จอร์แดน ขอสหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธ “แพทริออต”
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209149
จอร์แดน ร้องขอให้สหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธ “แพทริออต” หลังสถานการณ์สงครามในฉนวนกาซา ระอุ
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ประเทศจอร์แดน พันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ได้ขอให้วอชิงตันติดตั้งขีปนาวุธแพทริออต (ระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ) เพื่อเสริมการป้องกันทางอากาศที่ชายแดน
คำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในตะวันออกกลางอันเนื่องมาจากสงครามในฉนวนกาซา รวมถึงการปะทะกันที่ชายแดนเลบานอน-อิสราเอลระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกองกำลังอิสราเอล
พลจัตวา
มุสตาฟา ไฮยารี โฆษกกองทัพจอร์แดน กล่าวว่า “
เราขอให้ฝ่ายอเมริกาเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการป้องกันของเราด้วยขีปนาวุธแพทริออต ระบบนี้มีราคาแพงและไม่สามารถนำมาใช้กับความสามารถในท้องถิ่นได้ และเราต้องการพันธมิตรทางยุทธศาสตร์”
ไฮยารี กล่าวอีกว่า จอร์แดนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขีปนาวุธจากทางเหนือ ตะวันออก และตะวันตก และระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตคือ “
อาวุธที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามดังกล่าว”
จอร์แดน ยังกำลังร้องขอระบบเพื่อต่อสู้กับโดรนที่ใช้ในการลักลอบขนยาเสพติด เนื่องจากพวกมัน “
กลายเป็นภัยคุกคามต่อแนวรบทั้งหมดของเรา”
ไฮยารี ระบุ
ที่มา: CNN
กลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ในรัสเซียบุกสนามบิน หาตัวชาวอิสราเอล
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209150
เกิดเหตุผู้ประท้วงชาวมุสลิมในรัสเซียบุกสนามบินแห่งหนึ่งในภูมิภาคดาเกสถาน เพื่อตามหาตัวชาวอิสราเอลที่เดินทางมาจากเทลอาวีฟ
เมื่อเย็นวานนี้ (29 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นภูมิภาคดาเกสถานของรัสเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นที่สนามบินมาฮัชคาลา เมื่อผู้คนหลายร้อยคนบุกสนามบินเพื่อประท้วงการมาถึงของเที่ยวบินจากอิสราเอล
ผู้ประท้วงบางส่วนวิ่งลงรันเวย์และปิดล้อมเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินเรดวิงส์ (Red Wings) เพื่อตามหาตัวชาวอิสราเอลที่เดินทางมาจากเทลอาวีฟ พร้อมตะโกนข้อความต่อต้านรัฐบาลอิสราเอล
ภาพจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นฝูงชนบนรันเวย์โบกธงปาเลสไตน์ และมีบางคนท่ำไล่ตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้โดยสารที่มาถึงมาฮัชคาลา รวมถึงมีรายงานว่า ผู้ประท้วงพยายามพลิกคว่ำรถตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อพยายามสลายฝูงชน
ผู้ประท้วงคนหนึ่งถือป้ายอ่านว่า “
ฆาตกรที่ฆ่าเด็กไม่ควรมีที่ยืนในดาเกสถาน”
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดสนามบินมาฮัชคาลาจนถึงวันที่ 6 พ.ย. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้ประท้วง แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 ราย ในจำนวนนั้น 2 รายอาการสาหัส
ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า “
อิสราเอลคาดหวังให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัสเซียปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองอิสราเอลและชาวยิวทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม และให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ก่อจลาจลและต่อต้านการยั่วยุต่อชาวยิวและชาวอิสราเอล”
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเขตสหพันธรัฐคอเคเชียนเหนือของรัสเซีย ซึ่งดูแลดาเกสถาน กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ที่บุกโจมตีสนามบิน และผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
หน่วยงานภาครัฐของรัฐดาเกสถานได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและไม่มีส่วนร่วมในการประท้วงดังกล่าว “
อย่ากระทำผิดกฎหมายต่อไป และไม่แทรกแซงการทำงานของพนักงานสนามบิน”
แต่แถลงเพิ่มเติมว่า “
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราแต่ละคนที่จะยืนดูการสังหารหมู่พลเรือนปาเลสไตน์อย่างไร้มนุษยธรรม ในเวลาเดียวกัน เราขอเรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยในสาธารณรัฐอย่ายอมแพ้ต่อการยั่วยุ และอย่าสร้างความตื่นตระหนกในสังคม”
ในรัสเซีย มีภูมิภาคเชชเนียและดาเกสถานที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
สำหรับการประท้วงครั้งนี้มีรายงานว่า ดูเหมือนจะได้รับแรงกระตุ้นจากโพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรมจากผู้ใข้หลายบัญชีที่แจ้งว่า เที่ยวบินจากเทลอาวีฟจะมาถึงในเย็นวันนั้นพร้อมกับผู้ที่เดินทางมาจากอิสราเอล
Utro Dagestan หนึ่งในบัญชีเทเลแกรมได้โพสต์สั่งให้มีการปิดล้อมสนามบิน สอบปากคำผู้โดยสารที่มาถึง และเรียกร้องให้พวกเขาประณามรัฐบาลอิสราเอล และเรียกร้องให้คนในพื้นที่ติดตามตัวชาวอิสราเอลที่มาถึง ถ่ายรูปยานพาหนะของพวกเขา และจดที่อยู่ที่พวกเขาพักอยู่
ด้านหน่วยงานที่ดูแลชาวยิวในภูมิภาคเผยว่า พวกเขาอาจจำเป็นต้องอพยพครอบครัวชาวยิวประมาณ 800 ครอบครัวจากทั่วดาเกสถาน
โอวาเดีย อิซาคอฟ ตัวแทนชุมชนชาวยิวในท้องถิ่น กล่าวว่า “
สถานการณ์ในดาเกสถานเป็นเรื่องยากมาก ผู้คนในชุมชนต่างหวาดกลัว พวกเขาโทรมา และผมไม่รู้จะแนะนำอย่างไร”
รายงานการประท้วงต่อต้านชาวยิวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงมาฮัชคาลาเท่านั้น เมื่อวานนี้ ในเมืองนัลชิค อีกเมืองหนึ่งในภูมิภาคคาร์บาดิโน-บัลคาเรียที่อยู่ใกล้เคียง ก็เกิดเหตุเผาศูนย์กลางชาวยิว และมีการปิดล้อมโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองคาซาวูร์ต ดาเกสถาน เพื่อค้นหาห้องพักที่ชาวยิวพำนักอยู่
เรียบเรียงจาก
Al Jazeera /
The Guardian
‘โรม’ ยก กมธ.มั่งคง สักการะ ร.5 ก่อนถก ‘บิ๊กทิน’ จ่อถามเกณฑ์ทหาร-เปลี่ยนเรือดำน้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4257950
“โรม” ยก กมธ.มั่งคง สักการะ ร.5 ก่อนถก “บิ๊กทิน” ความมั่นคงชายแดน – เกณฑ์ทหาร พร้อมจี้ถามเปลี่ยนเรือดำน้ำ แล้วโจทย์ประเทศเปลี่ยนหรือไม่ วอนอย่ามองมาตรวจสอบ แค่อยากแนะนำตัว เข้าใจงานกองทัพมากขึ้น ขณะ “ปิยรัฐ” สวมผ้าไกมสีส้มสด เข้าหารือด้วย
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ กระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง แห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นาย
ปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. โฆษกกมธ.และคณะ เดินทางมา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน เพื่อเข้าพบนาย
สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เมื่อมาถึง นาย
รังสิมันต์ ได้นำคณะกมธ. ไหว้สักการะ หอพระ พระพุทธไตรเสนากลาโหมพิทักษ์ ก่อนที่จะสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ประจำสำนักสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
จากนี้นาย
รังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางของคณะกรรมาธิการความมั่นคง ซึ่งที่ผ่านมา เราเข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของเรา เช่นกระทรวงยุติธรรม วันนี้มีประเด็นหลายเรื่องที่จะมาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชายแดนเมียนมา ที่มีปัญหาเรื่องของการค้ามนุษย์
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพ พี่กำลังมีเรื่องของเรือดำน้ำที่จะเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น การเกณฑ์ทหาร โดยเราไม่ได้จำกัดว่าคำถามจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ เราอยากจะเข้าใจกองทัพมากขึ้น ซึ่งมองว่าหากเรามีความเข้าใจ จะได้สื่อสาร ให้ประชาชนได้เข้าใจ ถึงทิศทางความมั่นคงของประเทศว่าเป็นเช่นใด และ อยากที่จะมาสนับสนุน งานของกระทรวงกลาโหม ให้ปฎิบัติภารกิจอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าวันนี้เราจะมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน และช่วยกันทำงาน เพื่อแก้ปัญหาในอนาคตข้างหน้า หากมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ก็ จะใช้วิธีการโทรหา โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สภาฯ เพราะค่อนข้างที่จะหาเวลาตรงกันยาก ยกหูหากันได้เลยจะได้แก้ปัญหาได้ทันการณ์ ไม่ต้องมาทำหนังสือเชิญ หลายขั้นตอน โดยเฉพาะปัญหาชายแดน ถือเป็นปัญหาที่ท้าทาย เรื่องของความมั่นคงประเทศเรามาก ก็จะใช้โอกาสนี้เรียนรู้ร่วมกัน ทำความรู้จัก และสนับสนุนการทำงานร่วมกัน
เมื่อถามว่ามีเรื่องเรือดำน้ำ จะมาทวงถามตามที่นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้สอบถามนาย
สุทิน ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ว่า คงไม่ได้มาถามแทนใคร แต่ คณะกรรมาธิการจากหลายพรรค ไม่ได้จำกัดคำถาม และเชื่อว่าต้องมีเรื่องของเรือดำน้ำ ซึ่งเราก็ต้องให้โอกาสกระทรวงกลาโหมชี้แจง รวมถึงวิธีคิด เพราะจากเดิมที่เป็นเรือดำน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นฟริเกต คงต้องสะท้อนถึงวิธีคิด และมุมมองด้านความมั่นคงว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวในฐานะประธานกมธ.ฯ สนใจในเรื่องมุมมองด้านความมั่นคง ที่บอกว่าต้องมีเรือดำน้ำ โจทก์ของเราคืออะไร และวันนี้มาบอกว่าประเทศไทยไม่เอาเรือดำน้ำแล้ว แสดงว่าโจทย์เปลี่ยนไปหรือไม่
นอกจากนี้ตนยังอยากทราบเรื่องของการเกณท์ทหาร ว่าสถานะการเกณฑ์ทหารอนาคต จะเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะได้ร่วมพูดคุย
“
การมาวันนี้ อย่าเรียกว่ามาตรวจสอบ แต่ให้มองว่าเป็นการมาแนะนำตัว และทำงานร่วมกัน เราคาดหวังให้มีการทำงานที่สร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน” นาย
รังสิมันต์ กล่าว
เมื่แถามว่าปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ระบุว่ามีข้อมูลจะประสานหน่วยงานความมั่นคง จะหยิบยกมาหารือหรือไม่นั้น นาย
รังสิมันต์ ระบุว่า ต้องยอมรับ ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ พบที่ชายแดนฝั่งเมียนมา ตนได้ทำข้อมูลเรื่องดังกล่าวมาพอสมควร เช่นฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด มีปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และทุนสีเทา หรือที่อำเภอแม่สาย พบปัญหาการค้ามนุษย์ คงจะได้หาหรือว่าจะมีหนทางในการแก้ไขอย่างไร เพราะ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพทั้งสิ้น เราคาดหวังว่าจะสามารถช่วยกันทำงานได้ เพื่อช่วยคนไทย ให้หลุดพ้นจากการหลอกลวง
เมื่อถามว่า มีเรื่อง ปฏิบัติการ IO ของกองทัพหรือไม่ นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้ามีเวลาก็จะพูดคุย วันนี้จะพยามพูดให้ครบทุกประเด็น เชื่อว่าจะมีการตั้งคำถามแน่นอน
ด้านนาย
ปิยรัฐ กล่าวว่า วันนี้ กมธ. มาพูดคุยเรื่องกิจการชายแดน งานความมั่นคงด้านยาเสพติด การค้ามนุษย์ รวมถึงความห่วงใยแรงงานไทยไปทำงานที่ทำงานต่างประเทศทั้งเกาหลีใต้ และอิสราเอล
เชื่อว่าประธานคณะกรรมาธิการ อย่างนาย
รังสิมันต์โรม จะมีคำถามที่เตรียมไว้เช่นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารและการจัดซื้ออาวุธยุทธโทปกรณ์ รวมถึงประเด็นปัญหาการจัดหาเรือดำน้ำ และ IO กองทัพ กอ.รมน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นาย
ปิยรัฐ ได้สวมผ้าไหมสีส้ม สะดุดตา มาร่วมหารือ ในวันนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมด้วย
JJNY : จอร์แดนขอสหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธ│ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์รัสเซียบุกสนามบิน│‘โรม’ยกกมธ.สักการะร.5│หุ้นเปิดตลาดไร้ทิศ
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209149
จอร์แดน ร้องขอให้สหรัฐฯ ติดตั้งขีปนาวุธ “แพทริออต” หลังสถานการณ์สงครามในฉนวนกาซา ระอุ
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ประเทศจอร์แดน พันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ ได้ขอให้วอชิงตันติดตั้งขีปนาวุธแพทริออต (ระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ) เพื่อเสริมการป้องกันทางอากาศที่ชายแดน
คำร้องขอดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในตะวันออกกลางอันเนื่องมาจากสงครามในฉนวนกาซา รวมถึงการปะทะกันที่ชายแดนเลบานอน-อิสราเอลระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และกองกำลังอิสราเอล
พลจัตวา มุสตาฟา ไฮยารี โฆษกกองทัพจอร์แดน กล่าวว่า “เราขอให้ฝ่ายอเมริกาเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบการป้องกันของเราด้วยขีปนาวุธแพทริออต ระบบนี้มีราคาแพงและไม่สามารถนำมาใช้กับความสามารถในท้องถิ่นได้ และเราต้องการพันธมิตรทางยุทธศาสตร์”
ไฮยารี กล่าวอีกว่า จอร์แดนกำลังเผชิญกับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขีปนาวุธจากทางเหนือ ตะวันออก และตะวันตก และระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตคือ “อาวุธที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามดังกล่าว”
จอร์แดน ยังกำลังร้องขอระบบเพื่อต่อสู้กับโดรนที่ใช้ในการลักลอบขนยาเสพติด เนื่องจากพวกมัน “กลายเป็นภัยคุกคามต่อแนวรบทั้งหมดของเรา” ไฮยารี ระบุ
ที่มา: CNN
กลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ในรัสเซียบุกสนามบิน หาตัวชาวอิสราเอล
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209150
เกิดเหตุผู้ประท้วงชาวมุสลิมในรัสเซียบุกสนามบินแห่งหนึ่งในภูมิภาคดาเกสถาน เพื่อตามหาตัวชาวอิสราเอลที่เดินทางมาจากเทลอาวีฟ
เมื่อเย็นวานนี้ (29 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นภูมิภาคดาเกสถานของรัสเซีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นที่สนามบินมาฮัชคาลา เมื่อผู้คนหลายร้อยคนบุกสนามบินเพื่อประท้วงการมาถึงของเที่ยวบินจากอิสราเอล
ผู้ประท้วงบางส่วนวิ่งลงรันเวย์และปิดล้อมเครื่องบินลำหนึ่งของสายการบินเรดวิงส์ (Red Wings) เพื่อตามหาตัวชาวอิสราเอลที่เดินทางมาจากเทลอาวีฟ พร้อมตะโกนข้อความต่อต้านรัฐบาลอิสราเอล
ภาพจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นฝูงชนบนรันเวย์โบกธงปาเลสไตน์ และมีบางคนท่ำไล่ตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้โดยสารที่มาถึงมาฮัชคาลา รวมถึงมีรายงานว่า ผู้ประท้วงพยายามพลิกคว่ำรถตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อพยายามสลายฝูงชน
ผู้ประท้วงคนหนึ่งถือป้ายอ่านว่า “ฆาตกรที่ฆ่าเด็กไม่ควรมีที่ยืนในดาเกสถาน”
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดสนามบินมาฮัชคาลาจนถึงวันที่ 6 พ.ย. เบื้องต้นยังไม่มีรายงานการจับกุมผู้ประท้วง แต่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 ราย ในจำนวนนั้น 2 รายอาการสาหัส
ด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า “อิสราเอลคาดหวังให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัสเซียปกป้องความปลอดภัยของพลเมืองอิสราเอลและชาวยิวทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตาม และให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ก่อจลาจลและต่อต้านการยั่วยุต่อชาวยิวและชาวอิสราเอล”
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยเขตสหพันธรัฐคอเคเชียนเหนือของรัสเซีย ซึ่งดูแลดาเกสถาน กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ที่บุกโจมตีสนามบิน และผู้ที่เกี่ยวข้องจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
หน่วยงานภาครัฐของรัฐดาเกสถานได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบและไม่มีส่วนร่วมในการประท้วงดังกล่าว “อย่ากระทำผิดกฎหมายต่อไป และไม่แทรกแซงการทำงานของพนักงานสนามบิน”
แต่แถลงเพิ่มเติมว่า “ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราแต่ละคนที่จะยืนดูการสังหารหมู่พลเรือนปาเลสไตน์อย่างไร้มนุษยธรรม ในเวลาเดียวกัน เราขอเรียกร้องให้ผู้อยู่อาศัยในสาธารณรัฐอย่ายอมแพ้ต่อการยั่วยุ และอย่าสร้างความตื่นตระหนกในสังคม”
ในรัสเซีย มีภูมิภาคเชชเนียและดาเกสถานที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
สำหรับการประท้วงครั้งนี้มีรายงานว่า ดูเหมือนจะได้รับแรงกระตุ้นจากโพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรมจากผู้ใข้หลายบัญชีที่แจ้งว่า เที่ยวบินจากเทลอาวีฟจะมาถึงในเย็นวันนั้นพร้อมกับผู้ที่เดินทางมาจากอิสราเอล
Utro Dagestan หนึ่งในบัญชีเทเลแกรมได้โพสต์สั่งให้มีการปิดล้อมสนามบิน สอบปากคำผู้โดยสารที่มาถึง และเรียกร้องให้พวกเขาประณามรัฐบาลอิสราเอล และเรียกร้องให้คนในพื้นที่ติดตามตัวชาวอิสราเอลที่มาถึง ถ่ายรูปยานพาหนะของพวกเขา และจดที่อยู่ที่พวกเขาพักอยู่
ด้านหน่วยงานที่ดูแลชาวยิวในภูมิภาคเผยว่า พวกเขาอาจจำเป็นต้องอพยพครอบครัวชาวยิวประมาณ 800 ครอบครัวจากทั่วดาเกสถาน
โอวาเดีย อิซาคอฟ ตัวแทนชุมชนชาวยิวในท้องถิ่น กล่าวว่า “สถานการณ์ในดาเกสถานเป็นเรื่องยากมาก ผู้คนในชุมชนต่างหวาดกลัว พวกเขาโทรมา และผมไม่รู้จะแนะนำอย่างไร”
รายงานการประท้วงต่อต้านชาวยิวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงมาฮัชคาลาเท่านั้น เมื่อวานนี้ ในเมืองนัลชิค อีกเมืองหนึ่งในภูมิภาคคาร์บาดิโน-บัลคาเรียที่อยู่ใกล้เคียง ก็เกิดเหตุเผาศูนย์กลางชาวยิว และมีการปิดล้อมโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองคาซาวูร์ต ดาเกสถาน เพื่อค้นหาห้องพักที่ชาวยิวพำนักอยู่
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / The Guardian
‘โรม’ ยก กมธ.มั่งคง สักการะ ร.5 ก่อนถก ‘บิ๊กทิน’ จ่อถามเกณฑ์ทหาร-เปลี่ยนเรือดำน้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4257950
“โรม” ยก กมธ.มั่งคง สักการะ ร.5 ก่อนถก “บิ๊กทิน” ความมั่นคงชายแดน – เกณฑ์ทหาร พร้อมจี้ถามเปลี่ยนเรือดำน้ำ แล้วโจทย์ประเทศเปลี่ยนหรือไม่ วอนอย่ามองมาตรวจสอบ แค่อยากแนะนำตัว เข้าใจงานกองทัพมากขึ้น ขณะ “ปิยรัฐ” สวมผ้าไกมสีส้มสด เข้าหารือด้วย
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ กระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง แห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายปิยรัฐ จงเทพ ส.ส.กทม. โฆษกกมธ.และคณะ เดินทางมา สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน เพื่อเข้าพบนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เมื่อมาถึง นายรังสิมันต์ ได้นำคณะกมธ. ไหว้สักการะ หอพระ พระพุทธไตรเสนากลาโหมพิทักษ์ ก่อนที่จะสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ประจำสำนักสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
จากนี้นายรังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางมาในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางของคณะกรรมาธิการความมั่นคง ซึ่งที่ผ่านมา เราเข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของเรา เช่นกระทรวงยุติธรรม วันนี้มีประเด็นหลายเรื่องที่จะมาหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และชายแดนเมียนมา ที่มีปัญหาเรื่องของการค้ามนุษย์
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า รวมถึงการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ของเหล่าทัพ พี่กำลังมีเรื่องของเรือดำน้ำที่จะเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต ตลอดจนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น การเกณฑ์ทหาร โดยเราไม่ได้จำกัดว่าคำถามจะเป็นเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ เราอยากจะเข้าใจกองทัพมากขึ้น ซึ่งมองว่าหากเรามีความเข้าใจ จะได้สื่อสาร ให้ประชาชนได้เข้าใจ ถึงทิศทางความมั่นคงของประเทศว่าเป็นเช่นใด และ อยากที่จะมาสนับสนุน งานของกระทรวงกลาโหม ให้ปฎิบัติภารกิจอย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าวันนี้เราจะมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน และช่วยกันทำงาน เพื่อแก้ปัญหาในอนาคตข้างหน้า หากมีเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ก็ จะใช้วิธีการโทรหา โดยไม่จำเป็นต้องไปที่สภาฯ เพราะค่อนข้างที่จะหาเวลาตรงกันยาก ยกหูหากันได้เลยจะได้แก้ปัญหาได้ทันการณ์ ไม่ต้องมาทำหนังสือเชิญ หลายขั้นตอน โดยเฉพาะปัญหาชายแดน ถือเป็นปัญหาที่ท้าทาย เรื่องของความมั่นคงประเทศเรามาก ก็จะใช้โอกาสนี้เรียนรู้ร่วมกัน ทำความรู้จัก และสนับสนุนการทำงานร่วมกัน
เมื่อถามว่ามีเรื่องเรือดำน้ำ จะมาทวงถามตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้สอบถามนายสุทิน ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ว่า คงไม่ได้มาถามแทนใคร แต่ คณะกรรมาธิการจากหลายพรรค ไม่ได้จำกัดคำถาม และเชื่อว่าต้องมีเรื่องของเรือดำน้ำ ซึ่งเราก็ต้องให้โอกาสกระทรวงกลาโหมชี้แจง รวมถึงวิธีคิด เพราะจากเดิมที่เป็นเรือดำน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นฟริเกต คงต้องสะท้อนถึงวิธีคิด และมุมมองด้านความมั่นคงว่าเปลี่ยนไปหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวในฐานะประธานกมธ.ฯ สนใจในเรื่องมุมมองด้านความมั่นคง ที่บอกว่าต้องมีเรือดำน้ำ โจทก์ของเราคืออะไร และวันนี้มาบอกว่าประเทศไทยไม่เอาเรือดำน้ำแล้ว แสดงว่าโจทย์เปลี่ยนไปหรือไม่
นอกจากนี้ตนยังอยากทราบเรื่องของการเกณท์ทหาร ว่าสถานะการเกณฑ์ทหารอนาคต จะเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะได้ร่วมพูดคุย
“การมาวันนี้ อย่าเรียกว่ามาตรวจสอบ แต่ให้มองว่าเป็นการมาแนะนำตัว และทำงานร่วมกัน เราคาดหวังให้มีการทำงานที่สร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกัน” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่แถามว่าปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ที่ระบุว่ามีข้อมูลจะประสานหน่วยงานความมั่นคง จะหยิบยกมาหารือหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ต้องยอมรับ ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ พบที่ชายแดนฝั่งเมียนมา ตนได้ทำข้อมูลเรื่องดังกล่าวมาพอสมควร เช่นฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สอด มีปัญหาเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และทุนสีเทา หรือที่อำเภอแม่สาย พบปัญหาการค้ามนุษย์ คงจะได้หาหรือว่าจะมีหนทางในการแก้ไขอย่างไร เพราะ เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพทั้งสิ้น เราคาดหวังว่าจะสามารถช่วยกันทำงานได้ เพื่อช่วยคนไทย ให้หลุดพ้นจากการหลอกลวง
เมื่อถามว่า มีเรื่อง ปฏิบัติการ IO ของกองทัพหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้ามีเวลาก็จะพูดคุย วันนี้จะพยามพูดให้ครบทุกประเด็น เชื่อว่าจะมีการตั้งคำถามแน่นอน
ด้านนายปิยรัฐ กล่าวว่า วันนี้ กมธ. มาพูดคุยเรื่องกิจการชายแดน งานความมั่นคงด้านยาเสพติด การค้ามนุษย์ รวมถึงความห่วงใยแรงงานไทยไปทำงานที่ทำงานต่างประเทศทั้งเกาหลีใต้ และอิสราเอล
เชื่อว่าประธานคณะกรรมาธิการ อย่างนายรังสิมันต์โรม จะมีคำถามที่เตรียมไว้เช่นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารและการจัดซื้ออาวุธยุทธโทปกรณ์ รวมถึงประเด็นปัญหาการจัดหาเรือดำน้ำ และ IO กองทัพ กอ.รมน.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายปิยรัฐ ได้สวมผ้าไหมสีส้ม สะดุดตา มาร่วมหารือ ในวันนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมด้วย