หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[SR] รีวิว MERCEDES-BENZ EQS 500 รถยนต์ไฟฟ้า แรง ล้ำ ภายในหวือหวาที่สุด !
กระทู้รีวิว
Mercedes-Benz
รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์
รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย MERCEDES-BENZ นั้นลุยตลาดกันมาอย่างต่อเนื่อง และ ในต่างประเทศเองก็มีทั้งหลากหลายระดับราคา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้น หรือ รุ่นเทพ แต่ในไทยเองนั้นยังค่อยๆรุกตลาดอย่างต่อเนื่องครับ โดยในไทยเองเริ่มจาก EQS450+ ที่นำเข้ามาระดับเรือธง จากนั้นมีการผลิตในประเทศในรุ่น EQS500 ที่สเปกดีขึ้น แต่อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้มากขึ้น รวมถึงมีการเปิดตัว EQB ไปอีกรุ่นเสริมทัพในระดับเริ่มต้น กับ SUV นั้นเองเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาครับ แม้ว่าจะไม่หลากหลายครบแบบเมืองนอกแต่ก็เป็นการเดินตลาดในไทยที่ไวกว่าที่คิด ในกระแสที่รถยนต์จากจีนเข้ากันมาแบบต่อเนื่อง แม้จะเจาะกลุ่มต่างกันชัดเจน แต่ก็ทำให้เห็นว่าในไทยกับรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ EQB จองหมดโควตาในไม่กี่วัน หรือ EQS ก็มีขับบนถนนกันเยอะ
MERCEDES-BENZ EQS500 ตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งานมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous 2 ตัว กำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 108.4 kWh พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water-based Coolant Circulation Heat Pipe) ส่งกำลังลงสู่ล้อทั้ง 4 ด้วยระบบส่งกำลังแบบ Automatic Single-speeed Reduction Gear อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed จำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ อยู่ที่ 702 กิโลเมตร (WLTP) และ มาพร้อมกับการเลี้ยวล้อหลังได้ด้วยเช่นกัน รวมถึงในแง่ของฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่น 450+ คือได้มอเตอร์คู่ ได้หน้าจอคนนั่งหลัง รวมถึงแบตใหญ่ขึ้น และระบบเสียง Dolby Atmos ระบบนวดเบาะหน้า ซึ่งรุ่นก่อนหน้าไม่มี แถมราคาตอนนี้แค่ 7.2 ล้านถูกกว่าเดิมหลายแสนบาทเมื่อประกอบในไทยแบบนี้ รวมถึง ฟีเจอร์ระบบช่วยขับต่างๆใส่มาแบบแน่นๆเหมือนเดิมครับรุ่นนี้ ถ้าจะมองว่ามันเป็นรถยนต์ที่หรูหราและล้ำสมัย รวมถึงแรงที่สุดคันหนึ่งของค่าย MERCEDES-BENZ กันเลยทีเดียวครับตอนนี้
- EQS 500 AMG Premium 7,200,000 บาท
EXTERIOR
ก่อนอื่นต้องบอกว่าตั้งแต่ MERCEDES-BENZ เริ่มทำรถยนต์ไฟฟ้าในชื่อ EQ ทั้งหลายออกมา ผมไม่เคยชอบหน้าตามันเลย มันดูโค้งมนหน้ากลมๆกระจังหน้าแบบตัว V คล้าย HONDA ยุคหนึ่ง รวมถึงการออกแบบที่แปลกๆในบางรุ่น แต่เมื่อมาดูการออกแบบที่ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำที่สุดแค่ 0.20cd แบบนี้ ก็พอยอมรับกับหน้าตามันได้ครับ มันกลายเป็นรถยนต์ที่ลงบนถนนขายทั่วไปที่แรงเสียดทานต่ำที่สุดในตอนนี้ครับ และส่งผลต่อระยะทางการขับขี่ ต่างๆมากมายในรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งสำคัญในแง่ของการต้านลม ส่วนขนาดของมันค่อนข้างใหญ่โตมาก แต่สามารถออกแบบได้ลู่ลมแบบนี้ถือว่าเก่ง มากับขนาดความยาว 5,216 มิลลิเมตร กว้าง 1,926 มิลลิเมตร สูง 1,512 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ Wheelbase 3,210 มิลลิเมตร และที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 610 – 1,770 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) ซึ่งดูขนาดตัวรถใกล้เคียงกับ S-Class เลยทีเดียว แต่พื้นที่นั่งข้างในจะแคบกว่าเพราะทรงแบบนี้
เมื่อมองดีไซน์ทั้งคันจะเห็นความพยายามที่ทำให้ลู่ลมมากที่สุด ทรงคล้ายๆเมาส์โค้งๆตั้งแต่ด้านหน้าไปด้านหลัง และด้วยตัวรถที่เป็นสีขาวทำให้เราเห็นว่ามีการแทรกสีดำเข้ามาทั้งกันชนหน้า ขอบด้านข้าง จนถึงท้ายรถนั้นเองแต่จุดหนึ่งที่สวยมากๆ คือเส้นสายด้านข้างไปจนถึงท้ายรถต่อเนื่องสวยและโค้งเนียนตา และล้อลายแบบนี้ดูไม่เป็นขอบหนาๆหรือเป็นแผ่นๆแบบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปทำให้ดูสวยและเสริมตัวรถได้ดีกว่าเดิมครับ และมือจับประตูแบบซ่อนก็ใส่มาด้วยเมื่อมองดูด้านข้างจะรู้สึกเลยว่ามันเป็นรถที่ฐานล้อยาวมาก แต่หน้ารถสั้น ท้ายรถยนต์สั้นเพราะคันนี้พัฒนามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจริงๆ ไม่ต้องมีพื้นที่ให้เครื่องยนต์อีกต่อไปในด้านหน้า แต่เวลาขึ้นหลังเต่าแอบครูดได้ง่ายเพราะรถยนต์ค่อนข้างเตี้ยและยาวในแง่ช่วงกลางรถยนต์ครับต้องระวังพอสมควร
ถ้าจะมองว่ารถยนต์ MERCEDES-BENZ คันไหนเป็นรถยนต์ EV มองง่ายๆคือ เส้นสายไฟหน้าและไฟท้ายต้องเป็นแนวๆยาวเชื่อมกัน พร้อมกับกระจังหน้าแบบตัว V โค้งๆแบบรุ่นนี้คือไฟฟ้าล้วนแน่นอนครับในด้านหน้าถ้ารถสีขาวเราจะเห็นเลยว่ากระจังหน้าดำและมีตราดาวเล็กๆกระจาย เสริมด้วยไฟหน้าแนวยาว และชุดกันชนแบบ AMG ใส่มาให้สวยงามและช่องรีดอากาศของจริงทั้งหมด ถือว่าดูสวย ส่วนด้านท้ายเองนั้นเป็นไฟแนวยาวสวยงามพร้อมกับโลโก้ท้าย และ ชุดกันชนแบบ AMG ซึ่งรุ่นนี้ฝาท้ายจะเปิดทั้งกระจกเลยครับ รวมถึง Diffuser ท้ายใส่เข้ามาด้วย ส่วนทางด้านล้อและช่วงล่างแบบถุงลม ใส่กับล้อขนาด 21 นี้สวยมากแบบ AMG และไม่ต้องมีขอบหนาๆช่วยให้ลู่ลมอะไรครับเพราะว่าเขาออกแบบมาดีแล้วเมื่อขับไวๆขอบชั้นในจะช่วยลดแรงเสียดทานไปในตัวโดยที่ไม่ต้องทำที่ปิดเยอะ
ไฟหน้าระดับสูงสุดของค่าย DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถแบ่งไฟเป็นพิกเซลได้ละเอียดสูงถึง 1.3 ล้าน pixel พร้อม Ultra range high beam ส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร แบ่งเป็นช่องๆหลบรถคันข้างหน้าได้แบบไม่แยงตา และทำงานร่วมกับกล้องหน้ารถยนต์เช่นกัน ซึ่งถือว่าสวยคมและสว่าง มีEffectเวลาปลดล็อกรถยนต์สวยงามครับ เมื่อขับกลางคืนไฟตรงกลางก็จะติดเป็นเส้นแนวยาวต่อเนื่อง รวมถึงด้านท้ายรถยนต์เช่นกันเป็นไฟแนวยาวพร้อมกับไฟเกลียวสวยงาม และ มีEffectเช่นกันเวลาปลดล็อกไล่แสงไฟจากขอบไฟสวยงามมาก
ในชุดแต่ง AMG ถือว่าเป็นดีไซน์ที่สวยลงตัวแม้ว่าจะมีเสริมโครเมียมเข้ามาเยอะเหมือนกันแต่เมื่อมองระดับราคา และ แนวทางรถยนต์ที่เป็นรุ่นที่หรูก็ยังพอเข้าใจกับการเสริมโครเมียมเข้ามาเยอะๆทั้งด้านหน้าและด้านข้าง รวมถึงด้านหลังรถยนต์เมื่ออยู่กับสีขาวดำก็พอเข้ากันได้ดี ซึ่งน่าเสียดายว่าในส่วนของหน้ารถนั้นไม่สามารถเปิดฝากระโปรงหน้ามาได้ และ ไม่มี Frunk ให้ใส่ของครับ ซึ่งถ้าตามปกติรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะมีมาให้อาจจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบอีกที
INTERIOR
งานออกแบบภายในถือว่าเป็นจุดที่หวือหวามากตั้งแต่เปิดตัวเพราะว่าเป็นการพัฒนาเข้าสู่ยุคหน้าจอใหญ่โตสะใจมากกว่าทุกคันที่เคยทำมา เป็นรุ่นที่แสงสีเยอะและหน้าจอ 3 หน้า จอขนาดใหญ่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในชื่อ HyperScreen นั้นเองครับ เมื่อรวมทั้งหมดหน้าจอ Hyperscreen จะประกอบไปด้วยหน้าจอกลางขนาด 17.7 นิ้ว รวมเข้ากับหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า โดยหน้าจอฝั่งคนนั่งจะไม่สามารถใช้งานได้ถ้าไม่มีคนมานั่ง จะแสดงผลข้อมูลได้อย่างเดียว สัมผัสไม่ได้เป็นแบบ OLED ทั้งหมดถือว่าสุดมากครับ ส่วนการสัมผัสใช้งานไวตอบสนองได้ดี มีความโค้งรับได้กำลังดี การควบคุมทุกอย่างไปอยู่บนหน้าจอทั้งหมด และแสงสีรอบคันสวยงามเช่นกัน ส่วนพื้นที่ภายในอาจจะดูตันๆสูงๆครับ จะเป็นแนวทางการออกแบบแตกต่างกับ S-Class กันแบบชัดเจนมาก
พวงมาลัยทรงคุ้นเคยแบบ AMG ที่ทางค่ายใช้งานตั้งแต่ A200 จนมาถึงรุ่นพี่ครับ แต่ชอบในแง่ของขนาดเวลาจับค่อนข้างเต็มมือ ไม่เล็กเกินไปอีกทั้งวัสดุผิวสัมผัสต่างๆและการออกแบบปุ่ม 2 ก้านโค้งรับนิ้วได้ดีด้วยเช่นกัน ยังคงได้แบบขอบตัด และ Paddle Shift มาแม้จะเป็น EV แต่ก็เอามาใช้งานปรับรีเจนพลังงานได้แบบลงตัวมากๆครับ ส่วนที่เราจะเห็นปุ่มของตัวรถคันนี้จะมีแค่ตรงที่วางแขนเท่านั้นคือปุ่ม Start กับไฟฉุกเฉินที่ตำแหน่งใช้งานจริงแอบยากไปหน่อยเวลารีบๆกด รวมถึงสแกนนิ้ว และปรับเสียง เน้นให้คนข้างๆใช้งานมากกว่าครับ เพราะคนขับเวลาใช้งานต้องถอยแขนมากดเยอะเหมือนกัน แต่ตำแหน่งวางแก้วต่างๆออกแบบมาได้ดีมีชาร์จไร้สาย และควบคุมผ่าน Air Gesture ได้ด้วยในหลายๆฟีเจอร์ครับ ในการออกแบบช่องแอร์แสงสีค่ายนี้คือหวือหวามาก มีไฟวิ่งเวลาขับและปรับแอร์ต่างๆรวมถึง ฟีเจอร์เวลาหยิบของเบาะคนนั่งเวลากลางคืนถ้าไม่มีคนนั่งและเราเอื้อมมือไป ไฟก็จะเปิดให้เองแบบออโต้ และปิดเองเวลาเอาออกครับอันนี้คือล้ำมาก รวมถึงระบบเครื่องเสียง Burmester แบบ 3D จัดเต็มเลย
รวมถึงในเรื่องของแอร์หลังก็ให้มาแบบแน่นทั้งการปรับโซนอิสระซ้ายขวา มีหน้าจอควบคุม และทิศทางลม รวมถึงมีบอกฝุ่นในตัวรถ แม้ว่าจะไม่อลังการเท่า S-Class ก็ตามครับแต่ในตัวนี้ก็ถือว่าดีและในรุ่นนี้ได้หน้าจอหลังเพิ่มเติมทำให้เราสามารถควบคุมสั่งงาน และ ดูสถานะตัวรถยนต์ได้ หรือจะเข้า Youtube,Web ต่างๆใช้งานได้ทันทีแค่มีเครือข่ายมือถือหรือซิมใช้งาน ซึ่งมีหูฟังส่วนตัวให้มาคู่หนึ่งในด้านหลัง เป็นจุดที่แตกต่างกับ EQS450+ ชัดเจนครับ แต่จุดที่คนนั่งหลังอาจจะไม่ถูกใจคือ ตำแหน่งเบาะ ความชันของเบาะที่ไม่สบายเท่า E-Class หรือ S-Class เท่าไร แม้ว่าที่วางขาจะยาวมากก็ตาม แต่ตัวเบาะเน้นการพับได้ และความเอนไม่เยอะเลยไม่สบายเท่ารุ่นอื่นๆครับ
ชื่อสินค้า:
MERCEDES-BENZ EQS 500
คะแนน:
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
- ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ราคานี้ ok ไหม Merecedes-Benz EQS เคาะราคาแล้ว เริ่ม 8.57 ล้านบาท รถไฟฟ้ารุ่นแรกของค่ายตราดาว
Mercedes-Benz EQS 450+ ได้เปิดราคาเสียที หลังจากโชว์ตัวมาสักพักใหญ่ๆ เริ่มโชว์ครั้งแรก Motor Expo 2021 โดยมีการเคาะราคาออกมา 2 รุ่น คือ EQS 450+ AMG Premium 8,570,000 บาท และ EQS 450+ Edition1 8
PonTripleP
รีไฟแนนซ์มอเตอร์ไซค์ที่ไหนดี
รถผมเหลืออีก 20000 หมดครับ Pcx 160 ปี 2020 160cc เดิมๆ อยากรีแบบดอกน้อยสุดแล้วกู้ได้ดีสุด ไม่เคยมีประสบการณ์กู้ครับ แต่ต้องการใช้เงินหมุนในการลงทุนธุรกิจครับ เลยอยากลองดูครับ แนะนำทีครับ
สมาชิกหมายเลข 3414303
ค่าซ่อมประมาณเท่าไรคับ
สอบถามคับรถประกันชั้น1ของ ว.ร.ย ชนกับเสาไฟส่องทางตอนนี้ได้เรียกประกันมาเเล้วค่ากรมธรรม์อยู่ที่ 570000บ. หัก70%เเล้วเหลือ 399000บ.จะพอค่าซ่อมไหมคับเเละจะมีค่าอะไหล่อะไรเพิ่มไหมคับซ่อมศูนย์
สมาชิกหมายเลข 7786016
718 cayman หรือ Boxster
เคยตั้งกระทู้ถามว่าpanamera หรือ718cayman ดี ส่วนมากเชียร์caymanกัน เลยตัดสินใจจะไปจอง cayman ดูไปดูมาก็อยากได้ Boxster พี่ๆว่ายังไงดีค่ะ อยากทราบว่ารถเปิดประทุนขอเสียเยอะแค่ไหน ถ้าขายต่อราคาจะตกกว่าc
สมาชิกหมายเลข 7388883
รถhpเยอะกับรถhpมากอันไหนเเรงกว่ากันคับ
สมาชิกหมายเลข 7788559
E 350 e Exclusive ปี 2025 Vs E 220 d AMG Line ปี 2025 เป็นคุณจะเลือกคันไหน?
ตามหัวข้อเลยค่ะ ตัวExclusive ถูกกว่า สามแสนสี่ ประกันแบต 10 ปี เราตั้งใจจะไปดีเซลล แต่เซลล์นำเสนอตัวปลั๊กอินว่าคุ้มกว่า จนเราเริ่มเขวแล้ว ส่วนตัวต้องการใช้ยาว ไม่จุกจิก อนาคตราคาซ่อมไม่แรงมาก แล
denyanyon142
อย่างจาฟอะเพ่!
ในความเป็นจริง...แบรนด์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน ทั้ง Mercedes-Benz BMW Audi Porsche volkswagen ต่างพยายามดิ้นรนเพื่อเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า แต่กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควร ในไทย รถไฟฟ้าของเยอรมันต้
สมาชิกหมายเลข 8457357
ส่องก่อนเปิดตัว BMW iX1 L 2025
2 ปีก่อน BMW ประกาศว่าจะเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้า หลังจากนั้น i3 รถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ก็ถูกเปิดตัวในปี 2013 ด้วยแนวทางที่สุดขั้ว (และมีต้นทุนที่สูงลิบ) สำหรับการออกแบบโมเดลไฟฟ้าโดยเฉพาะตั้งแต่โครง
สมาชิกหมายเลข 8457357
BYD เปิดตัวรถสปอร์ตหรูรุ่นใหม่ "Denza Z"
(ภาพจาก https://www.cnn.com/2025/04/23/business/china-byd-denza-z-auto-shanghai-intl-hnk/index.html) BYD ได้เปิดตัวรถสปอร์ตหรูรุ่นใหม่ “Denza Z” ภายใต้แบรนด์ Denza ซึ่งเป็นไลน์พรีเมียมของ
xemmy
ไปลองค่าย changan มาชอบทุกรุ่นเลยครับ แต่บริการหลังการขายจะโอเคไหมครับ
คือในตัวรถกว้างดีครับ แล้วชอบเบาะกับหลังคา ตัวรถ ราคา โอเคทุกอย่าง แต่บริการหลังการขายเป็นยังไงครับ แอบลังเล พอดีเป็นรถไฟฟ้าคันแรกครับ
สมาชิกหมายเลข 8639469
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Mercedes-Benz
รถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[SR] รีวิว MERCEDES-BENZ EQS 500 รถยนต์ไฟฟ้า แรง ล้ำ ภายในหวือหวาที่สุด !
รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย MERCEDES-BENZ นั้นลุยตลาดกันมาอย่างต่อเนื่อง และ ในต่างประเทศเองก็มีทั้งหลากหลายระดับราคา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเริ่มต้น หรือ รุ่นเทพ แต่ในไทยเองนั้นยังค่อยๆรุกตลาดอย่างต่อเนื่องครับ โดยในไทยเองเริ่มจาก EQS450+ ที่นำเข้ามาระดับเรือธง จากนั้นมีการผลิตในประเทศในรุ่น EQS500 ที่สเปกดีขึ้น แต่อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้มากขึ้น รวมถึงมีการเปิดตัว EQB ไปอีกรุ่นเสริมทัพในระดับเริ่มต้น กับ SUV นั้นเองเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาครับ แม้ว่าจะไม่หลากหลายครบแบบเมืองนอกแต่ก็เป็นการเดินตลาดในไทยที่ไวกว่าที่คิด ในกระแสที่รถยนต์จากจีนเข้ากันมาแบบต่อเนื่อง แม้จะเจาะกลุ่มต่างกันชัดเจน แต่ก็ทำให้เห็นว่าในไทยกับรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดดมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ EQB จองหมดโควตาในไม่กี่วัน หรือ EQS ก็มีขับบนถนนกันเยอะ
MERCEDES-BENZ EQS500 ตัวนี้มาพร้อมกับการใช้งานมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous 2 ตัว กำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 108.4 kWh พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water-based Coolant Circulation Heat Pipe) ส่งกำลังลงสู่ล้อทั้ง 4 ด้วยระบบส่งกำลังแบบ Automatic Single-speeed Reduction Gear อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed จำกัดไว้ที่ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ อยู่ที่ 702 กิโลเมตร (WLTP) และ มาพร้อมกับการเลี้ยวล้อหลังได้ด้วยเช่นกัน รวมถึงในแง่ของฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่น 450+ คือได้มอเตอร์คู่ ได้หน้าจอคนนั่งหลัง รวมถึงแบตใหญ่ขึ้น และระบบเสียง Dolby Atmos ระบบนวดเบาะหน้า ซึ่งรุ่นก่อนหน้าไม่มี แถมราคาตอนนี้แค่ 7.2 ล้านถูกกว่าเดิมหลายแสนบาทเมื่อประกอบในไทยแบบนี้ รวมถึง ฟีเจอร์ระบบช่วยขับต่างๆใส่มาแบบแน่นๆเหมือนเดิมครับรุ่นนี้ ถ้าจะมองว่ามันเป็นรถยนต์ที่หรูหราและล้ำสมัย รวมถึงแรงที่สุดคันหนึ่งของค่าย MERCEDES-BENZ กันเลยทีเดียวครับตอนนี้
- EQS 500 AMG Premium 7,200,000 บาท
EXTERIOR
ก่อนอื่นต้องบอกว่าตั้งแต่ MERCEDES-BENZ เริ่มทำรถยนต์ไฟฟ้าในชื่อ EQ ทั้งหลายออกมา ผมไม่เคยชอบหน้าตามันเลย มันดูโค้งมนหน้ากลมๆกระจังหน้าแบบตัว V คล้าย HONDA ยุคหนึ่ง รวมถึงการออกแบบที่แปลกๆในบางรุ่น แต่เมื่อมาดูการออกแบบที่ได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำที่สุดแค่ 0.20cd แบบนี้ ก็พอยอมรับกับหน้าตามันได้ครับ มันกลายเป็นรถยนต์ที่ลงบนถนนขายทั่วไปที่แรงเสียดทานต่ำที่สุดในตอนนี้ครับ และส่งผลต่อระยะทางการขับขี่ ต่างๆมากมายในรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งสำคัญในแง่ของการต้านลม ส่วนขนาดของมันค่อนข้างใหญ่โตมาก แต่สามารถออกแบบได้ลู่ลมแบบนี้ถือว่าเก่ง มากับขนาดความยาว 5,216 มิลลิเมตร กว้าง 1,926 มิลลิเมตร สูง 1,512 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ Wheelbase 3,210 มิลลิเมตร และที่เก็บสัมภาระด้านท้าย 610 – 1,770 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) ซึ่งดูขนาดตัวรถใกล้เคียงกับ S-Class เลยทีเดียว แต่พื้นที่นั่งข้างในจะแคบกว่าเพราะทรงแบบนี้
เมื่อมองดีไซน์ทั้งคันจะเห็นความพยายามที่ทำให้ลู่ลมมากที่สุด ทรงคล้ายๆเมาส์โค้งๆตั้งแต่ด้านหน้าไปด้านหลัง และด้วยตัวรถที่เป็นสีขาวทำให้เราเห็นว่ามีการแทรกสีดำเข้ามาทั้งกันชนหน้า ขอบด้านข้าง จนถึงท้ายรถนั้นเองแต่จุดหนึ่งที่สวยมากๆ คือเส้นสายด้านข้างไปจนถึงท้ายรถต่อเนื่องสวยและโค้งเนียนตา และล้อลายแบบนี้ดูไม่เป็นขอบหนาๆหรือเป็นแผ่นๆแบบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปทำให้ดูสวยและเสริมตัวรถได้ดีกว่าเดิมครับ และมือจับประตูแบบซ่อนก็ใส่มาด้วยเมื่อมองดูด้านข้างจะรู้สึกเลยว่ามันเป็นรถที่ฐานล้อยาวมาก แต่หน้ารถสั้น ท้ายรถยนต์สั้นเพราะคันนี้พัฒนามาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนจริงๆ ไม่ต้องมีพื้นที่ให้เครื่องยนต์อีกต่อไปในด้านหน้า แต่เวลาขึ้นหลังเต่าแอบครูดได้ง่ายเพราะรถยนต์ค่อนข้างเตี้ยและยาวในแง่ช่วงกลางรถยนต์ครับต้องระวังพอสมควร
ถ้าจะมองว่ารถยนต์ MERCEDES-BENZ คันไหนเป็นรถยนต์ EV มองง่ายๆคือ เส้นสายไฟหน้าและไฟท้ายต้องเป็นแนวๆยาวเชื่อมกัน พร้อมกับกระจังหน้าแบบตัว V โค้งๆแบบรุ่นนี้คือไฟฟ้าล้วนแน่นอนครับในด้านหน้าถ้ารถสีขาวเราจะเห็นเลยว่ากระจังหน้าดำและมีตราดาวเล็กๆกระจาย เสริมด้วยไฟหน้าแนวยาว และชุดกันชนแบบ AMG ใส่มาให้สวยงามและช่องรีดอากาศของจริงทั้งหมด ถือว่าดูสวย ส่วนด้านท้ายเองนั้นเป็นไฟแนวยาวสวยงามพร้อมกับโลโก้ท้าย และ ชุดกันชนแบบ AMG ซึ่งรุ่นนี้ฝาท้ายจะเปิดทั้งกระจกเลยครับ รวมถึง Diffuser ท้ายใส่เข้ามาด้วย ส่วนทางด้านล้อและช่วงล่างแบบถุงลม ใส่กับล้อขนาด 21 นี้สวยมากแบบ AMG และไม่ต้องมีขอบหนาๆช่วยให้ลู่ลมอะไรครับเพราะว่าเขาออกแบบมาดีแล้วเมื่อขับไวๆขอบชั้นในจะช่วยลดแรงเสียดทานไปในตัวโดยที่ไม่ต้องทำที่ปิดเยอะ
ไฟหน้าระดับสูงสุดของค่าย DIGITAL LIGHT ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่สามารถแบ่งไฟเป็นพิกเซลได้ละเอียดสูงถึง 1.3 ล้าน pixel พร้อม Ultra range high beam ส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร แบ่งเป็นช่องๆหลบรถคันข้างหน้าได้แบบไม่แยงตา และทำงานร่วมกับกล้องหน้ารถยนต์เช่นกัน ซึ่งถือว่าสวยคมและสว่าง มีEffectเวลาปลดล็อกรถยนต์สวยงามครับ เมื่อขับกลางคืนไฟตรงกลางก็จะติดเป็นเส้นแนวยาวต่อเนื่อง รวมถึงด้านท้ายรถยนต์เช่นกันเป็นไฟแนวยาวพร้อมกับไฟเกลียวสวยงาม และ มีEffectเช่นกันเวลาปลดล็อกไล่แสงไฟจากขอบไฟสวยงามมาก
ในชุดแต่ง AMG ถือว่าเป็นดีไซน์ที่สวยลงตัวแม้ว่าจะมีเสริมโครเมียมเข้ามาเยอะเหมือนกันแต่เมื่อมองระดับราคา และ แนวทางรถยนต์ที่เป็นรุ่นที่หรูก็ยังพอเข้าใจกับการเสริมโครเมียมเข้ามาเยอะๆทั้งด้านหน้าและด้านข้าง รวมถึงด้านหลังรถยนต์เมื่ออยู่กับสีขาวดำก็พอเข้ากันได้ดี ซึ่งน่าเสียดายว่าในส่วนของหน้ารถนั้นไม่สามารถเปิดฝากระโปรงหน้ามาได้ และ ไม่มี Frunk ให้ใส่ของครับ ซึ่งถ้าตามปกติรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะมีมาให้อาจจะเกี่ยวข้องกับการออกแบบอีกที
INTERIOR
งานออกแบบภายในถือว่าเป็นจุดที่หวือหวามากตั้งแต่เปิดตัวเพราะว่าเป็นการพัฒนาเข้าสู่ยุคหน้าจอใหญ่โตสะใจมากกว่าทุกคันที่เคยทำมา เป็นรุ่นที่แสงสีเยอะและหน้าจอ 3 หน้า จอขนาดใหญ่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดในชื่อ HyperScreen นั้นเองครับ เมื่อรวมทั้งหมดหน้าจอ Hyperscreen จะประกอบไปด้วยหน้าจอกลางขนาด 17.7 นิ้ว รวมเข้ากับหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า โดยหน้าจอฝั่งคนนั่งจะไม่สามารถใช้งานได้ถ้าไม่มีคนมานั่ง จะแสดงผลข้อมูลได้อย่างเดียว สัมผัสไม่ได้เป็นแบบ OLED ทั้งหมดถือว่าสุดมากครับ ส่วนการสัมผัสใช้งานไวตอบสนองได้ดี มีความโค้งรับได้กำลังดี การควบคุมทุกอย่างไปอยู่บนหน้าจอทั้งหมด และแสงสีรอบคันสวยงามเช่นกัน ส่วนพื้นที่ภายในอาจจะดูตันๆสูงๆครับ จะเป็นแนวทางการออกแบบแตกต่างกับ S-Class กันแบบชัดเจนมาก
พวงมาลัยทรงคุ้นเคยแบบ AMG ที่ทางค่ายใช้งานตั้งแต่ A200 จนมาถึงรุ่นพี่ครับ แต่ชอบในแง่ของขนาดเวลาจับค่อนข้างเต็มมือ ไม่เล็กเกินไปอีกทั้งวัสดุผิวสัมผัสต่างๆและการออกแบบปุ่ม 2 ก้านโค้งรับนิ้วได้ดีด้วยเช่นกัน ยังคงได้แบบขอบตัด และ Paddle Shift มาแม้จะเป็น EV แต่ก็เอามาใช้งานปรับรีเจนพลังงานได้แบบลงตัวมากๆครับ ส่วนที่เราจะเห็นปุ่มของตัวรถคันนี้จะมีแค่ตรงที่วางแขนเท่านั้นคือปุ่ม Start กับไฟฉุกเฉินที่ตำแหน่งใช้งานจริงแอบยากไปหน่อยเวลารีบๆกด รวมถึงสแกนนิ้ว และปรับเสียง เน้นให้คนข้างๆใช้งานมากกว่าครับ เพราะคนขับเวลาใช้งานต้องถอยแขนมากดเยอะเหมือนกัน แต่ตำแหน่งวางแก้วต่างๆออกแบบมาได้ดีมีชาร์จไร้สาย และควบคุมผ่าน Air Gesture ได้ด้วยในหลายๆฟีเจอร์ครับ ในการออกแบบช่องแอร์แสงสีค่ายนี้คือหวือหวามาก มีไฟวิ่งเวลาขับและปรับแอร์ต่างๆรวมถึง ฟีเจอร์เวลาหยิบของเบาะคนนั่งเวลากลางคืนถ้าไม่มีคนนั่งและเราเอื้อมมือไป ไฟก็จะเปิดให้เองแบบออโต้ และปิดเองเวลาเอาออกครับอันนี้คือล้ำมาก รวมถึงระบบเครื่องเสียง Burmester แบบ 3D จัดเต็มเลย
รวมถึงในเรื่องของแอร์หลังก็ให้มาแบบแน่นทั้งการปรับโซนอิสระซ้ายขวา มีหน้าจอควบคุม และทิศทางลม รวมถึงมีบอกฝุ่นในตัวรถ แม้ว่าจะไม่อลังการเท่า S-Class ก็ตามครับแต่ในตัวนี้ก็ถือว่าดีและในรุ่นนี้ได้หน้าจอหลังเพิ่มเติมทำให้เราสามารถควบคุมสั่งงาน และ ดูสถานะตัวรถยนต์ได้ หรือจะเข้า Youtube,Web ต่างๆใช้งานได้ทันทีแค่มีเครือข่ายมือถือหรือซิมใช้งาน ซึ่งมีหูฟังส่วนตัวให้มาคู่หนึ่งในด้านหลัง เป็นจุดที่แตกต่างกับ EQS450+ ชัดเจนครับ แต่จุดที่คนนั่งหลังอาจจะไม่ถูกใจคือ ตำแหน่งเบาะ ความชันของเบาะที่ไม่สบายเท่า E-Class หรือ S-Class เท่าไร แม้ว่าที่วางขาจะยาวมากก็ตาม แต่ตัวเบาะเน้นการพับได้ และความเอนไม่เยอะเลยไม่สบายเท่ารุ่นอื่นๆครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้