วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร จังหวัดกรุงเทพมหานคร

กับมาเที่ยววัดในวันหยุดกันต่อครับ วันนี้พามาชมวัดต้นแบบหรือวัดที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปะที่เรียกว่าแบบพระราชนิยม สมัยรัชกาลที่ 3 กันครับ สำหรับที่พูดถึงคือ “วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร” วัดที่ตั้งอยู่เขตจอมทอง กรุงเทพมหานครครับ วันนี้ข้อมูลจะเยอะหน่อยนะครับ ซึ่งแต่ละจุดล้วนน่าสนใจทั้งนั้นครับ



วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมมีชื่อว่าวัดจอมทอง ก่อนที่จะมีการบูรณะโดยรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งที่พระองค์ท่านมีพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์

ในการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดครั้งนั้น พระองค์ท่านได้เสด็จมาประทับคุมงานและตรวจตราการก่อสร้างด้วยพระองค์เองโดยตลอด หลังจากบูรณะเสร็จได้ถวายวัดแห่งนี้ขึ้นเป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ 2 และไดรับพระราชทานชื่อใหม่เป็น ”วัดราชโอรส“ ซึ่งหมายถึงวัดที่พระราชโอรสทรงสถาปนาขึ้น ด้วยเหตุนี้วัดราชโอรสจึงถือเป็นพระอารามประจำรัชกาลที่ 3 ครับ

รูปแบบการก่อสร้างภายในวัดมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะเป็นการผสมผสานงานศิลปะแบบไทยกับจีน รูปแบบพระอุโบสถ พระวิหาร พระระเบียงศาลาการเปรียญไม่มีช่อฟ้าใบระกาแบบโบราณ แต่เป็นศิลปะแบบจีน ก่ออิฐถือปูน ประดับ ด้วยกระเบื้องเคลือบ มีลวดลายหลากรูปหลากสี

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด

พระอุโบสถ
มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมผสมระหว่างไทยและจีน หลังคาเป็นแบบจีนสองชั้นแต่มุงกระเบื้องสีแบบไทย ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันประดับกระเบื้องเคลือบสีต่างๆ
บริเวณหน้าประตูทางเข้ามี "นายทวารบาล" ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ 3 ตัว และด้านหลังอีก 2 ตัว ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าคนจริงเล็กน้อย เป็นรูปชาวจีนหน้าตาดุดันยืนเฝ้าประตูอยู่ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่งครับ




ภายในพระอุโบสถเป็นประดิษฐาน “พระพุทธอนันตคุณอดุลญาณบพิตร" พระประธาน มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 3.10 เมตร สูงประมาณ 4.50 เมตร โดยรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมราชสรีรังคารของ รัชกาลที่ 3 ประดิษฐานไว้ที่ผ้าทิพย์ใต้ฐานพระประธาน



นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามเป็นงานวาดแบบจีน ลักษณะเป็นเครื่องโต๊ะ เครื่องตั้งบูชา ซึ่งเป็นต้นแบบในการจัดวางบูชาในบ้านเรือนเพื่อความเป็นสิริมงคล ความรุ่งเรือง และอำนาจบารมี



พระแท่นที่ประทับใต้ต้นพิกุล
เป็นที่ประทับขณะที่รัชกาลที่ 3 ยังดำรงพระอิสริยยศ เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อทรงเสด็จมาทรงคุมงานและตรวจการก่อสร้างวัดได้ประทับที่พระแท่น ที่ประทับใต้ต้นพิกุล ที่ตั้งอยู่ตรงด้านหน้าทางด้านซ้ายของพระอุโบสถ



ศาลาการเปรียญ
มีอีกชื่อเรียกกันว่า "พระวิหารพระนั่ง" เป็นอาคารที่มีลักษณะผสมทางศิลปกรรมระหว่างไทยและจีนเช่นเดียวกัน หลังคาเป็นแบบจีนลด 2 ชั้น แต่มุงกระเบื้องแบบไทย บนสันหลังคาประดับรูปถะ (สถูปเจดีย์) ระหว่าง มังกรล่อแก้ว 2 ตัว และกระเบื้องเคลือบสีอย่างศาลเจ้าจีน ผนังด้านนอกตอนบนเขียนรูปผลไม้ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล (ฮก ลก ชิ่ว) เช่น ส้มมือ หมายถึง การมีวาสนาสูง ทับทิม หมายถึง ความมั่นคงอุดมสมบูรณ์ และผลท้อ หมายถึง การมีอายุยืน



พระประธานในศาลาการเปรียญ
เป็นพระพุทธรูปปั้นถือตาลบัตร ปางประทานพระธรรมเทศนา แบบพระปฏิมากรชัยวัฒน์ มีชื่อว่า "พระพุทธชัยสิทธิธรรมนาท" นอกจากนี้ ภายในศาลาการเปรียญยังเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองสลักจากหินซึ่งจัดวางไว้ด้านหน้าของพระประธานครับ



พระวิหารพระพุทธไสยาสน์
มีอีกชื่อเรียกกันว่า "พระวิหารพระนอน" ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ เป็นพระวิหารขนาดใหญ่ มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมผสมระหว่างไทยและจีนเช่นเดียวกันกับพระอุโบสถ



ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ปูนปั้น (พระนอน) มีนามว่า "พระพุทธไสยาสน์นารถชนินทร์ชินสากยบรมสมเด็จ สรรเพชญพุทธบพิตร" จากพระบาทถึงเปลวพระรัศมีความยาว 20 เมตร  และมีความสูง 6 เมตร



ผนังด้านนอกระเบียงของพระวิหารพระพุทธไสยาสน์มีแผ่นหินอ่อนจารึกตำรายาแผนโบราณและตำราหมอนวดติดไว้เป็นระยะๆ รอบระเบียงทั้งสี่ด้าน จำนวนทั้งสิ้น 92 แผ่น ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)



พระวิหารพระยืน
เป็นสถาปัตยกรรมแบบจีนทั้งหลังหน้าบันเป็นลวดลายประแจจีน ประดับด้วยเครื่องถ้วย แปลกไปจากวัดอื่น ภายในพระวิหารพระยืน มีทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันครับ



ห้องแรกอยู่ตอนหน้า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร (ปางห้ามญาติ) พระพุทธรูปหล่อโลหะขนาดใหญ่ศิลปะแบบอู่ทอง



ห้องที่สองอยู่ตอนหลัง เป็นที่ประดิษฐานหมู่พระพุทธรูปหลายปางหลายขนาด มีพระประธานองค์ใหญ่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะแบบอยุธยา โดยสันนิษฐานว่าบริเวณพระวิหารหลังนี้น่าจะเคยเป็นพระอุโบสถหลังเก่าของวัดจอมทอง โดยมี "พระพุทธรูปยืน" ปางห้ามสมุทร (ปางห้ามญาติ) เป็นพระประธานพระอุโบสถหลังเก่า



พิกัด: วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
https://maps.app.goo.gl/UyHtG3axjQRnKqkW6?g_st=ic

บันทึกความทรงจำ

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2566
18 November 2023

ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือนสิบสอง(๑๒) ปีเถาะ
โสรวาร(ส) กัตติกมาส เบญจศก จ.ศ. 1385 , ค.ศ. 2023 , ม.ศ. 1945 , ร.ศ. 242
สุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน , จันทรคติ เป็น อธิกมาส ปกติวาร

TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
เที่ยววัดไทย เที่ยวชมวัด และสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธ์คู่บ้านคู่เมืองไทย

#วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร
#จังหวัดกรุงเทพมหานคร
#TeawWatThai / เที่ยววัดไทย
https://www.facebook.com/teawwatthai.travel
https://www.instagram.com/teawwatthai.travel
https://pantip.com/profile/878726#topics
https://www.youtube.com/@teawwatthai
https://www.tiktok.com/@teawwatthai


























































แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่