*อาภัพรักคนนอก
คิดว่าเป็นคนอาภัพรักค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้มองตัวเองแบบนั้น แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันเก็บสะสมมาตั้งแต่เด็กจนโต
รู้สึกอยากชินชากับมัน ไม่อยากคาดหวังเหมือนกันแต่พอไม่คาดหวังมันก็ดูว่างเปล่าไร้จุดหมายปลายทาง
เราจำได้ว่าตอนเด็กเรามั่นใจตัวเองมากๆ ไม่แคร์สายตาคนอื่น มนุษย์สัมพันธ์ดีมากๆ
เรามีรักแรกตอน ป.5 ค่ะ ป็อบปี้เลิฟ 5555
ทำทุกอย่างจนเค้ารู้เองค่ะ จบด้วยการโดนบูลี่ภายนอกแล้วเขาก็ไปมีคนที่ดูดีกว่า
เราก็คิดบวกว่า ตอนนั้นยังเด็กไม่รู้อะไรมากหรอก
โตมาอีกหน่อย ม.1 ชอบผู้ชายคนนึ่ง
ทำทุกๆอย่างจนผู้ชายคนนี้มีใจให้เรา แต่ก็โดนเพื่อนผู้ชายคนนั้นเป่าหูว่า "มุงชอบแบบนี้หรอ " "มันไม่สวยนะ " จนในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็มีแฟนที่ค่อนข้างฮอตเลย
เราก็โลกสวยว่า ไม่เป็นไร...มันคงจะเร็วไปสำหรับเด็กอายุแค่นี้
โตมาอีกหน่อย ตอนม.3 เราชอบคนๆนึ่ง
ชอบถึงขั้นไปลงแข่งบาสเก็ตบอลเพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขาตั้งใจฝึกมากจนโรงเรียนไว้วางใจและให้เป็นตัวแทนแข่งกับโรงเรียนอื่น สรุปคือเขาคิดกับเราแค่เพื่อนค่ะ
ก็คิดว่า ม.3 เร็วไปชีวิตเราคงจะคัดสรรค์นั้นแหละมีคนหลายร้อยล้านคน แต่ก็เริ่มเศร้าๆลงแล้วแหละค่ะ
จริงๆมีอีกเยอะ มัธยมต้น แต่มักจะจบด้วยการเข้ากันไม่ได้เลยเลิก เจอคนที่น่าสนใจกว่าเลยเลิก
จนมาม.4 เราคุยกับผู้หญิงคนนึ่งอยู่ในโลกออนไลน์เค้าชอบวาดรูปมาก เราก็เช่นกัน(วาดรูปเราชอบมาตั้งแต่ประถมแล้ว) อะไรหลายอย่างมันสปาคกัน เลยคบจริงๆจังๆ เคยเจอกัน แต่นานๆทีเพราะเราอยู่กรุงเทพ เค้าอยู่ต่างจังหวัด พ่อแม่ฝั่งเรารู้แต่อีกฝั่งไม่รู้ เลิกกันเพราะรักจางค่ะ เลิกกันตอนเราขึ้นปี1 แฟนเอาแต่คุยกับเพื่อนไม่สนใจเราจนเรารู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว คุยกันแล้วแต่แฟนบอกว่าก็ไม่มีอะไรจะคุย ติดเพื่อนหนักมาก จนเราเป็นอากาศไปเลยแหละ
เราโทษตัวเองหนักมาก โทษว่าแค่นี้ทำไมถึงทนไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังโทษตัวเองอยู่
ช่วงที่เลิกกันมีเพื่อนคนนึ่งมาปลอบใจเราอยู่คุยกับเราจนเรารู้สึกดีมากๆ จนชอบเพื่อนค่ะเข้าสู่เฟรนโซนเรียบร้อย ตอนนี้ปี3ก็ยังชอบอยู่แต่เริ่มห่างๆกันเพราะฝั่งนั้นเป็นคนที่ชอบเพศเดียวกัน ตอนคบเป็นเพื่อนเค้าก็ถามนะคะว่าทำไมเราไม่เป็นผู้ชาย ทำไมต้องเป็นผู้หญิง เราคบกับเพื่อนคนนี้มา 5-6ปีได้แล้ว พึ่งจะมาชอบก็ 2ปี นี้ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไรนะคะ 5555ก็ทำค่ะ วันวาเลนไทน์ตั้งใจเลือกดอกไม้สวยๆไปให้ แต่เค้าไม่รับค่ะ อุทานว่า "อี๋จะอ้วก อี๋แหวะ " ซึ่งคำนี้....เป็นคำที่ผู้ชายตอนป.5 พูดกับเราเหมือนกัน เหมือนก็อปปี้กันมาเลย เราก็นึกว่าเค้าจะเลิกเป็นเพื่อนกับเราไปเลย ก็ไม่....ยังทำตัวตามปกติเหมือนไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
*อาภัพเรื่องคนภายใน
อ่านมาจนถึงตอนนี้ก็คงจะมีคำถามว่า
ทำไมไม่รักพ่อแม่ละ ? ทำไมต้องรักคนอื่น
ความรักที่พ่อแม่ให้คือที่สุดแล้ว !!
ใช่ไหมคะ....
แต่ชีวิตเราไม่เป็นแบบนั้นค่ะ
พ่อเราย้ายออกจากบ้านตั้งแต่ เรา4ขวบ
พ่อเป็นคนเจ้าชู้ ทิ้งแม่เราไปมีคนอื่น
ปัจจุบันพ่อเรามีเมียใหม่อยู่บ้านเมียใหม่อยู่กินกับลูกใหม่ ไม่มีความรักและสานสัมพันธ์ ช่วงแรกๆเรารับไม่ได้ค่ะ แต่พออายุ20 อัพแล้วก็ชิน แถมพ่อเราก็ตื้อให้เราสนิทกับลูกเมียใหม่ด้วย ดิวที่ทำงานของเมียใหม่ให้เสร็จแบบไม่ถามว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร ไม่ถามความสมัคใจอะไรเลย ส่วนแม่เราหลังจากที่ถูกพ่อเราเทแม่เราก็เป็นคนขี้โมโหร้าย ชอบใช้เสียง
เมื่อก่อนเรามีความรักจากแม่ค่ะ แต่ปัจจุบันเรากลับมาบ้านก็ห่วงไลฟ์สดอย่างเดียว ไม่ทักกันคุยกันโดนเมินจนเรามักจะขึ้นห้องไปอยู่คนเดียวบ่อยๆ รู้สึกห่างเหิน
ตอนนี้เก็บกดนะคะ ยอมรับค่ะ ร้องไห้จนไม่อยากร้องเพราะเวลาร้องแล้วน้ำมูกมันไหลเยอะมากกลัวเช็ดแล้วจะเจ็บจมูก
เราอยากชินชากับเรื่องแบบนี้จังเลยค่ะ ไม่อยากพยายามอะไรอีกแล้ว เราเหนื่อยมากๆ เรากล้าบอกชอบนะคะ แฟนตอนม.4เราก็บอกเองค่ะว่าชอบ ม.3ก็บอก ปี1นี่บอกรักเลย เราค่อยๆเข้าหานะคะไม่ใช่นึกแล้วพูดเลยแต่มันก็จบด้วยการที่เราไม่ดีพอ
อยากเป็นคนที่อดทนให้มากกว่านี้ บางทีสิ่งที่เราเล่ามาอาจจะเป็นเรื่องพื้นฐานในชีวิตก็ได้ เราคงอ่อนแอจริงๆ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ ใครเคยเจอ หรือมีทริกอะไรดีๆก็แบ่งปันได้นะคะ ทางนี้ทั้งสวดมนต์ เข้าวัด ทำบุญ ทำสังฆทาน เล่นเกม วาดรูป ดูหนัง หาอะไรดู ก็ยังไม่โอเคอยู่ดี
รู้สึกอาภัพรัก ทั้งคนนอกและคนใน ทำยังไงให้รู้สึกชินกับเรื่องพวกนี้
คิดว่าเป็นคนอาภัพรักค่ะ ตอนแรกเราไม่ได้มองตัวเองแบบนั้น แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันเก็บสะสมมาตั้งแต่เด็กจนโต
รู้สึกอยากชินชากับมัน ไม่อยากคาดหวังเหมือนกันแต่พอไม่คาดหวังมันก็ดูว่างเปล่าไร้จุดหมายปลายทาง
เราจำได้ว่าตอนเด็กเรามั่นใจตัวเองมากๆ ไม่แคร์สายตาคนอื่น มนุษย์สัมพันธ์ดีมากๆ
เรามีรักแรกตอน ป.5 ค่ะ ป็อบปี้เลิฟ 5555
ทำทุกอย่างจนเค้ารู้เองค่ะ จบด้วยการโดนบูลี่ภายนอกแล้วเขาก็ไปมีคนที่ดูดีกว่า
เราก็คิดบวกว่า ตอนนั้นยังเด็กไม่รู้อะไรมากหรอก
โตมาอีกหน่อย ม.1 ชอบผู้ชายคนนึ่ง
ทำทุกๆอย่างจนผู้ชายคนนี้มีใจให้เรา แต่ก็โดนเพื่อนผู้ชายคนนั้นเป่าหูว่า "มุงชอบแบบนี้หรอ " "มันไม่สวยนะ " จนในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็มีแฟนที่ค่อนข้างฮอตเลย
เราก็โลกสวยว่า ไม่เป็นไร...มันคงจะเร็วไปสำหรับเด็กอายุแค่นี้
โตมาอีกหน่อย ตอนม.3 เราชอบคนๆนึ่ง
ชอบถึงขั้นไปลงแข่งบาสเก็ตบอลเพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขาตั้งใจฝึกมากจนโรงเรียนไว้วางใจและให้เป็นตัวแทนแข่งกับโรงเรียนอื่น สรุปคือเขาคิดกับเราแค่เพื่อนค่ะ
ก็คิดว่า ม.3 เร็วไปชีวิตเราคงจะคัดสรรค์นั้นแหละมีคนหลายร้อยล้านคน แต่ก็เริ่มเศร้าๆลงแล้วแหละค่ะ
จริงๆมีอีกเยอะ มัธยมต้น แต่มักจะจบด้วยการเข้ากันไม่ได้เลยเลิก เจอคนที่น่าสนใจกว่าเลยเลิก
จนมาม.4 เราคุยกับผู้หญิงคนนึ่งอยู่ในโลกออนไลน์เค้าชอบวาดรูปมาก เราก็เช่นกัน(วาดรูปเราชอบมาตั้งแต่ประถมแล้ว) อะไรหลายอย่างมันสปาคกัน เลยคบจริงๆจังๆ เคยเจอกัน แต่นานๆทีเพราะเราอยู่กรุงเทพ เค้าอยู่ต่างจังหวัด พ่อแม่ฝั่งเรารู้แต่อีกฝั่งไม่รู้ เลิกกันเพราะรักจางค่ะ เลิกกันตอนเราขึ้นปี1 แฟนเอาแต่คุยกับเพื่อนไม่สนใจเราจนเรารู้สึกเหมือนอยู่คนเดียว คุยกันแล้วแต่แฟนบอกว่าก็ไม่มีอะไรจะคุย ติดเพื่อนหนักมาก จนเราเป็นอากาศไปเลยแหละ
เราโทษตัวเองหนักมาก โทษว่าแค่นี้ทำไมถึงทนไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังโทษตัวเองอยู่
ช่วงที่เลิกกันมีเพื่อนคนนึ่งมาปลอบใจเราอยู่คุยกับเราจนเรารู้สึกดีมากๆ จนชอบเพื่อนค่ะเข้าสู่เฟรนโซนเรียบร้อย ตอนนี้ปี3ก็ยังชอบอยู่แต่เริ่มห่างๆกันเพราะฝั่งนั้นเป็นคนที่ชอบเพศเดียวกัน ตอนคบเป็นเพื่อนเค้าก็ถามนะคะว่าทำไมเราไม่เป็นผู้ชาย ทำไมต้องเป็นผู้หญิง เราคบกับเพื่อนคนนี้มา 5-6ปีได้แล้ว พึ่งจะมาชอบก็ 2ปี นี้ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำอะไรนะคะ 5555ก็ทำค่ะ วันวาเลนไทน์ตั้งใจเลือกดอกไม้สวยๆไปให้ แต่เค้าไม่รับค่ะ อุทานว่า "อี๋จะอ้วก อี๋แหวะ " ซึ่งคำนี้....เป็นคำที่ผู้ชายตอนป.5 พูดกับเราเหมือนกัน เหมือนก็อปปี้กันมาเลย เราก็นึกว่าเค้าจะเลิกเป็นเพื่อนกับเราไปเลย ก็ไม่....ยังทำตัวตามปกติเหมือนไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
*อาภัพเรื่องคนภายใน
อ่านมาจนถึงตอนนี้ก็คงจะมีคำถามว่า
ทำไมไม่รักพ่อแม่ละ ? ทำไมต้องรักคนอื่น
ความรักที่พ่อแม่ให้คือที่สุดแล้ว !!
ใช่ไหมคะ....
แต่ชีวิตเราไม่เป็นแบบนั้นค่ะ
พ่อเราย้ายออกจากบ้านตั้งแต่ เรา4ขวบ
พ่อเป็นคนเจ้าชู้ ทิ้งแม่เราไปมีคนอื่น
ปัจจุบันพ่อเรามีเมียใหม่อยู่บ้านเมียใหม่อยู่กินกับลูกใหม่ ไม่มีความรักและสานสัมพันธ์ ช่วงแรกๆเรารับไม่ได้ค่ะ แต่พออายุ20 อัพแล้วก็ชิน แถมพ่อเราก็ตื้อให้เราสนิทกับลูกเมียใหม่ด้วย ดิวที่ทำงานของเมียใหม่ให้เสร็จแบบไม่ถามว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร ไม่ถามความสมัคใจอะไรเลย ส่วนแม่เราหลังจากที่ถูกพ่อเราเทแม่เราก็เป็นคนขี้โมโหร้าย ชอบใช้เสียง
เมื่อก่อนเรามีความรักจากแม่ค่ะ แต่ปัจจุบันเรากลับมาบ้านก็ห่วงไลฟ์สดอย่างเดียว ไม่ทักกันคุยกันโดนเมินจนเรามักจะขึ้นห้องไปอยู่คนเดียวบ่อยๆ รู้สึกห่างเหิน
ตอนนี้เก็บกดนะคะ ยอมรับค่ะ ร้องไห้จนไม่อยากร้องเพราะเวลาร้องแล้วน้ำมูกมันไหลเยอะมากกลัวเช็ดแล้วจะเจ็บจมูก
เราอยากชินชากับเรื่องแบบนี้จังเลยค่ะ ไม่อยากพยายามอะไรอีกแล้ว เราเหนื่อยมากๆ เรากล้าบอกชอบนะคะ แฟนตอนม.4เราก็บอกเองค่ะว่าชอบ ม.3ก็บอก ปี1นี่บอกรักเลย เราค่อยๆเข้าหานะคะไม่ใช่นึกแล้วพูดเลยแต่มันก็จบด้วยการที่เราไม่ดีพอ
อยากเป็นคนที่อดทนให้มากกว่านี้ บางทีสิ่งที่เราเล่ามาอาจจะเป็นเรื่องพื้นฐานในชีวิตก็ได้ เราคงอ่อนแอจริงๆ ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ ใครเคยเจอ หรือมีทริกอะไรดีๆก็แบ่งปันได้นะคะ ทางนี้ทั้งสวดมนต์ เข้าวัด ทำบุญ ทำสังฆทาน เล่นเกม วาดรูป ดูหนัง หาอะไรดู ก็ยังไม่โอเคอยู่ดี