[CR] อินเดีย: จากเลห์, ลาดัก สู่ ทัชมาฮาล Part 3 || From Leh, Ladakh to Taj Mahal. [Leh|Manali|Shimla|New Delhi|Arga]

กระทู้รีวิว

ประเทศอินเดีย เที่ยวอินเดีย Backpack บันทึกนักเดินทาง เลห์ ลาดักห์

"จากเลห์ ลาดัก สู่ ทัชมาฮาล Part 3..."

- Part 1 https://pantip.com/topic/42232279

- Part 2 https://pantip.com/topic/42241694

- Part 3 https://pantip.com/topic/42295980

เริ่มต้นเช้าวันที่10ในอินเดียที่Manali Manaliเป็นอีกเมืองทางเหนือของอินเดียที่มีสภาพอากาศอบอุ่นและหนาวเย็น บรรยากาศทั่วไปคล้ายเมืองท่องเที่ยวดังๆแถบยุโรปมาก ทั้งอาการการกิน พืชพันธ์ุ พวกเราพักที่โรงแรมที่ติดอยู่กับป่าสนซีดาร์ ซึ่งเป็นป่าอุทยานของManali พวกเราเริ่มต้นวันด้วยการเดินเล่นในอุทยานแต่เช้า โดยเสียค่าเข้าประมาณ 20รูปี/คน

วิวนอกหน้าต่างที่รร. มองเห็นแสงแดดยามเช้าส่องลอดแนวสนซีด้าร์

เนื่องจากManaliมีสายน้ำใสไหลเย็นมากมายไหลลงมาจากหิมาลัย จึงเป็นแหล่งของปลาเทราต์เยอะ ปลาเทราต์จึงเป็นของกินที่ขึ้นชื่อที่นั่น ในระแวกเดียวกันกับอุทยานป่าสน มีร้านอาหารขึ้นชื่อร้านนึงชื่อThe Johnsons Hotel Cafe & Bar ที่มีเมนูอาหารฝรั่งน่ากินมากมาย

Day 11: 06- August - 2023

- Manali >> Shimla

- 236 km.

- 6 ชม.

เช้าวันนี้เรานัด Cab ที่จองไว้โดยการแนะนำของผู้จัดการร้าน Johnson cafe ในราคา 7000 รูปี เพื่อเดินทางลงใต้ไป Shimla

บรรยากาศยามเช้าที่รร.ก่อนที่เราจะเดินทาง

เวลาการนั่งรถแสนทรหดทั้งวันผ่านหุบเขาน้อยใหญ่ ยางรั่วบ้าง รถติดบ้าง ในที่สุดผ่านไป6ชม. เราก็ถึงชิมล่า Shimla พร้อมกับสายฝนและสายหมอก

Day 12: 07- August - 2023
- Shimla
เราเริ่มต้นเช้าที่นี่ด้วยการไปเช็คตั๋วรถไฟonlineที่สถานีShimla ที่เราจองไว้จากShimla-Kalka แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์น้ำท่วมดินถล่ม รถไฟจึงสิ้นสุดแค่ครึ่งทางที่Solang หลังจากนั้นเราก็ไปเยี่ยมชม Himachal State Museum.

Himachal State Museum เป็นที่จัดแสดงสิ่งของ ศิลปะ ภาพวาด วัตถุโบราณของชนเผ่า ประเพณีต่างๆของผู้คนต่างในแถบหิมาลัยอินเดียเหนือ ตลอดจนประวัติความเป็นมาในยุคล่าอาณานิคมและการเป็นอิสระภาพของอินเดีย. ภายในmuseamสามารถถ่ายรูปได้แต่ต้องจ่ายเพิ่ม ดังนั้นเราจึงไม่ได้ถ่ายภาพด้านในมา

อีกที่ที่เราต้องเดินไกลขึ้นยอดเขาที่น่าจะสูงสุดในShimlก็คือวัด Jakhu Temple Park ที่มีเทพหนุมานสูงใหญ่ท่ามกลางสายหมอก.

ระหว่างทางขาขึ้นและขาลงวัดJakhu Templeยังไงเราก็ต้องเดินผ่านMall road และไฮไลต์ของShimla นั้นก็คือโบสถ์ คริสต์ (Christ Church, Shimla)

มีผู้คนมากมายที่นี่ หลากหลายกิจกรรม.

Mall road เปรียบเสมือนห้างพรรพสินค้าของShimlaที่มีแบรนด์ดังๆมากมาย โดยมีบรรยากาศคลาสิกด้วยสถาปัตยกรรมอังกฤษที่ตกทอดมากจากยุคอาณานิคม Mall roadมีวัยรุ่นคนอินเดียยุคใหม่เดินกันขวักไขว่

ในขณะเดียวกันก็มีอีกถนนนึงขนานกันกับMall road แต่อยู่ถัดลงไปด้านล่างของSlopเขา เป็นตลาดออกแนวดั้งเดิม

Day 13: 08- August - 2023
- Shimla >> Kalka
- Shimla rail way station >> Solan rail way station (by Train)
- Solan rail way station >> Kalka (by Cab (by Taxi))
เช้าวันที่13ในอินเดีย เราตื่นแต่เช้าฝ่าสายฝนเพื่อไปสถานีShimla ไปซื้อตั๋วรถไฟรอบ 9:30 โมงไปที่สถานีSolan โดยปกติแล้วจะมีรถไฟตรงยาวไปถึงKalkaเลย แต่ด้วยทางรถไฟพังจากดินถล่ม จึงมีแค่รถไผถึงSolanเท่านั้น พวกเราจึงวางแผนเรียกรถcabจากSolanไปKalkaต่อ

ถึงสถานีKalkaตอน13:00 พวกเราจองตั๋วรถไฟS2 sleeperไว้รอบ 23:55 นั่งรอนอนรอ ไปเที่ยวคาเฟ่แถวนั้นอยู่พักนึงก้ได้ขึ้นรถไฟ

Day 14: 09- August - 2023
- Kalka >> New Delhi
- S2 Sleeper train.
- 6 ชม.
รถไฟออกเวลา23:55จากสถานีKalkaซึ่งค่อนข้างตรงเวลา

ถึงแม้ว่าจะเป็นชั้นS2 sleeper ขึ้นชื่อว่ารถไฟอินเดียก็มีสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจอยู่บ้างเช่นเรื่องความสะอาดและก็อาจจะเจอปีเตอร์บนที่นอนแบบพวกเราก็เป็นได้ รถไฟออกตัวได้สักพัก ก็มีพี่เจ้าหน้าที่เดินถือiPadมาตรวจตั๋วโดยการถามแค่ชื่ที่จองไว้ในระบบ แค่นั้นจริงๆ ที่นี่เราต้องปูผ้าปูที่นอนเองซึ่งผ้าปูที่นอนก็ยังไปค่อยแห้งสนิทดีเท่าไร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เรานอนยาวตั้งเวลาปลุกในอีก6ชม.

ในที่สุดก็ถึงสถานี New Delhi ตอน 6โมงเช้า

พวกเราพักที่รร.ไม่ไกลจากสถานีมากนักและก็ไม่ไกลจากแหล่งShoppingใหญ่ๆอย่างConnaught Place ซึ่งเป็นที่ๆรวมshopต่างๆ ร้านอาารไว้มากมาย ไม่ต่างกับแถวสยามบ้านเรา พวกเราเดินจากที่พักไปไกลพอสมควร และแล้วก็มาถึงประตูชัยของอินเดีย แล้วก็ต่อด้วย National Museum Delhi โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเที่ยวMuseumแบบมากอยู่แล้ว พอมาเจอที่นี่ไม่ผิดหวัง ที่นี่มีโบราณวัตถุมากมายทุกศาสนาในอินเดีย โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่เก่ากว่าที่เจอที่ไทยในหลายๆที่ ย้อนกลับไปกว่า1700ปี