หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : พาไปหลงในดงจีน 17-29 ตุลาคม 2566 ตอนที่ 2
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/42314719
วันที่ 20 ตุลาคม 2566
วันนี้ตั้งใจจะไปจัตุรัสเทียนอันเหมินทะลุเข้าวังไป ตามที่ลุงเคยไปมาก่อนที่จะมีโควิด (ในความเป็นจริงคือใครที่เคยไปก่อนโควิดควรลบข้อมูลที่มีอยู่ในหัวทั้งหมดทิ้ง วิถีการเที่ยวเปลี่ยนไป ต้องไปแก้ไขหน้างานเสียส่วนใหญ่ เรานั่งรถไฟไปลง สถานีเทียนอันเหมินซี
ซึ่งจะลงหน้าจตุรัศตรงที่ตรวจกระเป๋า.....แต่ในความเป็นจริงคือเราเข้าไม่ได้ไม่ได้จองมา ต้องจองออนไลด์เท่านั้นแม้แต่คนจีนเองก็ไม่เว้น.....เอาแล้วไง...ต้อนรับน้องใหม่ มีคนโวยวายอยู่ตรงนั้นคนจีนแหละรู้.....เราผสมโรงด้วยดีกว่า ขั้นแรกเปิดแอปแปลภาษาของเรา หายามหรือใครก็ได้ที่ต้องตาแล้วให้เขาดูและขอความช่วยเหลือ แนะนำ ว่าเราควรทำไง ได้โปรดเรามีเวลาไม่มากที่นี่เราให้เขาดูว่าเราโหลดไม่ได้ (หน้าท้อแท้มากกกกกก) ในที่สุด เขาก็ใจอ่อน เอาโทรศัพท์เขาทำให้ .....แล้วให้เราถ่ายรูปไว้
และบอกเราว่าให้มาได้พรุ่งนี้ เย้ น่ารักอะ......เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาทาโร่กะเบนโตะที่พกไปแบ่งน้องดีกว่า (คิดในใจ) เอาไงละตอนนี้ ไม่มีแผนเวลาเหลือไปไหนดี นั่งหาที่ไปแป๊บๆๆ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าไปพระราชวังฤดูร้อนดีกว่าถามว่าไปไงรถไฟแหละง่ายสุดเราเลือกเดินลงจากเขาไม่เดินขึ้นเพราะจะไม่ไหวและต้องการรักษากำลังไว้เพราะจะไปอีกหลาย ๆที่และอย่างโหดทั้งนั้น......อยู่เลื่อยเปื่อยแล้วกัน..เอาจริง ๆ แล้วเดินทั้งวันไม่น่าจะทั่วนะสำหรับกำลังวัย 51 ฮ่าๆๆๆ มาตามเส้นทางยอดฮิตแล้วกัน ว่าจะไม่กลับค่ำนะวันนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 2566
วันนี้ออกแต่เช้าเลยจะไปจัตุรัสที่น้องเขาจองให้เมื่อวานคิดว่ารวมไปถึงการเข้าวังด้วย คงใช้เวลาทั้งวันแหงๆ มั่นหน้ามาก.....ไปถึงก็ต่อแถวตรวจกระเป๋ายื่นพาสปอร์ตตีหน้ามึน ๆ เขาก็แยกแถวให้แบบพิเศษเลย ตรวจถี่ยิบ เปิดดูขวดกาแฟ ดมคะ เอกสารต่าง ๆ ของเราเปิดอ่าน ยาดมก็ดม แอลกอฮอล์ลองฉีด
อันนี้เข้าใจได้ว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคงหรือเปล่าที่นี่เป็นที่อ่อนไหว
เดินทะลุเข้าไปข้างในลานรอคิวเข้าวังต้องห้ามแค่นั้นมันไปต่อไม่ได้แล้ว วันนี้เอาแค่เดินเรียบวัง และก็หาข้อมูล
........แต่มันจะผ่านเข้าไปวังต้องห้ามไม่ได้นะคะ ซื้อตั๋วไม่ได้ด้วยเพราะเข้าวังต้องจองคิวซื้อตั๋วอีกคะ คนละอย่าง เอาแล้วไง วันนี้ฟาว์ววววววอีก ละ นั่งพักเตร่แถวหน้าวังใจร่ม ๆ สังเกตผู้คน ส่วนมากพวกฝรั่งจะเจอปัญหาเดียวกัน ถามพวกฝรั่งว่าคนที่ต่อแถวรับตั๋วนี้ต้องทำไงเขาก็บอกว่าเขาให้ไกด์ทำให้ วันนี้เขาบอกมาจ่ายเงินรับตั๋ว เฮ่อ.....เอาไงละน้องแอปต้องมา พูดไปอยากพูดอะไรก็พูดไปให้มันแปลเป็นภาษาจีน เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อ่าน เขาก็ให้คำแนะนำมาแบบนี้ 7 วันเอ้า.......ทำไงอะไม่มีเวลาละจะไม่ได้เข้าหรือ แล้วจะมาทำไมที่ปักกิ่ง.......ไม่ได้สิมาแล้ว ออกแรงหน่อยไหม ไหนไหนก็มาแล้วนี่ อันที่จริงน่าจะเอะใจตั้งแต่ขอวีซ่าแล้วเนอะ กับระบบออนไลด์เนี่ย......เอาใหม่ลองไปยืนสังเกตเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้ล๊อกเป้าไว้เลย ในที่สุดก็ได้ความมาว่า
ให้สแกนคิวอาร์โค๊ตแล้วกรอกข้อมูลลงไป รอรับเมล์ส่งกลับภายในวันนี้.......เอาหน่า ลองหน่อย...............................ระหว่างรอยังไม่เที่ยงเลยเอาไงต่อ จะกลับที่พักก็เช้าอยู่เลยยังไม่ได้ไปไหนเลย เทียนถานหอสักการะฟ้า
ยังไม่ได้ไปนิ ไปหน่อยน่าไหนๆ ก็หลงในดงจีนละ เอาให้ทั่วสิ บัตรรถไฟแหละ ถือว่าไปนั่งทานข้าวกลางวันที่นี่วันนี้ห่อข้าวกับอบไก่น่องเล็กฝีมือลุงแล้วก็สำรวจไปบ่าย ๆ หมดแรงไก่อบแหละ กลับทีพักดีกว่าระหว่างนั้นเราก็ได้รับเมล์ตอบกลับว่าพรุ่งนี้เรามีคิวให้ไปจ่ายเงินรับตั๋วเข้าวังได้ เย้ ๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ได้แย่เลยมาทั้งที กลับไปเตรียมตัวและหาที่เติมเงินบัตรรถไฟดีกว่าจะได้เรียกกำลังขาด้วยตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวละ เดิน ๆๆ ทุกวัน เอาจริงที่เดินเตรียมมาจากบ้านมาถึงที่นี่ดูจิ๊บ ๆ มากมาย
วันที่ 22 ตุลาคม 2566
วันนี้เราต้องปรับวิธีการขึ้นรถไฟนิดหน่อย เพราะ 2 วันที่ผ่านมาเราลงสถานีเทียนเหมินซี วันนี้เราจะไปลงสถานีเทียนเหมินตง เข้าทางข้างวัง เหมือนวันนี้มีจุดหมายที่แน่นอนมั่นหน้าอีกละว่ามีตั๋วแน่นอน ขนาดออกจากที่พักตั้งแต่ 6 โมงเช้านะ ด้วยเหตุผลว่าด้วยบ้านเราไกล ด้วย และเช้าจะพยายามหลีกกรุ๊ปทัวร์ แม่เจ้าเมื่อไปถึงดูเราเหมือนคนมาสายเลย....คนเยอะแล้วอะ ต่อแถวรับตั๋วยาวละ ก็ไม่เป็นไรกว่าจะได้เข้า 8.00 พอดี ไปคะลากยาวจนค่ำเลย เก็บให้ได้ เท่าที่กำลังเดินไหว วันนี้เป็นวันที่อยู่ปักกิ่งวันสุดท้ายด้วย เพราะพรุ่งนี้ตามแผนจะเป็นวันที่อุทิศให้กับการเดินทางทั้งวัน ต้อ่งกลับไปฉางชาละ
วันที่ 23 ตุลาคม 2566
วันนี้ต้องตื่นเช้าเพราะเราบุ๊คเที่ยวบินตอน 8.00 ไว้ รองท้องด้วยต้มเต้าหู้ที่เหลือเมื่อคืนกับกาแฟ จริง ๆ คือมันเช้าอยู่กินไรไม่ลง เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับไปคืนบัตร อี้ข่าทงด้วย จริง ๆ ไม่ต้องคืนก็ได้เงินเหลือนิ๊ดเดียวแต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันคืนได้จริงไหมนิ ไหน ๆ ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้วด้วยเวลายังเหลือทัวร์ในสนามบินปักกิ่งต้าชิงด้วยแหละ อลังการจริง ๆ เมืองจีนนี่เล็ก ๆ ไม่จริงนะเนี่ย
อ้อ...สายการบินแม้จะเป็นราคาประหยัดแต่เขาก็แจกของว่างเป็นขนมปังอบชีสห่อด้วยฟรอยแบบอุ่น ๆ พร้อมน้ำเปล่า 1 ขวด และสามารถขอน้ำร้อนไว้จิปได้ด้วย ซึ่งบ้านเราไม่มี................
เมื่อถึงฉางชา เราเลือกที่จะใช้รถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ไปสถานีรถบัสไปอู๋หลิงหยวน อันนี้ขอเล่า เราเดินไปสถานี ความจริงคือการซื้อตั๋วต้องเข้าไปซื้อในสถานีแหละแต่ตอนเราเดินๆหาอยู่ก็มีคนทักว่าจะไปไหนจะเอาตั๋วหรือเราก็เลยตกลงเขา เขาก็บอกให้นั่งรอ เดี๋ยวรถจะมารับตรงนี้ รถออก 2.40 โอเค ข้อมูลราคาและเวลาออกรถเหมือนที่อ่านรีวิวมาเลย เอาวะ ...คงไม่ถูกหลอกสิน่า (ความจริงคือจิตตกตั้งแต่ก่อนไปเรื่องของปลอมทั้งหลายและการหลอกลวงในจีน) พอถึงเวลามีรถมารับจริงๆแหละ แต่เป็นรถตู้ เอะ ลุงให้ป้ารีปถ่ายคลิปพูดเหมือนประมาณกำลังติดต่อใครว่าตอนนี้กำลังทำอะไรไว้ (แอบกลัวมาเฟีย) มันก็พาไปตั้งไกลนะ ระหว่าทางมันก็คุยโทรศัพท์ตลอกเวลา (เริ่มกลัวๆละ) และด้วยท่าทางการพูดซึ่งเป็นนิสัยของเขาที่เราไม่ชินดูเหมือนจะพูดกันแรง แต่จริง ๆ คือเขาพูดปกติแหละ........เขาก็ให้เรารอในรถนานพอดูแหละรถก็มาเขาก็เก็บเงินเรา 2 คน 210 หยวน ก็โอเคนะ ทีนี้ละโล่งอกถึงแน่ ๆ ในรถคนก็ไม่เยอะทั้งหมด 12 คนรวม ทั้งคนขับ นั่งไปยาว ๆ 5 ชั่วโมง เหตุผลที่นั่งรถบัสไม่เลือกรถไฟคือ ด้วยเราไม่เคยวิวทุกวิวเราไม่เคยเห็นอยู่ละ สองคือทัวร์เขาก็นั่งบัสเหมือนกันแต่รถเขา วีไอพี มีไกด์ด้วย มีการจอแวะให้เข้าห้องน้ำเหมือนกันดูเหมือนเขารู้ว่าเราไม่รู้ภาษาเราเขาก็เดินมาบอก มิตรภาพใหม่ ๆ ที่ได้เจอ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงซึ่งถูกกว่ารถไฟหลายเท่า ฮ่าๆๆๆ....... และอีกเหตุผลหนึ่งคือมันถึงอู๋หลิงหยวนเลยไม่เข้าจางเจียเจี้ยซึ่งรถไฟต้องลงจางเจียเจี้ย แล้วต้องต่อรถบัสมาอู๋หลิงหยวนอีกทีซึ่งเราเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลเดินไปขึ้นรถบัสเข้าอุทยานได้เลย แต่ก็กักไว้สำหรับคืนสุดท้ายนะขากลับไปฉางชาจะนั่งรถไฟกลับ พอดูหน้างานแล้ว กลับทางเดิมน่าจะดีกว่าเพราะถึงนั่งรถไฟก็ต้องพักในจางเจียเจี้ยแหละ ขี้เกียจแบกเป้ไปๆมา เพราะถึงนั่งรถไฟกลับพักอู๋หลิงหยวนก็น่าจะสบายกว่าเพราะสถานีรถไฟก็ดูเหมือนต้องนั่งรถมาสถานีเหมือนกัน
พอถึงอู๋หลิงหยวนเราก็เข้าพักที่โรงแรมที่จองไว้ตอนจะขึ้นเครื่องบินไปวันแรกเอง โรงแรมอยู่ตรงถนนคนเดินพอดี weiyi fengshang hotel ทุกอย่างดีหมดสำหรับเรานะไม่มีตู้เย็น ไม่มีกาแฟหรือชาให้ แต่ขอได้ เขาให้เหตุผล
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ขากลับจากจีน~ลาว คุนหมิงใต้~ลาวซื้อตั๋วออนไลน์ไม่ได้ต้องไปซื้อตั๋วจากสถานีรถไฟ ลงทะเบียนออนไลน์ก็ไม่ได้เช่นกันครับ
ขอกลับจากจีนมาลาว จากคุนหมิงใต้มาหลวงพระบาง ซื้อตั๋วออนไลน์ไม่ได้ ต้องไปที่สถานีรถไฟเพื่อซื้อตั๋วกระดาษ พบชาวต่างชาติ 2 คนก็ซื้อไม่ได้เช่นกัน ไม่ทราบสาเหตุครับ การลงทะเบียนออนไลน์ก็ลงไม่ได้เช่นกัน เ
FARM FUJI
ไม่ย้ายขนส่งหมอชิตไปที่บางซื่อ ได้ถามประชาชนแล้วยัง อย่าทุ่ม 3 พันล้านปรับปรุงหมอชิตใหม่ มีวิธีที่ประหยัดกว่าเยอะ
รัฐบาลชุดนี้พับแผนการรวมขนส่งหมอชิต 2 ไปไว้ที่สถานีกลางบางซื่อของรัฐบาลชุดก่อนไปแล้ว ให้เหตุผลว่าอยู่ที่เดิมก็มีความเหมาะสมดีอยู่แล้ว ซึ่งก็มีประชาชนบางคนเห็นด้วยว่าไม่ต้องย้าย และบางคนก็ไม่เห็นด้วยที
สมาชิกหมายเลข 4764697
พบแล้ว ที่ว่าจ่ายเงินที่จีนผ่านระบบ ALIPAY ยอดเกิน 200 หยวนบวกเพิ่ม 3% สำหรับคนต่างชาติ เจอขณะซื้อตั๋วออนไลน์ผ่าน ALIPAY
เดือนนี้เดินทางในจีน ด้วยรถไฟความเร็วสูงในจีน ระยะทางไกล ตั๋วชั้น 2 ราคาเกิน 200 หยวนทางใช้แอพรถไฟจีน ตัดผ่าน ALIPAY + 3% ปกติซื้อใกล้ๆ 40-100 กว่า ไม่พบการคิดเงินเพิ่มเพราะไม่เกิน 200 หยวนครับ ขอบคุ
FARM FUJI
อู่ตะเภาได้สร้างรันเวย์ที่ 2 แล้วยัง เช็คพิกัดสถานีรถไฟอู่ตะเภา ดูที่ตั้งแย่ ทำให้ขยายทางรถไฟไประยอง-ตราด ยากหน่อย
ก่อนหน้านี้ตามข่าวที่บอกว่า ถ้าสนามบินอู่ตะเภาสร้างรันเวย์ที่ 2 แล้ว ก็จะไม่สามารถขุดอุโมงค์ทำสถานีรถไฟใต้สนามบินอู่ตะเภาได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ไม่ได้สนใจ เพราะถึงจะไม่มีสถานีรถไฟอยู่ใต้อุโมงค์ แต่การส
สมาชิกหมายเลข 4764697
ลุงเล่า ep.272: ข้าวผัดรถไฟ สูตรอาหารแต่ละคนเป็นแบบไหน
ลุงเล่า ep.272: ข้าวผัดรถไฟ สูตรอาหารแต่ละคนเป็นแบบไหน ลุงอ้วน นั่งรถไฟน้อยมาก ปี 2541 นั่งรถไฟชั้น 3 จาก สถานีนครปฐม ไป สถานีรถไฟ ไปพักหาดปีกเตียน เพชรบุรี ปี 2545 นั่งรถไฟจากหัวลำโพง ไป สถานีเชี
คนตื่นลุง
สำหรับคนชอบนั่งรถไฟครับ
คือว่า มี"หลังไมค์"มาถามมากมาย เกี่ยวกับตารางรถไฟลาว-จีน ว่า เอ๊ะ ไม่เห็นขบวนบ่ายโมง ? เขาปรับเวลา ขยายเส้นทาง ฯลฯ มากมาย ดังนั้น จึงมา"อัพเดท"ให้ทราบกันเด้อ ก่อนอื่น ตารางเดินร
ไปซะ ก่อนจะไปไม่ไหว
ENHYPEN จะขึ้นแสดงคอนเสิร์ต U&I จัตุรัสฮึงนเยมุน ภายในพระราชวังเคียงบกกุง ในวันที่ 28 ตุลาคม นี้
สถานีโทรทัศน์MBC และสถาบันพัฒนาสังคมแห่งสหประชาชาติจะเป็นเจ้าภาพจัดงานฟอรั่มเยาวชนโลกในเกาหลี และในค่ำคืนฤดูใบไม้ร่วง วันที่ 28 ตุลาคม 2025 ที่จัตุรัสฮึงนเยมุน ภายในพระราชวังเคียงบกกุง จะขับขานบทเพลงแ
สมาชิกหมายเลข 6655448
วันที่ในหลวง ร.๙ เสด็จสวรรคต วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. คุณอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่
กรุณาเม้นต์ด้วยความสุภาพ ......................................................... วันที่ในหลวง ร.๙ เสด็จสวรรคต วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. คุณอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่ บ่ายวั
ต้นโพธิ์ต้นไทร
นั่งรถไฟเที่ยวน้ำตกเอราวัณ คนเดียว 2 วัน 1 คืน งบ 800 กาญจนบุรี
นั่งรถไฟเที่ยวน้ำตกเอราวัณ คนเดียว 2 วัน 1 คืน งบ 800 กาญจนบุรีค่ะ ตั้งต้นที่สถานีรถไฟธนบุรี ขึ้นรถไฟรอบ 7.45 น. ชั้น 3 ราคา 25 บาท ซื้อตั๋วสถานีนี้ต้องแสดงบัตรประชาชนด้วยค่ะ ทริปนี้ต้องใช้เยอะมาก
หมีเป็ด
[TripNote] ลุงเล่า ep.267: คนเฒ่าวัยเก๋า 70-80 ปี เช็คอินคาเฟ่เกร๋ๆ แทนการเข้าวัด
วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568 - GMT+07:00 🕒 14:20 น. 📌 ชากุระ คาเฟ่ 💵 740 บาท ★★★★★ พ่อแม่ของลุงอ้วน 70 กว่าปี ชอบเข้าคาเฟ่กาแฟ เค้ก ถ่ายรูป เข้าวัดบ้าง ทำบุญให้ทายาทที่เสียไป มองรอบข้าง อายุไ
คนตื่นลุง
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 4
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : พาไปหลงในดงจีน 17-29 ตุลาคม 2566 ตอนที่ 2
วันที่ 20 ตุลาคม 2566
วันนี้ตั้งใจจะไปจัตุรัสเทียนอันเหมินทะลุเข้าวังไป ตามที่ลุงเคยไปมาก่อนที่จะมีโควิด (ในความเป็นจริงคือใครที่เคยไปก่อนโควิดควรลบข้อมูลที่มีอยู่ในหัวทั้งหมดทิ้ง วิถีการเที่ยวเปลี่ยนไป ต้องไปแก้ไขหน้างานเสียส่วนใหญ่ เรานั่งรถไฟไปลง สถานีเทียนอันเหมินซี
ซึ่งจะลงหน้าจตุรัศตรงที่ตรวจกระเป๋า.....แต่ในความเป็นจริงคือเราเข้าไม่ได้ไม่ได้จองมา ต้องจองออนไลด์เท่านั้นแม้แต่คนจีนเองก็ไม่เว้น.....เอาแล้วไง...ต้อนรับน้องใหม่ มีคนโวยวายอยู่ตรงนั้นคนจีนแหละรู้.....เราผสมโรงด้วยดีกว่า ขั้นแรกเปิดแอปแปลภาษาของเรา หายามหรือใครก็ได้ที่ต้องตาแล้วให้เขาดูและขอความช่วยเหลือ แนะนำ ว่าเราควรทำไง ได้โปรดเรามีเวลาไม่มากที่นี่เราให้เขาดูว่าเราโหลดไม่ได้ (หน้าท้อแท้มากกกกกก) ในที่สุด เขาก็ใจอ่อน เอาโทรศัพท์เขาทำให้ .....แล้วให้เราถ่ายรูปไว้
และบอกเราว่าให้มาได้พรุ่งนี้ เย้ น่ารักอะ......เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาทาโร่กะเบนโตะที่พกไปแบ่งน้องดีกว่า (คิดในใจ) เอาไงละตอนนี้ ไม่มีแผนเวลาเหลือไปไหนดี นั่งหาที่ไปแป๊บๆๆ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าไปพระราชวังฤดูร้อนดีกว่าถามว่าไปไงรถไฟแหละง่ายสุดเราเลือกเดินลงจากเขาไม่เดินขึ้นเพราะจะไม่ไหวและต้องการรักษากำลังไว้เพราะจะไปอีกหลาย ๆที่และอย่างโหดทั้งนั้น......อยู่เลื่อยเปื่อยแล้วกัน..เอาจริง ๆ แล้วเดินทั้งวันไม่น่าจะทั่วนะสำหรับกำลังวัย 51 ฮ่าๆๆๆ มาตามเส้นทางยอดฮิตแล้วกัน ว่าจะไม่กลับค่ำนะวันนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 2566
วันนี้ออกแต่เช้าเลยจะไปจัตุรัสที่น้องเขาจองให้เมื่อวานคิดว่ารวมไปถึงการเข้าวังด้วย คงใช้เวลาทั้งวันแหงๆ มั่นหน้ามาก.....ไปถึงก็ต่อแถวตรวจกระเป๋ายื่นพาสปอร์ตตีหน้ามึน ๆ เขาก็แยกแถวให้แบบพิเศษเลย ตรวจถี่ยิบ เปิดดูขวดกาแฟ ดมคะ เอกสารต่าง ๆ ของเราเปิดอ่าน ยาดมก็ดม แอลกอฮอล์ลองฉีด
อันนี้เข้าใจได้ว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคงหรือเปล่าที่นี่เป็นที่อ่อนไหว
เดินทะลุเข้าไปข้างในลานรอคิวเข้าวังต้องห้ามแค่นั้นมันไปต่อไม่ได้แล้ว วันนี้เอาแค่เดินเรียบวัง และก็หาข้อมูล
........แต่มันจะผ่านเข้าไปวังต้องห้ามไม่ได้นะคะ ซื้อตั๋วไม่ได้ด้วยเพราะเข้าวังต้องจองคิวซื้อตั๋วอีกคะ คนละอย่าง เอาแล้วไง วันนี้ฟาว์ววววววอีก ละ นั่งพักเตร่แถวหน้าวังใจร่ม ๆ สังเกตผู้คน ส่วนมากพวกฝรั่งจะเจอปัญหาเดียวกัน ถามพวกฝรั่งว่าคนที่ต่อแถวรับตั๋วนี้ต้องทำไงเขาก็บอกว่าเขาให้ไกด์ทำให้ วันนี้เขาบอกมาจ่ายเงินรับตั๋ว เฮ่อ.....เอาไงละน้องแอปต้องมา พูดไปอยากพูดอะไรก็พูดไปให้มันแปลเป็นภาษาจีน เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อ่าน เขาก็ให้คำแนะนำมาแบบนี้ 7 วันเอ้า.......ทำไงอะไม่มีเวลาละจะไม่ได้เข้าหรือ แล้วจะมาทำไมที่ปักกิ่ง.......ไม่ได้สิมาแล้ว ออกแรงหน่อยไหม ไหนไหนก็มาแล้วนี่ อันที่จริงน่าจะเอะใจตั้งแต่ขอวีซ่าแล้วเนอะ กับระบบออนไลด์เนี่ย......เอาใหม่ลองไปยืนสังเกตเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้ล๊อกเป้าไว้เลย ในที่สุดก็ได้ความมาว่า
ให้สแกนคิวอาร์โค๊ตแล้วกรอกข้อมูลลงไป รอรับเมล์ส่งกลับภายในวันนี้.......เอาหน่า ลองหน่อย...............................ระหว่างรอยังไม่เที่ยงเลยเอาไงต่อ จะกลับที่พักก็เช้าอยู่เลยยังไม่ได้ไปไหนเลย เทียนถานหอสักการะฟ้า
ยังไม่ได้ไปนิ ไปหน่อยน่าไหนๆ ก็หลงในดงจีนละ เอาให้ทั่วสิ บัตรรถไฟแหละ ถือว่าไปนั่งทานข้าวกลางวันที่นี่วันนี้ห่อข้าวกับอบไก่น่องเล็กฝีมือลุงแล้วก็สำรวจไปบ่าย ๆ หมดแรงไก่อบแหละ กลับทีพักดีกว่าระหว่างนั้นเราก็ได้รับเมล์ตอบกลับว่าพรุ่งนี้เรามีคิวให้ไปจ่ายเงินรับตั๋วเข้าวังได้ เย้ ๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ได้แย่เลยมาทั้งที กลับไปเตรียมตัวและหาที่เติมเงินบัตรรถไฟดีกว่าจะได้เรียกกำลังขาด้วยตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวละ เดิน ๆๆ ทุกวัน เอาจริงที่เดินเตรียมมาจากบ้านมาถึงที่นี่ดูจิ๊บ ๆ มากมาย
วันที่ 22 ตุลาคม 2566
วันนี้เราต้องปรับวิธีการขึ้นรถไฟนิดหน่อย เพราะ 2 วันที่ผ่านมาเราลงสถานีเทียนเหมินซี วันนี้เราจะไปลงสถานีเทียนเหมินตง เข้าทางข้างวัง เหมือนวันนี้มีจุดหมายที่แน่นอนมั่นหน้าอีกละว่ามีตั๋วแน่นอน ขนาดออกจากที่พักตั้งแต่ 6 โมงเช้านะ ด้วยเหตุผลว่าด้วยบ้านเราไกล ด้วย และเช้าจะพยายามหลีกกรุ๊ปทัวร์ แม่เจ้าเมื่อไปถึงดูเราเหมือนคนมาสายเลย....คนเยอะแล้วอะ ต่อแถวรับตั๋วยาวละ ก็ไม่เป็นไรกว่าจะได้เข้า 8.00 พอดี ไปคะลากยาวจนค่ำเลย เก็บให้ได้ เท่าที่กำลังเดินไหว วันนี้เป็นวันที่อยู่ปักกิ่งวันสุดท้ายด้วย เพราะพรุ่งนี้ตามแผนจะเป็นวันที่อุทิศให้กับการเดินทางทั้งวัน ต้อ่งกลับไปฉางชาละ
วันที่ 23 ตุลาคม 2566
วันนี้ต้องตื่นเช้าเพราะเราบุ๊คเที่ยวบินตอน 8.00 ไว้ รองท้องด้วยต้มเต้าหู้ที่เหลือเมื่อคืนกับกาแฟ จริง ๆ คือมันเช้าอยู่กินไรไม่ลง เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับไปคืนบัตร อี้ข่าทงด้วย จริง ๆ ไม่ต้องคืนก็ได้เงินเหลือนิ๊ดเดียวแต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันคืนได้จริงไหมนิ ไหน ๆ ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้วด้วยเวลายังเหลือทัวร์ในสนามบินปักกิ่งต้าชิงด้วยแหละ อลังการจริง ๆ เมืองจีนนี่เล็ก ๆ ไม่จริงนะเนี่ย
อ้อ...สายการบินแม้จะเป็นราคาประหยัดแต่เขาก็แจกของว่างเป็นขนมปังอบชีสห่อด้วยฟรอยแบบอุ่น ๆ พร้อมน้ำเปล่า 1 ขวด และสามารถขอน้ำร้อนไว้จิปได้ด้วย ซึ่งบ้านเราไม่มี................
เมื่อถึงฉางชา เราเลือกที่จะใช้รถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ไปสถานีรถบัสไปอู๋หลิงหยวน อันนี้ขอเล่า เราเดินไปสถานี ความจริงคือการซื้อตั๋วต้องเข้าไปซื้อในสถานีแหละแต่ตอนเราเดินๆหาอยู่ก็มีคนทักว่าจะไปไหนจะเอาตั๋วหรือเราก็เลยตกลงเขา เขาก็บอกให้นั่งรอ เดี๋ยวรถจะมารับตรงนี้ รถออก 2.40 โอเค ข้อมูลราคาและเวลาออกรถเหมือนที่อ่านรีวิวมาเลย เอาวะ ...คงไม่ถูกหลอกสิน่า (ความจริงคือจิตตกตั้งแต่ก่อนไปเรื่องของปลอมทั้งหลายและการหลอกลวงในจีน) พอถึงเวลามีรถมารับจริงๆแหละ แต่เป็นรถตู้ เอะ ลุงให้ป้ารีปถ่ายคลิปพูดเหมือนประมาณกำลังติดต่อใครว่าตอนนี้กำลังทำอะไรไว้ (แอบกลัวมาเฟีย) มันก็พาไปตั้งไกลนะ ระหว่าทางมันก็คุยโทรศัพท์ตลอกเวลา (เริ่มกลัวๆละ) และด้วยท่าทางการพูดซึ่งเป็นนิสัยของเขาที่เราไม่ชินดูเหมือนจะพูดกันแรง แต่จริง ๆ คือเขาพูดปกติแหละ........เขาก็ให้เรารอในรถนานพอดูแหละรถก็มาเขาก็เก็บเงินเรา 2 คน 210 หยวน ก็โอเคนะ ทีนี้ละโล่งอกถึงแน่ ๆ ในรถคนก็ไม่เยอะทั้งหมด 12 คนรวม ทั้งคนขับ นั่งไปยาว ๆ 5 ชั่วโมง เหตุผลที่นั่งรถบัสไม่เลือกรถไฟคือ ด้วยเราไม่เคยวิวทุกวิวเราไม่เคยเห็นอยู่ละ สองคือทัวร์เขาก็นั่งบัสเหมือนกันแต่รถเขา วีไอพี มีไกด์ด้วย มีการจอแวะให้เข้าห้องน้ำเหมือนกันดูเหมือนเขารู้ว่าเราไม่รู้ภาษาเราเขาก็เดินมาบอก มิตรภาพใหม่ ๆ ที่ได้เจอ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงซึ่งถูกกว่ารถไฟหลายเท่า ฮ่าๆๆๆ....... และอีกเหตุผลหนึ่งคือมันถึงอู๋หลิงหยวนเลยไม่เข้าจางเจียเจี้ยซึ่งรถไฟต้องลงจางเจียเจี้ย แล้วต้องต่อรถบัสมาอู๋หลิงหยวนอีกทีซึ่งเราเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลเดินไปขึ้นรถบัสเข้าอุทยานได้เลย แต่ก็กักไว้สำหรับคืนสุดท้ายนะขากลับไปฉางชาจะนั่งรถไฟกลับ พอดูหน้างานแล้ว กลับทางเดิมน่าจะดีกว่าเพราะถึงนั่งรถไฟก็ต้องพักในจางเจียเจี้ยแหละ ขี้เกียจแบกเป้ไปๆมา เพราะถึงนั่งรถไฟกลับพักอู๋หลิงหยวนก็น่าจะสบายกว่าเพราะสถานีรถไฟก็ดูเหมือนต้องนั่งรถมาสถานีเหมือนกัน
พอถึงอู๋หลิงหยวนเราก็เข้าพักที่โรงแรมที่จองไว้ตอนจะขึ้นเครื่องบินไปวันแรกเอง โรงแรมอยู่ตรงถนนคนเดินพอดี weiyi fengshang hotel ทุกอย่างดีหมดสำหรับเรานะไม่มีตู้เย็น ไม่มีกาแฟหรือชาให้ แต่ขอได้ เขาให้เหตุผล