หลบหนี้ลี้ภัยออกนอกประเทศทำไมไม่โดนจับแถมยังใช้ชีวิตเหมือนพลเรือน

การที่ผู้กระทำผิดหลบหนีออกนอกประเทศแล้วไม่โดนจับส่งกลับแถมยังมีการใช้ชีวิตเหมือนพลเรือนในประเทศ มีสาเหตุหลายประการ ดังนี้

การประสานงานระหว่างประเทศ การประสานงานระหว่างประเทศเพื่อจับกุมผู้กระทำผิดที่หลบหนีออกนอกประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศต่างๆ และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะดำเนินการได้สำเร็จ
ข้อจำกัดทางกฎหมาย กฎหมายระหว่างประเทศอาจไม่เอื้ออำนวยต่อการจับกุมและส่งผู้กระทำผิดกลับประเทศต้นทาง ตัวอย่างเช่น ประเทศต้นทางอาจไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศปลายทาง หรืออาจมีข้อจำกัดทางกฎหมายอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถส่งผู้กระทำผิดกลับได้
ความยากลำบากในการระบุตัวผู้กระทำผิด ผู้กระทำผิดอาจใช้วิธีปลอมแปลงเอกสารหรือเปลี่ยนชื่อตัวตนเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของประเทศปลายทางไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำผิดได้
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเอื้ออำนวยให้ผู้กระทำผิดหลบหนีออกนอกประเทศและใช้ชีวิตอย่างอิสระในประเทศปลายทางได้ เช่น ความมั่งคั่ง ความเชื่อมโยงกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศปลายทาง หรือการที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรการป้องกันหรือปราบปรามอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับกรณีที่คุณกล่าวถึง การที่นายอำนาจ วาสนาสูงส่ง สามารถหลบหนีออกนอกประเทศและใช้ชีวิตอย่างอิสระในประเทศกัมพูชาได้นั้น อาจเป็นเพราะปัจจัยหลายประการร่วมกัน เช่น การประสานงานระหว่างประเทศที่ล่าช้า ข้อจำกัดทางกฎหมายของประเทศกัมพูชา และความช่วยเหลือจากบุคคลที่มีอำนาจในประเทศกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติมากขึ้น โดยได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศต่างๆ เพื่อจับกุมและส่งผู้กระทำผิดกลับประเทศต้นทางมากขึ้น ส่งผลให้โอกาสที่ผู้กระทำผิดจะหลบหนีออกนอกประเทศและใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ยากขึ้น