เริ่มต้นผมเป็นคนที่ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือเลย จนอยู่มาช่วงนึงได้ดูคลิปจิตวิทยาสั้นๆ (จริงๆ เริ่มต้นจากการอกหัก แต่ไม่รู้จะมูฟออนยังไงดี) จากนั้นเพื่อนแนะนำให้ดูคลิปนึง ยังจำได้ดีเลย คลิปเปลี่ยนชีวิต เป็นประโยคประมาณว่า คุณต้องทำตัวให้เป็นทุ่งดอกไม้ที่งดงาม แล้วจะมีผีมาหลอก ยิ่งทุ่งดอกไม้สวยผีก็จะมาหลอกเยอะ
หลังจากนั้นทำให้รู้สึกสนใจเรื่องเกี่ยวกับแนวคิดเทคนิคในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ ต่อมาก็ได้สนใจหนังสือ จากการแนะนำบนอินเตอร์เน็ต จำได้ว่าซื้ออยู่ 3-4 เล่ม แต่เล่มแรกที่เปลี่ยนชีวิตผมคือ คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น ของคุณฮอนดะ เคน
เล่มนี้เป็นไม่กี่เล่มที่อ่านแล้วรู้สึกว่า ต้องอ่านให้จบ ที้เหลือก็ดอง ฮ่าๆๆ พออ่านจบรู้สึกเลยว่า การวางโครงเรื่องและการเล่ามันสนุกมาก เหมือนอ่านนิยายทำให้ลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่ละบทที่จบจะมีสิ่งที่ดึงดูด ให้อ่านบทต่อไปเหมือนเป็นการทิ้งปมไว้ แต่พอกลับมานึกดู มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองนี่นา แต่กลับทำออกมาได้ดีมากจริงๆ เหมือนดูซีรีย์ เทคนิคเค้าสุดยอดมาก
เนื้อหาในหนังสือก็จะประมาณว่าหนุ่มคนเขียนได้ไปรู้จักกับเศรษฐีชาวยิว และได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิชาจากเขา การสอนของเขานั้นสนุกมากในมุมคนอ่าน แต่มุมคนได้ทำคงหนักหนาสาหัสน่าดู ผมลองนึกดูว่าถ้าเป็นผมไปอยู่จุดนั้น แล้วต้องทำให้ได้แบบเขา คงสอบตกตั้งแต่บททดสอบแรก แต่ไม่สำคัญถึงขั้นว่าเราจะทำได้หรือไม่ สิ่งที่เราอ่านเราจะได้อะไรจากมันมามากกว่า และปรับใช้กับตัวเราหรืองานของเรายังไง
หลังจากอ่านจบ ผมก็รู้ได้เลยว่าความคิดของเรา มีในบางเรื่องที่ได้เปิดมุมมองอย่างคาดไม่ถึง หรือเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดคือ ทำไมเราถึงอ่านบางเล่มจบ บางเล่มไม่จบ ทั้งการเรียบเรียง การทำให้ดูน่าสนใจน่าอ่าน เป็นส่วนสำคัญมากสำหรับผม เพราะเคยอ่านเจอบางเล่มแล้วแบบบทแต่ละบทเป็นเพียงข้อๆ ที่แบบยืดยาวมากแต่เนื้อนิดเดียว น้ำซะส่วนใหญ่ ทำให้เราอ่านได้ไปแค่บทสองบท และทำให้ท้ออีกว่าทำไมเราถึงอ่านไม่จบนะ เราเป็นคนอ่อนในด้านการอ่านขนาดนั้นเลยหรอ เล่มนี้ได้เปลี่ยนความคิดเหล่านั้นของผม หนังสือบางเล่มอาจไม่จำเป็นต้องอ่านจบจนด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายว่า เราต้องการอะไรจากหนังสือเล่มๆ นี้ที่ได้ซื้อมา(จริงๆ ซื้อมาส่วนใหญ่เพราะหน้าปกสวย)
สำหรับผมนั้นได้คำตอบแล้วว่าการอ่านเล่มนี้ จะทำให้ไม่ท้อแท้ในการซื้อหนังสือมาดอง ฮ่าๆๆ เล่มไหนที่ถูกใจก็อ่านรวดเดียวจบ เล่มไหนที่อ่านแล้วฝืดๆ ก็เปลี่ยนไปอ่านเล่มอื่นต่อ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้ครับ ผมอยากทราบว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ มีมุมมองอย่างไรกันบ้างต่อหนังสืออาจจะไม่ใช่เล่มแรก แต่เป็นหนังสือที่สร้างความทรงจำและความประทับใจให้
อยากทราบหนังสือที่เปลี่ยนชีวิตเล่มแรก ของทุกคนคือเรื่องอะไรครับ
หลังจากนั้นทำให้รู้สึกสนใจเรื่องเกี่ยวกับแนวคิดเทคนิคในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ ต่อมาก็ได้สนใจหนังสือ จากการแนะนำบนอินเตอร์เน็ต จำได้ว่าซื้ออยู่ 3-4 เล่ม แต่เล่มแรกที่เปลี่ยนชีวิตผมคือ คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น ของคุณฮอนดะ เคน
เล่มนี้เป็นไม่กี่เล่มที่อ่านแล้วรู้สึกว่า ต้องอ่านให้จบ ที้เหลือก็ดอง ฮ่าๆๆ พออ่านจบรู้สึกเลยว่า การวางโครงเรื่องและการเล่ามันสนุกมาก เหมือนอ่านนิยายทำให้ลุ้นว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่ละบทที่จบจะมีสิ่งที่ดึงดูด ให้อ่านบทต่อไปเหมือนเป็นการทิ้งปมไว้ แต่พอกลับมานึกดู มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองนี่นา แต่กลับทำออกมาได้ดีมากจริงๆ เหมือนดูซีรีย์ เทคนิคเค้าสุดยอดมาก
เนื้อหาในหนังสือก็จะประมาณว่าหนุ่มคนเขียนได้ไปรู้จักกับเศรษฐีชาวยิว และได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิชาจากเขา การสอนของเขานั้นสนุกมากในมุมคนอ่าน แต่มุมคนได้ทำคงหนักหนาสาหัสน่าดู ผมลองนึกดูว่าถ้าเป็นผมไปอยู่จุดนั้น แล้วต้องทำให้ได้แบบเขา คงสอบตกตั้งแต่บททดสอบแรก แต่ไม่สำคัญถึงขั้นว่าเราจะทำได้หรือไม่ สิ่งที่เราอ่านเราจะได้อะไรจากมันมามากกว่า และปรับใช้กับตัวเราหรืองานของเรายังไง
หลังจากอ่านจบ ผมก็รู้ได้เลยว่าความคิดของเรา มีในบางเรื่องที่ได้เปิดมุมมองอย่างคาดไม่ถึง หรือเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดคือ ทำไมเราถึงอ่านบางเล่มจบ บางเล่มไม่จบ ทั้งการเรียบเรียง การทำให้ดูน่าสนใจน่าอ่าน เป็นส่วนสำคัญมากสำหรับผม เพราะเคยอ่านเจอบางเล่มแล้วแบบบทแต่ละบทเป็นเพียงข้อๆ ที่แบบยืดยาวมากแต่เนื้อนิดเดียว น้ำซะส่วนใหญ่ ทำให้เราอ่านได้ไปแค่บทสองบท และทำให้ท้ออีกว่าทำไมเราถึงอ่านไม่จบนะ เราเป็นคนอ่อนในด้านการอ่านขนาดนั้นเลยหรอ เล่มนี้ได้เปลี่ยนความคิดเหล่านั้นของผม หนังสือบางเล่มอาจไม่จำเป็นต้องอ่านจบจนด้วยซ้ำ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายว่า เราต้องการอะไรจากหนังสือเล่มๆ นี้ที่ได้ซื้อมา(จริงๆ ซื้อมาส่วนใหญ่เพราะหน้าปกสวย)
สำหรับผมนั้นได้คำตอบแล้วว่าการอ่านเล่มนี้ จะทำให้ไม่ท้อแท้ในการซื้อหนังสือมาดอง ฮ่าๆๆ เล่มไหนที่ถูกใจก็อ่านรวดเดียวจบ เล่มไหนที่อ่านแล้วฝืดๆ ก็เปลี่ยนไปอ่านเล่มอื่นต่อ
ขอบคุณที่อ่านมาถึงตอนนี้ครับ ผมอยากทราบว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ มีมุมมองอย่างไรกันบ้างต่อหนังสืออาจจะไม่ใช่เล่มแรก แต่เป็นหนังสือที่สร้างความทรงจำและความประทับใจให้