หมูย่าง พริกไทย และข้าวเบายอดม่วง สินค้า GI น้องใหม่ล่าสุดของชาวตรัง

ตอนนี้ตรังเพิ่งได้รับข่าวดีเรื่องสินค้า  GI น้องใหม่ล่าสุดนั่นคือ “ข้าวเบายอดม่วงตรัง  ในฐานะคนตรัง เรามาแนะนำสินค้า ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI)  กันค่ะ

GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจากแหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนเป็นแบรนด์ของท้องถิ่นที่บ่งบอกถึงคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย คือ ตราของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ออกให้แก่ผู้ผลิตสินค้าเพื่อรับรองว่าเป็นสินค้าที่มาจากแหล่งภูมิศาสตร์ที่ได้รับขึ้นทะเบียนไว้โดยต้องปฏิบัติตามคู่มือและแผนการควบคุมนั้นแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจากกรมทรัพสินทางปัญญาค่ะ

สำหรับจังหวัดตรัง ล่าสุดเราได้รับการขึ้นทะเบียน 3 อย่าง

1.หมูย่าง ขึ้นทะเบียนกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2548 ต่อมาในปี 2564 มีผู้ผลิตและผู้ประกอบการหมูย่างที่ได้รับมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย สินค้า "หมูย่างเมืองตรัง" จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ สามารถใช้ตราสัญลักษณ์ GI ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 (โดยมีอายุการใช้ตรา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต) จำนวน 21 ร้าน



หมูย่างเมืองตรัง หมายถึง หมูย่างที่ผลิตในพื้นที่จังหวัดตรัง ด้วยกรรมวิธีพิเศษตามภูมิปัญญาของคนเมืองตรัง แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ หมูย่างเมืองตรังที่ทำจากหมูขี้พร้า (หมูพันธุ์เล็ก) และหมูย่างเมืองตรังที่ทำจากหมูพันธุ์ทั่วไป โดยมีลักษณะทางกายภาพ หนังกรอบ สีเหลืองทอง เนื้อหอมนุ่ม รสชาติอร่อย กลมกล่อม แต่ถ้าทำจากหมูขี้พร้าจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มขึ้น คือ เนื้อมันน้อย (ข้อมูลจากเพจกรมส่งเสริมวัฒนธรรม)




มาตรังต้องหมูย่าง 


หมูย่างตรังแท้ ต้องไม่มีน้ำจิ้มค่ะ



2. พริกไทยตรัง(TRANG PEPPER)  ขึ้นทะเบียนกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อ 29 ตุลาคม 2563  ซึ่งเป็นสินค้ามีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ทั้งในแง่ของคุณภาพ รสชาติ และลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากพริกไทยในพื้นที่อื่น โดยพริกไทยตรังนั้น ผลิตจากพริกไทยพันธุ์พื้นเมือง (ปะเหลียน) มีรสชาติเผ็ดร้อน กลิ่นฉุนเป็นเอกลักษณ์ ปลูกและแปรรูปในจังหวัดตรัง 

เคยรู้หรือไม่ว่าในอดีตในตัวเมืองตรังมีการปลูกพริกไทยในหลายพื้นที่ ? ทั้งบางรัก ทับเที่ยง ท่าจีน....
.
จดหมายระยะทางไปตรวจราชการแหลมมลายู รศ. ๑๒๑ (พ.ศ. ๒๔๔๕) พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ เมื่อวันอังคาร ๒๘ พ.ค. ๑๒๑ ตอนหนึ่งเล่าว่า “ถึงบ้านบางรัก เข้าแขวงอำเภอบางรัก ที่แล้วมาเปนแขวงอำเภอเมือง มีบ้านแลสวนสองฟาก นาอยู่ที่ต่ำข้างขวามือ มีหมากเปนพื้น มพร้าว พริกไทยต้นผลไม้อื่นมีบ้าง”
บันทึกของเอ็ดน่า บรูเนอร์ บัลค์ลีย์ ในหนังสือ สยามคือบ้านของเรา ย่อหน้าที่ ๑ หน้า ๒๖๖ “พริกไทยของจังหวัดตรังเคยเป็นสินค้าที่ทำให้ภูมิภาคนี้รู้จักไปทั่วโลก แต่เมื่อตลาดซบเซาลง เกษตรกรก็ปล่อยให้พืชผลแห้งตายไปอย่างน่าเสียดาย ท่านสมุหเทศาภิบาลมณฑลผู้ดูแลหกจังหวัดภาคใต้ได้ยกที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเป็นไร่พริกไทยที่ถูกทิ้งร้างให้แก่คณะมิชชันนารีเพรสไบทีเรียนของเรา” (ปัจจุบันคือ ปศุสัตว์จังหวัด) ตามบันทึกประมาณ คศ . ๑๙๐๙ – ๑๙๑๑ หรือ พ.ศ. ๒๔๔๕
นอกจากนี้ยังมีเอกสารอ้างอิงในอีกหลายฉบับที่พูดถึงพริกไทยตรัง



พริกไทยตรังในปัจจุบัน ปลูกหลายสายพันธุ์ ที่โดดเด่นคือ ยอดแดงและยอดม่วง เท่าที่ไปพื้นที่ปลูกพริกไทยต้นเก่าแก่ดั้งเดิมเราจะเจอยอดแดงมาก สำหรับความต่างคือ ยอดแดงใบที่ติดลำต้นจะมีลักษณะเป็นใบโพธิ์ ส่วนที่ออกจากกิ่งข้างจะรี การออกออกดอกจะออกจากกิ่งข้างเท่านั้น ส่วนสีแดงสังเกตที่ยอดจะเป็นสีแดง ส่วนรสชาติจะมีกลิ่นหอม เผ็ดร้อน ส่วนยอดม่วงใบจะรียาวกว่าปลายใบแหลม ยอดสีม่วงยาวจนถึงชุดใบที่สาม ใบจะหยาบไม่มีลาย รสชาติจะเผ็ดจัด กลิ่นหอมน้อยกว่า เมล็ดใหญ่
การปลูกพริกไทยตรัง ยอดแดง หรือ พันธุ์ปะเหลียน มีสองแบบ ๆ ลำต้น จะให้ผลผลิตระหว่าง 8 – 12 เดือนและแบบไหล ให้ผลผลิต 2 – 3 ปี



เราเคยไปดูมาด้วย สวนที่วังวิเศษ


ผลผลิต



หอมมาก ใส่นิดเดียวก็หอม




และ น้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งประกาศสินค้า GI “ข้าวเบายอดม่วงตรัง” สินค้ารายการที่ 3 ของจังหวัดตรัง 
ทะเบียนเลขที่ สช 66100212 ประกาศ ณ วันที่ 3 ต.ค.2566 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ยื่นคำขอขึ้นทะเบียน 14 ก.ย.2565 

ข้าวเบายอดม่วงตรัง   (Bao Yod Muang Trang Rice) เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมืองประจำถิ่นที่คนตรังรู้จักกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน มีการเก็บรักษาสายพันธุ์ข้าวมากว่า 100 ปี มีลักษณะเด่น คือ ในหนึ่งกอข้าวเปลือกจะมีหลายสี แรกเริ่มสีเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดง และเมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวจะมีสีม่วงคล้ายสียอดมะม่วง จึงเป็นที่มาของชื่อข้าวเบายอดม่วงตรัง 

มีทั้ง ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และข้าวขัดขาว  ข้าวกล้องมีเยื่อหุ้มเมล็ด 2 สี คือสีแดงและสีขาวขุ่นคล้ายสีข้าวเหนียว เป็นข้าวเพื่อสุขภาพ เมล็ดสีแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระ คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูง น้ำตาลน้อย และอุดมด้วยสารไนอาซีน(B3) กรดฟินอริค และฟลาโวนอยด์ เหมาะสำหรับกลุ่มเสี่ยงป่วยเบาหวาน ไขมัน หลอดเลือดหัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็ง  เมล็ดสีขาวให้ความนุ่มเมื่อหุงสุกแล้ว เมล็ดข้าวมันวาว เหนียวนุ่มไม่กรุบหรือกระด้าง ปลูกและผลิตในเขตพื้นที่จังหวัดตรัง เมื่อหุงแล้วมีเหนียวนุ่ม ไม่กรุบหรือกระด้าง เคี้ยวง่าย ไม่ฝืดคอ

ข้อมูลไทยพีบีเอส มาเรียบเรียงเพิ่ม




ในถุงแบบนี้ค่ะ



อร่อย หุงออกมาหน้าตาแบบนี้



ทั้งสามอย่างเป็นความภูมิใจของชาวตรัง ที่นำมาเสนอ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่