JJNY : คาดหลายปั๊มน้ำมันหมด│ก้าวไกลไม่ได้ก้าวหน้า แต่การเมืองไทยอนุรักษ์│ก้าวไกล จี้กสทช.│ดัชนีผู้บริโภคจีน ต.ค.ลดลง

คาดหลายปั๊มน้ำมันหมดถึง 10 พ.ย. ปชช.แห่เติม ขนส่งไม่ทัน-ผู้ค้าไม่สต็อกล่วงหน้าเลี่ยงขาดทุน
https://www.matichon.co.th/economy/news_4274306
 
 
คาดหลายปั๊มน้ำมันหมดถึง 10 พ.ย. ปชช.แห่เติม ขนส่งไม่ทัน-ผู้ค้าไม่สต็อกล่วงหน้าเลี่ยงขาดทุน
 
รายงานข่าวแจ้ง ว่า จากการสอบถามสถานีบริการน้ำมันหลายแห่ง ได้รับการยืนยัน ว่า ปั๊มไม่ได้กักตุนน้ำมัน สาเหตุที่น้ำมันหมด เพราะปั๊มลดสต๊อกน้ำมันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เพื่อขายราคาเดิมให้หมดวันที่ 6 พฤศจิกายน ป้องกันการขาดทุน หลังจากนั้นวันที่ 7 พฤศจิกายน จึงสั่งน้ำมันในราคาใหม่ที่ลดแล้วมาจำหน่าย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์มีน้อย หรือหมด เพราะ
 
1.ทุกปั้มต้องการลดสต๊อกของปั้มตนเองเพื่อให้เหลือน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลไม่ได้ขดเชยส่วนต่างที่ปรับลงอย่างรุนแรงให้
 
2.เมื่อมีการปรับลดสต๊อกลง บางปั้มคำนวนผิดพลาด ทำให้ปั้มข้างเคียงขายมากกว่าปกติ สุดท้ายน้ำมันจึงหมดตามกันไปทุกปั้ม
 
3.ไม่คุ้มค่าขนส่งที่ต้องจ้างรถขนส่งน้ำมันวิ่งมาส่งน้ำมันมาเพียง 3,000 ลิตร โดยต้องจ้างเป็นคัน 18,000 ลิตรจึงจะคุ้มค่าขนส่ง จึงปล่อยให้น้ำมันหมด เพื่อรอซื้อเพิ่มเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน
 
ทั้งนี้ คาดว่าวันที่ 9 พฤศจิกายน บางปั๊มน้ำมันอาจยังไม่มีน้ำมันจำหน่าย เพราะ
 
1.ไม่มีรถขนส่งน้ำมันเป็นของตนเอง ต้องว่าจ้างรถขนส่ง และต้องรอคิวรถจ้างวิ่งที่มีคิวยาวทั่วประเทศที่สั่งน้ำมันพร้อมกันทั้งประเทศ เท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้คิวยาวไปถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน
 
2.ความสามารถในการโหลดน้ำมันแต่ละคลังแตกต่างกัน ได้วันละไม่มาก ตามจำนวนปกติจะโหลดได้ทันเพียงพอ แต่มาพร้อมกันทุกปั้มต้องใช้เวลาในการโหลด 2-3 วัน จึงจะหมดคิวรถ
 
3.คลังมีสต๊อกจำกัดเมื่อโหลดต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืน ในสต๊อกก็หมดคลังเช่นกัน ต้องรอเรือเทียบท่าลงก่อนจึงจะจ่ายน้ำมันได้ต่อ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวนี้ หากเรือไม่เข้า หรือคลังไม่ได้คำนวนน้ำมันเผื่อก็อาจจะหมด 3-5 วันได้
 
นอกจากนี้ผลจากราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลดราคาวันนี้อีก 60 สตางค์ต่อลิตร จะยิ่งทำให้ประชาชนแห่เติมมากขึ้น
 


สัมภาษณ์ “สส.แบงค์ ศุภณัฐ- สส.ภัสริน” – ก้าวไกลไม่ได้ก้าวหน้า แต่การเมืองไทยอนุรักษ์
https://www.matichon.co.th/matichon-tv/news_4273683
 
The Politics ชวน 2 สส.สมัยแรกของก้าวไกล แบงค์ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.บางเขน, จตุจักร, หลักสี่ กรุงเทพ และ กานต์ ภัสริน รามวงศ์  สส.บางซื่อ ดุสิต (แขวงถนนนครไชยศรี) กรุงเทพ มาพูดคุยในฐานะ สส.สมัยแรก กับการทำงานในสภา และมุมมองต่าง ๆ ต่อพรรคก้าวไกล

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ก้าวไกล ขอให้จับตา ชี้ชะตา ควบรวมเน็ตบ้าน "AIS-3BB" จี้ กสทช.ทำหน้าที่
https://www.thairath.co.th/news/politic/2739326

จับตา ประชุม กสทช.10 พ.ย.ชี้ชะตา คำขอควบรวมเน็ตบ้าน AIS-3BB “รองโฆษกก้าวไกล” จี้ กสทช.ทำหน้าที่ปกป้องประโยชน์ประชาชน อย่าปล่อยให้เกิดการผูกขาดบทใหม่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
 
วันที่ 9 พ.ย. 2566 น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาคำขอควบรวมกิจการอินเทอร์เน็ตบ้าน ระหว่าง AIS และ 3BB ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) ว่า การประชุมนัดนี้มีความสำคัญมากในการพิจารณาชี้ชะตาว่า คำขอควบรวมกิจการอินเทอร์เน็ตบ้านระหว่าง AIS และ 3BB จะทำได้หรือไม่
 
น.ส.ภคมน ระบุต่อว่า จะเกิดอะไรขึ้นหาก กสทช.ปล่อยให้มีการควบรวมอินเทอร์เน็ตบ้าน ระหว่าง AIS และ 3BB ข้อแรก ตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านที่ปัจจุบันมีผู้เล่น 4 ราย ได้แก่ True, 3BB, NT (TOT เดิม) และ AIS จะเหลือผู้เล่นเพียง 3 ราย โดย AIS+3BB จะกลายเป็นรายใหญ่สุด ข้อสอง รวมส่วนแบ่งตลาด AIS (หลังควบรวม) และ True จะคิดเป็นประมาณ 80% หรือพูดง่ายๆ ตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านจะกลายเป็นถูกกินรวบโดย 2 เจ้าใหญ่ เหมือนกับตลาดค่ายมือถือ และข้อสาม บทเรียนจากการอนุมัติให้มีการควบรวมค่ายมือถือระหว่าง True-DTAC แสดงให้เราเห็นแล้วว่ายิ่งปล่อยให้เศรษฐกิจมีการผูกขาดอย่างเสรีเท่าไร ราคาที่ประชาชนต้องใช้บริการยิ่งแพงขึ้น สวนทางกับคุณภาพการให้บริการที่ลดต่ำลง
 
รองโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ในฐานะประชาชนคนหนึ่งขอเรียกร้องให้ กสทช.ทำตามหน้าที่ของตนเองในการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน  กสทช. มีอำนาจเต็มในการพิจารณา “ไม่เห็นชอบ” ให้มีการควบรวมครั้งนี้ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มาตรา 27 ข้อ 6 ระบุว่า กสทช.ต้องกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่ดี รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม และข้อ 11 ระบุว่าจะต้องกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาด หรือก่อความไม่เป็นธรรมในการแข่งขัน
การประเมินผลกระทบจากการซื้อกิจการเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนสูง เพราะเป็นธุรกิจประเภทโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการเม็ดเงินลงทุนสูง มีลักษณะการผูกขาดตามธรรมชาติ และยังมีความซับซ้อนจากปัจจัยด้านเทคโนโลยี จึงอาจมีประเด็นหลากหลายให้ กสทช.ต้องพิจารณาถ่วงน้ำหนัก แต่ กสทช.ต้องพึงระลึกว่าการตัดสินใจนั้นควรคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักตามหน้าที่ของตน
 
อย่าปล่อยให้ซ้ำรอยกับกรณีการควบรวม True-DTAC เลย ที่สุดท้ายเงื่อนไขที่ว่าจะลดค่าบริการ-เพิ่มคุณภาพให้ประชาชน ยังทำไม่ได้สักเรื่อง” น.ส.ภคมน กล่าว.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่