[CR] I Love Japan - โอซาก้า เกียวโต ในวันที่เปลี่ยนสี ตอนที่3

มาต่อกันเลยค่ะ เผื่อใครหาข้อมูลกันอยู๋จากกระทู้ตอนที่ 2 ของ I Love Japan - โอซาก้า เกียวโต ในวันที่เปลี่ยนสี

โอซาก้า (Osaka)

น้ำตกมิโน (Minoo Waterfall) ซึ่งอยู่ในวนอุทยานแห่งชาติมิโน (Minoo Park) ซึ่งอยู่ในโอซาก้า (Osaka) เราว่าเป็นที่เที่ยวที่ผ่อนคลายนะ อยู่กับธรรมชาติที่ใช้เวลาเดินทางไม่ไกล และยังได้เดินเล่นชมธรรมชาติช่วงที่เมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนสีไปตามทาง เรื่อยๆ เดินเพลินเกือบชั่วโมง แบบที่ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไรเลย ระหว่างทางมีขนม ของกินขายด้วยนะ น้ำตกที่ญี่ปุ่นไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนบ้านเรา แต่มันมีองค์ประกอบอื่นๆที่เสริมกัน ที่บ้านเราไม่มีนั่นล่ะ อากาศ ฤดู ต้นไม้ ใบไม้ และยังมีร้านกาแฟนั่งสบายๆ ริมธาร ฟังเสียงธรรมชาติ เคล้าไปกับรสชาติกาแฟอุ่นๆ แค่นี้ล่ะ ความสุข 
คะแนน 5/5 ประทับใจ





ย่านอาร์ทิสต์นาคาซากิโจ (Nakazaki-cho)
เป็นย่านยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นฮิปสเตอร์ ซึ่งบางตรอก ซอยจะมีคาเฟ่และร้านสินค้ากระจุกกระจิกสไตล์  ซักกะ (zakka) น่ารักๆ อยู่ให้เดินดูบ้าง ช่วงที่ไป เข้าใจว่าเพิ่งเปิดประเทศ อาจจะมีร้านที่เปิดอยู่ไม่มากนัก  ถ้ามีเวลาจะมาเดินถ่ายรูปอัพไอจี เดินเล่นลัดเลาะเพลินๆ เปลี่ยนบรรยากาศมาย่านเล็กๆดูก็ได้เหมือนกัน เหมาะสำหรับคนที่มีเพื่อนเดิน ไม่งั้นเราว่ามันเหงาไป สำหรับช่วงเวลานี้ ที่ร้านค้ายังมีไม่มาก แต่อนาคตถ้าร้านเปิดเยอะๆ เราว่าก็น่าเดินนะ น่าจะเหมาะกับสไตล์วัยรุ่น กลุ่มเพื่อน 
(คะแนน 3/5)
สำหรับรูปภาพ 2 รูปด้านล่างนี้ เพื่อใช้อ้างอิงให้เห็นภาพ ขออนุญาตินำภาพมาจาก JNTO นะคะ เนื่องจากรูปที่เราถ่ายมันหายไปหลายรูปเลย 



ชม Light Festival in Osaka  
เดินชมไฟประดับ 2 ฟากฝั่งถนน midosuji
ช่วงที่ไป ปลาย พ.ย 2022 เค้ามีการประดับไฟติดตามต้นไม้ 2 ถนน รวมถึงเกาะกลาง บรรยากาศไม่ได้คึกคักมาก อาจจะเป็นย่าน office นะ แต่ไฟที่ประดับก็ทำให้ถนนดูสดใส สวยทีเดียว



โกเบ
เมืองท่าสุดฮิป ที่ไม่ไกลจากโอซาก้า เดินทางโดยรถไฟราว 30 นาที
เป็นเมืองหลักของจังหวัดเฮียวโงะ (Hyogo) และเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น ที่ทำการค้าระหว่างประเทศมาตั้งแต่สมัยโบราณ โกเบก็เลยมีบรรยากาศและวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างเอเชียกับตะวันตก มีทั้งโซนเมือง ทะเล และภูเขาอยู่ในบริเวณเดียวกัน
 
แต่ละย่านของเมืองโกเบก็มีจุดเด่นในแบบของตัวเอง ทั้งช้อปปิ้ง บรรยากาศเมืองท่าสไตล์ตะวันตก 
ย่านซันโนะมิยะ (Sannomiya) เป็นศูนย์กลางการเที่ยวในโกเบ
สถานีซันโนะมิยะอยู่ใจกลางย่านซันโนะมิยะ เป็นสถานีเทอร์มินอลที่มีรถไฟหลายสายมาจอดทั้งของ JR และฮันคิว
โกเบ ขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อวัว น่าจะเป็นสวรรค์สำหรับคนรักเนื้อ แต่เราไม่ทานเนื้อก็เลยผ่านเลยไป ที่เที่ยวเด่นๆ ของฝั่งนี้ ที่แรกเลยที่ไปก็ต้องมาเดินเล่นชมบ้านเรือนอาคารสไตล์ตะวันตกที่ต้องเดินขึ้นเนินไปช้าๆ ที่เรียกว่า คิตาโนะซากะ
 
-ย่านคิตาโนะซากะ มีบรรยากาศสงบๆ ทั้งบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ชิคๆ เราเดินเล่นไปตามทางที่เป็นเนินไปเรื่อยๆ แวะกินไอติมมัทฉะ เรียกความหวาน สดชื่น ดูนั่นนี่ ตามตรอกซอยไปเรื่อย จนถึงจุดที่เป็น highlight ของย่านนี้ ที่สามารถมองวิวทิวทัศน์อาคารบ้านเรือนที่สวยงามสไตล์ตะวันตกได้จากมุมด้านบนที่มีศาลเจ้าเล็กๆ
เส้นทางใต้หน่อยก็จะมีถนนช้อปปิ้งอันดับหนึ่งในโกเบ ซันโนะมิยะเซ็นเตอร์ไก (Sunnomiya Center Gai) ร้านค้าสองข้างทางบนถนนที่ทอดยาว 600 เมตรจากสถานีซันโนะมิยะไปจนถึงสถานีโมโตมาจิ มีร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านขายสินค้าต่างๆ รวมถึงคาเฟ่ ให้เดินดู แต่ปิดเร็วไปหน่อย 1-2 ทุ่มก็เริ่มเงียบกริป เราที่คิดว่าขากลับจากเบย์ค่อยมาเดินดู ก็เลยอด   
-เบย์ - Port Tower, Meriken Park
โกเบ พอร์ต ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) หอคอยสีแดงดึงดูดสายตาริมอ่าวโกเบในย่านเบย์ ที่เป็นแลนด์มาร์กที่เราตั้งใจมาถ่ายรูปนั้น สรุปปิดซ่อมมีผ้าขาวบังอยู่ มองหาอยู่นานเลยว่าอยู่ตรงไหน ถึงขั้นต้องเสิจดูรูปจากคุณ goo ว่าอยู่ใกล้อะไร อืม ถ่องแท้เลยจ้า ผ้าขาวผืนนั้นน่ะเองที่บังอยู่  
-เมริเคน พาร์ค (Meriken Park) เป็นสวนสาธารณะติดทะเลขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างๆ โกเบ พอร์ต ทาวเวอร์ เราเลยมาถ่ายรูปคู่กับป้ายโกเบสักหน่อย มาถึงแล้วนะ ต่อด้วยการไปแวะดื่มกาแฟช่วงเย็นที่ starbuck ตรงหน้าป้ายโกเบริมทะเลนั้นล่ะ
-ย่านนันกิงมาจิ (Nankinmachi) หรือไชน่าทาวน์แห่งเมืองโกเบกัน เรามาถึงในช่วงหัวค่ำ ผู้คนที่เดินทางไม่ได้ถึงกลับแน่นขนัด อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ร้านค้าปิดกันเร็วด้วย สองข้างทางเป็นอารมณ์ร้านสตรีทฟู้ดคนจีนที่ขายซาลาเปา อาหารจีน อาหารนึ่งต่างๆ ที่พยายามเรียกลูกค้าเข้าร้านกัน แต่ละตรอกซอกซอย เดินทะลุกันได้ เดินจาก China town อยู่ดีดี ก็มาโผล่อยู่ย่านช้อปปิ้งซันโนะมิยา บางทีก็ไปอยู่ย่านช็อปโมโตมาจิ งง ๆ เหมือนกัน สุดท้ายเดินขาลากนิดหน่อยกลับสถานีได้ล่ะจ้า
 
คะแนน 4/5



Hirakata T-SITE : บุ๊คคาเฟ่ที่ต้องเช็คอิน

แหล่งรวมหนังสือ คาเฟ่ แหล่งช๊อปปิ้ง งานฝีมือ พื้นที่รวมแฟชั่น งานศิลปะ หรือเสื้อผ้าแบบแนวมูจิก็มี สำหรับใครที่ชอบสไตล์นี้ แนะนำมา มีพื้นที่นั่งพักผ่อน จิบกาแฟนอกร้าน ทั้งยังมีมุมถ่ายภาพเก๋ๆ ในร้านหนังสือให้เอามาอวดกันได้อีก ด้านนอกที่มีพื้นที่ติดกับร้านหนังสือ มี café starbuck ให้ดื่มด้วย จะนั่งข้างใน นอกร้านก็เลือกตามชอบเลย โซนนี้เดินมาจากสถานี Hirakatashi ได้เลย ช้ามสะพานลอยที่เชื่อม มองมาก็เจอตึกนี้เลย ขึ้นมาชั้นบนของตึกก็จะมีหนังสือให้เลือกชมเยอะเลย เราก็ยังซื้อหนังสือปักลายเส้นกลับมาด้วย ถ้าไม่สะดวกในการหา ก็ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเสิจหาในระบบให้ได้ เพื่อดูว่าอยู่ล็อคและ shelf ไหน เพราะเราอ่านไม่ออก 55
คะแนน 5/5 





านชินเซไก (Shinsekai)  

เราไปเดินเล่นย่านนี้ตอนบ่ายเกือบเย็นแล้ว เลยไม่ได้เน้นมาเดินดูสีสันยามค่ำคืน ซึ่งย่านนี้มีความหมายว่า ‘โลกใหม่’ ภายในย่านนี้มีหอคอย Tsutenkaku จุดชมวิวที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของย่านแห่งนี้ด้วย เราเดินเล่นไล่ตามถนนไปเรื่อย ส่วนตัวมองว่ามันอาจจะเป็นย่านแนวญี่ปุ่นแบบคนดั้งเดิมสักหน่อย หรือความรู้สึกเหมือนแนวย่านคนจีนมากกว่าญี่ปุ่นซะอีก รายทางมีร้านขายอาหาร ร้านแนวอิซากายะ ร้านเล่นเกม แบบเหมือนเราเดินอยู่ในงานวัดเมืองไทยอ่ะ มี ยิงปืนได้ตุ้กตา มีเกมตักไข่ในน้ำ อะไรแบบนี้ เราก็เพิ่งเคยเห็นย่านแบบนี้ในญี่ปุ่นนะ ไม่รู้เลยว่างานวัดเมืองไทยเค้าเอาต้นแบบมาจากที่ไหน ทำไมเกมเหมือนกันจัง หรือเค้าก้อปบ้านเราไป อันนี้ไม่รู้ได้ เราว่าที่นี่มันเป็นย่านแบบคนอีกแนวเลย เราว่าดูน่ากลัวนิดๆนะ ถ้ามากลางคืน และเดินคนเดียว ส่วนตัวไม่ได้ชอบ แต่เดินได้ ไม่ได้แย่ ถ้ามีเวลาเหลือๆ ก็มาได้ล่ะ
คะแนน 2/5



ตลาดปลาคุโรมง kuromon market
บรรยากาศเป็นแนวออกจะไปทางจีนๆ มีหลังคาคลุมเหมือนเวลาไปเดินตามย่านคนจีนมากกว่า ในส่วนร้านอาหารจะกระจายๆ ตัว และร้านปิ้งย่างอาหารทะเลที่ยืนปิ้งเป็นรถเข็นอยู่ตามทาง ของขายมีทั้งร้านผัก ผลไม้ ร้านขายอาหารแห้ง โดยรวมไม่ได้เตะตา น่าเดินอะไรมาก อาหารทะเลปิ้งย่างพอใช้ได้ จากที่ลองชิมมา 
คะแนน 3/5

วัดโฮเซ็นจิ
ตั้งอยู่ในย่านนัมบะขึ้นชื่อเรื่องรูปปั้นพุทธ "มิสุคาเคะฟุโดซอน" (Mizukake Fudo-son) ที่มีมอสเกาะและตรอก "โฮเซ็นจิโยโกโช" (Hozenji Yokocho) เราไปถึงในช่วงเริ่มค่ำๆ ก็ให้บรรยากาศดูสงบ ลึกลับ ดีเหมือนกัน มองเห็นตรอกทางเดินเล็กๆ ที่สามารถสงบเดินทะลุออกไปนัมบะในเวลาแค่แป้บเดียว แต่ทว่าดูสงบ แสงไฟสลัว และบริเวณที่สักการะรูปปั้นที่มีมอสเกาะอยู่ รู้สึกถึงความสงบ ลึกลับ ขลัง และมีความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมมากๆ แนะนำถ้ามีเวลา ลองแวะมาช่วงค่ำๆ จะได้ฟีลดีแบบนี้ เอารูปตรอกที่เดินทะลุมาวัดมาโชว์นะ สองข้างทางจะเป็นร้านค้าแนวโลโคล รูปบรรยากาศวัดหาไม่เจอเลย 
(คะแนน 4/5)



ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) และ ชินไชบาชิ

ย่านเดินเล่น ยามค่ำคืนที่รวมทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนไว้ในที่เดียวกัน คือเรียกได้ว่า ถ้ามาโอซาก้าแล้วไม่มาโดทงโบรินี่เหมือนมาไม่ถึง กลางคืนนี่เต็มไปด้วยสีสันของบรรดาร้านค้าต่างๆคึกคักมาก ของกินก็เยอะแยะ แต่รอคิวนานมากๆ โดยเฉพาะร้านขายทาโกะยากิ ยืนรอคิวและทำเกือบชั่วโมง และรสชาติเราว่าไม่ได้ว้าวนะ และพวกขนมอบร้อนของญี่ปุ่นที่คนนิยมกัน และมาครั้งนี้ร้านค้าปิดกันค่อนข้างเร็วมาก  โดยเฉพาะร้านที่ขายสินค้าแบบ Personal care store และพวกวิตามิน 2-3 ทุ่มก็ปิดกันแล้ว ต่างจากก่อนโควิค ที่เคยไปเดิน คือช้อปได้ยาวๆ ถึง 5 ทุ่ม คือไม่รู้มาก่อนมาซื้อกันเกือบวันสุดท้าย เลยรีบแทบแย่ และสินค้าในร้านมันก็ดูเก่าๆ เหมือนไม่ค่อยหมุนเวียน เลยเข้าใจเองว่า เพิ่งเปิดประเทศ เลยยังไม่ได้เตรียมทั้งเรื่องสต็อกและพนักงาน มาคราวนี้เลยซื้อเฉพาะสินค้าที่ต้องการจริงๆ ที่ถูกกว่าบ้านเรา ไม่เหมือนเมื่อก่อน บ้าระห่ำช็อปมาก จนลากกระเป๋าแทบไม่ไหว อายุมากขึ้น ความคิดก็เปลี่ยนไปล่ะ  
(คะแนน 5/5)



เรื่องเที่ยวก็หมดล่ะ ประมาณนี้ ใครสงสัยอะไรถ้าเราตอบได้ ก็ถามมาได้ค่ะ รูปอาจจะลงไม่เยอะนะคะ บางส่วนหายไป แต่เราอยากให้อ่านข้อมูลดู เพราะส่วนมากจะเน้นลงรูปกันอยู่แล้ว 

ก่อนจบกระทู้นี้ ซึ่งมี 3 ตอน ก็อยากจะแนะนำคร่าวๆ ให้รู้จัก app เดินทางที่เราใช้ซะก่อน เพราะอาจจะยังไม่มีเวลารีวิวช่วงใกล้ๆนี้ ขอตามนี้ไปก่อน อาจจะลองโหลด app กันมาก่อนในมือถือ หน้าตาประมาณนี้นะคะ แล้วไล่ไปตามที่เราอธิบายคร่าวๆนี้ก่อน



แนะนำ App เดินทาง 
ขึ้นรถไฟ บัส ได้หมด และนี่คือ NAVITIME เราใช้แทน Hyperdia ที่ถูกยกเลิกแบบ version เต็มๆไปก่อนหน้า บอกตรงเลย ถ้าไม่มี app นี้ น่าจะลำบากเราเยอะ เพราะที่หาข้อมูลมาเอง มันจะค่อนข้าง fix ที่เราออกนอกเส้นทางหรืออยากเปลี่ยนเส้นทางหรือสถานี อาจจะเตรียมข้อมูลก่อนมาได้ไม่ครบ เพราะเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยนกระทันหัน หรือสายรถไฟที่แบบจอดหวานเย็นทุกป้ายที่อยากเลี่ยง เพราะเสียเวลาและคนพื้นที่ ที่เดินทางใกล้ๆ จะขึ้นกันค่อนข้างเยอะ ต้องขอบคุณ app นี้เลย นี่เราปักหมุดที่พักของเราไว้เลย จะไปไหนก็เริ่มมันจากที่พักนั่นล่ะ แล้วเลือกเมนู Route ด้านล่างเลยว่าจะไปไหน ระบุวันเวลาที่จะเดินทางได้ จะวางแผนดูไว้ล่วงหน้าวันนี้ วันพรุ่งหรือวันไหนก็ได้ แล้วจะปักหมุดไว้ก่อน ทำล่วงหน้าก็ได้ เผื่อถึงวันเดินทางจริงอาจจะลืมชื่อเส้นทางที่จะไป
ชื่อสินค้า:   บันทึกการเดินทาง Japan trip
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่