คบ10ปี เริ่มทนลำบากไม่ค่อยไหวแล้ว แฟนไม่สำเร็จในชีวิตสักที

ไม่รู้ว่าเราคาดหวังหรือตั้งไว้สูงเกินไปไหม คบมา10ปี ความรักเริ่มจางหาย อะไรหลายอย่างเริ่มจืดชืด ชีวิตจริงเริ่มปรากฎ ตัวเขาเป็นถึงวิศวะ มีหน้าที่การงานดี แต่ย้ายงานบ่อย ไม่สู้งาน เงินเดินขึ้นเกือบ3หมื่น แต่ไม่เคยมี (เราไม่ยุ่งกับเงินเขา) เขาภาระเยอะมาก เจอแต่ปัญหาไม่พอใช้ ไลฟ์สไตล์ไม่ค่อยตรงกัน เราติดกิน ติดใช้ชีวิต เราชอบทำให้ชีวิตเราง่ายและดีเราทำงานหนักมากเพื่อสนองตัวเอง ส่วนเขาก็ทำงานหนัก แต่ติดลำบาก มีก็เก็บทุกเม็ด ไม่สร้าง ติดอยู่บ้าน ชีวิตเราอยู่ที่บ้านเราสบายดี อุปกรณ์ในการใช้ชีวิตครบ ไม่ร่ำรวยแต่ไม่ลำบาก ทำงานหาเงินใช้เองไม่เคยยุ่งกับเงินเขา แต่ทุกครั้งที่ต้องไปหาเขาอยู่กับเขา เราเริ่มไม่อยากไป เขาอยู่ห้องพักพนักงาน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีไม่ครบ เช่นเก้าอี้ทำงาน เราทำงานฟรีแลนซ์ WFH นั้งหน้าคอมทั้งวัน เราลำบากมากไม่มีเก้าอี้ทำให้ปวดตัว เราบอกเขาเขาก็ไม่ชื้อบอกไม่มีเงิน และอื่นๆ มันทำให้ชีวิตเราลำบากขึ้น ทั้งที่เราอยู่บ้านเรา มันไม่ต้องอดทนขนาดนี้ 

ทำงานมาตั้งนานแต่เขาก็ยังไม่ทำให้ชีวิตดีขึ้นสักที เราก็รู้สึกว่าเราทนกับเขา พยายามเข้าใจ แต่นานไปก็ยิ่งไม่ไหวค่ะ เราอยู่กับเขาตั้งแต่ไม่มีไร จนวันนี้มันนานมากแร้วก็ยังไม่ค่อยมี 
คิดดู เราบอกให้เขาชื้อฟูกที่นอน บอกนานมากหลายเดือนกว่าจะชื้อ(ทั้งที่มีเงินเก็บชื้อได้เลย) ชื้อก็แค่2-3พัน เราต้องทนนอนพื้นแข็งๆนานมากกว่าจะได้นอนฟูก ทำไมแค่ปัจจัยอำนวยความสะดวกในชีวิตมันถึงไม่มีให้ บางทีก็คิดนะว่าเขาไม่กลัวเราลำบากบ้างหรือ หรือต้องกัดฟันด้วยกัน และอีกหลายๆเรื่องทั้งทัศนคติ ที่สวนทางกัน เขาอยากมีเงินมากขึ้น เราก็ไม่เห็นเขาทำไรเพิ่ม ทำแต่งานประจำ วันหยุดเสาทิตก็มีก็นอน เล่นเกม และสุดท้ายก็บ่นไม่มีตัง เฮ้อ เราคิดนะว่า นี่เราไม่ดีหรือเปล่าคะ เรารักสบายเกินไปหรือเปล่า? เราควรจะอยู่เคียงข้างเขา คอยช่วยเหลือเขาไหม? เรายังรักเขานะคะ แต่เราเริ่มทนกับความลำบากไม่ไหวแล้ว คือเราอยู่บ้านเราไม่ลำบากอะคะ แต่ไปอยู่กับเขามันลำบากมาก ทำให้ไม่อยากเจอกันเลย 😥 รบกวนขอความเห็นกับเรื่องนี้หน่อยค่ะว่าเราควรทำยังไง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อยู่ไกลกันมากเหรอคะ
เป็นแฟนกันไปเที่ยวไปเล่นหากันก็น่าจะพอแล้ว
ไม่ต้องไปนอน ไปทำงานที่ห้องเขา

บางคนเขาทำงานที่บริษัท มีโต๊ะเก้าอี้ให้อยู่แล้ว
เขาเลยไม่คิดจะซื้อมาไว้ที่บ้านเพราะเขาไม่ได้ทำงานที่บ้านค่ะ
บางคนทำงานออฟฟิศ ทำงานกับคอมพิวเตอร์ แต่ก็ไม่มีคอมพิวเตอร์ของตัวเองที่บ้านด้วยซ้ำ

คุณจะเอาความเคยชินและความต้องการของตัวเองไปใส่ให้เขาก็ไม่ถูกนะคะ
บางคนเขาคิดว่าไม่จำเป็น ซื้อมาก็ไม่ค่อยได้นั่ง แถมกินที่อีก รกห้อง
เขาทำงานที่บริษัทแล้ว กลับบ้านมาคือจะพักผ่อน ไม่ใช่มานั่งทำงานต่อ

เราเป็นฟรีแลนซ์ เราทำงานที่บ้านค่ะ
โต๊ะเก้าอี้ทำงาน สำหรับเราคือต้องมี สำคัญกว่าเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ซะอีก
เพราะเราใช้นั่งทำงานวันละหลายชั่วโมง
เราย้ายมาอยู่กับพี่ชาย มาช่วยเลี้ยงหลาน
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกที่เราไปซื้อเพิ่มตั้งแต่สามวันแรกเลยคือโต๊ะกับเก้าอี้ทำงานค่ะ

ตอนเราบอกว่าจะไปซื้อโต๊ะ
เขายังนึกว่าเราจะไปซื้อโต๊ะญี่ปุ่น
เพราะที่บ้านไม่มีใครทำงานที่บ้าน หรือมีโต๊ะทำงานเก้าอี้ทำงานครบชุดที่บ้าน
สำหรับบางคนเขาไม่คุ้นเคยค่ะ

เราไปซื้อโต๊ะเก้าอี้มาหมดไปเกือบหมื่น
คนบ้านพี่ชายยังแปลกใจว่าจำเป็นต้องซื้อด้วยเหรอ
ใช้โต๊ะพับญี่ปุ่นไม่ได้เหรอ

เขาไม่ได้ทำงานแบบเรา เขาไม่เข้าใจความต้องการของเรา มันเป็นเรื่องปกติค่ะ
คุณจะไปคิดว่าคนอื่นต้องมีอะไรอย่างที่คุณมีเป็นปกติ มันก็ไม่ค่อยถูกไงคะ

ที่เขาไม่คิดว่าการไม่มีโต๊ะเก้าอี้ทำงานมันเป็นเรื่องลำบาก
เพราะว่าเขาไม่ได้ใช้ค่ะ

พี่ชายกับพี่สะใภ้เรา ไม่มีโต๊ะทำงานที่บ้านค่ะ
เขาก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร เพราะเขาไม่ได้เอางานมาทำที่บ้าน

จริงๆ ถ้าคุณจะใช้ และคิดจะไปทำงานห้องเขา คุณก็ซื้อเก้าอี้ไปไว้เอง แค่นั้นค่ะ


แต่ถ้าคิดว่าไม่โอเค เขาควรเตรียมไว้ให้คุณ
คุณก็เลิกนั่นแหละค่ะ ถูกแล้ว
ความคิดเห็นที่ 1
เขามีเงินเก็บ แต่บ่นว่าไม่มีตังค์  

ต้องหาความจริงตรงนี้ให้ได้ก่อนครับ  เพราะมันย้อนแย้ง

ถ้าเขาทำงาน เก็บเงิน ใช้ชีวิตสมถะ ไม่ติดหรู ไม่รักสบาย  นี่คือนิสัยที่ดีของเขา
เขาไม่คิดว่าคือความลำบาก จึงไม่คิดว่าคุณจะทนไม่ได้  เพราะคบกันมานานแล้ว  

ถ้าเขาทำงาน ไม่ใช้เงินอำนวยความสะดวกให้ตัวเอง  แต่เงินเก็บก็ไม่มี ใช้ชีวิตลำบากเพราะไม่มีเงิน
ต้องดูว่า เงินเขารั่วไปทางไหน  ถ้ารูรั่วเยอะไปในเรื่องภาระ หรือ เรื่องไร้สาระ   อนาคตก็จะยิ่งลำบากกว่านี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่