พอดีส่วนตัวมีโอกาสได้รู้จัก และ ค้าขายกับชาวอิสราเอลมายาวนานกว่า 20 ปี เคยไปท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ทั้งในอิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ได้พบปะกับผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่านที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งนี้ คิดว่าคงเป็นหนึ่งในคนไทยจำนวนไม่มาก ที่ได้มีความใกล้ชิดกับเรื่องเหล่านี้อยู่มากพอสมควร ก็เลยอยากจะมาลองแชร์ดูครับ
1. เขาทะเลาะกันเรื่องอะไร?
สั้นๆง่ายๆคือ เขาแย่งพื้นที่กันครับ หลักๆเลยคือพื้นที่ในบริเวณ กรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem) โดยเราต้องเข้าใจว่าพื้นที่นี้สำหรับคนทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่ใช่แค่สถานที่พักอาศัย แต่มันเป็นพื้นที่ ที่เกี่ยวโยงกับความเชื่อทางศาสนา ของทั้งศาสนายิว ของชาวอิสราเอล และ ศาสนาอิสลาม ของชาวปาเลสไตน์ (จริงๆมีความสำคัญต่อศาสนาคริสต์ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้โดยตรงก็จะขอข้ามไป) เมื่อมันเกี่ยวกับกับเรื่องศาสนา และ ความเชื่อ ก็ทำให้เป็นปัญหาและความขัดแย้งที่เรื้อรังยาวนานมาถึงปัจจุบัน ต่างฝ่าย ต่างไม่ยอมที่จะย้ายออกไปจากพื้นที่นี้ง่ายๆ
2. จุดเริ่มต้นคืออะไร?
จุดเริ่มต้นหลักคือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมาพร้อมกับโครงการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือ ชาวอิสราเอลในปัจจุบัน จากกลุ่มนาซีของประเทศเยอรมัน ซึ่งมีความไม่ชอบชาวยิวเป็นอย่างมาก และ มองกว่าชาวยิวเป็นเสมือนสัตว์เดียรัจฉาน
ในช่วงท้ายของสงครามชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเป็นจำนวนมาก โดยใช้เตาเผามนุษย์อันเป็นที่เลื่องลือ ส่วนชาวยิวที่เหลือทั้งหมดที่เคยกระจายตัวอยู่ในยุโรป ก็ถูกยึดทรัพย์สิน สิทธิ และ เสรีภาพ ไปทั้งหมด บ้างก็ถูกจับมารวมในค่ายกักกัน ผู้ที่ไม่ถูกจับก็ต้องหลบซ่อนใต้ถุนบ้านเพื่อให้มีชีวิตรอด
เมื่อสงครามจบลงแล้วกลายเป็นว่านาซีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือชาวยิวจำนวนมาก ทั้งในค่ายกักกัน และ ที่หลบซ่อนอยู่ ผู้ที่ไร้ซึ่งทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน และ ที่อยู่อาศัยใดๆ
ประเทศอังกฤษ และ เหล่าผู้ชนะสงคราม จึงตัดสินใจให้คนยิวเหล่านี้ ย้ายเข้าไปอยู่ในอาณาเขตของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน เกิดเป็นประโยคแห่งประวัติศาสตร์ว่า "A land without a people for a people without a land" (ดินแดนที่ไม่มีผู้คน สำหรับ ผู้คนที่ไม่มีดินแดน) แต่แท้จริงแล้วดินแดนตรงนั้นมีผู้อาศัยอยู่แล้วคือชาวปาเลสไตน์.... ก่อให้เกิดเป็นปัญหาเรื้อรังยาวนาน มาจนถึงปัจจุบัน
3. หลังจากชาวอิสราเอลเข้าไปอยู่แล้ว เป็นยังไง
สำหรับชาวยิว หรือ ชาวอิสราเอลนั้น การที่ได้มาอยู่ในดินแดนนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาเขา ประกอบกับการที่เพิ่งโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาหมาดๆในช่วงสงครามโลก ก็ทำให้เขาผูกพัน และ รู้สึกว่านี้คือการเกิดใหม่ของชาวยิว และ ของประเทศเขา
เมื่อเข้ามาอยู่แล้ว ชาวยิวเอง ก็เริ่มเติบโต และ ตั้งตัวได้ ด้วยความที่เป็นคนเก่ง ทำงานหนัก มีหัวธุรกิจ มีเล่เหลี่ยมในการค้าขายสูง ก็ทำให้ประเทศอิสราเอลเองเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็เกิดเป็นความไม่พอใจให้กับชาวอารับรอบๆ จนเกิดเป็นสงครามอันเลื่องชื่อ 6-Day War ระหว่าง ชาวอารับได้แก่ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน และ ชาวยิว หรือ อิสราเอล
ซึ่งผลของสงครามก็ทำให้ชาวอารับ และ ทุกประเทศทั่วโลกต้องทึ่ง เพราะอิสราเอลสามารถจบสงครามได้ในเวลาพียง 6 วัน โดยไม่เพียงชนะ แต่สามารถยึดพื้นที่ได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จากขนาดพื้นที่เดิมของตนเอง ซึ่งก็เป็นพื้นที่ ที่ประเทศอิสราเอล ยึดครองมาจนถึงปัจจุบัน
4. Fast Forward มาถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้น ความขัดแย้ง และ ความไม่พอใจ ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆระหว่างต่างศาสนาในพื้นที่ แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ทับซ้อนกับชาวอิสราเอลเลย แต่ด้วยศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และ ด้านการทหารของอิสราเอลที่เหนือกว่าเป็นอย่างมาก ก็ทำให้ปาเลสไตน์ เป็นผู้เสียเปรียบในความขัดแย้งนี้
ก็ทำให้เกิดเป็นกลุ่ม Hamas ที่เลือกจะตอบโต้ทางอิสราเอลกลับด้วยความรุนแรง ซึ่งก็มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยหากใครที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมประเทสอิสราเอล ก็จะพบว่าทุกๆบ้านจะสร้างหลุ่มหลบภัยเอาไว้เสมอ เพื่อป้องกันมิสซายต่างๆที่อาจมาได้ทุกเมื่อ และ ในสงครามครั้งล่าสุดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งฝีมือของกลุ่ม Hamas ซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติของอิสราเอลเลยก็ว่าได้
โดยชาวอิสราเอลเอง ซึ่งเคยถูกพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาก่อน แล้วได้เข้ามาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งเปรียบเสมือนการได้เกิดใหม่ ก็ย่อมรู้สึกผูกพัน และ พร้อมที่จะทำทุกทาง เพื่อที่จะปกป้อง เผ่าพันธุ์ ชนชาติ พร้อมดินแดนนี้ของเขาเอาไว้ให้ได้เช่นกัน ก็เกิดเป็นความขัดแย้งที่ต่อเนื่อง และ รุนแรง ต่อไป
5. ใครถูก ใครผิด แล้วจะจบยังไง
มุมมองส่วนตัว มองว่ามันคงเป็นปัญหาที่ไม่สามารถชี้ถูกชี้ผิดได้ 100% เพราะจริงๆแล้วทั้งคู่ ก็เป็นกลุ่มคนที่ต้องการปกป้องสิทธิประโยชน์ ดินแดน และ ชนชาติ ของตนเอง
เรารู้จักกับคนอิสราเอลมายาวนาน ค้าขายกันมาได้ยาวนาน เขาเองก็ไม่ใช่คนโกง คนไม่ดีอะไร ตรงกันข้าม กับมองว่าเขาเป็นคน ตรงไปตรงมา เก่ง และ ทำงานหนักมากๆ ในขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์ที่เราได้มีโอกาสเจอ ก็ไม่ใช่คนหัวรุนแรง แต่ก็เป็นแค่คนที่มีศักยภาพน้อยกว่า แต่ยังคงต้องการ และ พยายามที่จะปกป้องสิทธิของตนเองเช่นกัน
Hamas เองต้องเลือก "ก่อการร้าย" เพราะไม่ได้มีกองกำลังที่แข็งแรงพอจะทำสงครามโดยตรงกับชาวอิสราเอล ในขณะเดียวกันชาวอิสราเอลเอง ก็ถล่มฉนวนกาซ่า เพราะก็ไม่รู้ว่าใครบ้างคือ Hamas ที่แฝงตัวอยู่ในชาสปาเลสไตน์ทั่วไป
ส่วนหนทางออก หลังจากที่ได้คุยกับนักประวัติศาสตร์ และ ผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่าน ส่วนมากก็เห็นตรงกันว่ามันคงไม่มีทางออกที่ง่ายดาย และ มีโอกาสที่จะนองเลือดสูง ก็เป็นไปอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ ก็คงจะได้แต่หวัง ว่าเขาทั้งคู่ จะสามารถหาทางออกที่ลงตัวได้โดยเร็ว และ ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ จะสามารถดำเนินไปได้ตามปกติโดยเร็ว
6. สุดท้าย
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ถ้าขาดเหลืออะไรตรงไหนก็ขออภัยมาด้วย
สุดท้ายสำหรับเรา ก็คงได้แต่แสดงความเสียใจอย่างมากกับทั้ง 2 ประเทศ ที่ต้องมาเจอปัญหานี้ และ หวังมากๆๆๆ ว่าจะหาทางออกที่ไม่ต้องนองเลือดได้โดยเร็ว
อิสราเอล - ปาเลสไตน์ รบกันทำไม ใครถูกใครผิด (ข้อมูลและความเห็นจากปสกส่วนตัว)
1. เขาทะเลาะกันเรื่องอะไร?
สั้นๆง่ายๆคือ เขาแย่งพื้นที่กันครับ หลักๆเลยคือพื้นที่ในบริเวณ กรุงเยรูซาเล็ม (Jerusalem) โดยเราต้องเข้าใจว่าพื้นที่นี้สำหรับคนทั้ง 2 ฝ่าย มันไม่ใช่แค่สถานที่พักอาศัย แต่มันเป็นพื้นที่ ที่เกี่ยวโยงกับความเชื่อทางศาสนา ของทั้งศาสนายิว ของชาวอิสราเอล และ ศาสนาอิสลาม ของชาวปาเลสไตน์ (จริงๆมีความสำคัญต่อศาสนาคริสต์ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้โดยตรงก็จะขอข้ามไป) เมื่อมันเกี่ยวกับกับเรื่องศาสนา และ ความเชื่อ ก็ทำให้เป็นปัญหาและความขัดแย้งที่เรื้อรังยาวนานมาถึงปัจจุบัน ต่างฝ่าย ต่างไม่ยอมที่จะย้ายออกไปจากพื้นที่นี้ง่ายๆ
2. จุดเริ่มต้นคืออะไร?
จุดเริ่มต้นหลักคือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมาพร้อมกับโครงการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว หรือ ชาวอิสราเอลในปัจจุบัน จากกลุ่มนาซีของประเทศเยอรมัน ซึ่งมีความไม่ชอบชาวยิวเป็นอย่างมาก และ มองกว่าชาวยิวเป็นเสมือนสัตว์เดียรัจฉาน
ในช่วงท้ายของสงครามชาวยิวถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปเป็นจำนวนมาก โดยใช้เตาเผามนุษย์อันเป็นที่เลื่องลือ ส่วนชาวยิวที่เหลือทั้งหมดที่เคยกระจายตัวอยู่ในยุโรป ก็ถูกยึดทรัพย์สิน สิทธิ และ เสรีภาพ ไปทั้งหมด บ้างก็ถูกจับมารวมในค่ายกักกัน ผู้ที่ไม่ถูกจับก็ต้องหลบซ่อนใต้ถุนบ้านเพื่อให้มีชีวิตรอด
เมื่อสงครามจบลงแล้วกลายเป็นว่านาซีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็คือชาวยิวจำนวนมาก ทั้งในค่ายกักกัน และ ที่หลบซ่อนอยู่ ผู้ที่ไร้ซึ่งทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน และ ที่อยู่อาศัยใดๆ
ประเทศอังกฤษ และ เหล่าผู้ชนะสงคราม จึงตัดสินใจให้คนยิวเหล่านี้ ย้ายเข้าไปอยู่ในอาณาเขตของประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน เกิดเป็นประโยคแห่งประวัติศาสตร์ว่า "A land without a people for a people without a land" (ดินแดนที่ไม่มีผู้คน สำหรับ ผู้คนที่ไม่มีดินแดน) แต่แท้จริงแล้วดินแดนตรงนั้นมีผู้อาศัยอยู่แล้วคือชาวปาเลสไตน์.... ก่อให้เกิดเป็นปัญหาเรื้อรังยาวนาน มาจนถึงปัจจุบัน
3. หลังจากชาวอิสราเอลเข้าไปอยู่แล้ว เป็นยังไง
สำหรับชาวยิว หรือ ชาวอิสราเอลนั้น การที่ได้มาอยู่ในดินแดนนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับพวกเขาเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาเขา ประกอบกับการที่เพิ่งโดนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาหมาดๆในช่วงสงครามโลก ก็ทำให้เขาผูกพัน และ รู้สึกว่านี้คือการเกิดใหม่ของชาวยิว และ ของประเทศเขา
เมื่อเข้ามาอยู่แล้ว ชาวยิวเอง ก็เริ่มเติบโต และ ตั้งตัวได้ ด้วยความที่เป็นคนเก่ง ทำงานหนัก มีหัวธุรกิจ มีเล่เหลี่ยมในการค้าขายสูง ก็ทำให้ประเทศอิสราเอลเองเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ นั้นก็เกิดเป็นความไม่พอใจให้กับชาวอารับรอบๆ จนเกิดเป็นสงครามอันเลื่องชื่อ 6-Day War ระหว่าง ชาวอารับได้แก่ อียิปต์ ซีเรีย จอร์แดน และ ชาวยิว หรือ อิสราเอล
ซึ่งผลของสงครามก็ทำให้ชาวอารับ และ ทุกประเทศทั่วโลกต้องทึ่ง เพราะอิสราเอลสามารถจบสงครามได้ในเวลาพียง 6 วัน โดยไม่เพียงชนะ แต่สามารถยึดพื้นที่ได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จากขนาดพื้นที่เดิมของตนเอง ซึ่งก็เป็นพื้นที่ ที่ประเทศอิสราเอล ยึดครองมาจนถึงปัจจุบัน
4. Fast Forward มาถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้น ความขัดแย้ง และ ความไม่พอใจ ก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆระหว่างต่างศาสนาในพื้นที่ แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ทับซ้อนกับชาวอิสราเอลเลย แต่ด้วยศักยภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และ ด้านการทหารของอิสราเอลที่เหนือกว่าเป็นอย่างมาก ก็ทำให้ปาเลสไตน์ เป็นผู้เสียเปรียบในความขัดแย้งนี้
ก็ทำให้เกิดเป็นกลุ่ม Hamas ที่เลือกจะตอบโต้ทางอิสราเอลกลับด้วยความรุนแรง ซึ่งก็มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยหากใครที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมประเทสอิสราเอล ก็จะพบว่าทุกๆบ้านจะสร้างหลุ่มหลบภัยเอาไว้เสมอ เพื่อป้องกันมิสซายต่างๆที่อาจมาได้ทุกเมื่อ และ ในสงครามครั้งล่าสุดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งฝีมือของกลุ่ม Hamas ซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติของอิสราเอลเลยก็ว่าได้
โดยชาวอิสราเอลเอง ซึ่งเคยถูกพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาก่อน แล้วได้เข้ามาอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ซึ่งเปรียบเสมือนการได้เกิดใหม่ ก็ย่อมรู้สึกผูกพัน และ พร้อมที่จะทำทุกทาง เพื่อที่จะปกป้อง เผ่าพันธุ์ ชนชาติ พร้อมดินแดนนี้ของเขาเอาไว้ให้ได้เช่นกัน ก็เกิดเป็นความขัดแย้งที่ต่อเนื่อง และ รุนแรง ต่อไป
5. ใครถูก ใครผิด แล้วจะจบยังไง
มุมมองส่วนตัว มองว่ามันคงเป็นปัญหาที่ไม่สามารถชี้ถูกชี้ผิดได้ 100% เพราะจริงๆแล้วทั้งคู่ ก็เป็นกลุ่มคนที่ต้องการปกป้องสิทธิประโยชน์ ดินแดน และ ชนชาติ ของตนเอง
เรารู้จักกับคนอิสราเอลมายาวนาน ค้าขายกันมาได้ยาวนาน เขาเองก็ไม่ใช่คนโกง คนไม่ดีอะไร ตรงกันข้าม กับมองว่าเขาเป็นคน ตรงไปตรงมา เก่ง และ ทำงานหนักมากๆ ในขณะเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์ที่เราได้มีโอกาสเจอ ก็ไม่ใช่คนหัวรุนแรง แต่ก็เป็นแค่คนที่มีศักยภาพน้อยกว่า แต่ยังคงต้องการ และ พยายามที่จะปกป้องสิทธิของตนเองเช่นกัน
Hamas เองต้องเลือก "ก่อการร้าย" เพราะไม่ได้มีกองกำลังที่แข็งแรงพอจะทำสงครามโดยตรงกับชาวอิสราเอล ในขณะเดียวกันชาวอิสราเอลเอง ก็ถล่มฉนวนกาซ่า เพราะก็ไม่รู้ว่าใครบ้างคือ Hamas ที่แฝงตัวอยู่ในชาสปาเลสไตน์ทั่วไป
ส่วนหนทางออก หลังจากที่ได้คุยกับนักประวัติศาสตร์ และ ผู้เชี่ยวชาญหลายๆท่าน ส่วนมากก็เห็นตรงกันว่ามันคงไม่มีทางออกที่ง่ายดาย และ มีโอกาสที่จะนองเลือดสูง ก็เป็นไปอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ ก็คงจะได้แต่หวัง ว่าเขาทั้งคู่ จะสามารถหาทางออกที่ลงตัวได้โดยเร็ว และ ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ จะสามารถดำเนินไปได้ตามปกติโดยเร็ว
6. สุดท้าย
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ถ้าขาดเหลืออะไรตรงไหนก็ขออภัยมาด้วย
สุดท้ายสำหรับเรา ก็คงได้แต่แสดงความเสียใจอย่างมากกับทั้ง 2 ประเทศ ที่ต้องมาเจอปัญหานี้ และ หวังมากๆๆๆ ว่าจะหาทางออกที่ไม่ต้องนองเลือดได้โดยเร็ว