ประเด็นคือ คุณฉลาดน้อย (ผมสุภาพแล้วนะ) ในการตั้งราคาขายรถคุณ ณ เวลานั้น ...

ลองคิดดูง่ายๆ เลยนะ เปลี่ยนสถานภาพจากเจ้าของรถจะขายรถไปซื้อคันใหม่ มาเป็น คนยังไม่มีรถ แต่อยากจะซื้อรถให้ตัวเอง
- ถ้าไปเจอรถมือสอง อายุไม่มาก แต่ตั้งราคามาแพงๆ .. เป็นคุณ คุณจะซื้อมั้ยล่ะครับ ?
- ไม่มีใครซื้อรถมือสอง อายุไม่มากแล้วตั้งราคาแพงๆ ใกล้ๆ ราคารถป้ายแดงหรอกครับ เพราะไม่งั้นเค้าก็ไปออกป้ายแดงกันหมดดีกว่า
  ได้รถใหม่ชัวร์ๆ ไม่เสี่ยงเจอคันที่มีปัญหามาก่อน
- แถม การซื้อรถแบบผ่อน .. ถ้าป้ายแดงจะได้อัตราดอกเบี้ยถูกกว่า ในขณะที่รถมือสอง โดนคิดอัตราดอกเบี้ยแพงกว่า ยิ่งเก่า ดอกยิ่งแพง
- สรุปเลย คือ รถเก่ามือสอง อายุไม่มากนัก (< 5 ปี) ราคาขายต้องห่างจากรถใหม่ป้ายแดงมากพอดู จึงจะขายออก .. ยิ่งรถอายุ 2 ปีแรกนี่ ราคาตกสุดๆ
- แต่ถ้าเก่ากว่า 5 ปีไปแล้ว ราคามันตกลงไม่มากเท่า 5 ปีแรกแล้วครับ  คือ มันเหมือนเส้นกราฟภูเขา ที่ตอนลงจากยอด (ปีแรกๆ) จะชันมากๆ แล้วค่อยๆ ลาด (ชันน้อยลงๆๆ) จนเกือบจะราบในปีมากๆ


ผมฝากแนวคิดส่วนตัวของผมเลยนะว่า ... " รถ " = " ลด " ครับ .. ฉนั้น ...
1. ถ้ายิ่งคุณเปลี่ยนรถบ่อยแค่ไหน เงินคุณยิ่งสูญไปกับการซื้อรถมากเท่านั้น
2. ผมเสนอไอเดียแบบนี้ครับ คือ  >>>

* ดาวน์ด้วยเงินสดแค่คันแรก + ผ่อนนาน 5 ปี (ผ่อนหมด) + ใช้ต่ออีก 5 ปี (ไม่ต้องผ่อนแล้ว มีซ่อมตามอาการ) ก็จบคันแรก
+ เอาคันแรกไปขาย เอาเงินมาดาวน์รถคันที่ 2 + ผ่อนนาน 5 ปี (ผ่อนหมด) + ใช้ต่ออีก 5 ปี (ไม่ต้องผ่อนแล้ว มีซ่อมตามอาการ) ก็จบคันที่ 2
+ เอาคันที่ 2 ไปขาย เอาเงินมาดาวน์รถคันที่ 3 + ผ่อนนาน 5 ปี (ผ่อนหมด) + ใช้ต่ออีก 5 ปี (ไม่ต้องผ่อนแล้ว มีซ่อมตามอาการ) ก็จบคันที่ 3
... *

ทำแบบนี้ เป็นวงจรไปเลย (ผ่อน 5 ปี เก็บเงิน 5 ปี) หรือใครจะเร็วขึ้นอีกหน่อย เป็น ผ่อน 4 ปี เก็บเงิน 4 ปี กรณีนี้ โอกาสซ่อมในปีท้ายๆ ก็จะลดลงด้วย ...

ประมาณเนี้ยครับ