หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : พาไปหลงในดงจีน 17-29 ตุลาคม 2566 ตอนที่ 2
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/42314719
วันที่ 20 ตุลาคม 2566
วันนี้ตั้งใจจะไปจัตุรัสเทียนอันเหมินทะลุเข้าวังไป ตามที่ลุงเคยไปมาก่อนที่จะมีโควิด (ในความเป็นจริงคือใครที่เคยไปก่อนโควิดควรลบข้อมูลที่มีอยู่ในหัวทั้งหมดทิ้ง วิถีการเที่ยวเปลี่ยนไป ต้องไปแก้ไขหน้างานเสียส่วนใหญ่ เรานั่งรถไฟไปลง สถานีเทียนอันเหมินซี
ซึ่งจะลงหน้าจตุรัศตรงที่ตรวจกระเป๋า.....แต่ในความเป็นจริงคือเราเข้าไม่ได้ไม่ได้จองมา ต้องจองออนไลด์เท่านั้นแม้แต่คนจีนเองก็ไม่เว้น.....เอาแล้วไง...ต้อนรับน้องใหม่ มีคนโวยวายอยู่ตรงนั้นคนจีนแหละรู้.....เราผสมโรงด้วยดีกว่า ขั้นแรกเปิดแอปแปลภาษาของเรา หายามหรือใครก็ได้ที่ต้องตาแล้วให้เขาดูและขอความช่วยเหลือ แนะนำ ว่าเราควรทำไง ได้โปรดเรามีเวลาไม่มากที่นี่เราให้เขาดูว่าเราโหลดไม่ได้ (หน้าท้อแท้มากกกกกก) ในที่สุด เขาก็ใจอ่อน เอาโทรศัพท์เขาทำให้ .....แล้วให้เราถ่ายรูปไว้
และบอกเราว่าให้มาได้พรุ่งนี้ เย้ น่ารักอะ......เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาทาโร่กะเบนโตะที่พกไปแบ่งน้องดีกว่า (คิดในใจ) เอาไงละตอนนี้ ไม่มีแผนเวลาเหลือไปไหนดี นั่งหาที่ไปแป๊บๆๆ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าไปพระราชวังฤดูร้อนดีกว่าถามว่าไปไงรถไฟแหละง่ายสุดเราเลือกเดินลงจากเขาไม่เดินขึ้นเพราะจะไม่ไหวและต้องการรักษากำลังไว้เพราะจะไปอีกหลาย ๆที่และอย่างโหดทั้งนั้น......อยู่เลื่อยเปื่อยแล้วกัน..เอาจริง ๆ แล้วเดินทั้งวันไม่น่าจะทั่วนะสำหรับกำลังวัย 51 ฮ่าๆๆๆ มาตามเส้นทางยอดฮิตแล้วกัน ว่าจะไม่กลับค่ำนะวันนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 2566
วันนี้ออกแต่เช้าเลยจะไปจัตุรัสที่น้องเขาจองให้เมื่อวานคิดว่ารวมไปถึงการเข้าวังด้วย คงใช้เวลาทั้งวันแหงๆ มั่นหน้ามาก.....ไปถึงก็ต่อแถวตรวจกระเป๋ายื่นพาสปอร์ตตีหน้ามึน ๆ เขาก็แยกแถวให้แบบพิเศษเลย ตรวจถี่ยิบ เปิดดูขวดกาแฟ ดมคะ เอกสารต่าง ๆ ของเราเปิดอ่าน ยาดมก็ดม แอลกอฮอล์ลองฉีด
อันนี้เข้าใจได้ว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคงหรือเปล่าที่นี่เป็นที่อ่อนไหว
เดินทะลุเข้าไปข้างในลานรอคิวเข้าวังต้องห้ามแค่นั้นมันไปต่อไม่ได้แล้ว วันนี้เอาแค่เดินเรียบวัง และก็หาข้อมูล
........แต่มันจะผ่านเข้าไปวังต้องห้ามไม่ได้นะคะ ซื้อตั๋วไม่ได้ด้วยเพราะเข้าวังต้องจองคิวซื้อตั๋วอีกคะ คนละอย่าง เอาแล้วไง วันนี้ฟาว์ววววววอีก ละ นั่งพักเตร่แถวหน้าวังใจร่ม ๆ สังเกตผู้คน ส่วนมากพวกฝรั่งจะเจอปัญหาเดียวกัน ถามพวกฝรั่งว่าคนที่ต่อแถวรับตั๋วนี้ต้องทำไงเขาก็บอกว่าเขาให้ไกด์ทำให้ วันนี้เขาบอกมาจ่ายเงินรับตั๋ว เฮ่อ.....เอาไงละน้องแอปต้องมา พูดไปอยากพูดอะไรก็พูดไปให้มันแปลเป็นภาษาจีน เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อ่าน เขาก็ให้คำแนะนำมาแบบนี้ 7 วันเอ้า.......ทำไงอะไม่มีเวลาละจะไม่ได้เข้าหรือ แล้วจะมาทำไมที่ปักกิ่ง.......ไม่ได้สิมาแล้ว ออกแรงหน่อยไหม ไหนไหนก็มาแล้วนี่ อันที่จริงน่าจะเอะใจตั้งแต่ขอวีซ่าแล้วเนอะ กับระบบออนไลด์เนี่ย......เอาใหม่ลองไปยืนสังเกตเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้ล๊อกเป้าไว้เลย ในที่สุดก็ได้ความมาว่า
ให้สแกนคิวอาร์โค๊ตแล้วกรอกข้อมูลลงไป รอรับเมล์ส่งกลับภายในวันนี้.......เอาหน่า ลองหน่อย...............................ระหว่างรอยังไม่เที่ยงเลยเอาไงต่อ จะกลับที่พักก็เช้าอยู่เลยยังไม่ได้ไปไหนเลย เทียนถานหอสักการะฟ้า
ยังไม่ได้ไปนิ ไปหน่อยน่าไหนๆ ก็หลงในดงจีนละ เอาให้ทั่วสิ บัตรรถไฟแหละ ถือว่าไปนั่งทานข้าวกลางวันที่นี่วันนี้ห่อข้าวกับอบไก่น่องเล็กฝีมือลุงแล้วก็สำรวจไปบ่าย ๆ หมดแรงไก่อบแหละ กลับทีพักดีกว่าระหว่างนั้นเราก็ได้รับเมล์ตอบกลับว่าพรุ่งนี้เรามีคิวให้ไปจ่ายเงินรับตั๋วเข้าวังได้ เย้ ๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ได้แย่เลยมาทั้งที กลับไปเตรียมตัวและหาที่เติมเงินบัตรรถไฟดีกว่าจะได้เรียกกำลังขาด้วยตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวละ เดิน ๆๆ ทุกวัน เอาจริงที่เดินเตรียมมาจากบ้านมาถึงที่นี่ดูจิ๊บ ๆ มากมาย
วันที่ 22 ตุลาคม 2566
วันนี้เราต้องปรับวิธีการขึ้นรถไฟนิดหน่อย เพราะ 2 วันที่ผ่านมาเราลงสถานีเทียนเหมินซี วันนี้เราจะไปลงสถานีเทียนเหมินตง เข้าทางข้างวัง เหมือนวันนี้มีจุดหมายที่แน่นอนมั่นหน้าอีกละว่ามีตั๋วแน่นอน ขนาดออกจากที่พักตั้งแต่ 6 โมงเช้านะ ด้วยเหตุผลว่าด้วยบ้านเราไกล ด้วย และเช้าจะพยายามหลีกกรุ๊ปทัวร์ แม่เจ้าเมื่อไปถึงดูเราเหมือนคนมาสายเลย....คนเยอะแล้วอะ ต่อแถวรับตั๋วยาวละ ก็ไม่เป็นไรกว่าจะได้เข้า 8.00 พอดี ไปคะลากยาวจนค่ำเลย เก็บให้ได้ เท่าที่กำลังเดินไหว วันนี้เป็นวันที่อยู่ปักกิ่งวันสุดท้ายด้วย เพราะพรุ่งนี้ตามแผนจะเป็นวันที่อุทิศให้กับการเดินทางทั้งวัน ต้อ่งกลับไปฉางชาละ
วันที่ 23 ตุลาคม 2566
วันนี้ต้องตื่นเช้าเพราะเราบุ๊คเที่ยวบินตอน 8.00 ไว้ รองท้องด้วยต้มเต้าหู้ที่เหลือเมื่อคืนกับกาแฟ จริง ๆ คือมันเช้าอยู่กินไรไม่ลง เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับไปคืนบัตร อี้ข่าทงด้วย จริง ๆ ไม่ต้องคืนก็ได้เงินเหลือนิ๊ดเดียวแต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันคืนได้จริงไหมนิ ไหน ๆ ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้วด้วยเวลายังเหลือทัวร์ในสนามบินปักกิ่งต้าชิงด้วยแหละ อลังการจริง ๆ เมืองจีนนี่เล็ก ๆ ไม่จริงนะเนี่ย
อ้อ...สายการบินแม้จะเป็นราคาประหยัดแต่เขาก็แจกของว่างเป็นขนมปังอบชีสห่อด้วยฟรอยแบบอุ่น ๆ พร้อมน้ำเปล่า 1 ขวด และสามารถขอน้ำร้อนไว้จิปได้ด้วย ซึ่งบ้านเราไม่มี................
เมื่อถึงฉางชา เราเลือกที่จะใช้รถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ไปสถานีรถบัสไปอู๋หลิงหยวน อันนี้ขอเล่า เราเดินไปสถานี ความจริงคือการซื้อตั๋วต้องเข้าไปซื้อในสถานีแหละแต่ตอนเราเดินๆหาอยู่ก็มีคนทักว่าจะไปไหนจะเอาตั๋วหรือเราก็เลยตกลงเขา เขาก็บอกให้นั่งรอ เดี๋ยวรถจะมารับตรงนี้ รถออก 2.40 โอเค ข้อมูลราคาและเวลาออกรถเหมือนที่อ่านรีวิวมาเลย เอาวะ ...คงไม่ถูกหลอกสิน่า (ความจริงคือจิตตกตั้งแต่ก่อนไปเรื่องของปลอมทั้งหลายและการหลอกลวงในจีน) พอถึงเวลามีรถมารับจริงๆแหละ แต่เป็นรถตู้ เอะ ลุงให้ป้ารีปถ่ายคลิปพูดเหมือนประมาณกำลังติดต่อใครว่าตอนนี้กำลังทำอะไรไว้ (แอบกลัวมาเฟีย) มันก็พาไปตั้งไกลนะ ระหว่าทางมันก็คุยโทรศัพท์ตลอกเวลา (เริ่มกลัวๆละ) และด้วยท่าทางการพูดซึ่งเป็นนิสัยของเขาที่เราไม่ชินดูเหมือนจะพูดกันแรง แต่จริง ๆ คือเขาพูดปกติแหละ........เขาก็ให้เรารอในรถนานพอดูแหละรถก็มาเขาก็เก็บเงินเรา 2 คน 210 หยวน ก็โอเคนะ ทีนี้ละโล่งอกถึงแน่ ๆ ในรถคนก็ไม่เยอะทั้งหมด 12 คนรวม ทั้งคนขับ นั่งไปยาว ๆ 5 ชั่วโมง เหตุผลที่นั่งรถบัสไม่เลือกรถไฟคือ ด้วยเราไม่เคยวิวทุกวิวเราไม่เคยเห็นอยู่ละ สองคือทัวร์เขาก็นั่งบัสเหมือนกันแต่รถเขา วีไอพี มีไกด์ด้วย มีการจอแวะให้เข้าห้องน้ำเหมือนกันดูเหมือนเขารู้ว่าเราไม่รู้ภาษาเราเขาก็เดินมาบอก มิตรภาพใหม่ ๆ ที่ได้เจอ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงซึ่งถูกกว่ารถไฟหลายเท่า ฮ่าๆๆๆ....... และอีกเหตุผลหนึ่งคือมันถึงอู๋หลิงหยวนเลยไม่เข้าจางเจียเจี้ยซึ่งรถไฟต้องลงจางเจียเจี้ย แล้วต้องต่อรถบัสมาอู๋หลิงหยวนอีกทีซึ่งเราเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลเดินไปขึ้นรถบัสเข้าอุทยานได้เลย แต่ก็กักไว้สำหรับคืนสุดท้ายนะขากลับไปฉางชาจะนั่งรถไฟกลับ พอดูหน้างานแล้ว กลับทางเดิมน่าจะดีกว่าเพราะถึงนั่งรถไฟก็ต้องพักในจางเจียเจี้ยแหละ ขี้เกียจแบกเป้ไปๆมา เพราะถึงนั่งรถไฟกลับพักอู๋หลิงหยวนก็น่าจะสบายกว่าเพราะสถานีรถไฟก็ดูเหมือนต้องนั่งรถมาสถานีเหมือนกัน
พอถึงอู๋หลิงหยวนเราก็เข้าพักที่โรงแรมที่จองไว้ตอนจะขึ้นเครื่องบินไปวันแรกเอง โรงแรมอยู่ตรงถนนคนเดินพอดี weiyi fengshang hotel ทุกอย่างดีหมดสำหรับเรานะไม่มีตู้เย็น ไม่มีกาแฟหรือชาให้ แต่ขอได้ เขาให้เหตุผล
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ตารางแข่งขันวอลเลย์บอล ปี 2026 (รายการสำคัญเพียบ)
ตารางแข่งขันปี 2026 ปีหน้ารายการใหญ่ชิงแชมป์เอเชียเดิมพันด้วยตั๋วโอลิมปิก 📍ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยจะคว้าตั๋วรอบแรกได้หรือไม่?? คู่แข่งสำคัญคงหนีไม่พ้น จีน ญี่ปุ่น ซึ่งจะ จัดขึ้นวันที่ 21-30 สิงหาคม 2026
สมาชิกหมายเลข 8545656
🇫🇷🇨🇭 [สอบถาม] การขอ Tax Refund สำหรับของที่ซื้อจากฝรั่งเศส แต่เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ด้วยรถไฟ และบินกลับจาก ZRH
สวัสดีครับ! ผมกำลังวางแผนเที่ยวโซนยุโรป โดยมีแพลนคร่าวๆ ดังนี้ครับ: ซื้อของ ที่ประเทศฝรั่งเศส 🇫🇷 (Paris) เดินทางต่อ ไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 🇨🇭 ด้วยรถไฟ (TGV) บินกลับ ประเทศไทย 🇹🇭 จากสนามบินซูริก (Z
SarinPoom
ตั๋วรถไฟ
ตั๋วรถไฟหน้าเว็ปฯ ขึ้นว่าเต็ม ถ้าเราโทรถาม Call Center กับไปจองเองที่สถานี มันจะเต็มเหมือนกันไหม
สมาชิกหมายเลข 5614730
รีวิว รถบัสรอบแรกจากสถานีรถไฟไปสนามบินโหน่ยบ่าย ฮานอย
ตอนก่อนไปฮานอยเราพยายามหาข้อมูลเรื่องรถบัสสาย 86 เที่ยวแรกของวันที่จะรับคนจากสถานีรถไฟไปสนามบินโหน่ยบ่าย เพื่อเตรียมตัวสำหรับเดินทางกลับไทย แต่ข้อมูลที่เจอก็เป็นข้อมูลเก่าเมื่อหลายปีที่แล้ว และภาพบรรย
สมาชิกหมายเลข 1108317
ข้อสังเกตบางประการจากการหาของกินที่มณฑลยูนนาน (คุนหมิง ลิเจี้ยง แชงกรีล่า)
ตั้งแต่เมืองจีนเปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวไทย การออกไปหาของกินเล่นที่จีนก็เหมือนเดินไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านหน้าปากซอย แต่มีสองเรื่องที่ต้องเตรียมตัวดีๆ ไม่งั้นคงจะสั่งของกินยาก พาลหงุดหงิดทั้งคนขายแล
นกเถื่อน
เรามาดูทรงกราฟ ในช่วงกรอบการเลือกตั้งปี 66 ของ SET INDEX กันว่า มันเคลื่นไหวอย่างไร ในช่วงนั้น.
ในปี 2566 หรือ ค.ศ. 2023 นั้น รัฐบาลลุงตู่ประกาศยุบสภาใน วันที่ 20 มีนาคม 2566. และ เลือกตั้ง ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566. ช่วงเวลาการเลือกตั้งปี 66 การเคลื่อนไหวของกราฟ ของ SET INDEX ดูได้ตามกรอปสีแดง ค
เตียวกงจื้อ
🚂... ก้าวขึ้นรถไฟไปผ่อสิ่งสวยงามตี้เมืองสองพี่น้องแห่งล้านนา " ลำพูน x ลำปาง " กั๋นเต๊อะ~! 🪻🌈 EP.1
สวัสดีครับ/ค่ะ ชาวพันทิปทุกคน! 😃 พวกเราเป็นนักศึกษากลุ่มเล็กๆ จาก มจธ. ที่ได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ "เที่ยวเมืองรอง" ครั้งแรก โดยทริปนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา GEN441 วัฒนธรรมและการท่องเที
สมาชิกหมายเลข 6704482
Review เที่ยวเอง คุนหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีลา 7วัน 6 คืน งบ 25,000 บาท (Day 6)
Day 6 แชงกรีลา – คุนหมิง วันนี้ตื่นเช้าอีกแล้ว พวกเราเก็บของเช็คเอ้าตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมงเช้า ลงมาเช็คเอ้ามีคุณลุงมาขับรถไฟฟ้า
Lady Oscar
รีวิว เที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืน
รีวิว เที่ยวปักกิ่งด้วยตัวเอง 4 วัน 3 คืนเดินทาง 29 ตค 68 - 3 พย 68เที่ยวจริง 30 ตค 68 - 2 พย 68ผู้เดินทาง 2 คน เราและป้า (60 up) เน้นเที่ยวตามที่เดินไหว สายการบิน : VietjetBKK - PKX : 18.35 - 00.15 (
สตรีอ้วน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 4
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ลุงกะป้าพายายแฝดเที่ยว : พาไปหลงในดงจีน 17-29 ตุลาคม 2566 ตอนที่ 2
วันที่ 20 ตุลาคม 2566
วันนี้ตั้งใจจะไปจัตุรัสเทียนอันเหมินทะลุเข้าวังไป ตามที่ลุงเคยไปมาก่อนที่จะมีโควิด (ในความเป็นจริงคือใครที่เคยไปก่อนโควิดควรลบข้อมูลที่มีอยู่ในหัวทั้งหมดทิ้ง วิถีการเที่ยวเปลี่ยนไป ต้องไปแก้ไขหน้างานเสียส่วนใหญ่ เรานั่งรถไฟไปลง สถานีเทียนอันเหมินซี
ซึ่งจะลงหน้าจตุรัศตรงที่ตรวจกระเป๋า.....แต่ในความเป็นจริงคือเราเข้าไม่ได้ไม่ได้จองมา ต้องจองออนไลด์เท่านั้นแม้แต่คนจีนเองก็ไม่เว้น.....เอาแล้วไง...ต้อนรับน้องใหม่ มีคนโวยวายอยู่ตรงนั้นคนจีนแหละรู้.....เราผสมโรงด้วยดีกว่า ขั้นแรกเปิดแอปแปลภาษาของเรา หายามหรือใครก็ได้ที่ต้องตาแล้วให้เขาดูและขอความช่วยเหลือ แนะนำ ว่าเราควรทำไง ได้โปรดเรามีเวลาไม่มากที่นี่เราให้เขาดูว่าเราโหลดไม่ได้ (หน้าท้อแท้มากกกกกก) ในที่สุด เขาก็ใจอ่อน เอาโทรศัพท์เขาทำให้ .....แล้วให้เราถ่ายรูปไว้
และบอกเราว่าให้มาได้พรุ่งนี้ เย้ น่ารักอะ......เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาทาโร่กะเบนโตะที่พกไปแบ่งน้องดีกว่า (คิดในใจ) เอาไงละตอนนี้ ไม่มีแผนเวลาเหลือไปไหนดี นั่งหาที่ไปแป๊บๆๆ ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่าไปพระราชวังฤดูร้อนดีกว่าถามว่าไปไงรถไฟแหละง่ายสุดเราเลือกเดินลงจากเขาไม่เดินขึ้นเพราะจะไม่ไหวและต้องการรักษากำลังไว้เพราะจะไปอีกหลาย ๆที่และอย่างโหดทั้งนั้น......อยู่เลื่อยเปื่อยแล้วกัน..เอาจริง ๆ แล้วเดินทั้งวันไม่น่าจะทั่วนะสำหรับกำลังวัย 51 ฮ่าๆๆๆ มาตามเส้นทางยอดฮิตแล้วกัน ว่าจะไม่กลับค่ำนะวันนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 2566
วันนี้ออกแต่เช้าเลยจะไปจัตุรัสที่น้องเขาจองให้เมื่อวานคิดว่ารวมไปถึงการเข้าวังด้วย คงใช้เวลาทั้งวันแหงๆ มั่นหน้ามาก.....ไปถึงก็ต่อแถวตรวจกระเป๋ายื่นพาสปอร์ตตีหน้ามึน ๆ เขาก็แยกแถวให้แบบพิเศษเลย ตรวจถี่ยิบ เปิดดูขวดกาแฟ ดมคะ เอกสารต่าง ๆ ของเราเปิดอ่าน ยาดมก็ดม แอลกอฮอล์ลองฉีด
อันนี้เข้าใจได้ว่าเป็นเหตุผลทางด้านความมั่นคงหรือเปล่าที่นี่เป็นที่อ่อนไหว
เดินทะลุเข้าไปข้างในลานรอคิวเข้าวังต้องห้ามแค่นั้นมันไปต่อไม่ได้แล้ว วันนี้เอาแค่เดินเรียบวัง และก็หาข้อมูล
........แต่มันจะผ่านเข้าไปวังต้องห้ามไม่ได้นะคะ ซื้อตั๋วไม่ได้ด้วยเพราะเข้าวังต้องจองคิวซื้อตั๋วอีกคะ คนละอย่าง เอาแล้วไง วันนี้ฟาว์ววววววอีก ละ นั่งพักเตร่แถวหน้าวังใจร่ม ๆ สังเกตผู้คน ส่วนมากพวกฝรั่งจะเจอปัญหาเดียวกัน ถามพวกฝรั่งว่าคนที่ต่อแถวรับตั๋วนี้ต้องทำไงเขาก็บอกว่าเขาให้ไกด์ทำให้ วันนี้เขาบอกมาจ่ายเงินรับตั๋ว เฮ่อ.....เอาไงละน้องแอปต้องมา พูดไปอยากพูดอะไรก็พูดไปให้มันแปลเป็นภาษาจีน เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่อ่าน เขาก็ให้คำแนะนำมาแบบนี้ 7 วันเอ้า.......ทำไงอะไม่มีเวลาละจะไม่ได้เข้าหรือ แล้วจะมาทำไมที่ปักกิ่ง.......ไม่ได้สิมาแล้ว ออกแรงหน่อยไหม ไหนไหนก็มาแล้วนี่ อันที่จริงน่าจะเอะใจตั้งแต่ขอวีซ่าแล้วเนอะ กับระบบออนไลด์เนี่ย......เอาใหม่ลองไปยืนสังเกตเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้ล๊อกเป้าไว้เลย ในที่สุดก็ได้ความมาว่า
ให้สแกนคิวอาร์โค๊ตแล้วกรอกข้อมูลลงไป รอรับเมล์ส่งกลับภายในวันนี้.......เอาหน่า ลองหน่อย...............................ระหว่างรอยังไม่เที่ยงเลยเอาไงต่อ จะกลับที่พักก็เช้าอยู่เลยยังไม่ได้ไปไหนเลย เทียนถานหอสักการะฟ้า
ยังไม่ได้ไปนิ ไปหน่อยน่าไหนๆ ก็หลงในดงจีนละ เอาให้ทั่วสิ บัตรรถไฟแหละ ถือว่าไปนั่งทานข้าวกลางวันที่นี่วันนี้ห่อข้าวกับอบไก่น่องเล็กฝีมือลุงแล้วก็สำรวจไปบ่าย ๆ หมดแรงไก่อบแหละ กลับทีพักดีกว่าระหว่างนั้นเราก็ได้รับเมล์ตอบกลับว่าพรุ่งนี้เรามีคิวให้ไปจ่ายเงินรับตั๋วเข้าวังได้ เย้ ๆๆๆๆๆ ถ้าไม่ได้แย่เลยมาทั้งที กลับไปเตรียมตัวและหาที่เติมเงินบัตรรถไฟดีกว่าจะได้เรียกกำลังขาด้วยตอนนี้เริ่มจะไม่ไหวละ เดิน ๆๆ ทุกวัน เอาจริงที่เดินเตรียมมาจากบ้านมาถึงที่นี่ดูจิ๊บ ๆ มากมาย
วันที่ 22 ตุลาคม 2566
วันนี้เราต้องปรับวิธีการขึ้นรถไฟนิดหน่อย เพราะ 2 วันที่ผ่านมาเราลงสถานีเทียนเหมินซี วันนี้เราจะไปลงสถานีเทียนเหมินตง เข้าทางข้างวัง เหมือนวันนี้มีจุดหมายที่แน่นอนมั่นหน้าอีกละว่ามีตั๋วแน่นอน ขนาดออกจากที่พักตั้งแต่ 6 โมงเช้านะ ด้วยเหตุผลว่าด้วยบ้านเราไกล ด้วย และเช้าจะพยายามหลีกกรุ๊ปทัวร์ แม่เจ้าเมื่อไปถึงดูเราเหมือนคนมาสายเลย....คนเยอะแล้วอะ ต่อแถวรับตั๋วยาวละ ก็ไม่เป็นไรกว่าจะได้เข้า 8.00 พอดี ไปคะลากยาวจนค่ำเลย เก็บให้ได้ เท่าที่กำลังเดินไหว วันนี้เป็นวันที่อยู่ปักกิ่งวันสุดท้ายด้วย เพราะพรุ่งนี้ตามแผนจะเป็นวันที่อุทิศให้กับการเดินทางทั้งวัน ต้อ่งกลับไปฉางชาละ
วันที่ 23 ตุลาคม 2566
วันนี้ต้องตื่นเช้าเพราะเราบุ๊คเที่ยวบินตอน 8.00 ไว้ รองท้องด้วยต้มเต้าหู้ที่เหลือเมื่อคืนกับกาแฟ จริง ๆ คือมันเช้าอยู่กินไรไม่ลง เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับไปคืนบัตร อี้ข่าทงด้วย จริง ๆ ไม่ต้องคืนก็ได้เงินเหลือนิ๊ดเดียวแต่ด้วยความอยากรู้ว่ามันคืนได้จริงไหมนิ ไหน ๆ ก็เป็นทางผ่านอยู่แล้วด้วยเวลายังเหลือทัวร์ในสนามบินปักกิ่งต้าชิงด้วยแหละ อลังการจริง ๆ เมืองจีนนี่เล็ก ๆ ไม่จริงนะเนี่ย
อ้อ...สายการบินแม้จะเป็นราคาประหยัดแต่เขาก็แจกของว่างเป็นขนมปังอบชีสห่อด้วยฟรอยแบบอุ่น ๆ พร้อมน้ำเปล่า 1 ขวด และสามารถขอน้ำร้อนไว้จิปได้ด้วย ซึ่งบ้านเราไม่มี................
เมื่อถึงฉางชา เราเลือกที่จะใช้รถไฟฟ้าออกจากสนามบิน ไปสถานีรถบัสไปอู๋หลิงหยวน อันนี้ขอเล่า เราเดินไปสถานี ความจริงคือการซื้อตั๋วต้องเข้าไปซื้อในสถานีแหละแต่ตอนเราเดินๆหาอยู่ก็มีคนทักว่าจะไปไหนจะเอาตั๋วหรือเราก็เลยตกลงเขา เขาก็บอกให้นั่งรอ เดี๋ยวรถจะมารับตรงนี้ รถออก 2.40 โอเค ข้อมูลราคาและเวลาออกรถเหมือนที่อ่านรีวิวมาเลย เอาวะ ...คงไม่ถูกหลอกสิน่า (ความจริงคือจิตตกตั้งแต่ก่อนไปเรื่องของปลอมทั้งหลายและการหลอกลวงในจีน) พอถึงเวลามีรถมารับจริงๆแหละ แต่เป็นรถตู้ เอะ ลุงให้ป้ารีปถ่ายคลิปพูดเหมือนประมาณกำลังติดต่อใครว่าตอนนี้กำลังทำอะไรไว้ (แอบกลัวมาเฟีย) มันก็พาไปตั้งไกลนะ ระหว่าทางมันก็คุยโทรศัพท์ตลอกเวลา (เริ่มกลัวๆละ) และด้วยท่าทางการพูดซึ่งเป็นนิสัยของเขาที่เราไม่ชินดูเหมือนจะพูดกันแรง แต่จริง ๆ คือเขาพูดปกติแหละ........เขาก็ให้เรารอในรถนานพอดูแหละรถก็มาเขาก็เก็บเงินเรา 2 คน 210 หยวน ก็โอเคนะ ทีนี้ละโล่งอกถึงแน่ ๆ ในรถคนก็ไม่เยอะทั้งหมด 12 คนรวม ทั้งคนขับ นั่งไปยาว ๆ 5 ชั่วโมง เหตุผลที่นั่งรถบัสไม่เลือกรถไฟคือ ด้วยเราไม่เคยวิวทุกวิวเราไม่เคยเห็นอยู่ละ สองคือทัวร์เขาก็นั่งบัสเหมือนกันแต่รถเขา วีไอพี มีไกด์ด้วย มีการจอแวะให้เข้าห้องน้ำเหมือนกันดูเหมือนเขารู้ว่าเราไม่รู้ภาษาเราเขาก็เดินมาบอก มิตรภาพใหม่ ๆ ที่ได้เจอ ที่สำคัญคือราคาไม่แพงซึ่งถูกกว่ารถไฟหลายเท่า ฮ่าๆๆๆ....... และอีกเหตุผลหนึ่งคือมันถึงอู๋หลิงหยวนเลยไม่เข้าจางเจียเจี้ยซึ่งรถไฟต้องลงจางเจียเจี้ย แล้วต้องต่อรถบัสมาอู๋หลิงหยวนอีกทีซึ่งเราเลือกพักที่นี่ด้วยเหตุผลเดินไปขึ้นรถบัสเข้าอุทยานได้เลย แต่ก็กักไว้สำหรับคืนสุดท้ายนะขากลับไปฉางชาจะนั่งรถไฟกลับ พอดูหน้างานแล้ว กลับทางเดิมน่าจะดีกว่าเพราะถึงนั่งรถไฟก็ต้องพักในจางเจียเจี้ยแหละ ขี้เกียจแบกเป้ไปๆมา เพราะถึงนั่งรถไฟกลับพักอู๋หลิงหยวนก็น่าจะสบายกว่าเพราะสถานีรถไฟก็ดูเหมือนต้องนั่งรถมาสถานีเหมือนกัน
พอถึงอู๋หลิงหยวนเราก็เข้าพักที่โรงแรมที่จองไว้ตอนจะขึ้นเครื่องบินไปวันแรกเอง โรงแรมอยู่ตรงถนนคนเดินพอดี weiyi fengshang hotel ทุกอย่างดีหมดสำหรับเรานะไม่มีตู้เย็น ไม่มีกาแฟหรือชาให้ แต่ขอได้ เขาให้เหตุผล