1. แอปป๋า โดย เจ เวนเจอร์ส ให้บริการสินเชื่อเงินสด โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักล้านบาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่สั้น ๆ เพียง 62 วัน ไปจนถึงยาว ๆ 72 เดือน เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็สามารถใช้บริการแอปป๋าได้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อป๋า โดยมีตั้งแต่ 5% ไปจนถึง 28% ต่อปี
2. แอป MoneyThunder โดย อบาคัส ดิจิทัล ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ไปจนถึง 300,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ก็สามารถใช้บริการแอป MoneyThunder ได้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยไม่เกิน 33% ต่อปี
3. แอป Finix โดยบริษัทมันนิกซ์ ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เงื่อนไขคือมีรายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยมีตั้งแต่ 15% ไปจนถึง 24% ต่อปี
4. แอป Krungthai NEXT ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ก็สามารถสมัครสินเชื่อได้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยมีตั้งแต่ 18% ขึ้นไป ไปจนถึง 24% ต่อปี
5. Line BK ในแอป Line จุดเด่นคือ ระยะเวลาผ่อนจ่ายสูงสุด 60 เดือน รายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ต่อเดือน และใช้เพียง Statement สำหรับยื่นขอสินเชื่อเท่านั้น ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน โดยมีวงเงินกู้ ไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี อนุมัติภายใน 1-3 วันทำการ
6. True Pay Next เงินติดมือ ในแอป True Money เป็นบริการสำหรับลูกค้าทรูรายเดือนสามารถกู้ยืมเงินมาใช้ได้ในทันที ทั้งนี้การชำระคืนก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นการผ่อนชำระหรือจ่ายเต็มจำนวน แต่ในกรณีของการชำระเต็มจำนวน จะไม่มีการเก็บดอกเบี้ยใด ๆ โดยมีวงเงินกู้ ไม่เกิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย กรณีผ่อนชำระ 25% อนุมัติภายใน 5 นาที สำหรับระยะเวลาผ่อนจ่ายสูงสุดคือ 24 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีแอปเงินกู้ที่ถูกกฎหมายอีกหลายเจ้า ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยแอปเงินกู้ที่ถูกกฎหมายจะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และมีการกำกับดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้บริการได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด
แนะนำแอปเงินกู้ถูกกฎหมายยอดนิยมปี 2566
2. แอป MoneyThunder โดย อบาคัส ดิจิทัล ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ไปจนถึง 300,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ก็สามารถใช้บริการแอป MoneyThunder ได้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยไม่เกิน 33% ต่อปี
3. แอป Finix โดยบริษัทมันนิกซ์ ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เงื่อนไขคือมีรายได้ขั้นต่ำ 7,500 บาท สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยมีตั้งแต่ 15% ไปจนถึง 24% ต่อปี
4. แอป Krungthai NEXT ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ต้องมีหลักประกัน โดยให้วงเงินตั้งแต่ 5,000 บาท ไปจนถึง 500,000 บาท โดยระยะเวลาในการกู้มีตั้งแต่ 6 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ก็สามารถสมัครสินเชื่อได้ สำหรับอัตราดอกเบี้ยก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อ โดยมีตั้งแต่ 18% ขึ้นไป ไปจนถึง 24% ต่อปี
5. Line BK ในแอป Line จุดเด่นคือ ระยะเวลาผ่อนจ่ายสูงสุด 60 เดือน รายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ต่อเดือน และใช้เพียง Statement สำหรับยื่นขอสินเชื่อเท่านั้น ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน โดยมีวงเงินกู้ ไม่เกิน 50,000 บาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 33% ต่อปี อนุมัติภายใน 1-3 วันทำการ
6. True Pay Next เงินติดมือ ในแอป True Money เป็นบริการสำหรับลูกค้าทรูรายเดือนสามารถกู้ยืมเงินมาใช้ได้ในทันที ทั้งนี้การชำระคืนก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นการผ่อนชำระหรือจ่ายเต็มจำนวน แต่ในกรณีของการชำระเต็มจำนวน จะไม่มีการเก็บดอกเบี้ยใด ๆ โดยมีวงเงินกู้ ไม่เกิน 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย กรณีผ่อนชำระ 25% อนุมัติภายใน 5 นาที สำหรับระยะเวลาผ่อนจ่ายสูงสุดคือ 24 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีแอปเงินกู้ที่ถูกกฎหมายอีกหลายเจ้า ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยแอปเงินกู้ที่ถูกกฎหมายจะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และมีการกำกับดูแลจากธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้บริการได้อย่างปลอดภัยและได้รับประโยชน์สูงสุด