รู้อยู่แกใจ เป็นหมอมีหน้าที่รักษาก็รักษาไป..
.
แต่ตอนนี้ไม่ไหว หมดไฟ เบื่อหน่ายในการทำงาน กับสิ่งที่ต้องเจอในแต่ละวัน
ทั้งตัวระบบบริการ สวัสดิการ การไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง
ที่เคยเจอมา
Cheif complaint แปลกๆ
กินเหล้าเมา ขี่มอไซล้ม พอมาถึงรพ.ก็เสียงดังโวยวายด่าเจ้าหน้าที่
กินเหล้าจนเป็นตับแข็ง แล้วก็มาด้วยอ้วกเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด แต่ก็ยังไม่หยุดกินเหล้า
ไม่คุมอาหาร ไม่คุมน้ำตาล กินเค็ม พอมี Complication ก็โทษเวรกรรม
ไม่กินข้าว เหนื่อยเพลีย ไม่มีแรง อยากได้น้ำเกลือ ยาฉีดยาบำรุง
ไม่มาตามนัดรับยา แต่มารับยานอกเวลาเพราะไม่ต้องรอคิว
Advise ญาติ+คนไข้ไปหลายรอบ แต่ก็มีคนอื่นถาม ก็บอกว่าหมอไม่ได้บอกอะไร
ลูกไข้สูง ไม่กินยาลดไข้ ไม่เช็ดตัว แต่ขอฉีดยาลดไข้ น้ำเกลือ เจาะเลือด xray บลาๆๆ
ไข้ 30 นาที
กำลังดูแลเคสอุบัติเหตุ(เคสแดง) เคสมาทำแผลบ่นว่ารอนาน นั่งรอจนเมื่อย
ฯลฯ
.
มีเหตุการณ์ไหนที่รู้สึกว่าสุดจริงๆ จนตัดสินใจลาออก แล้วหลังจากลาออกเป็นอย่างไรกันบ้าง
หรือมีอะไรที่ทำให้ตัดสินใจอยู่ต่อในระบบ
เหตุการณ์ไหนที่ทำให้ติดสินใจว่าจะลาออก
.
แต่ตอนนี้ไม่ไหว หมดไฟ เบื่อหน่ายในการทำงาน กับสิ่งที่ต้องเจอในแต่ละวัน
ทั้งตัวระบบบริการ สวัสดิการ การไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง
ที่เคยเจอมา
Cheif complaint แปลกๆ
กินเหล้าเมา ขี่มอไซล้ม พอมาถึงรพ.ก็เสียงดังโวยวายด่าเจ้าหน้าที่
กินเหล้าจนเป็นตับแข็ง แล้วก็มาด้วยอ้วกเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด แต่ก็ยังไม่หยุดกินเหล้า
ไม่คุมอาหาร ไม่คุมน้ำตาล กินเค็ม พอมี Complication ก็โทษเวรกรรม
ไม่กินข้าว เหนื่อยเพลีย ไม่มีแรง อยากได้น้ำเกลือ ยาฉีดยาบำรุง
ไม่มาตามนัดรับยา แต่มารับยานอกเวลาเพราะไม่ต้องรอคิว
Advise ญาติ+คนไข้ไปหลายรอบ แต่ก็มีคนอื่นถาม ก็บอกว่าหมอไม่ได้บอกอะไร
ลูกไข้สูง ไม่กินยาลดไข้ ไม่เช็ดตัว แต่ขอฉีดยาลดไข้ น้ำเกลือ เจาะเลือด xray บลาๆๆ
ไข้ 30 นาที
กำลังดูแลเคสอุบัติเหตุ(เคสแดง) เคสมาทำแผลบ่นว่ารอนาน นั่งรอจนเมื่อย
ฯลฯ
.
มีเหตุการณ์ไหนที่รู้สึกว่าสุดจริงๆ จนตัดสินใจลาออก แล้วหลังจากลาออกเป็นอย่างไรกันบ้าง
หรือมีอะไรที่ทำให้ตัดสินใจอยู่ต่อในระบบ