*วิเคราะห์จากมังงะเท่านั้น เพราะในอนิเมะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ไม่รู้ว่าอาจารย์แกเป็นคนตั้งใจเปลี่ยนเองหรือว่าทีมทำอนิเมะเป็นคนเปลี่ยนกันแน่ ใครรู้คอมเมนต์ไว้ได้ครับจขกท.ก็อยากรู้เหมือนกัน*
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าจขกท.อวยคู่เอเรนมิคาสะเป็นการส่วนตัว จึงพยายามหาเหตุผลมารองรับว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์ ยังรักและจดจำเอเรนไปตลอด เพราะยังไงอาจารย์แกคงไม่มาอธิบายฉากจบของเรื่องนี้อยู่แล้ว(อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน)
ข้อมูลอ้างอิงนำมาจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/42328253 จากนี้ไปจะขอเรียกกระทู้นี้ว่า กระทู้ต้นทาง (จริง ๆ เนื้อหาที่จะเขียนก็ได้ตอบในกระทู้นี้ไปแล้ว แต่มีบางอย่างอยากจะพิมพ์+บ่นเพิ่ม เลยมาตั้งกระทู้แยกดีกว่า)
จากนี้ไปจะเป็นเนื้อหาที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลต่าง ๆ จากกระทู้ต้นทางรวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อาจารย์คนเขียนได้ใส่ไว้ในเรื่อง
พอลองมาคิดเรื่องมิคาสะอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับฮิสตอเรียก็สามารถตีความภาพนี้ได้ตามนี้
1. ภาพสีผมของคนที่พามิคาสะมาเยี่ยมในรูปแรกกับภาพที่สองผมคนละสีกัน

ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าผู้ชายในภาพแรกผมไม่ได้ถมดำ ส่วนผู้ชายในภาพสองผมถูกถมดำ ซึ่งคิดว่าอาจารย์น่าจะตั้งใจ จึงทำให้คิดได้ว่าอาจจะเป็นคนละคนกัน
ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ชายในภาพแรกเป็นใครอันนี้แล้วแต่ตีความกันเลยครับ(เดี๋ยวมีพูดถึงเรื่องนี้ไว้ที่ด้านล่าง)
2. เรื่องผ้าคลุมที่มิคาสะใส่ สไตล์การแต่งตัวที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใส่ผ้าคลุมเลย แต่จู่ ๆ ก็มาใส่ในตอนจบของเรื่อง อาจารย์แกน่าจะต้องมีเหตุผลในการให้เธอใส่ผ้าคลุมแบบเดียวกับฮิสตอเรียอยู่แล้ว

จะเห็นลายละเอียดว่าที่ปลายผ้าคลุมจะมีริ้ว ๆ เหมือนกันทั้งสองภาพ รวมกับนิยายที่กระทู้ต้นทางแนบมาว่ามิคาสะเหมือนจะสนใจเรื่องเรื่องเด็กกำพร้า ส่วนนี้ก็อาจจะคิดได้ว่ามิคาสะคงอยู่ช่วยฮิสตอเรียที่บ้านเด็กกำพร้าหลังเรื่องทุกอย่างจบ
แต่ ๆ จะมีข้อแตกต่างตรงในตอนที่ 139 ผ้าคลุมของฮิสตอเรียจะไม่มีริ้วตรงส่วนปลาย


มันจะไปเหมือนกับผ้าคลุมของยูมีร์แทน ซึ่งตรงนี้มองได้ว่าอาจารย์ตั้งใจให้คนอ่านรู้ว่าฮิสตอเรียยังเก็บผ้าคลุมของยูมีร์ไว้ เหมือนกรณีเดียวกับผ้าพันคอของมิคาสะ
ซึ่งอันนี้ก็วิเคราะห์ได้ว่าผ้าคลุมที่มีริ้วตรงปลายน่าจะเป็นผ้าคลุมของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ส่วนผ้าคลุมที่ไม่มีริ้วเป็นผ้าคลุมที่ฮิสตอเรียใช้ระลึกถึงยูมีร์(น่าจะจงใจให้รู้ว่าฮิสตอเรียยังไม่ลืมยูมีร์) ทั้งสองแบบเป็นคนละอันกัน
3. มาวิเคราะห์ภาพนี้กันครับ สิ่งที่ผมคิดได้ก็ประมาณนี้ รวมกับข้อมูลที่มิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ตามที่กระทู้ต้นทางเขียนไว้

- สีผมของผู้ชายที่อยู่ข้างมิคาสะเป็นสีดำเหมือนกับเด็กที่มิคาสะอุ้มก่อนหน้านั้น คงไม่มีทางที่จะเป็นแจนเพราะมิคาสะผมดำเป็นขาวแล้วแจนที่อายุเท่ากันคงไม่มีทางแก่ขึ้นแล้วผมเปลี่ยนเป็นสีดำได้ ดูจากสภาพร่างกายของมิคาสะที่แก่ลง เวลาน่าจะผ่านมานานจนเด็กคนนั้นโตขึ้น จึงทำให้คิดได้ว่าผู้ชายข้าง ๆ คือเด็กกำพร้าที่เธอรับมาเลี้ยงหรือก็คือลูกเลี้ยงของเธอ
- ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ลูกเลี้ยงของมิคาสะอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นภรรยาของลูกเลี้ยงมิคาสะ ส่วนเด็กก็คือหลาน
- ส่วนชายหญิงสองคนกับพวกเด็ก ๆ ข้างหลังนี่คิดได้หลายทางเลยครับ อาจจะเป็นฮิสตอเรียกับสามี อาร์มินกับภรรยา ลูกฮิสตอเรียกับสามี(ผมของผู้หญิงกับลูกฮิสตอเรียมีความคล้ายกัน) ส่วนเด็ก ๆ น่าจะเป็นเด็กจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ได้
- คหสต. คู่ชายหญิงข้างล่างมีโอกาสที่จะเป็นอาร์มินและแอนนี่มากกว่าคนอื่น ๆ
4. ความคิดเห็นส่วนตัวกับรูปนี้แบบไม่มีหลักฐานใด ๆ ทั้งสิ้น

ทำไมอาจารย์แกถึงวาดให้ตัวละครดูเหมือนแจน ถ้ามองแบบแวบแรกไม่มีอคติทุกคนต้องคิดอยู่แล้วว่าคนในภาพเป็นแจน ทั้ง ๆ ที่ถ้าแกจะวาดให้ชัดขนาดนี้ก็น่าจะให้เห็นหน้ารู้กันชัด ๆ ไปเลย คงไม่เปลืองหมึกมากหรอก5555 แต่แกกลับให้เห็นแต่ข้างหลังแล้วยังโผล่มาแค่ช่องเดียวอีก ด้วยความที่อาจารย์แกเป็นพวกชอบไบ้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ระหว่างทางให้คนวิเคราะห์กันอยู่แล้ว เลยทำให้คิดว่าผู้ชายในภาพคงไม่น่าใช่แจนและอาจจะเป็นอาร์มินเหมือนที่วิเคราะห์กันไว้
แต่ถ้าใช่แจนจริง ๆ อาจจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ที่แจนมาดูแลมิคาสะ แต่พอรู้ว่ามิคาสะยังลืมเอเรนไม่ได้เขาเลยเป็นคนที่มูพออนจากมิคาสะไปเอง จนทำให้เห็นเป็นภาพนี้

ที่ดูแล้วคนข้าง ๆ มิคาสะไม่น่าใช่แจนอย่างแน่นอน ผู้ชายข้างหลังยังจะเหมือนแจนมากกว่าซึ่งผู้ชายข้างหลังก็มากับครอบครัวอีก ถ้างั้นก็หมายความว่าแจนมีครอบครัวกับคนอื่นไปแล้ว แต่ถ้าแบบนั้นการให้แจนมาอยู่ในฉากนี้ก็จะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เพราะงั้นจขกท.เลยคิดว่าเป็นอาร์มินกับแอนนี่มากกว่าตามที่พิมพ์ไว้ในข้อ3.
5. อาจารย์แกไม่ได้ทิ้งรายละเอียดอะไรไว้เลยว่ามิคาสะกับแจนจะได้แต่งงานหรือมีครอบครัวกันในตอนจบ นอกจากฉากที่แจนฝันถึงผู้หญิงซึ่งก็คือมิคาสะน่ะแหละ

กับภาพในตอนจบที่เป็นผู้ชายที่ดูคล้ายกับแจนเท่านั้น (ถ้ามีหลักฐานอื่นอีกแย้งได้ครับ)

จะเห็นได้ว่าหลักฐานรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจารย์แทรกไว้มีแต่ส่วนที่ทำให้เราเห็นว่ามิคาสะโสดและยังบริสุทธิ์อยู่แค่นั้น โดยเฉพาะหลักฐานที่ว่ามิคาสะยังรักและยังจำเอเรนได้อยู่อันนี้ชัดเจนแบบไม่มีอะไรมาหักล้างได้เลย เรื่องนี้ทุกคนน่าจะเห็นตรงกันอยู่แล้ว
อีกอย่างถ้าจะให้แจนไปคู่กับพีคยังจะดูมีเหตุมีผลมากกว่าอีกครับ
6. มาดูกันครับว่าอาจารย์แกเน้นเรื่องผ้าพันแผลของมิคาสะแค่ไหนในตอนที่ 139 (เผื่อมีใครไม่รู้หรือลืม ผ้าพันแผลเอาไว้ปิดตราสัญลักษณ์ตระกูลที่ข้อมือ ถ้ามิคาสะมีลูก สัญลักษณ์นี้จะหายไป ซึ่งก็คือเธอไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าพันแผลนี้แล้ว)


สามภาพนี้จากตอนที่ 139 จะเห็นว่าอาจารย์แกเน้นมาก ๆ

ส่วนภาพนี้จากตอนที่ 138 ยังไม่รวมกับตอนอื่น ๆ อีกที่จขกท.ขี้เกียจไปไล่หา
เรียกได้ว่าหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่า
มิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ เพราะถ้าอาจารย์แกไม่เน้นแกคงไม่จงใจวาดออกมาซะขนาดนี้หรอกครับ
7. แจนที่เห็นมิคาสะกับเอเรนรักและเป็นห่วงขนาดนั้นถ้ายังจะอยากมาแต่งงานมีครอบครัวกับมิคาสะอีกหลังจากที่เอเรนตาย มันดูจะไร้เหตุผลเกินไปสำหรับแจน คิดว่าอาจารย์ที่เขียนเรื่องมาได้ขนาดนี้คงไม่ทำเรื่องที่ไร้เหตุผลขนาดนั้น มันดูยัดเยียดเกินไป อีกอย่างถ้าเป็นแจนหรือคนอื่น ๆ ที่แต่งงานกับมิคาสะจริงแล้วเห็นมิคาสะรักอาลัยอาวรณ์คนรักเก่าขนาดนั้นเป็นใครก็คงรับไม่ได้
8. ด้วยความที่ตอนจบเป็นแบบปลายเปิด แบบมีทิ้งรายละเอียดไว้ให้คนอ่านได้ตีความกัน จขกท.เลยคิดว่าอาจารย์แกอาจจะให้คนอ่านแยกเป็นสองกลุ่ม
- กลุ่มแรก คนที่ดู/อ่าน แล้วเข้าใจตามสิ่งที่เห็น สิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งก็คือชายที่พามิคาสะเยี่ยมหลุมศพเอเรนคือแจน(แวบแรกทุกคนต้องคิดแบบนั้นรวมถึงจขกท.ด้วย) เด็กในมือเธอก็คือลูกของเธอกับแจน มิคาสะสามารถมูพออนจากเอเรนได้โดยที่ยังจดจำและเก็บเอเรนไว้ในใจไปจนวันตาย
- กลุ่มที่สอง คนที่วิเคราะห์ข้อมูลสิ่งที่ต่าง ๆ ที่อาจารย์แกทิ้งไว้ให้ (จขกท.เป็นหนึ่งในนั้นรวมถึงหลาย ๆ คนด้วย อาจจะเรียกว่าเป็นกลุ่มไม่ยอมรับความจริงก็ได้555555 แต่ก็นั่นแหละแกดันไม่เฉลยมาให้ชัด ๆ อะนะ) กลุ่มที่สองนี้จะเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจารย์แกใส่มา ทั้งเรื่องผ้าพันแผลที่ปิดสัญลักษณ์ที่ข้อมือขวามิคาสะที่ดูค่อนข้างเน้นในตอนที่ 139 ถ้าไปย้อนอ่านจะเห็นได้ในหลาย ๆ ฉาก สิ่งนี้ทำให้เห็นว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ค่อนข้าง100% รวมกับพวกดอกไม้ที่อาจารย์แกน่าจะตั้งใจและหาความหมายมาแล้วว่าหมายถึงอะไร ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่และยังไม่มูพออนจากเอเรน
จากตอนพิเศษอาจารย์แกก็เขียนไว้แบบนี้ด้วย

ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับจริง ๆ ว่าข้อมูลหลักฐานที่บอกว่ามิคาสะยังโสดบริสุทธิ์อยู่ค่อนข้างจะมีมูลเหตุและมีหลักฐานมากกว่าฝั่งที่บอกว่าแจนกับมิคาสะได้มีครอบครัวเดียวกันเยอะมาก ๆ ตามที่ได้อ่านไปข้างบน
แต่ก็ไม่มีใครถูกใครผิดอาจารย์แกตั้งใจให้คนเลือกตามที่ตัวเองอยากจะเชื่ออยู่แล้ว
9. คงจะแปลกที่เรื่องนี้โฟกัสอยู่กับ EMA เอเรน มิคาสะ อาร์มินมาโดยตลอด แต่ว่าในตอนจบอาจารย์แกกลับไม่วาดฉากให้อาร์มินมาเยี่ยมหลุมศพเอเรนกับมิคาสะเลย ทั้งที่เป็นเพื่อนรักกันขนาดนั้น

เหตุผลนี้เลยช่วยทำให้ความคิดที่ว่าผู้ชายในภาพนี้เป็นอาร์มิน มิคาสะ กับเด็กกำพร้าที่มาเยี่ยมหลุมศพเอเรนยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้น
10. เห็นมีหลาย ๆ คนบอกว่าอยากให้มิคาสะมูพออนมีอิสระ จขกท.มองในมุมกลับกัน ขนาดเอเรนบอกให้มิคาสะลืมเขาแต่เธอก็ตอบไปว่าลืมไม่ได้หรอกบอกไปว่าทำไม่ได้ เธอจะจดจำเขาต่อไป มีฉากนึงที่เธอบอกว่าถ้าเธอตายเธอจะลืมเรื่องของเอเรนไป เพราะงั้นเธอจะมีชีวิตต่อเพื่อที่จะได้จดจำเรื่องราวของเขาต่อไปได้จนวันตาย ทุกคนคิดจริง ๆ เหรอครับว่าคนที่พูดแบบนี้ ผูกติดกับเอเรนแบบนี้จะสามารถลืมเขาแล้วไปมีคนอื่นได้
อาจจะมีคนบอกว่าความเป็นจริง คนที่สามีภรรยาตายแล้วไปมีใหม่เยอะแยะ อันนี้ไม่เถียงครับ แต่อย่าลืมว่ามิคาสะเป็นใคร เธอเป็นคนของตระกูลแอคเคอร์แมนที่พูดง่ายว่าต้องมีโฮสต์ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมถึงความรู้สึกของเธอต่อเอเรนที่ไม่ใช่แค่ความเป็นโฮสต์อีก มองไม่ออกเลยว่าอาจารย์แกจะเขียนให้เธอผูกติดกับเอเรนขนาดที่เก็บผ้าพันคอของเขาไว้ มาเยี่ยมหลุมศพของเขาจนแก่เฒ่า ให้เธอไปมีรักใหม่ได้ยังไงมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมนึกภาพมิคาสะไปรักคนอื่นนอกจากเอเรนไม่ออกเลยจริง ๆ ให้เธอจดจำเอเรนไว้ในใจยังรักเขาไปตลอดแล้วไปหาความสุขอื่น ๆ ในชีวิตเช่นการดูแลเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยที่ไม่ต้องมีคนรักใหม่ยังไงก็ดูเข้ากันกับตัวตนของเธอมากกว่า
มองในมุมกลับกัน มิคาสะในตอบจบอาจจะมีอิสระที่สุดแล้ว เธอได้เลือกชีวิตของเธอที่จะจดจำและรักเอเรนไปตลอด การเป็นอิสระของเธออาจจะหมายถึงการเป็นอิสระในการที่เธอเลือกที่จะรักเอเรนตลอดไปถึงแม้ว่าเอเรนจะบอกให้เธอลืมเขาแล้วไปมีคนใหม่ก็ตาม มิคาสะไม่ได้เป็นทาสเอเรนอีกต่อไปแล้วเพราะขนาดเอเรนบอกให้ลืมเขาแล้วไปมีคนใหม่ เธอยังขัดคำสั่ง เธอยังรักและคิดถึงเขาไปจนวันตายเลยครับ นั่นแหละอาจจะเป็น "อิสระ" ในแบบของมิคาสะก็ได้ครับ
***ต่อใต้เม้น***
เหตุผลว่าทำไมมิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่แน่นอน และน่าจะยังโสดใน attack on titan ตอนจบ (มังงะ)
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าจขกท.อวยคู่เอเรนมิคาสะเป็นการส่วนตัว จึงพยายามหาเหตุผลมารองรับว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์ ยังรักและจดจำเอเรนไปตลอด เพราะยังไงอาจารย์แกคงไม่มาอธิบายฉากจบของเรื่องนี้อยู่แล้ว(อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน)
ข้อมูลอ้างอิงนำมาจากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/42328253 จากนี้ไปจะขอเรียกกระทู้นี้ว่า กระทู้ต้นทาง (จริง ๆ เนื้อหาที่จะเขียนก็ได้ตอบในกระทู้นี้ไปแล้ว แต่มีบางอย่างอยากจะพิมพ์+บ่นเพิ่ม เลยมาตั้งกระทู้แยกดีกว่า)
จากนี้ไปจะเป็นเนื้อหาที่วิเคราะห์ได้จากข้อมูลต่าง ๆ จากกระทู้ต้นทางรวมถึงสิ่งต่าง ๆ ที่อาจารย์คนเขียนได้ใส่ไว้ในเรื่อง
พอลองมาคิดเรื่องมิคาสะอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับฮิสตอเรียก็สามารถตีความภาพนี้ได้ตามนี้
1. ภาพสีผมของคนที่พามิคาสะมาเยี่ยมในรูปแรกกับภาพที่สองผมคนละสีกัน
ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าผู้ชายในภาพแรกผมไม่ได้ถมดำ ส่วนผู้ชายในภาพสองผมถูกถมดำ ซึ่งคิดว่าอาจารย์น่าจะตั้งใจ จึงทำให้คิดได้ว่าอาจจะเป็นคนละคนกัน
ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ชายในภาพแรกเป็นใครอันนี้แล้วแต่ตีความกันเลยครับ(เดี๋ยวมีพูดถึงเรื่องนี้ไว้ที่ด้านล่าง)
2. เรื่องผ้าคลุมที่มิคาสะใส่ สไตล์การแต่งตัวที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นใส่ผ้าคลุมเลย แต่จู่ ๆ ก็มาใส่ในตอนจบของเรื่อง อาจารย์แกน่าจะต้องมีเหตุผลในการให้เธอใส่ผ้าคลุมแบบเดียวกับฮิสตอเรียอยู่แล้ว
จะเห็นลายละเอียดว่าที่ปลายผ้าคลุมจะมีริ้ว ๆ เหมือนกันทั้งสองภาพ รวมกับนิยายที่กระทู้ต้นทางแนบมาว่ามิคาสะเหมือนจะสนใจเรื่องเรื่องเด็กกำพร้า ส่วนนี้ก็อาจจะคิดได้ว่ามิคาสะคงอยู่ช่วยฮิสตอเรียที่บ้านเด็กกำพร้าหลังเรื่องทุกอย่างจบ
แต่ ๆ จะมีข้อแตกต่างตรงในตอนที่ 139 ผ้าคลุมของฮิสตอเรียจะไม่มีริ้วตรงส่วนปลาย
มันจะไปเหมือนกับผ้าคลุมของยูมีร์แทน ซึ่งตรงนี้มองได้ว่าอาจารย์ตั้งใจให้คนอ่านรู้ว่าฮิสตอเรียยังเก็บผ้าคลุมของยูมีร์ไว้ เหมือนกรณีเดียวกับผ้าพันคอของมิคาสะ
ซึ่งอันนี้ก็วิเคราะห์ได้ว่าผ้าคลุมที่มีริ้วตรงปลายน่าจะเป็นผ้าคลุมของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ส่วนผ้าคลุมที่ไม่มีริ้วเป็นผ้าคลุมที่ฮิสตอเรียใช้ระลึกถึงยูมีร์(น่าจะจงใจให้รู้ว่าฮิสตอเรียยังไม่ลืมยูมีร์) ทั้งสองแบบเป็นคนละอันกัน
3. มาวิเคราะห์ภาพนี้กันครับ สิ่งที่ผมคิดได้ก็ประมาณนี้ รวมกับข้อมูลที่มิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ตามที่กระทู้ต้นทางเขียนไว้
- สีผมของผู้ชายที่อยู่ข้างมิคาสะเป็นสีดำเหมือนกับเด็กที่มิคาสะอุ้มก่อนหน้านั้น คงไม่มีทางที่จะเป็นแจนเพราะมิคาสะผมดำเป็นขาวแล้วแจนที่อายุเท่ากันคงไม่มีทางแก่ขึ้นแล้วผมเปลี่ยนเป็นสีดำได้ ดูจากสภาพร่างกายของมิคาสะที่แก่ลง เวลาน่าจะผ่านมานานจนเด็กคนนั้นโตขึ้น จึงทำให้คิดได้ว่าผู้ชายข้าง ๆ คือเด็กกำพร้าที่เธอรับมาเลี้ยงหรือก็คือลูกเลี้ยงของเธอ
- ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ลูกเลี้ยงของมิคาสะอาจจะมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นภรรยาของลูกเลี้ยงมิคาสะ ส่วนเด็กก็คือหลาน
- ส่วนชายหญิงสองคนกับพวกเด็ก ๆ ข้างหลังนี่คิดได้หลายทางเลยครับ อาจจะเป็นฮิสตอเรียกับสามี อาร์มินกับภรรยา ลูกฮิสตอเรียกับสามี(ผมของผู้หญิงกับลูกฮิสตอเรียมีความคล้ายกัน) ส่วนเด็ก ๆ น่าจะเป็นเด็กจากบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ได้
- คหสต. คู่ชายหญิงข้างล่างมีโอกาสที่จะเป็นอาร์มินและแอนนี่มากกว่าคนอื่น ๆ
4. ความคิดเห็นส่วนตัวกับรูปนี้แบบไม่มีหลักฐานใด ๆ ทั้งสิ้น
ทำไมอาจารย์แกถึงวาดให้ตัวละครดูเหมือนแจน ถ้ามองแบบแวบแรกไม่มีอคติทุกคนต้องคิดอยู่แล้วว่าคนในภาพเป็นแจน ทั้ง ๆ ที่ถ้าแกจะวาดให้ชัดขนาดนี้ก็น่าจะให้เห็นหน้ารู้กันชัด ๆ ไปเลย คงไม่เปลืองหมึกมากหรอก5555 แต่แกกลับให้เห็นแต่ข้างหลังแล้วยังโผล่มาแค่ช่องเดียวอีก ด้วยความที่อาจารย์แกเป็นพวกชอบไบ้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ระหว่างทางให้คนวิเคราะห์กันอยู่แล้ว เลยทำให้คิดว่าผู้ชายในภาพคงไม่น่าใช่แจนและอาจจะเป็นอาร์มินเหมือนที่วิเคราะห์กันไว้
แต่ถ้าใช่แจนจริง ๆ อาจจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ที่แจนมาดูแลมิคาสะ แต่พอรู้ว่ามิคาสะยังลืมเอเรนไม่ได้เขาเลยเป็นคนที่มูพออนจากมิคาสะไปเอง จนทำให้เห็นเป็นภาพนี้
ที่ดูแล้วคนข้าง ๆ มิคาสะไม่น่าใช่แจนอย่างแน่นอน ผู้ชายข้างหลังยังจะเหมือนแจนมากกว่าซึ่งผู้ชายข้างหลังก็มากับครอบครัวอีก ถ้างั้นก็หมายความว่าแจนมีครอบครัวกับคนอื่นไปแล้ว แต่ถ้าแบบนั้นการให้แจนมาอยู่ในฉากนี้ก็จะดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เพราะงั้นจขกท.เลยคิดว่าเป็นอาร์มินกับแอนนี่มากกว่าตามที่พิมพ์ไว้ในข้อ3.
5. อาจารย์แกไม่ได้ทิ้งรายละเอียดอะไรไว้เลยว่ามิคาสะกับแจนจะได้แต่งงานหรือมีครอบครัวกันในตอนจบ นอกจากฉากที่แจนฝันถึงผู้หญิงซึ่งก็คือมิคาสะน่ะแหละ
กับภาพในตอนจบที่เป็นผู้ชายที่ดูคล้ายกับแจนเท่านั้น (ถ้ามีหลักฐานอื่นอีกแย้งได้ครับ)
จะเห็นได้ว่าหลักฐานรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจารย์แทรกไว้มีแต่ส่วนที่ทำให้เราเห็นว่ามิคาสะโสดและยังบริสุทธิ์อยู่แค่นั้น โดยเฉพาะหลักฐานที่ว่ามิคาสะยังรักและยังจำเอเรนได้อยู่อันนี้ชัดเจนแบบไม่มีอะไรมาหักล้างได้เลย เรื่องนี้ทุกคนน่าจะเห็นตรงกันอยู่แล้ว
อีกอย่างถ้าจะให้แจนไปคู่กับพีคยังจะดูมีเหตุมีผลมากกว่าอีกครับ
6. มาดูกันครับว่าอาจารย์แกเน้นเรื่องผ้าพันแผลของมิคาสะแค่ไหนในตอนที่ 139 (เผื่อมีใครไม่รู้หรือลืม ผ้าพันแผลเอาไว้ปิดตราสัญลักษณ์ตระกูลที่ข้อมือ ถ้ามิคาสะมีลูก สัญลักษณ์นี้จะหายไป ซึ่งก็คือเธอไม่จำเป็นต้องใส่ผ้าพันแผลนี้แล้ว)
สามภาพนี้จากตอนที่ 139 จะเห็นว่าอาจารย์แกเน้นมาก ๆ
ส่วนภาพนี้จากตอนที่ 138 ยังไม่รวมกับตอนอื่น ๆ อีกที่จขกท.ขี้เกียจไปไล่หา
เรียกได้ว่าหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ เพราะถ้าอาจารย์แกไม่เน้นแกคงไม่จงใจวาดออกมาซะขนาดนี้หรอกครับ
7. แจนที่เห็นมิคาสะกับเอเรนรักและเป็นห่วงขนาดนั้นถ้ายังจะอยากมาแต่งงานมีครอบครัวกับมิคาสะอีกหลังจากที่เอเรนตาย มันดูจะไร้เหตุผลเกินไปสำหรับแจน คิดว่าอาจารย์ที่เขียนเรื่องมาได้ขนาดนี้คงไม่ทำเรื่องที่ไร้เหตุผลขนาดนั้น มันดูยัดเยียดเกินไป อีกอย่างถ้าเป็นแจนหรือคนอื่น ๆ ที่แต่งงานกับมิคาสะจริงแล้วเห็นมิคาสะรักอาลัยอาวรณ์คนรักเก่าขนาดนั้นเป็นใครก็คงรับไม่ได้
8. ด้วยความที่ตอนจบเป็นแบบปลายเปิด แบบมีทิ้งรายละเอียดไว้ให้คนอ่านได้ตีความกัน จขกท.เลยคิดว่าอาจารย์แกอาจจะให้คนอ่านแยกเป็นสองกลุ่ม
- กลุ่มแรก คนที่ดู/อ่าน แล้วเข้าใจตามสิ่งที่เห็น สิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งก็คือชายที่พามิคาสะเยี่ยมหลุมศพเอเรนคือแจน(แวบแรกทุกคนต้องคิดแบบนั้นรวมถึงจขกท.ด้วย) เด็กในมือเธอก็คือลูกของเธอกับแจน มิคาสะสามารถมูพออนจากเอเรนได้โดยที่ยังจดจำและเก็บเอเรนไว้ในใจไปจนวันตาย
- กลุ่มที่สอง คนที่วิเคราะห์ข้อมูลสิ่งที่ต่าง ๆ ที่อาจารย์แกทิ้งไว้ให้ (จขกท.เป็นหนึ่งในนั้นรวมถึงหลาย ๆ คนด้วย อาจจะเรียกว่าเป็นกลุ่มไม่ยอมรับความจริงก็ได้555555 แต่ก็นั่นแหละแกดันไม่เฉลยมาให้ชัด ๆ อะนะ) กลุ่มที่สองนี้จะเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ที่อาจารย์แกใส่มา ทั้งเรื่องผ้าพันแผลที่ปิดสัญลักษณ์ที่ข้อมือขวามิคาสะที่ดูค่อนข้างเน้นในตอนที่ 139 ถ้าไปย้อนอ่านจะเห็นได้ในหลาย ๆ ฉาก สิ่งนี้ทำให้เห็นว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่ค่อนข้าง100% รวมกับพวกดอกไม้ที่อาจารย์แกน่าจะตั้งใจและหาความหมายมาแล้วว่าหมายถึงอะไร ก็ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามิคาสะยังบริสุทธิ์อยู่และยังไม่มูพออนจากเอเรน
จากตอนพิเศษอาจารย์แกก็เขียนไว้แบบนี้ด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับจริง ๆ ว่าข้อมูลหลักฐานที่บอกว่ามิคาสะยังโสดบริสุทธิ์อยู่ค่อนข้างจะมีมูลเหตุและมีหลักฐานมากกว่าฝั่งที่บอกว่าแจนกับมิคาสะได้มีครอบครัวเดียวกันเยอะมาก ๆ ตามที่ได้อ่านไปข้างบน
แต่ก็ไม่มีใครถูกใครผิดอาจารย์แกตั้งใจให้คนเลือกตามที่ตัวเองอยากจะเชื่ออยู่แล้ว
9. คงจะแปลกที่เรื่องนี้โฟกัสอยู่กับ EMA เอเรน มิคาสะ อาร์มินมาโดยตลอด แต่ว่าในตอนจบอาจารย์แกกลับไม่วาดฉากให้อาร์มินมาเยี่ยมหลุมศพเอเรนกับมิคาสะเลย ทั้งที่เป็นเพื่อนรักกันขนาดนั้น
เหตุผลนี้เลยช่วยทำให้ความคิดที่ว่าผู้ชายในภาพนี้เป็นอาร์มิน มิคาสะ กับเด็กกำพร้าที่มาเยี่ยมหลุมศพเอเรนยิ่งมีความเป็นไปได้มากขึ้น
10. เห็นมีหลาย ๆ คนบอกว่าอยากให้มิคาสะมูพออนมีอิสระ จขกท.มองในมุมกลับกัน ขนาดเอเรนบอกให้มิคาสะลืมเขาแต่เธอก็ตอบไปว่าลืมไม่ได้หรอกบอกไปว่าทำไม่ได้ เธอจะจดจำเขาต่อไป มีฉากนึงที่เธอบอกว่าถ้าเธอตายเธอจะลืมเรื่องของเอเรนไป เพราะงั้นเธอจะมีชีวิตต่อเพื่อที่จะได้จดจำเรื่องราวของเขาต่อไปได้จนวันตาย ทุกคนคิดจริง ๆ เหรอครับว่าคนที่พูดแบบนี้ ผูกติดกับเอเรนแบบนี้จะสามารถลืมเขาแล้วไปมีคนอื่นได้
อาจจะมีคนบอกว่าความเป็นจริง คนที่สามีภรรยาตายแล้วไปมีใหม่เยอะแยะ อันนี้ไม่เถียงครับ แต่อย่าลืมว่ามิคาสะเป็นใคร เธอเป็นคนของตระกูลแอคเคอร์แมนที่พูดง่ายว่าต้องมีโฮสต์ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมถึงความรู้สึกของเธอต่อเอเรนที่ไม่ใช่แค่ความเป็นโฮสต์อีก มองไม่ออกเลยว่าอาจารย์แกจะเขียนให้เธอผูกติดกับเอเรนขนาดที่เก็บผ้าพันคอของเขาไว้ มาเยี่ยมหลุมศพของเขาจนแก่เฒ่า ให้เธอไปมีรักใหม่ได้ยังไงมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลยครับ ส่วนตัวแล้วผมนึกภาพมิคาสะไปรักคนอื่นนอกจากเอเรนไม่ออกเลยจริง ๆ ให้เธอจดจำเอเรนไว้ในใจยังรักเขาไปตลอดแล้วไปหาความสุขอื่น ๆ ในชีวิตเช่นการดูแลเด็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าโดยที่ไม่ต้องมีคนรักใหม่ยังไงก็ดูเข้ากันกับตัวตนของเธอมากกว่า
มองในมุมกลับกัน มิคาสะในตอบจบอาจจะมีอิสระที่สุดแล้ว เธอได้เลือกชีวิตของเธอที่จะจดจำและรักเอเรนไปตลอด การเป็นอิสระของเธออาจจะหมายถึงการเป็นอิสระในการที่เธอเลือกที่จะรักเอเรนตลอดไปถึงแม้ว่าเอเรนจะบอกให้เธอลืมเขาแล้วไปมีคนใหม่ก็ตาม มิคาสะไม่ได้เป็นทาสเอเรนอีกต่อไปแล้วเพราะขนาดเอเรนบอกให้ลืมเขาแล้วไปมีคนใหม่ เธอยังขัดคำสั่ง เธอยังรักและคิดถึงเขาไปจนวันตายเลยครับ นั่นแหละอาจจะเป็น "อิสระ" ในแบบของมิคาสะก็ได้ครับ
***ต่อใต้เม้น***