที่อยากเที่ยว อยากใช้ชีวิตนู่นนั่นนี่อยู่ การที่เวลาของผมมันไม่ค่อยจะว่างก็เริ่มทำให้เค้าคงเบื่อๆ คิดนู่นคิดนี่ จนเค้าว่าเค้ามีอาการซึมเศร้า จนสุดท้ายไปหมอที่ รพ. จุฬา แต่น่าจะไม่หนักมาก หมอก็ให้ยามาทานและนัดไปตรวจเรื่อยๆทุก 2 เดือน ตอนนี้น่าจะปกติแล้ว (เท่าที่ผมรู้สึก) และไปตรวจล่าสุดหมอก็ลดการจ่ายยาลงแล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว (มั้ง) ผมก็เลยถามๆปรึกษาเค้าว่า ถ้าผมลาออกมาขายของอย่างเดียวก็น่าจะมีเวลาใช้ชีวิตกับเค้ามากขึ้น (ผญ. ย่อมต้องการให้เรามีเวลาให้เค้า อันนี้ที่ผมคิด) และถ้าผมออกจากงานประจำจริงๆ ก็จะมีหลายสิ่งที่ผมอยากทำ ดังนี้ครับ
- ศ.-อา. เข้าหน้าร้านขายของ
- จ.-พฤ. ที่ว่าง จะสามารถไปคลุกคลีกับคนอื่นในวงการ เพื่อหาช่องทาง/ความรู้ที่จะมาเพิ่มยอดขายของตัวเองได้มากขึ้น
- เรียน ป.โท (เรียนวันธรรมดาก็จะราคาถูกกว่า)
- คิดว่าถ้ามีเวลาว่างน่าจะมีเวลาศึกษาในสิ่งอื่นๆที่เราสนใจได้มากขึ้น เช่น การเงิน/การลงทุน เพราะตอนนี้ผมได้แต่ซื้อหุ้นที่ดูมั่นคง บริษัทใหญ่ๆหน่อย มีปันผล พวกบริษัทเล็กๆหุ้นซิ่งๆพวกนี้ยังไม่มีเวลามาไล่ดูเองเลย หรือ อาจจะไปศึกษาเรื่องหุ้น ตปท. อะไรพวกนี้ครับ และงานศิลปะ ก็เป็นอีกอย่างที่อยากทำ
คำถามคือ...เพื่อนๆคิดเห็นว่าอย่างไรกันบ้างครับ ถ้าผมลาออกจะรอดไหมกับ Condition รายรับ/รายจ่ายจากอาชีพอิสระแบบนี้ หรือ ก็ทนๆอยู่ไปแบบนี้แหละทำงานประจำยืนพื้นไปก่อน...? ยากจังครับชีวิต คิดไม่ออก
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ
ป.ล. น่าจะกระทู้แรกที่ถามจริงจัง Tag ผิด Tag ถูกขออภัยนะครับ