ข้อมูลจาก คุณ 6315687 และ คุณดิษ ที่ไปถามโค้ช GS
ขอบคุณครับ
1.เป็นเพราะระบบทีมที่พึ่งเอสหลักมากเกินไปมานานมาก ทำให้คนอื่นในทีมไม่ได้พัฒนาตัวเองเท่าที่ควรเพราะมีความคิดที่ว่าไม่เป็นไรเรามีพี่คิมไง ถ้าไม่มีใครตีได้ เราก็ยกให้กัปตันคิมตีแค่นั้นเอง คิมไม่ได้แบกแค่เกมบุกนะ แต่แบกทั้งบอลแรก บอลรับ บล็อค เสิร์ฟ อยู่แดนหลังนอกจากจะคุมโซนรับที่โคตรกว้างแล้วยังต้องลุกมาตีสามเมตรด้วย
ในหลายๆแมตช์ อย่างอชก 2018 นัดเจอไทย เซต 4 ไทยตามเยอะมาก แต้มที่ 22-21 เตยบล็อคคิมได้จนตีเสมอ คนในทีมหน้าเสียเลย ตอนที่คิมตีติดบล็อคไปย้อนดูภาพช้าจะเห็นคังโซฮวีร้องอุ้ย แล้วมันเหมือนเป็นจิตวิทยาว่ายกัปตันคิมตีไม่ได้ เราก็ตีไม่ได้ ตอนคัดอลปกับรัสเซียกำลังจะชนะอยู่แล้ว อยู่ๆคิมโดนรวบบล็อคจมรัวๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นทุกคนก็อยู่ในฟอร์มที่ดีนะ แต่พอคิมตีติดบล็อคเยอะๆเท่านั้นแหละ อยู่ๆก็เหมือนโดนถอดปลั๊กทั้งทีม แสดงให้เห็นเลยว่าคิมไม่ได้แบกแค่เกมในสนาม แต่แบกสภาพจิตใจของคนทั้งทีมไว้ด้วย มันเป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว ที่ผ่านมาก็เห็นแหละว่าเป็นปัญหากับการพึ่งพาคนๆนึงมากเกินไปแต่ผลงานในทีมชาติยังดีอยู่เพราะมีคิม คนก็เลยมองข้ามปัญหานี้ไป พอถึงวันนี้ที่คิมเลิกเล่น ปัญหานี้เลยกลายเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ที่เห็นชัดขึ้นมาแค่นั้นเอง
2. ลีกในประเทศก็ไม่ได้แข็ง เน้นเป็น Sport Entertainment มากกว่าพัฒนาขีดความสามารถนักกีฬา ทีมก็เน้นแต่ซื้อต่างชาติมาแบก เอะอะโยนต่างชาติ แบกกันไปคนละ 30-40 แต้มต่อเกม แล้วนักกีฬาโลคอลจะเอาตรงไหนไปพัฒนา ยิ่งปีนี้ขยายโควต้าเอเชียขึ้นมาเพิ่มอีกทีมละ 1 ที่ จากที่เด็กโลคอลได้ลงน้อยอยู่แล้ว (ถึงลงก็ไม่ค่อยมีบทบาทกับการทำแต้ม) ปีนี้ทุกทีมจะมีเด็กเกาหลีทีมละ 1 คน (7 ทีมก็ 7 คน) ต้องถูกลดบทบาทลงไปอีกเพราะถูกแทนที่ด้วยโควต้าเอเชีย คือในแง่ของการตลาดหรือธุรกิจมันตอบโจทย์สปอนเซอร์แหละเพราะขายตลาดต่างประเทศได้ แต่ในแง่ของการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาเกาหลีเองก็ต้องลองเทรดออฟกันดูว่าคุ้มไหม
3. สัญญาทาส 6 ปีที่ถูกสโมสรรั้งไว้เมื่อเข้ามาเล่นอาชีพ จะไปลีกนอกก็มีปัญหามากมายก่ายกอง เสี่ยงจะผิดใจกับสโมสรอีก แล้วค่านิยมคนเกาหลี ถ้าจะไปลีกนอกต้องลีกดังมีชื่อเสียงให้เงินเยอะเท่านั้น ไม่งั้นก็โดนสังคมดูถูกเอาอีก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นไปได้ยากมากที่ออกไปลีกนอกครั้งแรกแล้วจะได้ไปทีมบิ๊กเนมเลย ถ้าฝีมือคุณไม่ได้เป็นแบบคิม เฟด จูถิง มันก็ต้องค่อยๆไต่เต้าเป็นขั้นเป็นตอนไป เด็กรุ่นใหม่เกาหลีต้องก้าวผ่านมายเซตตรงนี้ให้ได้อะ คิมยังเคยพูดเลยว่าเด็กเกาหลีไม่กล้าออกไปลีกนอกกัน แต่เด็กไทยกับญี่ปุ่นกล้าไปโดยที่ไม่แคร์ว่าจะทีมเล็กทีมใหญ่ ขอแค่ได้ประสบการณ์
4. ค่าตัวที่เฟ้อเกินไปในลีก ด้วยความที่มูลค่าลีกบ้านเค้ามันมหาศาล ค่าตัวมันสูง ทำให้ดีลจากยุโรปหรือทีมอื่นในเอเชียถูกนักกีฬาเกาหลีปัดตกกันซะเป็นส่วนมาก มันมีคนดีลไปนะไม่ใช่ไม่มี นักกีฬาเกาหลีหลายๆคนช่วงหมดสัญญากับทีมเดิมก็มักจะมีดีลจากยุโรปมาบ่อยๆ แต่สุดท้ายค่าตัวมันต่างกันมาก นักกีฬาเกาหลีเลยเลือกจะเล่นในบ้านตัวเองเพราะสบายกว่า เงินเยอะกว่า
5. ปัญหาระหว่างสโมสรกับสมาคม เป็นประเทศเดียวเลยไหมไม่รู้ที่สโมสรมีสิทธิในตัวนักกีฬาเหนือสมาคม ถ้าสมาคมเรียกติดทีมชาติแต่สโมสรไม่อยากปล่อยก็คือไม่ปล่อยนะ โอเคแหละมันมีกฎเขียนไว้ชัดว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเช่นบาดเจ็บหรืออะไร ถ้าถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติแล้วสโมสรไม่ปล่อยมาจะถือว่าไม่มีสิทธิแข่งลีกด้วย แต่ใบรับรองแพทย์บางทีมันก็ไม่ได้หายากน่ะ สโมสรก็อ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อยนักกีฬาเค้าเจ็บแบบนั้นเจ็บแบบนี้ เพราะไม่อยากปล่อยไปทีมชาติ ปล่อยไปแล้วนักกีฬาเค้าบาดเจ็บกลับมามันกระทบกับทีมสโมสรของเค้า
6. การเรียกเก็บตัวทีมชาติ เราไม่แน่ใจว่ามันติดขัดเรื่องงบประมาณหรืออะไรนะ แต่สังเกตว่าเวลาทีมเกาหลีประกาศรายชื่อ 25 คนเนี่ย เข้าแคมป์จริงๆเต็มที่เลยไม่เกิน 18 คน ส่วนใหญ่จะเข้าแคมป์พอดีคนกับที่ตั้งใจส่งแข่งด้วยซ้ำ ต่างกับไทยที่เรียกเข้าไปซ้อมพร้อมกันหมด 25 คนแล้วค่อยมาตัดรายชื่อออกอีกที ซึ่งมันเสี่ยงมากนะกับการเรียกมาพอดีคน ถ้าซ้อมๆไปแล้วมีคนใดคนนึงเจ็บมันไม่มีตัวสำรองที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่แรกเลย สิ่งที่เกาหลีทำเวลามีคนในแคมป์เจ็บคือส่งเด็กคนนั้นกลับสโมสรแล้วเรียกคนใหม่เข้ามาเติมแทน ที่เราเห็นแล้วขัดใจที่สุดเลยคือตอนคัดอลปที่รัสเซีย เลือกเอาดายองกับฮเยจินไป แล้วฮเยจินไปป่วยบนเครื่องบิน ดายองไปข้อเท้าพลิกตอนอุ่นเครื่องก่อนแข่ง กลายเป็นว่าต้องไปขอดึงตัวอีฮโยฮีกับอีนายอนมาจากสโมสรแล้วบินด่วนมาแข่งที่รัสเซียทั้งๆที่ไม่ได้ซ้อมกับทีมมาก่อนเลย คือถ้าสองคนนั้นได้เก็บตัวซ้อมกับทีมมาตลอดเหมือนที่ไทยเรียกเซตเตอร์เข้าแคมป์ทีละ 4-5 คน รูปเกมวันนั้นที่เจอรัสเซียอาจจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้ก็ได้
7. กีฬาเยาวชน อย่างที่คุณดิษบอก โรงเรียนที่ทำทีมวอลเลย์มันน้อยลงจากแต่ก่อนเยอะ แถมการแข่งขันก็ไม่ได้สูงแบบแต่ก่อน วัตถุดิบที่ป้อนเข้ามาในสโมสรมันก็น้อยลง แถมประสิทธิภาพมันก็น้อยลงอีก
8. โค้ชไม่เก๋าเกมพอ เราไม่อยากว่าซีซาร์นะ เค้าก็ทำได้ดีในบางจุดแต่สภาพทีมเกาหลีตอนนี้ไม่สามารถใช้โค้ชมาตรฐานธรรมดาทั่วไปได้จริงๆ ถ้าอยากกลับมาได้ก็ต้องใช้โค้ชที่เก่งจริงๆ เรารู้ว่าสมาคมเกาหลีมีเงินจ่าย แต่โค้ชระดับนั้นจะมีใครกล้ารับงานเผือกร้อนแบบนี้หรือเปล่า รับมาแล้วถ้ามันไม่ดีขึ้นจริงๆก็จะเสียหน้าพอร์ตตัวเองเปล่าๆน่ะสิ
รวมปัญหา…เกาหลีใต้ตกต่ำ🇰🇷
ขอบคุณครับ
1.เป็นเพราะระบบทีมที่พึ่งเอสหลักมากเกินไปมานานมาก ทำให้คนอื่นในทีมไม่ได้พัฒนาตัวเองเท่าที่ควรเพราะมีความคิดที่ว่าไม่เป็นไรเรามีพี่คิมไง ถ้าไม่มีใครตีได้ เราก็ยกให้กัปตันคิมตีแค่นั้นเอง คิมไม่ได้แบกแค่เกมบุกนะ แต่แบกทั้งบอลแรก บอลรับ บล็อค เสิร์ฟ อยู่แดนหลังนอกจากจะคุมโซนรับที่โคตรกว้างแล้วยังต้องลุกมาตีสามเมตรด้วย
ในหลายๆแมตช์ อย่างอชก 2018 นัดเจอไทย เซต 4 ไทยตามเยอะมาก แต้มที่ 22-21 เตยบล็อคคิมได้จนตีเสมอ คนในทีมหน้าเสียเลย ตอนที่คิมตีติดบล็อคไปย้อนดูภาพช้าจะเห็นคังโซฮวีร้องอุ้ย แล้วมันเหมือนเป็นจิตวิทยาว่ายกัปตันคิมตีไม่ได้ เราก็ตีไม่ได้ ตอนคัดอลปกับรัสเซียกำลังจะชนะอยู่แล้ว อยู่ๆคิมโดนรวบบล็อคจมรัวๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นทุกคนก็อยู่ในฟอร์มที่ดีนะ แต่พอคิมตีติดบล็อคเยอะๆเท่านั้นแหละ อยู่ๆก็เหมือนโดนถอดปลั๊กทั้งทีม แสดงให้เห็นเลยว่าคิมไม่ได้แบกแค่เกมในสนาม แต่แบกสภาพจิตใจของคนทั้งทีมไว้ด้วย มันเป็นปัญหาที่สะสมมานานแล้ว ที่ผ่านมาก็เห็นแหละว่าเป็นปัญหากับการพึ่งพาคนๆนึงมากเกินไปแต่ผลงานในทีมชาติยังดีอยู่เพราะมีคิม คนก็เลยมองข้ามปัญหานี้ไป พอถึงวันนี้ที่คิมเลิกเล่น ปัญหานี้เลยกลายเป็นปัญหาชิ้นใหญ่ที่เห็นชัดขึ้นมาแค่นั้นเอง
2. ลีกในประเทศก็ไม่ได้แข็ง เน้นเป็น Sport Entertainment มากกว่าพัฒนาขีดความสามารถนักกีฬา ทีมก็เน้นแต่ซื้อต่างชาติมาแบก เอะอะโยนต่างชาติ แบกกันไปคนละ 30-40 แต้มต่อเกม แล้วนักกีฬาโลคอลจะเอาตรงไหนไปพัฒนา ยิ่งปีนี้ขยายโควต้าเอเชียขึ้นมาเพิ่มอีกทีมละ 1 ที่ จากที่เด็กโลคอลได้ลงน้อยอยู่แล้ว (ถึงลงก็ไม่ค่อยมีบทบาทกับการทำแต้ม) ปีนี้ทุกทีมจะมีเด็กเกาหลีทีมละ 1 คน (7 ทีมก็ 7 คน) ต้องถูกลดบทบาทลงไปอีกเพราะถูกแทนที่ด้วยโควต้าเอเชีย คือในแง่ของการตลาดหรือธุรกิจมันตอบโจทย์สปอนเซอร์แหละเพราะขายตลาดต่างประเทศได้ แต่ในแง่ของการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาเกาหลีเองก็ต้องลองเทรดออฟกันดูว่าคุ้มไหม
3. สัญญาทาส 6 ปีที่ถูกสโมสรรั้งไว้เมื่อเข้ามาเล่นอาชีพ จะไปลีกนอกก็มีปัญหามากมายก่ายกอง เสี่ยงจะผิดใจกับสโมสรอีก แล้วค่านิยมคนเกาหลี ถ้าจะไปลีกนอกต้องลีกดังมีชื่อเสียงให้เงินเยอะเท่านั้น ไม่งั้นก็โดนสังคมดูถูกเอาอีก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นไปได้ยากมากที่ออกไปลีกนอกครั้งแรกแล้วจะได้ไปทีมบิ๊กเนมเลย ถ้าฝีมือคุณไม่ได้เป็นแบบคิม เฟด จูถิง มันก็ต้องค่อยๆไต่เต้าเป็นขั้นเป็นตอนไป เด็กรุ่นใหม่เกาหลีต้องก้าวผ่านมายเซตตรงนี้ให้ได้อะ คิมยังเคยพูดเลยว่าเด็กเกาหลีไม่กล้าออกไปลีกนอกกัน แต่เด็กไทยกับญี่ปุ่นกล้าไปโดยที่ไม่แคร์ว่าจะทีมเล็กทีมใหญ่ ขอแค่ได้ประสบการณ์
4. ค่าตัวที่เฟ้อเกินไปในลีก ด้วยความที่มูลค่าลีกบ้านเค้ามันมหาศาล ค่าตัวมันสูง ทำให้ดีลจากยุโรปหรือทีมอื่นในเอเชียถูกนักกีฬาเกาหลีปัดตกกันซะเป็นส่วนมาก มันมีคนดีลไปนะไม่ใช่ไม่มี นักกีฬาเกาหลีหลายๆคนช่วงหมดสัญญากับทีมเดิมก็มักจะมีดีลจากยุโรปมาบ่อยๆ แต่สุดท้ายค่าตัวมันต่างกันมาก นักกีฬาเกาหลีเลยเลือกจะเล่นในบ้านตัวเองเพราะสบายกว่า เงินเยอะกว่า
5. ปัญหาระหว่างสโมสรกับสมาคม เป็นประเทศเดียวเลยไหมไม่รู้ที่สโมสรมีสิทธิในตัวนักกีฬาเหนือสมาคม ถ้าสมาคมเรียกติดทีมชาติแต่สโมสรไม่อยากปล่อยก็คือไม่ปล่อยนะ โอเคแหละมันมีกฎเขียนไว้ชัดว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นเช่นบาดเจ็บหรืออะไร ถ้าถูกเรียกตัวเข้าแคมป์ทีมชาติแล้วสโมสรไม่ปล่อยมาจะถือว่าไม่มีสิทธิแข่งลีกด้วย แต่ใบรับรองแพทย์บางทีมันก็ไม่ได้หายากน่ะ สโมสรก็อ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อยนักกีฬาเค้าเจ็บแบบนั้นเจ็บแบบนี้ เพราะไม่อยากปล่อยไปทีมชาติ ปล่อยไปแล้วนักกีฬาเค้าบาดเจ็บกลับมามันกระทบกับทีมสโมสรของเค้า
6. การเรียกเก็บตัวทีมชาติ เราไม่แน่ใจว่ามันติดขัดเรื่องงบประมาณหรืออะไรนะ แต่สังเกตว่าเวลาทีมเกาหลีประกาศรายชื่อ 25 คนเนี่ย เข้าแคมป์จริงๆเต็มที่เลยไม่เกิน 18 คน ส่วนใหญ่จะเข้าแคมป์พอดีคนกับที่ตั้งใจส่งแข่งด้วยซ้ำ ต่างกับไทยที่เรียกเข้าไปซ้อมพร้อมกันหมด 25 คนแล้วค่อยมาตัดรายชื่อออกอีกที ซึ่งมันเสี่ยงมากนะกับการเรียกมาพอดีคน ถ้าซ้อมๆไปแล้วมีคนใดคนนึงเจ็บมันไม่มีตัวสำรองที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่แรกเลย สิ่งที่เกาหลีทำเวลามีคนในแคมป์เจ็บคือส่งเด็กคนนั้นกลับสโมสรแล้วเรียกคนใหม่เข้ามาเติมแทน ที่เราเห็นแล้วขัดใจที่สุดเลยคือตอนคัดอลปที่รัสเซีย เลือกเอาดายองกับฮเยจินไป แล้วฮเยจินไปป่วยบนเครื่องบิน ดายองไปข้อเท้าพลิกตอนอุ่นเครื่องก่อนแข่ง กลายเป็นว่าต้องไปขอดึงตัวอีฮโยฮีกับอีนายอนมาจากสโมสรแล้วบินด่วนมาแข่งที่รัสเซียทั้งๆที่ไม่ได้ซ้อมกับทีมมาก่อนเลย คือถ้าสองคนนั้นได้เก็บตัวซ้อมกับทีมมาตลอดเหมือนที่ไทยเรียกเซตเตอร์เข้าแคมป์ทีละ 4-5 คน รูปเกมวันนั้นที่เจอรัสเซียอาจจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้ก็ได้
7. กีฬาเยาวชน อย่างที่คุณดิษบอก โรงเรียนที่ทำทีมวอลเลย์มันน้อยลงจากแต่ก่อนเยอะ แถมการแข่งขันก็ไม่ได้สูงแบบแต่ก่อน วัตถุดิบที่ป้อนเข้ามาในสโมสรมันก็น้อยลง แถมประสิทธิภาพมันก็น้อยลงอีก
8. โค้ชไม่เก๋าเกมพอ เราไม่อยากว่าซีซาร์นะ เค้าก็ทำได้ดีในบางจุดแต่สภาพทีมเกาหลีตอนนี้ไม่สามารถใช้โค้ชมาตรฐานธรรมดาทั่วไปได้จริงๆ ถ้าอยากกลับมาได้ก็ต้องใช้โค้ชที่เก่งจริงๆ เรารู้ว่าสมาคมเกาหลีมีเงินจ่าย แต่โค้ชระดับนั้นจะมีใครกล้ารับงานเผือกร้อนแบบนี้หรือเปล่า รับมาแล้วถ้ามันไม่ดีขึ้นจริงๆก็จะเสียหน้าพอร์ตตัวเองเปล่าๆน่ะสิ