ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ผู้ชาย #โอกาสที่ได้รับจากคนที่เรารักไม่ได้มีบ่อยๆนะ

ขอเล่าให้ฟัง ในสิ่งที่ทุกคนสงสัยและถามมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคน  #บทเรียนนี้ราคาแพงมากสำหรับเป้
(ตอนนี้อ้อมแค่หวังว่าเป้จะรักษาสัจจะวาจาที่ไว้ให้ได้ ไม่ใช่แค่เพียงลมปาก)
-เราผ่านอะไรกันมากมาย ตั้งแต่เราเริ่มตกลงจะคบ คุณน่าจะรู้ว่ากว่าฉันจะตกลงปลงใจเลือกคุณ คุณเป็นแค่ตัวเลือกที่มีคนเข้ามาจีบฉันอีก 5 คน แต่ฉันก็เลือกคุณ ฉันเห็นความพยายามในที่คุณจีบฉัน ทำให้ฉันมีความสุข คุณยอมรับได้ที่ฉันเป็นฉัน ช่วงจีบกันใหม่ๆ อะไรก็ดีไปหมดเนอะ
-ถึงแม้ระยะทางจะห่างกัน คุณก็ทำให้เราไม่รู้สึกห่างกันเลย เหมือนคุณอยู่ใกล้ๆ ฉันตลอดเวลา ทำให้ฉันไม่รู้สึกเลยว่ามีแฟนอยู่ไกล ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลย และไม่มีนิสัยเจ้าชู้ให้เห็น
-ตอนที่เราคิดว่า เลือกเขาเป็นแฟนละนะ เราก็เปิดใจ เล่าให้ฟังถึงอดีตของฉัน เล่าถึงความเจ็บปวดที่เจอมา โดนอะไรบ้าง และเขาก็เล่าอดีตของเขาให้เราฟังว่าเจออะไรมาบ้าง และ #ขอเราว่าอย่านอกใจกันนะ เขารับไม่ได้ ฉันจึงตอบกลับไปว่า #ฉันก็รับไม่ได้เหมือนกัน
-แฟนฉันตอนนั้นเป็นพนักงานราชการตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่น่ารักสำหรับเพื่อน พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน ร่วมถึงน่ารักสำหรับครอบครัวของเราทั้งคู่ ไม่เคยนอกลู่นอกทาง มีความรับผิดชอบดีมากๆ มีความเสมอต้นเสมอปลาย ใครก็เอ็นดูและรักเขา  
- เราฝ่าฟันสิ่งต่างๆมาด้วยกัน จนทำให้สร้างเนื้อสร้างตัวได้ ถือว่าไม่น้อยหน้าใครก็ได้  
-เขาจะดูแลฉันเป็นอย่างดี ทั้งโทรหาเช้า เที่ยง เย็น  เวลาไม่สบายถ้าอยู่ห่างไกลเราก็ดูแลกันทางคอลนี่ละค่ะ ถ้าอยู่ด้วยกันก็ดูแลกันดี  
-เราจะเจอกันทุกครั้งที่มีวันหยุดยาวๆ หอบความคิดถึงมามอบให้กันเสมอ
-ตอนที่เขาเป็นโควิด-19 เราได้ดูแลเขา ไม่ได้รู้สึกกลัวว่าจะติดโรคเลย แต่กลับอยากดูแลเขามากกว่า เพราะคนเป็นโควิดก็โดนรังเกียจพออยู่แล้ว ยังจะต้องดูแลตัวเองในห้องแคบๆอีก เราดูแลเขาไม่ห่าง ไม่กลัวว่าตัวเองจะติดเลย จนเขาหายดี
-ฉันและเขาจะรอคอยให้ฉันปิดเทอมเพื่อจะไปอยู่ด้วยกัน ก่อนไปทำงานเราก็จะทานข้าวหรือหาอะไรให้เขาทานก่อน เขาจะหอมแก้มซ้าย ขวา หน้าผาก และปาก ตลอด ก่อนจะออกไปทำงาน เวลาเที่ยงเราจะหุงข้าวรอ มาทำกับข้าวกัน หรือซื้อมาทานด้วยกัน เย็นๆ เราจำทำกับข้าวทานด้วยกันค่ะ มีความสุขมากๆเลย
-เราจะเป็นคนผลักดัน เสริมแรงบวกให้เขา เพื่อสอบติดข้าราชการให้ได้ ปีที่ 1 ปีที่ 2 และในที่สุดก็สอบติดเป็นข้าราชการค่ะ วันนั้นเขาประกาศรายชื่อ มีรายชื่อติดด้วย ฉันดีใจมากๆ ฉันร้องไห้เลยค่ะ กอดเขา เราทำสำเร็จแล้วๆ
-เมื่อวันที่เขาได้สวมชุดข้าราชการ ในใจฉันคิดตลอดเวลาว่า มันเป็นเครื่องแบบที่ล่อตาล่อใจของสาวๆแน่ๆ  ยิ่งเขาบอกเราตลอดว่า เขาหล่อ สาวๆอาจจะว้าวุ่นในความหล่อของเขาเลยสิทีนี้
-เขาได้กลับไปบรรจุเป็นข้าราชการที่ทำงานที่เดิมค่ะ และเวลาผ่านไป เขาทำเรื่องย้าย เพื่อจะกลับมาอยู่ใกล้ครอบครัว มาดูแม่ ยาย และมาดูแลครอบครัวของเรา
-ก่อนย้าย ก็จะมีคนกินเลี้ยงให้กันสำหรับคนที่เคยร่วมงานกันมา  ก็อาจจะมาจากนั้นจากนี้ #เราจะย้ำกับเขาเสมอว่ากินอย่างมีสตินะ  ก่อนหน้านี้เราจะตกลงกันว่าขอให้เขากินในบริเวณที่ทำงานนะ ไม่อยากให้ออกไปทานข้างนอก จะด้วยว่าต้องขับรถด้วย เขาจะรู้ตัวเขาตลอด แต่ครั้งนี้เขาขอออกไปทานข้างนอกที่ทำงาน เราก็ให้ไป เพราะมีรุ่นพี่จากที่ทำงานอื่นที่เคยทำงานด้วยกันมากินเลี้ยงส่งให้
•เหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ตรงนี้ละคะ พวกพี่ๆที่เคยร่วมงานกัน พาเขาไปร้านเหล้า ที่สระแก้ว  ก็น่าจะมีการดริ้งกัน อะไรกันตามประสาผู้ชาย เราก็ไว้ใจไงค่ะ ไม่โทรตาม ไม่จิก เพราะเราคิดว่า เขาน่าจะอยากอยู่กับพี่ๆที่เคยร่วมงานกันมา เพราะเขาจะได้ย้ายละ
แต่มันมาพีคที่ (จากปากเป้) สาวร้านเหล้า พ. มาขอแอดไลน์  เขาบอกตอนแรกไม่ให้นะ แต่โดนพี่ๆเขาบอกให้ๆไปเถอะ  สาว พ.เริ่มโทรหา และเริ่มคุยกันมาตลอด เป้บอกเหตุผลว่า เราชอบงอลเขา มันเลยเป็นรอยต่อของเขาและ พ.สาวร้านเหล้า
-เขาได้ย้ายมาอยู่ที่ลำปางไม่นาน ก็ได้ย้ายมา พะเยา ทำให้ต้องหาบ้านพักข้างนอกเพราะในที่ทำงานบ้านพักเต็ม (ที่นี่เข้าทางเลยเนอะ)
-เขาและ พ. สาวร้านเหล้า ติดต่อมาตลอด โดยที่เราก็ไม่ได้เอ๊ะใจเลย จนมาช่วงปิดเทอม 2/2566  ช่วงปิดเทอมเราไปอยู่กับเขาที่หอด้วยกัน เราเริ่มสังเกตพฤติกรรมเขา ไปทำงานเช้านะ เขาบอกไปสายไม่ได้ เพราะนายมาเช้า  เที่ยงก็ไม่ออกมาทานข้าวเหมือนเคย เขาบอกหออยู่ไกล (อ่อ‼) ตอนเย็นมาเลิกงานเวลา 18.00 ทุกวัน ทั้งๆที่ไม่มีโอที บอกพบนายบ้าง ต้องคุยงานต่อ และเวลาอยู่ด้วยกัน จะมีประโยคที่พูดเพื่อให้เรากลับบ้าน ไปอยู่บ้านเป็นเนื่องๆ เราก็เริ่มคิดละ เวลาโทรไปหาก็ติดสายตลอด ตัดสายบ้าง และก็ไม่รับบ้าง เขาบอกเพราะต่อแอฟเข้ากับโน๊ตบุ๊ค  เวลากลับบ้านทุกอาทิตย์จะกลับไปทำงานก็คือเช้าวันจันทร์ แต่นี่วันอาทิตย์ตอนเที่ยงก็กลับไปละ (น้อยใจสุดๆ) เราเริ่มรู้แล้วและพยายามถามเขาว่ามีคนอื่นไหม เขาบอกไม่มีๆ เขารักครอบครัว รักเรา ไม่มีหรอก
-จนวันที่ 3-5 พ.ย.66 เขาไม่กลับบ้าน เขาบอกว่าติดงาน แต่การรายงานของตัวเขาผิดแปลกไป เป็นว่า พ.สาวร้านเหล้า ขึ้นมาหาเขาที่พะเยา มาทานข้าวและน่าจะอะไรหลายๆอย่าง
-ในสัปดาห์นี้เราแชทคุยบอกเขาเรื่องที่เราสงสัย เขาบอกไม่มีอะไร เขารักเรา เขาไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทางหรอก
-วันที่ 10 พ.ย.66 เขากลับบ้านทุกอาทิตย์ การกลับมาอาทิตย์นี้พฤติกรรมเปลี่ยนไปมากสำหรับเรา ไม่ว่าจะนั่งหรือจะนอน จะต้องเอาขามาเกี่ยวกัน  เวลาเล่นเกมส์มือถือก็จะพยายามบังหน้าจอไม่ค่อยให้เราดู เวลานอนเป้จะให้เรานอนไหล่และกอดเราหลับทุกครั้ง แต่วันนี้กลับนอนหันหลัง น้อยใจนะ น้อยใจสุดๆ น้ำตาตกในเลย คำถามเกิดขึ้นในหัวเป็นร้อยๆคำถาม “ทำไม เกิดอะไรขึ้น”
-วันที่ 11 พ.ย.66 ตอนเช้า เราเช็คมือถือเขา (ที่เขาลบไม่หมดและคิดว่าเราไม่น่าสงสัย) คุณว่า เซ้นท์ของผู้หญิงมันแรงแค่ไหนละ หลักฐานต่างๆออกมาหมดเลยค่า  
-เรายื่นหลักฐานที่แคปไว้ให้เขาดูทั้งหมด เขาบอกแต่ว่า “ไม่มีอะไรๆ เขาต้องบอกลูกน้องไปแบบนั้น เพราะไม่งั้นเขาไม่ให้เรากลับ” เขายังไม่รู้ตัวอีก เราร้องไห้ทั้งวัน  เขาก็ทำเฉย ทำไม่รู้ไม่ชี้ จนเราหมดความอดทน ถาม “หย่า” จากที่นอนๆอยู่ตัวเด้งขึ้นอย่างเร็ว เราเลยเอาหลักฐานให้ดู เขาจึงยอมพูดความจริง ตอนนั้น ใจสลาย เจ็บเจียนตาย ไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะ ทั้งตบหน้าเขา ทุบตัวเขา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา มีแต่คำถามที่ว่า “ทำไมถึงทำแบบนั้น” เป็นร้อยๆครั้งที่ถามเขา  เราขอเขาให้ออกไปขอโทษแม่เราที่ทำกับเราแบบนี้ เขาออกไปพูดความจริงกับแม่และขอขมาแม่ของเรา  
-เราตัดสินใจ พอเถอะ เราขอเลิกละนะ  คุณไม่ทำตามข้อตกลงของเรา  เราอยากให้เพื่อนๆรู้ถึงสถานะของเรา ก็โพสต์ออกไป
-ตอนนั้นแค่ต้องการใครสักคนมาจับมือเรา และพาออกไปจากเหตุการณ์ตรงนั้น
-ครูแพร และครูโหน่งขับรถมา เรากอดครูแพร ร้องไห้  ครูแพรและครูโหน่งพูดให้สติเป้ ซึ่งเราก็มีแต่ร้องไห้ๆ
-เขาร้องไห้ และบอกว่าสำนึกแล้ว และยังไงก็จะไม่เลิกกับเรา เขาผิดไปแล้ว เขาแค่สนุก มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ เขาแค่พลาดไป เขาขอโอกาสได้ไหม เราไม่ตอบ นอนไม่หลับทั้งคืน
-12 พ.ย.66 เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตา และพูดแต่ประโยคเดิมๆ ขอโอกาสได้ไหม นะๆ ขอกราบเท้าขอโทษได้ไหม แต่ขอโอกาสนะ  จะไม่กลับไปทำอีกแล้ว ขอโอกาสครั้งสุดท้าย เราร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เขาซื้อพวงมาลัยมาขอขมาแม่เรา และไปไหว้พ่อเราที่เสียไปแล้ว สัญญา สาบาน จะไม่ทำอีกแล้ว
-เขาพาเราไปสาบานที่วัดที่เขานับถือ  เขาจับมือเราไปตลอดเส้นทาง เหมือนกลัวเราจะหนีเขาไป
-เขาทำทุกอย่าง (เราทำธุรกิจขายของออนไลน์ประกอบกับงานหลักที่ทำอยู่) ทั้งแพ็คสินค้า ไปเอาของ ไปช่วยทุกอย่าง  ทุกอย่างทำตัวบริสุทธิ์ใจ แลเวจะกลับมาเป็นเป้คนเดิมให้ได้ แม้ต้องใช้เวลานานสักเท่าไร ก็จะพยายามทำให้เรากลับมาเหมือนเดิม ทำให้เรายิ้มได้ และจะไม่ปล่อยมือเราไปอีก
#ตอนนี้ อ้อมขอขอบคุณทุกความห่วงใย ที่ส่งผ่านมาทุกช่องทางที่รักเราทั้งสองคนนะคะ
☂️วันนี้อ้อมยินดีที่จะให้โอกาสและให้อภัยเป้นะคะ แต่ก็นั่นละคะ โอกาสมีแค่ครั้งเดียว เป้จะสำนึกและทำตามสัจจะวาจาที่ให้ไว้ต่อเราและต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขานับถือไหม เขาจะทำให้เป็นจริงหรือแค่ลมปากก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขา
#มีคำถามมากมายที่ถามเป้ “ทำไมไม่สำนึกก่อนที่จะทำให้ครอบครัวเสียใจ” ตอนนี้เรากลับไปแก้ไขอดีตอะไรไม่ได้ละคะ มันจะเป็นตราบาปที่ติดตัวชีวิตเราสองคนตลอดไป
#เหล้ากินได้แต่กินแล้วต้องมีสติค่ะ
#โอกาสมีแค่ครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายจงพิสูจน์และกลับมาเป็นเป้คนเดิมให้ได้นะ แม้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
#ขอบคุณทุกๆกำลังใจอีกครั้งนะคะ อีกไม่นานอ้อมจะกลับมายิ้มและหัวเราะได้เหมือนเช่นเคย ช่วงนี้ต้องใช้เวลารักษาใจไปก่อนนะคะ🙏

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่