การเติบโตโดยที่ไม่มี Safe zone

 สวัสดีค่ะทุกคน นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ อาจจะมีพิมพ์ผิดบ้างขอโทษด้วยนะคะ 
    เราเองเป็นวัยรุ่นอายุ 22 เราเจอเรื่องราวมากมายในชีวิต แต่กลับรู้สึกว่าโลกใบนี้มันกว้างเหลือเกิน เพราะเรามองไปทางไหนก็ไม่เจอใครมันทำให้โลกดูใหญ่ไปกับการต้องเจอเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว อาจจะมีหลายคนบอกว่ามนุษย์ล้วนเกิดมาตัวคนเดียวและจากไปตัวคนเดียว แต่เชื่อเราเถอะค่ะว่าเรื่องราวต่างๆ ที่เราต้องเจอในชีวิตเราเองก็อยากจะมีใครสักคนทีเป็น safe zone ให้กับตัวเราเอง ต้องบอกก่อนว่าปกติเรามักจะเป็น safe zone ให้กับคนอื่น เราจะเข้มแข็งต่อทุกคนและเหมือนกับเป็นที่พึ่งพิงให้กับทุกคนพร้อมปกป้องทุกคนจากช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ตลอด ไม่ว่าเพื่อนเราคนรู้จักหรือใครก็ตามมีปัญหา ไม่สบายใจ เรามักจะโอบกอดและรับฟัง ให้คำแนะนำ พร้อมทั้งช่วยเหลือเขาเท่าที่เราจะทำได้ แต่กลับกันในวันที่เราเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากเรากลับไม่มีใครสักคนที่เป็นแบบตัวเราเองเลย ไม่ใช่ว่าไม่มีใครยื่นมือหรือไม่อยากรับฟังเรา แต่กลับเป็นเราเองที่ไม่อยากแสดงออกไปว่าเรากำลังไม่โอเคมีเรื่องไม่สบายใจ ไม่อยากให้ใครเห็นว่าเราไม่เข้มแข็ง หลายคนอาจจะบอกว่า safe zone ที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง หรือบางคนก็จะพูดว่าไม่มีใครเข้มแข็งตลอกเวลา เรารู้ค่ะ รู้ทุกอย่าง รู้ว่าตัวเองกำลังอ่อนแอแต่เรากลับทำไม่ได้ที่จะพูดออกไป ในชีวิตนี้เราร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นแค่ 3 ครั้งนอกนั้นเราจะร้องไห้ออกมาตอนที่เราอยู่คนเดียวแล้วเรารู้สึกหรือนึกถึงความเศร้าของตัวเอง หรือบางทีเมื่อไหร่ที่เราไม่มีอะไรทำสมองว่างๆเราจะร้องไห้โดยไม่รู้ตัว เปรียบเสมือนว่าที่ร้องไห้เพราะเราสงสารตัวเองที่ยังวนอยู่กับความไม่สบายใจอยู่คนเดียว แต่พอรู้สึกตัวว่าเราเริ่มร้องไห้เยอะแล้วนะเราก็จะกลับมาใช้ชีวิตปกติ ดูซีรีส์ ฟังเพลง ดูวาไรตี้ หยุดร้องไห้แล้วก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรามีเพื่อนสนิทที่เพื่อนเองก็เล่าปัญหาทุกอย่างในชีวิตให้เราฟังได้ เขาสนิทใจกับเราและบอกเราเสมอว่ามีอะไรก็บอกเขาได้ แต่เรากลับเลือกที่จะเก็บปัญหาไว้คนเดียว พอมาถึงตรงนี้หลายๆ คนคงคิดแล้วใช่ไหมคะ ว่าครอบครัว พ่อแม่ละเขาอาจจะรอฟังเราอยู่ก็ได้ ครอบครัวเราพ่อเสีบไปตอนเด็กๆค่ะ แม่เลี้ยงเรามาคนเดียวตั้งแต่เรา 2 ขวบเรารู้ว่าแม่ของเราต่อสู้กับชีวิตมามากมาย ชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวมันไม่ง่ายเลยใช่ไหมละคะ เราจะไม่โทษว่าแม่เลี้ยงเราแบบขาดความอบอุ่น แต่คงเป็นเราที่คาดหวังความอบอุ่นที่มากกว่านี้ ทุกวันนี้เราไม่สบายใจที่ต้องอยู่กับแม่ 2 คนเมื่อไหร่ที่เราต้องอยู่คนเดียวเราจะสบายใจมากๆ หรือถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยเราก็จะสบายใจกว่าอยู่กับแม่ 2 คน เราไม่เคยเล่าเรื่องราวในชีวิตที่ยากลำบากของเราให้แม่ฟังเลยค่ะ บางมีเราอาจจะมีหลุดบ่นๆออกมาว่าช่วงนี้เหนื่อย หรือมีปัญหาอะไรแต่ไม่เล่ารายละเอียดอะไร เพราะแค่บ่นออกมาสิ่งที่เราได้รับกลับมาไม่ใช่การรับฟัง ไม่ใชาการให้กำลังใจ แต่เป็นการบอกว่าเขาเจอมากกว่านี้ และพยายามบอกว่าเราผิดในทุกๆเหตุการณ์ พร้อมทั้งคำด่าที่ทำให้เราอยากเอามีดแทงเขา(**เพื่อให้เขาหยุดพูดคำที่มันทำร้ายจิตใจเรา**) บางทีวัยรุ่นอย่างเราที่กำลังเปลี่ยนผ่านช่วงวัยเราอาจจะไม่ได้ต้องการกำลังใจแค่รับฟังเราก็พอค่ะ มีช่วงหนึ่งที่เราออกจากบ้านไป 3-4 วัน ป้าโทรตามให้กลับบ้าน คำถามแรกคือ กินข้าวหรือยัง แต่แม่ส่งแชททิ้งไว้ว่าให้เราไปตาย พอเรารับสายป้าก็บอกว่าป้าก็ทำอะไรไม่ได้แม่เป็นอย่างนั้นจะให้ทำยังไง เราเองก็ไม่รู้ค่ะว่าเราต้องทำยังไง บวกกับเราพึ่งเรียนจบตอนเดือนมีนา เรายังหางานไม่ได้ เราเครียดทุกวัน เราหาทางออกหรือที่ที่เราสบายใจไม่ได้เลยค่ะ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่ดีนะคะเรื่องดีๆ มุมดีๆ ของแม่ก็มีค่ะ แม่พยายามส่งเราเรียนจบปริญญาตรี ให้เงินใช้ได้ไม่ขาด แต่การเลี้ยงลูกนอกจากจะให้เขาเติบโตทางกายหรือศักยภาพแล้ว สิ่งที่สำคัญคือจิตใจใช่หรือเปล่าคะ เราไม่เคยคุยกันเรื่องปัญหาชีวิต เราแทบจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเลย แต่เราก็เป็นห่วงแม่นะคะแม่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเราพยายามหางานใกล้บ้าน ไม่อยากย้ายที่อยู่เราเองก็เป็นห่วงเขาแต่ตอนนี้เรากลับมีความคิดไม่ดีเกิดขึ้น เราเหนื่อยจนอยากทิ้งทุกอย่างอยากไปไกลๆ โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะเป็นยังไง อยากไปเริ่มต้นชีวิตคนเดียวตัดทุกอย่างแล้วอยู่กับตัวเอง เราหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้เลยค่ะ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่