แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดมะเร็งไทรอยด์แบบส่องกล้องกับ อ.ธัญวัจน์ ศาสนเกียรติกุล แบบไร้รอยแผล ดีต่อใจ

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ การผ่าตัดมะเร็งไทรอยด์แบบส่องกล้องให้อ่านกันค่ะ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่คลำเจอก้อนที่คอ หรือตรวจพบความผิดปกติที่ต่อมไทรอยด์ และไม่อยากผ่าแบบเปิดคอให้มีรอยแผลมากวนใจกันนะคะ เริ่มจากไปตรวจร่างกายประจำ(10)ปีหลังจากไม่ได้ตรวจมานานมากกกก ที่รพ.เอกชนแถวสีลม คุณหมอคลำเจอก้อนที่คอ แต่ถ้าคนทั่วไปมองจะแทบไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกตินะคะ ตรงที่ชี้นี้คือหมอคลำเจอเป็นถุงน้ำ ส่วนมะเร็งที่เจาะคอแล้วเจออยู่อีกด้านนึงค่ะ จะสังเกตว่าที่คอไม่มีความผิดปกติใดๆเลยนะคะ และเราก็ไม่ได้มีอาการใดๆด้วยค่ะ แต่มะเร็งไทรอยด์หากเราปล่อยไว้หลายๆปี ที่น่ากลัวคือมะเร็งมันจะลามไปที่ปอดหรือกระดูก อันนี้จะน่ากลัวแล้วค่ะ ดังนั้น เราควรไปตรวจสุขภาพกันทุกปีนะคะ 


  วันรุ่งขึ้นก็รีบแจ้นไปแผนกหัวใจและเบาหวาน(จริงๆงงเหมือนกันว่าเกี่ยวกันยังไง555 แต่รพ.นี้เค้ารวมกันไว้ที่แผนกนี้ค่ะ)ได้อัลตร้าซาวน์ที่คอและเจาะชิ้นเนื้อในวันเดียวกันเลย ตอนเจาะคอก็เจ็บนิดหน่อยแต่พอประคบเย็นดีขึ้นก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
ตอนไปพบคุณหมอที่อ่านผลฟิล์มอัลตร้าซาวนด์แล้วสงสัยมะเร็งไทรอยด์ เค้าก็แนะนำคุณหมอผ่าตัดแบบส่องกล้องมาให้ คืออ.ธัญวัจน์ที่ปกติประจำอยู่ที่รพ.ตำรวจ แต่เราโทรไปถามทางรพ.ก็ได้ทราบว่าคิวยาวหลายเดือนมากๆด้วยความอยากผ่าตัดเร็วๆเลยได้ทำนัดเพื่อเจอคุณหมอเพื่อทราบถึงแนวทางการผ่าว่าเคสเราสามารถผ่าแบบส่องกล้องได้รึไม่ ซึ่งก็ทำได้เพราะก้อนไม่ใหญ่ประมาณเซ็นต์กว่าๆ กรณีที่ก้อนโตก็ต้องผ่าเปิดคออย่างเดียว อันนี้ก็ต้องดูเป็นเคสๆไปค่ะ และเนื่องจากไม่มีประกัน ต้องจ่ายเองทั้งหมดคุณหมอเลยแนะนำไปผ่ารพ.นวเวช ค่าใช้จ่ายประมาณ27x,xxxบ. (ซึ่งราคานี้จะเฉพาะปี2566นี้ ในปีต่อๆไปราคาอาจจะเปลี่ยนแปลง ต้องสอบถามกับทางคุณหมอค่ะ) ตอนผ่าก็ไม่ได้น่ากลัวเลย แทบไม่เจ็บเลยด้วยซ้ำ แค่รู้สึกตึงๆที่คอนิดหน่อยค่ะ

รูปนี้คือเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดค่ะ


ผ่าตัดเสร็จประมาณครึ่งวันก็สามารถลุกเดินลากเสาน้ำเกลือไปๆมาๆในห้องได้เลย

 โดยพักฟื้นที่รพ.2คืน ก่อนจะกลับคุณหมอก็มาสอนนวดคอไม่ให้พังผืดติดซึ่งจะทำให้ลำคอแข็ง และคุณหมอให้แคลเซียมมาทาน เนื่องจากต่อมพาราไทรอยด์อาจจะยังทำงานได้ไม่ดีนัก (แต่คุณหมอก็เก็บเอาไว้ให้ไม่ได้ตัดออกไป) ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องตะคริวหรือเหน็บชา แล้วจากการผ่าตัดส่องกล้อง จะใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูงจึงไม่ทำให้กระทบกระเทือนถึงเส้นเสียง เสียงจึงไม่แหบหลังการผ่าตัดด้วย เราเคยถามหมอที่รพ.จุฬาการผ่าเปิดคอ อัตราเสียงแหบหลังผ่าตัดจะอยู่ที่ 5% แต่ของคุณหมอธัญวัจน์ผ่าแบบส่องกล้องจะอยู่ที่ 1%เท่านั้นค่ะ และนี่คืออีกหนึ่งข้อดีของการผ่าแบบส่องกล้องค่ะ



   ในระหว่างนี้ก็สามารถทานอาหารได้ทุกอย่างแต่ก็เริ่มจากอาหารอ่อนๆเพราะว่าปากก็ยังขยับไม่ได้มากจะรู้สึกตึงๆต้องคอยบริหารตามที่คุณหมอสอน ส่วนไหมจะตัดหรือไม่ตัดก็ได้แต่สำหรับเรารู้สึกรำคาญก็ไปให้หมอตัดออกเจ็บนิดเดียวเหมือนกัน ส่วนตอนนี้กำลังรอคิวกลืนแร่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯค่ะ
  ตอนนี้ผ่าตัดมาแล้วประมาณเดือนหนึ่งก็จะมีอาการตึงๆช่วงคางบ้างนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ

 สำหรับใครที่กำลังตรวจเจอว่ามีก้อนที่คอก็อย่านิ่งนอนใจรีบไปตรวจนะคะ ถ้าโชคดีก็จะเป็นแค่ถุงน้ำซึ่งตอนนี้มีวิธีการรักษาหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการทานยา , HIFU และการใช้คลื่นไมโครเวฟ ควรรีบรักษาแต่เนิ่นๆตรวจเจอเร็วก็รักษาหายเร็วค่าใช้จ่ายไม่สูงค่ะ แต่ถ้าพบว่าเป็นมะเร็งก็ต้องผ่าตัดและไปกลืนแร่ค่ะ  มะเร็งไทรอยด์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด  แม่บ้านของเราซึ่งผ่าตัดมะเร็งต่อมไทรอยด์มา20 ปีแล้วตอนนี้ก็ยังสุขภาพแข็งแรงเหมือนเดิม
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะคะ