จาก Doctor Strange ถึง Loki ซีซั่น 2 >>เจาะลึกการข้ามเวลาทั้ง 3 แบบหลัก ของ MCU (by Filmaneo)

-
จุดเริ่มต้นของบทความ คือหลังเสพซีรีส์ Runaways จบ, ก็อารมณ์ค้าง จนลองสืบค้นว่า บอร์ดตปท.คิดเห็นอย่างไร กับมันบ้าง
แล้วสะดุดตาเพราะ บทวินิจฉัยเก่าเก็บ (ราว 4 ปีก่อน) ของผู้ใช้ reddit ที่มีนามแฝงว่า blackbutterfree
เขาชี้ให้เห็นว่า แม้ละครโทรภาพของ MCU (ยุคก่อน Disney+) นั้น, ใช้รูปแบบการข้ามเวลา ที่ไม่เหมือน Avengers: Endgame
แต่มันไม่เคย ขัดแย้งต่อ, องค์ประกอบอันผู้สร้าง เคยปูทางไว้ตั้งแต่ สมัยเรื่องนี้ถูกกล่าวถึงครั้งแรก (ใน Doctor Strange 1)

เพื่อท้าพิสูจน์ และลดความเสียดาย, จากการยอมก้มหัว ให้ช่องสตรีมมิ่งที่ขึ้นราคา
จึงพยายามไล่ดู ซีรีส์ยาวอีกเรื่อง ที่บทวินิจฉัยพาดพิงถึง (Agents of S.H.I.E.L.D.) ให้หมด, โดยหวังว่าจะทัน ก่อน Loki ซีซั่น 2 ฉาย
ลงท้ายผม ทำไม่สำเร็จ, แต่หลังเสร็จธุระกะ AoS เพียงนิดเดียว ก่อนได้ดู Loki S2 ตอนสุดท้าย
ก็รู้สึกว่าดีแล้วละที่ ดันผิดแผน, เนื่องจากตัวซีรีส์ เทพจอมเจ้าเล่ห์เอง 
มีเหตุการณ์หลายอย่าง ซึ่งควรจับมาตีแผ่, และเล่ารวม เป็นบทความเดียวกันอยู่

บทความนี้จึงจะแบ่งออก เป็น 2 ส่วน, ครึ่งแรกคือฉบับแปล (และปรับปรุง) จากของต้นทาง (reddit)
ครึ่งหลังคือการจัดระเบียบ ทฤษฎีเวลา ใน Loki ทั้ง 2 ซีซั่น
ที่ผมทำขึ้นเอง หลังเสพละคร, โดยลำเอียง เข้าข้างแนวคิด ของคุณ blackbutterfree เขา
-
-
-
ครึ่งแรก (สปอยล์ AoS, Endgame, Runaways, Doctor Strange)
-
คอนเทนท์มาร์เวล มีการข้ามเวลาทั่วไปอยู่ 3 แบบ (และสามารถพบได้ ตามสื่อบันเทิงอื่น):
อันได้แก่ ลิขิตฟ้า (destined time travel), จักรวาลทางเลือก (altered time travel) และสายธาร (fluid time travel)
ทั้งหมดเป็นคำที่ (ทั้งต้นทาง & ผู้แปล) เลือกเอง, อาจมีชื่อเรียกทางการ แต่ไม่รู้อ้ะ เอาตามนี้เถอะ
-
-
[1] ลิขิตฟ้า: ที่จะว่าไปมันคือ วังวนเวลา (Time loop) หรือไทม์ลูปขนาดใหญ่
อันมีจุด (A) กับจุด (B) ที่เหมือนหัวกะหาง ของออโรโบรอส (รูปวงกลมงูกินหาง)
และมีปมขบไม่แตก จำแนกไม่ออกว่า "ไก่กับไข่ อะไรเกิดก่อนกัน ?"

ลูปแรกจะรู้สึกว่า A มาก่อน B, แต่พอพินิจลูป 2-3 รอบ จะชักมึนว่า ผลหรือเหตุ (B หรือ A) มาก่อนฟะ
อีกทั้งต่อให้ คุณกระโดดสู่อนาคต หรือย้อนสู่อดีต
ก็มิต้องกลัวว่า, การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จะก่อความเสียหายรุนแรง เหมือนทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก (butterfly effect)
อย่างไรก็ตาม นั่นแปลว่า, หากอยากเลี่ยง ลิขิตฟ้า สุดเลวร้าย
ความยากในการเบี่ยงชะตา, ไม่ใช่แค่ระดับ ทำบุญสะเดาะเคราะห์ หรือลองอะไรมั่ว ๆ แล้วสัมฤทธิ์ผลแน่

เช่นที่ AoS ซีซั่น 5 [จุด A] ทีมชีลด์ตัวเอก, โดนส่งไปอนาคต (ค.ศ. 2091) พบว่าโลกแตก (ตามตัวอักษร)
ระหว่างติดแหงกแถวโน้น ฟิตซ์ & ซิมมอนส์ (อัจฉริยะประจำทีม 2 คน) ดิ้นรนหาทางย้อนสู่อดีต
ก่อนตระหนักว่าเครื่องจักร สำหรับเดินทางกลับนี่, พวกเขาเป็นผู้สร้าง
ซึ่งที่หลังจากนี้ จะสร้างมันเป็นเนี่ย, เพราะดันเห็นเครื่องจักร ฉบับผลิตสมบูรณ์แล้ว (ในอนาคต) นั่นแหละ

เมื่อคืนสู่เหย้า (อดีต) ทีมชีลด์ต้องหยุด ยอดมนุษย์ปริศนา (ไม่รู้ว่าไผ) ที่เป็นผู้ทำลายโลก
ถ้าหยุดไม่ทัน โลกจะแหลก แล้วกลายเป็นจุดตั้งต้น ของลูปใหม่ [จุด B]
เพราะเหตุผลที่พวกเขาต้อง ข้ามเวลาสู่อนาคต, และปูทางสู่การกลับอดีต ไม่มีหมดไป
ต้องเวียนซ้ำ ทำวัฏจักรนี้เรื่อยไป, ไร้ทางออก
 
-
[2] จักรวาลทางเลือก: การข้ามเวลาแบบ Endgame คือหลักการที่คอมมิค ใช้กลาดเกลื่อน
เมื่อเปลี่ยนอดีต/อนาคต จะเกิดไทม์ไลน์/เส้นเวลาใหม่ (จักรวาลใหม่) 
สิ่งที่เกิดในจักรวาลทางเลือก จะไม่ส่งผลกระทบ ต่ออีกจักรวาล (โดยตรง), ไม่ว่าทั้ง 2 จักรวาล เหตุการณ์ต่างปานไหน
เช่นการที่ กองทัพของธานอส (ที่ข้ามเวลา มาจากอดีต) โดนไอร์ออนแมนดีดนิ้ว (ขอพร) ลบทิ้ง
ก็มิใช่ทำให้ เหตุการณ์ใน Infinity War ไม่เคยเกิด, สำหรับเอิร์ธ-616 (เส้นเวลาหลัก/ศักดิ์สิทธิ์ของ MCU)

[3] สายธารเวลา: การข้ามเวลาพื้นฐาน ที่ปกติเราน่าจะนึกถึง เป็นอย่างแรก
คือเวลาเสมือน สายธาร 1 เส้น, เหตุทำให้เกิดผล เหมือนสายน้ำที่ ไม่ไหลย้อนกลับ
แค่ย้อนอดีต เปลี่ยนเหตุการณ์ แล้วอนาคตย่อมแตกต่าง
หรือมุ่งสู่อนาคต เรียนรู้ว่าต้อง เปลี่ยนอดีต (อย่างถูกต้อง) ยังไง, แล้วย้อนกลับไปทำซะ
จัดว่าคือการข้ามเวลา "ของแท้" แต่หายาก สำหรับคอมมิค

Runaways ซีซั่น 3 ช่วงท้าย, แก๊งตัวเอกรายนึง โดนตัวร้ายฆ่าตาย
นายอัจฉริยะ (เชส สไตน์) จึงหมกมุ่นกับการ ผลิตไทม์แมชชีน
เขาทำได้แถวปี 2028, แล้วย้อนไปช่วยเป้าหมาย ณ ค.ศ. 2018
แม้ทราบดีว่า หากภารกิจบรรลุ, ตัวเองคนที่สร้างไทม์แมชชีน จะเลือนหาย ถูกลบทิ้งไปจากประวัติศาสตร์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่