ประสบการณ์การเป็นเจ้าหน้านิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร (ที่ไม่อยากเป็นอีกเลย)

ขอเกริ่นก่อนนะครับ ก่อนหน้านี้ผมเป็นพนักงานโรงแรม พอเจอโควิดทางโรงแรมได้ปิดตัวลงทำให้ต้องหาวิธีหาเงินโดยการออกมาเป็นไรเดอร์ส่งอาหารอยู่ 1-2 ปี พอสถานะการณ์โควิดดีขึ้น ผมเริ่มหางานทำแต่ด้วยความที่ห่างหายจากการทำงานโรงแรมไปประมาณ 2 ปีบวกกับอายุที่มากขึ้นทำให้ โรงแรมหลายๆที่ไม่รับเข้าทำงานเพราะอายุจะ 30+แล้ว แต่แล้ววันหนึ่งผมเห็นตำแหน่งงานที่รับคนที่มีอายุตั้งแต่ 28 - 35 ปี และผมได้ทำการสมัครไป ซึ่งก็คือ เจ้าหน้าที่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ผมสมัครไป 1-2 วันก็มีการเรียกสัมภาษและสรุปว่า ได้งาน และ จากที่คนสัมภาษงานแจ้งให้ฟังคือ หมู่บ้าน มีอยู่ประมาณ 2 เฟส เฟสละประมาณ 400 หลังคาเรือน รวมๆก็คือ 800 กว่าหลัง ซึ่งมีนิติอยุ่ 2 คนนั้นก็คือ พี่คนเก่าที่อยุ่ๆแล้ว กับผมคนใหม่
             เริ่มกันเลยตั้งแต่เริ่มงานวันแรก สิ่งที่ผมเจอก็คือ มีลูกบ้านเข้ามาด่าในออฟฟิศเลย ซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่องอะไร เข้ามาด่าว่าทำไม ไม่เก็บขยะ นู้นนี่นั้น ผมก็งงๆอยู่พักหนึ่ง แล้วมีพี่ที่อยู่มาก่อน เขาบอกว่า นี่แหละเรื่องปกติเลยที่จะโดนทุกวัน ตอนนั้นในใจก็เริ่มหวั่นๆแล้วว่า ทำไมไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลย เพราะจากที่เคยเห็นมานิติบุคคลหมู่บ้านที่ผมอยู่ก็ดูจะไม่ได้มีงานอะไรมากมาย หรือ โดนใครด่าเลย 
              พอเริ่มทำงานมาได้ประมาณ 1-2 ปี ผมเริ่มเข้าใจในหลายๆเรื่องมากขึ้น คือ 
1.ลูกบ้านไม่จ่ายค่าส่วนกลางมีจำนวนมาก เหตุผลแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ฉันไม่ได้อยุ่บ้านหนิซื้อทิ้งเอาไว้ทำไมจะต้องจ่าย บางหลังก็จะบอกว่าเป็นผู้เช่าเจ้าของบ้านต้องจ่ายไม่ใช่หรอ แบบนี้เป็นต้น

2.รถขยะเก็บขยะแค่ขยะครัวเรือนตามสัญญาข้อตกลงที่ทางนิติได้ว่าจ้างเอาไว้เท่านั้น ถามว่า จะเกิดปัญหาอะไร ปัญหาก็คือ ใบไม้กิ่งไม้ ผ้า หมอน โต๊ะ ตู้ เตียง เก้าอี้ อะไรก็แล้วแต่พวกนี้ไม่จัดอยุ่ในขยะครัวเรือน ทำให้เกิดปัญหาและโดนด่าทุกวัน ว่าทำไมถึงต้องลือกเก็บละ ทำไมไม่เก็บไปให้หมด ซึ่งทางนิติก็ทำไม่ได้เพราะข้อตกลงมีเท่านี้จริงๆ ถ้าจะให้เก็บของทั้งหมดดังที่ยกตัวอย่างมาจะต้องจ้างนอก ซึ่งเจ้าบ้านหรือเจ้าของขยะเหล่านั้นจะต้องตกลงกับทางผู้รับเหมาเก็บขยะเอาเอง แต่บางคนบอกก็จ่ายค่าส่วนกลางไปแล้วต้องเก็บให้สิ ต้องนั่งอธิบายรายคน บางคนเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง (ปัญหานี้เปลี่ยนมา 2 บริษัทผู้รับเหมาแล้วก็ไม่หายเพราะบริษัทเหล่านี้เขารับจ้างแค่เก็บขยะในครัวเรือนเท่านั้น)

3.การติดตามทวงถามค่าส่วนกลาง อันนี้เป็นงานหินที่สุด เพราะหมู่บ้านนี้มีอายุมา 4-5 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนก็ไม่ได้ทำตามกฏหมู่บ้านที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก และ ไม่ชำระค่าส่วนกลางประมาณ 60-70% อยุ่แล้ว การที่จะตามมาให้จ่ายนั้นยากเย็นแสนเข็นที่สุด ผมทำการใช้กฏคือไม่เก็บขยะหลังที่ไม่จ่าย และ ให้แลกบัตรทุกครั้งที่เข้าออกหมู่บ้าน จนกว่าจะมาติดต่อขอผ่อนชำระหรือเคลียยอดทั้งหมด แต่มันไม่ง่ายเลย เพราะทุกคนเห็นเจ้าหน้าที่นิติบุคคล เป็นลูกน้องของเขาหมด ก็คือฉันจ้างคุณมาช่วยดูแลหมู่บ้าน อย่ามาออกคำสั่งหรือมาบีบบังคับฉันนะ ไม่งั้นจะให้ออกจากงาน อะไรประมาณนี้ 

4.เรื่องปริมาณงานที่สะสม เพราะ มีหัวหน้าหลายคน ก็คือ กรรมการทั้งหมด 5-7 คนแต่ละคนสั่งงานกันคนละอย่าง ซึ่งทั้งลูกบ้านแจ้งเรื่องมาก็เยอะมากอยู่แล้วในหนึ่งวัน ยังมีกรรมการสั่งขอเอกสารนู้นนี่นั้นอีก ให้ไปติดต่อราชการขอความอนุเคราะห์เรื่องต่างๆบ้าง แต่พอทำเอกสารมาให้กรรมการเซ็นต์ไม่มีใครว่างเซ็นต์ให้สักคน ทำให้การดำเนินงานต่างๆล่าช้าไปเรื่อยๆ ยังไม่พอยังโดนลูกบ้านบางคนมาเสนอแนะเรื่องต่างๆในหมู่บ้านอีก (ซึ่งบางคนไม่เคยเข้าร่วมประชุมหมู่บ้านเลย แต่เรียกร้องทุกอย่างกับเจ้าหน้าที่) 

5.การขึ้นเงินเดือน ต้องบอกก่อนว่าผมเข้ามาด้วยค่าแรงวุฒิปริญญาตรี นั้นก็คือ 15,000 บาท พี่คนเก่าก็พอๆกันแต่พี่เขาอยู่มาจะ 2 ปีแล้วเงินเดือนขยับจาก 15,000 เป็น 15,500 บาท ซึ่งผมเคยสอบถามตอนประชุมกรรมการว่า การขึ้นเงินเดือนคือปรับขึ้นทุกปีไหมครับ ได้คำตอบจากกรรมการท่านหนึ่งมาว่า ถ้าเก็บค่าส่วนกลางได้ 100% ก็จะขึ้นให้ ผมอึ้งไปเลย เพราสิ่งที่กรรมการบอกมานั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บได้ 100% แต่ผมก็ยังคิดว่าไม่เป็นไรเดียวถ้าเราทำงานให้ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยเขาคงเห็นว่าเราทำงานเยอะก็คงปรับขึ้นให้แหละ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ผมทำงานจนเก็บค่าส่วนกลางจาก 30 % มาเป็น 80-90% แล้ว และแก้ปัญหาภายในหมู่บ้านได้เกือบจะทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ไฟทางต่างๆ ถนนที่ชำรุด สวนในหมู่บ้านที่ก่อนหน้านี่หญ้ารก เครื่องเล่นเสีย ก็ทำการปรับปรุงทั้งหมดให้ดีขึ้น (ผมใช้เวลาในการทำทั้งหมดภายใน 1 ปี) พอผมเริ่มทำงานเข้าปีที่ 2 เงินเดือนก็ยังไม่ขึ้น ผมจึงตัดสิ้นใจไปคุยกับประธานหมู่บ้าน ซึ่งประธานก็ทำเรื่องขอปรับให้จาก 15,000 บาทเป็น 15,500 บาท ส่วนพี่คนเก่าปรับเป็น 16,000 บาท ซึ่งทำงานมา 2 ปี เงินเดือนขึ้นมา 500 บาท ผมก็เริ่มคิดที่จะหาที่ใหม่ละ เพราะ ทำงานโอทีก็ไม่ได้มีแต่โอฟรีล้วนๆ แถมทำงานมากแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็น ทำดีก็เสมอตัว ทำพลาดก็โดนด่า 

       ทั้งหมดที่กล่าวมานี่เป็นเพียงประสบการณ์บางส่วนที่ผมได้ทำงานมาในฐานะ เจ้าหน้าที่นิติบุคคล อยากจะแบ่งปันเรื่องราวต่างๆนี่เผื่อใครคิดว่า งานเจ้าหน้าที่นิติบุคคลหมู่บ้านนั้นสบายจังเลย หรือ ลูกบ้านบางคนที่บอกว่านิติบุคคลหมู่บ้าน ไม่ทำงานอะไรเลย อยากให้เข้าใจในตำแหน่งงานและหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ด้วยว่าเขาก็งานเยอะมากๆ แถมเคลียดมากๆด้วย เพราะโดนกดดันสาระพัด ไม่ว่าจะ กรรมการ ลูกบ้าน ต่างๆ และค่าตอบแทนที่เขาได้นั้นน้อยนิด (แต่ที่อื่นบางที่ก็เยอะกว่านี่นะครับจากที่เคยสอบถามมาอยุ่ประมาณ 17,000 - 23,000 บาท) แต่สำหรับตัวผมที่ทำงานในตำแหน่งนี้มา 2ปีกว่า ผมยอมรับเลยว่าจะไม่กลับไปทำเป็นนิติบุคคลหมู่บ้าน/คอนโด อีกเป็นอันขาด เพราะ มันไม่มีความสุขเลย เวลาพักผ่อนก็ไม่มี วันหยุดอย่าคิดว่าจะได้พักเพราะลูกบ้านกรรมการจะโทรตามคุณให้ตอบคำถามหรือโทรมาด่าอยู่เรื่อยๆ หากเพื่อนๆมีประสบการณ์ที่คล้ายๆกันก็มาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ ไม่ว่าจะกรรมการหมู่บ้าน หรือ เจ้าหน้าที่นิติบุคคล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่