เมื่อเราพบว่าครอบครัวแตกสบาย เพราะแม่รักญาติพี่น้องตัวเองมากกว่าครอบครัว เราจะทำไงดีคะ ช็อคจนตันไปหมด

ต้องขอเกริ่นก่อนว่าแม่เรามีพี่น้องรวมแม่เราทั้งหมด 8 คน ตลอดมา แม่เรามักเล่าว่าตัวเองไม่ค่อยได้รับความรักความสนใจจากผู้เป็นแม่(ยาย) ทำดีเท่าไหร่ก็ไม่อยู่ในสายตาไม่เคยดีพอ และความรู้สึกนั้นแม่เราก็ส่งมันต่อมาจนถึงเราตอนนี้แม่เราทำนิสัยเหมือนยาย

ปัญหาทั้งหมดมันเริ่มจาก พี่น้องทั้ง 7 ปอกลอกเอาทรัพย์สินของพ่อเราโดยให้แม่เป็นคนนำมาให้ เท่านั้นยังไม่พอลามไปจนถึงการให้แม่จำนองที่ดินหรือขายทรัพย์สินเพื่อแปลงมาเป็นเงินให้บรรดาพี่น้องของแม่โดยพวกเขามักหลอกแม่ว่าแค่ยืมก่อน แน่นอนว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้คืน แถมยังต้องชดใช้หนี้ให้เพราะที่ดินที่เอาไปจำนองเขาไม่ยอมจ่ายเงินจนธนาคารจะยึด แม่เลยต้องเอาเงินและทรัพย์สินที่มีมาชดใช้แทนจนหมด แน่นอนว่าเรื่องเงินทองแม่เราโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยเงินทั้งหมดนั้นก็คือเงินของพ่อ แม่มักทะเลาะกับพ่ออยู่บ่อยครั้งแต่แม่ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด แถมเกลียดพ่อเรา แช่งให้ตายวันตายพรุ่งอยู่ตลอด พ่อเราเขาเป็นคนที่ชอบโวยวายเสียงดังก็เลยทำให้เราเข้าใจพ่อผิดมาโดยตลอดว่าที่พ่อแม่ทะเลาะกันเป็นเพราะพ่อใจร้อน

เราคิดมาตลอดว่าปัญหาทั้งหมดมันจบไปตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว แต่เปล่าเลยตอนนี้เราอายุจะ 30 แล้ว เราเพิ่งได้รู้ความจริงว่าแม่โกหกคนในบ้านสารพัด แย่ไปกว่านั้นคือทุกครั้งที่คนในบ้านเกิดการเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับเงินที่ไม่เคยพอใช้เลย(แม่เป็นคนถือเงินบำนาญพ่อ) เขาก็จะโกหกโดยบอกว่าอีกฝ่ายยืม เช่น ถ้าพี่เราถามว่าทำไมเดือนนี้เงินบำนาญพ่อหมดแล้วแม่จะบอกว่าก็น้องช็อตเพราะตกงานแม่เลยโอนช่วยน้อง หรือถ้าโดนถามอีกก็จะหากุเรื่องโกหกไปเรื่อยเพื่อให้คนในบ้านเชื่อ

เราต้องบอกก่อนว่าแม่เป็นคนทำให้เราและพี่ชายไม่รักกันเพราะเขามักอ้างสารพัดว่าช่วยน้องหน่อยพี่ชายเลยไม่ชอบเราไม่ติดต่อไม่คุยด้วย ส่วนเราโดนแบบพี่ชายเลย แน่นอนว่าเราก็ไม่ติดต่อและไม่คุยกับพี่ชายเลยจนกระทั่งเมื่อวานเราเปิดประเด็นคุยกับพี่ชาย 2 คนจึงได้ทราบว่าแม่มีเรื่องที่ปิดไว้มากมายและโกหกเรากับพี่ชายและพ่อสารพัดเรื่อง แต่ทั้งหมดที่โกหกจะเป็นเรื่องเงิน 90% 

เราเลยตกลงกับพี่ชายว่าจะต้องคุยกับแม่ให้ได้ว่าทุกวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นเพราะดูเหมือนแม่จะเป็นหนี้ก้อนโตมากแต่ไม่บอกครอบครัวเลยรวมถึงที่ดินที่เคยมีรวมถึงที่ดินที่เป็นบ้านก็น่าจะไม่ใช่ของครอบครัวแล้ว น่าจะแอบขายให้พี่น้องตัวเองเพราะต้องใช้หนี้ แต่ไม่ยอมบอกคนในบ้าน

แต่ที่เราหนักใจคือตอนนี้แม่เรามีนิสัยที่น่ากลัวมาก อารมณ์แบบมนุษย์ป้า เริ่มมีตรรกะที่แปลกประหลาด เริ่มแยกแยะอะไรไม่ได้ จากผิดเป็นถูกจากถูกเป็นผิด คือหนักกว่าเมื่อก่อนเยอะ เริ่มหมกมุ่นกับเรื่องดวง เริ่มเข้าลัทธิบ้าบอ เอาแต่บอกว่า ทำแล้วมีตังค์อย่างน้อยก็มีลุ้น 

สิ่งที่แม่ทำและแม่เป็นในตอนนี้ ทำให้เราคิดว่าที่ผ่านมาเราเหมือนไม่เคยรู้จักแม่เลย ทั้งๆที่คิดว่าสนิทกันมากแท้ๆมีอะไรก็เล่าและแชร์ให้แม่ตลอดไม่เคยให้มาหนักใจหรือปวดหัวหรือต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวเราเลย

สิ่งที่เรากลัวคือถ้าเราถามแม่เกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงินที่ไม่เคยพอใช้เลยและเรื่องที่ดินที่แม่มักห้ามไม่ให้ก็ไปยุ่งทั้งๆที่เป็นที่ดินเรา แล้วแม่เลือกที่จะเดินหนีไม่คุย เงียบไม่อธิบาย หนักไปกว่านั้นกลัวว่าแม่จะรับไม่ได้ที่ทุกคนรู้ความจริงแล้วว่าแม่โกหกไว้มากมาย แล้วไปแอบฆ่าตัวตุยมันก็จะกลายเป็นตราบาปทำให้คนในครอบครัวรู้สึกผิดอีก

เราคิดไปมากมายจนไม่รู้จะทำยังไงดี แต่ยังไงก็เลือกที่จะหันหน้าคุยกับเขาตามตรงเพราะในวันข้างหน้าสักวันหนึ่งเราก็ต้องเสียพวกเขาไป แล้วถ้าแม่ปกปิดหนี้สินที่มีอยู่โดยที่เรากับพี่ชายไม่รู้ตอนนั้นเราคงฆ่าตัวตุยตาม เพราะแค่ปัญหาของเราก็มากพออยู่แล้ว

เราพยายามจะสรุปใจความปัญหาทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ แต่รายละเอียดมันเยอะเพราะที่เกริ่นไปข้างต้นมันคือเรื่องราวที่เกิดมาตลอดระยะเวลาจนถึงตอนนี้ราวๆ 30 ปี ก็มากกว่าอายุเรานิดเดียว เอาง่ายๆว่าเกิดมาก็เจอปัญหาเลยอาภัพจริงๆ

สงสารที่สุดก็คือพ่อ ผู้เป็นตัวร้ายในสายตาลูกๆมาโดยตลอด เรื่องราวมากระจ่างก็ตอนลูกโตกันหมดแล้วและตัวเองก็เป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้วเพราะอายุจะ 80 ปีแล้ว เรานั่งร้องไห้แล้วรู้สึกผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าสงสารพ่อจับใจ

ยิ่งพ่อเราตอนที่ยังอยู่กับคุณปู่ยิ่งน่าสงสาร พ่อเราโดนมาเยอะมากพ้นคุณปู่ก็มาเจอแม่  ช่างเป็นความทุกข์ที่โคตรเจ็บปวดและยาวนานไม่ทีสิ้นสุดสักที 

และในมุมของลูกที่โคตรเจ็บปวดคือต้องเห็นแม่แช่งพ่อให้ตายประจำในคณะที่พ่อเอาแต่พูดว่าที่ฉันไม่ยอมตายเพราะ "ฉันเป็นห่วงแม่แก"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่