สื่อนอกเปิดหลักฐาน กลุ่มฮามาสสังหารตัวประกันชาวอิสราเอล
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/207739
 
 
The Washington Post เผยหลักฐานคลิปวิดีโอ ที่เหมือนจะบ่งชี้ว่า กลุ่มฮามาสลงมือสังหารตัวประกันชาวอิสราเอลเพียงไม่นานหลังจับกุมตัวได้
 
The Washington Post สื่อใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกที่กลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสเปิดฉากโจมตีหลายพื้นที่อิสราเอล และได้มีการจับกุมพลเรือนอิสราเอลไว้เป็นตัวประกันนั้น พบว่า มีการลงมือสังหารตัวประกันบางส่วน
 
หนึ่งในกรณีดังกล่าวคือเหตุการณ์ที่ชาวอิสราเอลอย่างน้อย 4 คน ในเขตชุมชนเกษตรเบเอรี (Be’eri) ทางใต้ของอิสราเอล ที่กลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน ได้ถูกสังหารไม่นานหลังจากถูกจับ

The Washington Post ตรวจสอบคลิปวิดีโอ 2 ตัวซึ่งถูกเผยแพร่ในเทเลแกรมเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ซึ่งเหมือนจะเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า กลุ่มฮามาสได้ลงมือสังหารตัวประกัน วิดีโอตัวแรก แสดงภาพชาวอิสราเอลอย่างน้อย 4 คนถูกนักสู้ของกลุ่มฮามาสคุมตัวเอาไว้ ซึ่งประเมินว่าถ่ายทำประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งหลังการเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเริ่มขึ้น เป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นแรก ๆ ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสจับพลเรือนอิสราเอลไปเป็นตัวประกัน
 
ในวิดีโออีกตัวหนึ่ง เป็นภาพพลเรือนอีกกลุ่มถูกมัดมือไว้ด้านหลัง และบางคนเท้าเปล่า กำลังเดินตามชายในชุดทหารที่ถืออาวุธคล้าย AR ไปตามถนน มุ่งหน้าไปยังทางแยก ซึ่งเป็นทางออกจากเบเอรีไปยังฉนวนกาซา
 
ใกล้ทางแยกนั้นมีศพอย่างน้อย 4 ศพนอนอยู่ ซึ่งทั้งหมดมีลักษณะทางกายภาพ ทั้งผมและเสื้อผ้า เหมือนกันกับพลเรือน 4 คนที่ปรากฏในคลิปตัวแรก
 
และเมื่อตรวจสอบด้วยเทคนิคการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ก็พบว่า จุดที่ศพทั้งสี่นอนอยู่นั้น อยู่ห่างจากจุดที่มีการถ่ายคลิปตัวแรกเพียงไม่กี่เมตร โดยอยู่บนถนนสายเดียวกัน สังเกตได้จากรถที่ถูกไฟไหม้ ขอบถนนอันเป็นเอกลักษณ์ และบ้านหลังเดียวกัน ในตอนท้ายของวิดีโอตัวแรก ตัวประกันยังมีชีวิตอยู่ แต่ในตอนท้ายของวิดีโอตัวที่สอง ตัวประกันจะดูเหมือนเสียชีวิตแล้ว
 
การตรวจสอบวิดีโอดังกล่าวเป็นฝีมือของ โรลโล คอลลินส์ และเบนจามิน เดน บราเบอร์ จากศูนย์เพื่อความยืดหยุ่นของข้อมูล ซึ่งโพสต์ลงใน X (ทวิตเตอร์) Benjamin  rollo
  
ทั้งนี้ The Washington Post ระบุว่า ไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่า วิดีโอทั้งสองนี้ถ่ายทำเมื่อใด แม้ว่าองค์ประกอบหลายอย่างของคลิปทั้งสองจะสอดคล้องกันก็ตาม
 
จอช วันเดอร์ โฆษกต่างประเทศของหน่วยงานค้นหาและกู้ภัย ZAKA ของอิสราเอล ยืนยันว่า “ทีมงานได้เก็บศพออกจากชุมชนเบเอรีตลอดทั้งวัน” และจนถึงขณะนี้พวกเขาพบศพแล้วอย่างน้อย 108 ศพ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่า ตัวเลขนี้ได้รวมอยู่ในบัญชีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการของรัฐบาลหรือไม่
 
“เราเก็บศพของผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ได้หลายสิบคน เป็นที่ชัดเจนสำหรับเราว่า เมื่อฮามาสเข้ามาในพื้นที่ พวกเขาก็ลงมือกวาดล้างและสังหารใครก็ตามที่พวกเขาพบ ไม่ว่าจะอยู่ในรถหรือบ้านของ” วันเดอร์กล่าว
 
ด้านองค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรต์วอตช์ แถลงเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) ว่า “การจงใจกำหนดเป้าหมายโจมตีที่ชัดเจนของฮามาสต่อพลเรือน การโจมตีตามอำเภอใจ และการจับพลเรือนเป็นตัวประกัน ถือเป็นอาชญากรรมสงครามภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ”
 
เรียบเรียงจาก The Washington Post

---

‘พีมูฟ’ ส่งใจ ‘สมัชชาคนจน’ สู้ไปด้วยกัน หัวอกโดนกระทำ เห็นตรงกัน ‘ร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_4224878

‘พีมูฟ’ ส่งใจ ‘สมัชชาคนจน’ สู้ไปด้วยกัน หัวอกโดนกระทำ เห็นตรงกัน ‘ร่าง รธน.ใหม่ทั้งฉบับ’
 
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ (P-move) ชุมนุมปักหลักทวงสิทธิประชาชน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 9

บรรยากาศเวลา 14.00 น. หลังจากที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมการพูดคุยกับผู้ชุมนุมกลุ่มพีมูฟ เพื่อยืนยัน 10 ข้อเสนอเชิงนโยบายว่ามีการนำเรื่องเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้ชุมนุมกลุ่มพีมูฟ นำโดย นายจำนงค์ หนูพันธ์ ได้ตั้งขบวนเดินไปให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่ม ‘สมัชชาคนจน’ ซึ่งปักหลักชุมนุมข้างกระทรวงศึกษาธิการ โดยเดินเท้าจากบริเวณที่ปักหลักชุมนุมหน้าประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ไปยังถนนลูกหลวง ริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา เพื่อส่งกำลังใจในนามประชาชนคนยากจนที่ต่อสู้กับกฎหมายและนโยบายของรัฐ
 
นายไพฑูรย์ สร้อยสด เลขาธิการสมัชชาคนจน กล่าวว่า การต่อสู้ของทั้งสองส่วนที่กำลังผลักดันกันนั้น ไม่ใช่ประโยชน์ของแค่สมัชชาคนจน หรือพีมูฟ เพราะข้อเรียกร้องเชิงนโยบายก็เป็นข้อเรียกร้องของคนทั้งประเทศ

ด้านนายจำนงค์ ประธานกรรมการบริหารพีมูฟ กล่าวย้ำว่า 10 นโยบายของพีมูฟ ครอบคลุมประชาชนทั้งหมด อาจมีรายกรณีเร่งด่วนที่แตกต่างกันบ้าง แต่สุดท้ายเรื่องที่ตรงกันแน่นอนคือ เรื่องรัฐธรรมนูญใหม่ที่ร่างใหม่ทั้งฉบับ โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์
นายจำนงค์กล่าวว่า เรามาให้กำลังใจ ยืนยันว่าเราจะต่อสู้ไปด้วยกันเพราะเราคือพี่น้องกัน ไม่ว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร ถ้ามีปัญหาเราก็จะช่วยกันผลักดันเพื่อพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
 
“ในสิ่งที่เราโดนกระทำมาด้วยกัน อาจจะมีแตกต่างกันบ้าง แต่สุดท้ายอะไรที่สามารถแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้ นั่นคือแนวความทางเดียวกัน” นายจำนงค์กล่าว
 
โดยตัวแทนสมัชชาคนจนและพีมูฟ จับมือกัน ก่อนตัวแทนสมัชชาคนจนกล่าวว่า สุดท้ายแล้วเรามีแนวทางเดียวกัน ในเรื่องการแก้ไขปัญหาสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
 
ทั้งนี้ กลุ่มปัญหาข้อเรียกร้องของสมัชชาคนจน ประกอบด้วย กรณีปัญหากลุ่มเขื่อน, กรณีปัญหากลุ่มที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในเขตป่าไม้, กรณีปัญหากลุ่มที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในที่ราชพัสดุ, กรณีปัญหากลุ่มที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยในที่สาธารณประโยชน์ พื้นที่สัญญาเช่า, กรณีปัญหาแรงงาน และกรณีปัญหาผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ
 
ต่อมาเวลา 14.25 น. กลุ่มพีมูฟ ตั้งขบวนเพื่อเดินทางกลับไปยังจุดชุมนุมเดิมของตน บริเวณหน้าประตู 5 ข้างทำเนียบรัฐบาล ใกล้กับสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยระหว่างการเดินขบวน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มสมัชชาคนจน ส่งเสียงขอบคุณที่มาให้กำลังใจตลอดทาง บางส่วนกล่าวว่า ‘หัวอกเดียวกัน’ พร้อมเดินมาส่งถึงจุดชุมนุม มีการเชิญชวนรับประทานอาหารร่วมกัน พร้อมทั้งมอบน้ำดื่มและขนม บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น โดยทางกลุ่มพีมูฟ ยังกล่าวส่งกำลังใจให้สมัชชาคนจนสู้ต่อไป

---

ก.เกษตรฯ เผยฝนถล่มภาคเกษตรกระทบด้านพืช 38 จว. เสียหายกว่า 1.08 ล้านไร่
https://www.matichon.co.th/region/news_4225046

ก.เกษตรฯ เผยฝนถล่มภาคเกษตรกระทบด้านพืช 38 จว. เสียหายกว่า 1.08 ล้านไร่
 
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม รายงานข่าวจากศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า จากสถานการณ์ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทย มีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้วหลายจังหวัด

 สำหรับผลกระทบด้านการเกษตร ประกอบด้วย ด้านพืช พื้นที่ได้รับผลกระทบ 38 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ตาก น่าน แพร่ พะเยา เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มุกดาหาร มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด สมุทรสาคร และจังหวัดสตูล เกษตรกร 150,629 ราย พื้นที่ 1,084,172 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 818,652 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 251,095 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 14,425 ไร่สำรวจพบความเสียหายแล้ว เกษตรกร 5,446 ราย พื้นที่ 56,376 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 55,619 ไร่ พืชไร่ และพืชผัก 674 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 83 ไร่ คิดเป็นเงิน 76.2 ล้านบาท ช่วยเหลือแล้วเกษตรกร 2 ราย พื้นที่ 0.50 ไร่ วงเงิน 830 บาท

ด้านประมงพื้นที่ได้รับผลกระทบ 27 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เชียงราย ตาก แพร่ พะเยา เพชรบูรณ์ พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี กรุงเทพฯ นครนายก ปราจีนบุรี ลพบุรี สระบุรี ตราด และยะลา เกษตรกร 7,256 ราย พื้นที่ 8,166 ไร่ แบ่งเป็น บ่อปลา 7,570 ไร่ บ่อกุ้ง 596 ไร่กระชัง 2,236 ตารางเมตร สำรวจพบความเสียหายแล้ว เกษตรกร 14 ราย พื้นที่ 10 ไร่ คิดเป็นเงิน 48,576 บาท
 
ด้านปศุสัตว์พื้นที่ได้รับผลกระทบ 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด เชียงราย ตาก แพร่ พิษณุโลก แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม ยโสธร ร้อยเอ็ด หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ และจังหวัดจันทบุรี เกษตรกร 15,211 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 519,966 ตัว แบ่งเป็น โค 31,215 ตัว กระบือ 8,276 ตัว สุกร 12,690 ตัว แพะและแกะ 2,465 ตัว สัตว์ปีก 465,320 ตัว แปลงหญ้า 2,753 ไร่อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
 
สำหรับการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้แก่ 
 
1.สนับสนุนเครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แบ่งเป็น เครื่องสูบน้ำ 90 เครื่อง แบ่งเป็น ลำปาง 1 เครื่อง สุโขทัย 14 เครื่อง นครพนม 4 เครื่อง หนองคาย 26 เครื่อง ยโสธร 13 เครื่อง ศรีสะเกษ 2 เครื่อง สกลนคร 3 เครื่อง สุรินทร์ 1 เครื่อง อุดรธานี 5 เครื่อง อุบลราชธานี 6 เครื่อง อ่างทอง 3 เครื่อง สระบุรี 5 เครื่อง สมุทรสาคร 3 เครื่อง สุพรรณบุรี 2 เครื่อง สตูล 2 เครื่อง

2.เครื่องสูบน้ำไฟฟ้า 3 เครื่อง ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3.เครื่องผลักดันน้ำ 34 เครื่อง แบ่ง
เป็น นครพนม 4 เครื่อง สกลนคร 4 เครื่อง อุดรธานี 8 เครื่อง ยโสธร 12 เครื่อง สตูล 6 เครื่อง 4.กระสอบทราย 9,250 ใบ แบ่งเป็น ร้อยเอ็ด 1,250 ใบ อุบลราชธานี 8,000 ใบ 5.เครื่องจักร-เครื่องมืออื่นๆ 8 หน่วย แบ่งเป็น ยโสธร 6 หน่วย พระนครศรีอยุธยา 1 หน่วย และอำนาจเจริญ 1 หน่วย นอกจากนี้ ได้มีการสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 285.94 ตัน ถุงยังชีพสัตว์ 638 ถุง ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 3,440 ชุด รักษาสัตว์ 584 ตัว และอพยพสัตว์ 43,509 ตัว