ถามความคิดเห็นหน่อย เรื่องนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี
ส่วนตัวเราย้ายมาอยู่ต่างประเทศได้หลายปีแล้วเพราะแต่งงานกับคนต่างชาติ ทีนี้ที่เมืองไทยเรามีรถของเราเองอยู่ 1 คัน ที่เอาไว้ให้พ่อแม่ใช้ หรือให้น้องชายพาแม่ไปหาหมอเวลาป่วยหรือหมอนัด รถของเราผ่อนหมดพอดี ก่อนที่จะย้ายไปต่างประเทศ แต่เราก้อยังเป็นคนจ่ายค่าทะเบียน/ เช็คสภาพรถ / ซื้อประกัน พรบ ทุกๆปี
ปรกติพ่อเราก้อไม่ขับอยุ่แล้ว ทีนี้น้องชายกับภรรยาเลยแอบเอามาใช้ทุกวัน จากแรกๆ เดือนนึงใช้ไม่กี่ครั้ง (ไม่เคยขออนุญาติ หรือ ไลน์บอกเราสักคำด้วย) จนปัจจุบัน วันนึงขับออกไปข้างนอก 5-6 ครั้ง นิสัยก้อเหมือนเดิม ไม่ขอบอกเราสักคำ บางครั้งก้อขับไปต่างจังหวัดไกลๆด้วยซ้ำไป
พ่อแม่ก็ไม่ค่อยอยากจะบอกเรา เพราะมีครั้งนึงแม่เราหลุดปากพูดออกมา เราก้อไม่พอใจอย่างมาก พ่อเราเลยไม่ค่อยอยากจะบอกเรา
เราเองก้อยังคงเป็นคนจ่ายค่าต่างๆอยุ่ทุกปี แถมล่าสุด เปลี่ยนยาง 4 ล้อใหม่ด้วย เพราะกลัวว่าถ้าพ่อแม่นั่งอยุ่ในรถ แล้วฝนตกถนนลื่น กลัวพวกเขาจะเกิดอุบัติเหตุ คือทุกๆอย่าง ทุกๆเหตุผล ทำเพื่อพ่อแม่หมดเลย
แล้วพฤติกรรมของน้องชายและภรรยาก้อยังคงเหมือนเดิม จนเมื่อปีที่แล้ว เราก้อพุดกับน้องชายกับภรรยาของเขาว่า ถ้าจะใช้รถก้อไม่ว่า ไปตลาด ไปใกล้ๆ ได้ เพราะรถวันก้อต้องใช้บ้าง แต่ต้องรักษา ดูแล เพราะเรากลับมาบ้านทีไร จะขับรถไปข้างนอก ในรถของเรามันสกปรกมาก มีทิชชู่ที่ใช้แล้ว ขวดนม กล่อง ถุงพลาสติก อยุ่ตามซอกรถ อยู่บนเบาะนั่งด้านหลัง เบาะที่นั่งก้อเปื้อนคราบสารพัด พวกเขาก้อทำเป็นเงียบๆ รับฟังไปงั้นๆมั้ง เพราะไม่เห็นตอบอะไร
แต่แล้วจนทุกวันนี้ พฤติกรรมแบบนี้ก้อยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะหนักกว่าเดิม เพราะรถมีรอยขีดข่วน ท้ายรถมีรอยยุบ เพราะมีคนชนท้าย ที่ไม่ยอมบอกเรา จนน้องชายอีกคนมาบอกว่ารถเราท้ายยุบเราถึงจะรู้ พอเราถามไปก้อบอกว่า คนที่ชนรับผิดชอบแต่ยังไม่ว่างเอาไปเคลม.
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี เราพยายามเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ ข่มมันเอาไว้ พยายามคิดในแง่บวกให้มาก ว่ารถมันต้องใช้ จอดไว้เฉยๆ มันก้อเสียได้ ถ้าเอาไปขายก้อเหลือไม่กี่แสน แต่เวลาเราเห็นสภาพรถของเราแล้ว เรารู้สึกแย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งสกปรก ทั้งโทรม เราแค่อยากจะได้ความเคารพและมารยาทในการขอรถไปใช้บ้าง เพราะเราเคยได้ยินเคสเยอะแยะที่ให้คนอื่นเอารถไปใช้ แล้วเจอเรื่องต่างๆนานา แล้วเจ้าของรถที่ไม่รุ้เรื่องอะไรต้องมารับกรรมเอง
เราเคยพุดกับพ่อแม่ว่า เราเครียดมากเรื่องรถ แม่เราก้อไม่อยากให้เราขายรถ เพราะแม่เราบอกว่าเขาจะเอาไว้ใช้ตอนเขาต้องไปหาหมอ ถ้าขายรถเราไป เวลาพ่อแม่จะไปไหน ก้อไม่มีรถใช้ เพราะรถน้องชายเป็นกระบะ แม่เราก้อขึ้นรถสูงๆ ไม่ได้ แต่รถเราเป็นรถเก๋ง แม่เราก้าวขาก้อนั่งได้เลยได้
แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับรถของเรา เราก้อจะเครียดตลอด แล้วขายก้อไม่ได้อีก ไม่รุ้จะแก้ไขยังไง
แฟนเราก้อบอกว่า ให้ขาย แล้วเวลาแม่จะไปหาหมอ ก้อจ้างรถเอา แต่บ้านพ่อแม่เราเขาอยุ่ต่างจังหวัด ถ้าต้องจ้างคนอื่นมันยากมาก และถ้าถึงขนาดต้องจ้างคนอื่น แล้วลูกชายทั้งคนที่อยู่ด้วยกัน จะอยู่กับพ่อแม่ไปทำไม???
พ่อแม่คือบุคคลที่ลูกทุกคนต้องดูแลเวลาที่เขาแก่แล้ว ไม่ใช่จะเอามาอ้างว่า ก้อพี่สาวไม่อยุ่ แล้วน้องมาดูแลแทน รถของพี่สาวก้อต้องให้น้องใช้เป็นการตอบแทน อะไรทำนองนี้ คือพอเราฟังแล้วเราทั้งโกรธ ทั้งเศร้ามาก
ปล.ที่เล่ามาคือน้องชายคนกลางและภรรยาที่เอารถเราไปใช้ มีรถกระบะ และอยุ่บ้านกับพ่อแม่ ส่วนมีน้องชายคนเล็กอีกคน ไม่ได้อยุ่ด้วยกันพ่อแม่ มีรถเก๋งแต่ไม่ได้อยุ่บ้านกับพ่อแม่
เราย้ายมาอยู่ต่างประเทศแล้วน้องชายกับภรรยาเอารถเรามาขับทุกวัน
ส่วนตัวเราย้ายมาอยู่ต่างประเทศได้หลายปีแล้วเพราะแต่งงานกับคนต่างชาติ ทีนี้ที่เมืองไทยเรามีรถของเราเองอยู่ 1 คัน ที่เอาไว้ให้พ่อแม่ใช้ หรือให้น้องชายพาแม่ไปหาหมอเวลาป่วยหรือหมอนัด รถของเราผ่อนหมดพอดี ก่อนที่จะย้ายไปต่างประเทศ แต่เราก้อยังเป็นคนจ่ายค่าทะเบียน/ เช็คสภาพรถ / ซื้อประกัน พรบ ทุกๆปี
ปรกติพ่อเราก้อไม่ขับอยุ่แล้ว ทีนี้น้องชายกับภรรยาเลยแอบเอามาใช้ทุกวัน จากแรกๆ เดือนนึงใช้ไม่กี่ครั้ง (ไม่เคยขออนุญาติ หรือ ไลน์บอกเราสักคำด้วย) จนปัจจุบัน วันนึงขับออกไปข้างนอก 5-6 ครั้ง นิสัยก้อเหมือนเดิม ไม่ขอบอกเราสักคำ บางครั้งก้อขับไปต่างจังหวัดไกลๆด้วยซ้ำไป
พ่อแม่ก็ไม่ค่อยอยากจะบอกเรา เพราะมีครั้งนึงแม่เราหลุดปากพูดออกมา เราก้อไม่พอใจอย่างมาก พ่อเราเลยไม่ค่อยอยากจะบอกเรา
เราเองก้อยังคงเป็นคนจ่ายค่าต่างๆอยุ่ทุกปี แถมล่าสุด เปลี่ยนยาง 4 ล้อใหม่ด้วย เพราะกลัวว่าถ้าพ่อแม่นั่งอยุ่ในรถ แล้วฝนตกถนนลื่น กลัวพวกเขาจะเกิดอุบัติเหตุ คือทุกๆอย่าง ทุกๆเหตุผล ทำเพื่อพ่อแม่หมดเลย
แล้วพฤติกรรมของน้องชายและภรรยาก้อยังคงเหมือนเดิม จนเมื่อปีที่แล้ว เราก้อพุดกับน้องชายกับภรรยาของเขาว่า ถ้าจะใช้รถก้อไม่ว่า ไปตลาด ไปใกล้ๆ ได้ เพราะรถวันก้อต้องใช้บ้าง แต่ต้องรักษา ดูแล เพราะเรากลับมาบ้านทีไร จะขับรถไปข้างนอก ในรถของเรามันสกปรกมาก มีทิชชู่ที่ใช้แล้ว ขวดนม กล่อง ถุงพลาสติก อยุ่ตามซอกรถ อยู่บนเบาะนั่งด้านหลัง เบาะที่นั่งก้อเปื้อนคราบสารพัด พวกเขาก้อทำเป็นเงียบๆ รับฟังไปงั้นๆมั้ง เพราะไม่เห็นตอบอะไร
แต่แล้วจนทุกวันนี้ พฤติกรรมแบบนี้ก้อยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะหนักกว่าเดิม เพราะรถมีรอยขีดข่วน ท้ายรถมีรอยยุบ เพราะมีคนชนท้าย ที่ไม่ยอมบอกเรา จนน้องชายอีกคนมาบอกว่ารถเราท้ายยุบเราถึงจะรู้ พอเราถามไปก้อบอกว่า คนที่ชนรับผิดชอบแต่ยังไม่ว่างเอาไปเคลม.
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี เราพยายามเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ ข่มมันเอาไว้ พยายามคิดในแง่บวกให้มาก ว่ารถมันต้องใช้ จอดไว้เฉยๆ มันก้อเสียได้ ถ้าเอาไปขายก้อเหลือไม่กี่แสน แต่เวลาเราเห็นสภาพรถของเราแล้ว เรารู้สึกแย่มากๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั้งสกปรก ทั้งโทรม เราแค่อยากจะได้ความเคารพและมารยาทในการขอรถไปใช้บ้าง เพราะเราเคยได้ยินเคสเยอะแยะที่ให้คนอื่นเอารถไปใช้ แล้วเจอเรื่องต่างๆนานา แล้วเจ้าของรถที่ไม่รุ้เรื่องอะไรต้องมารับกรรมเอง
เราเคยพุดกับพ่อแม่ว่า เราเครียดมากเรื่องรถ แม่เราก้อไม่อยากให้เราขายรถ เพราะแม่เราบอกว่าเขาจะเอาไว้ใช้ตอนเขาต้องไปหาหมอ ถ้าขายรถเราไป เวลาพ่อแม่จะไปไหน ก้อไม่มีรถใช้ เพราะรถน้องชายเป็นกระบะ แม่เราก้อขึ้นรถสูงๆ ไม่ได้ แต่รถเราเป็นรถเก๋ง แม่เราก้าวขาก้อนั่งได้เลยได้
แต่ทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับรถของเรา เราก้อจะเครียดตลอด แล้วขายก้อไม่ได้อีก ไม่รุ้จะแก้ไขยังไง
แฟนเราก้อบอกว่า ให้ขาย แล้วเวลาแม่จะไปหาหมอ ก้อจ้างรถเอา แต่บ้านพ่อแม่เราเขาอยุ่ต่างจังหวัด ถ้าต้องจ้างคนอื่นมันยากมาก และถ้าถึงขนาดต้องจ้างคนอื่น แล้วลูกชายทั้งคนที่อยู่ด้วยกัน จะอยู่กับพ่อแม่ไปทำไม???
พ่อแม่คือบุคคลที่ลูกทุกคนต้องดูแลเวลาที่เขาแก่แล้ว ไม่ใช่จะเอามาอ้างว่า ก้อพี่สาวไม่อยุ่ แล้วน้องมาดูแลแทน รถของพี่สาวก้อต้องให้น้องใช้เป็นการตอบแทน อะไรทำนองนี้ คือพอเราฟังแล้วเราทั้งโกรธ ทั้งเศร้ามาก
ปล.ที่เล่ามาคือน้องชายคนกลางและภรรยาที่เอารถเราไปใช้ มีรถกระบะ และอยุ่บ้านกับพ่อแม่ ส่วนมีน้องชายคนเล็กอีกคน ไม่ได้อยุ่ด้วยกันพ่อแม่ มีรถเก๋งแต่ไม่ได้อยุ่บ้านกับพ่อแม่