ช่วยดูให้หน่อยได้มั้ยคะว่าตรงไหนควรแก้ให้ถูกต้องขึ้น ขอบคุณค่ะ🙏
ต้นฉบับภาษาไทย
คำกล่าวรายงาน
...............................
กราบนมัสการ..........
ปี 2566 เป็นปีที่เป็นมงคลยิ่งสำหรับชาววัดโมกขวนาราม ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น เป็นปีที่ครบรอบ 55 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ที่เจ้าคุณพระราชสารเวที เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และเจ้าคุณพระราชวีระมุณี เจ้าคณะจังหวัดเลย สองเจ้าคณะจังหวัดในสมัยนั้น มีวัดถุประสงค์ที่จะทำให้ ดงไม้โมก วัดป่า
หัวทุ่ง-คำไฮ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ เป็นศูนย์ปฏิบัติกรรมฐาน
ของฝ่ายมหานิกายภาคอิสาน จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมขึ้นที่นี่ โดยแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ เป็นอาจารย์สอนและอบรม หลวงปู่หา อ้ญญาปาโท
เป็นผู้บริหารการฝึกอบรม โดยได้นิมนต์ หลวงพ่อเจ้าคุณพระพิมลธรรม ( สมณะศักดิ์ตอนนั้นคือสมเด็จพุทธาจารย์) ในครั้งนั้นท่านได้ประทานชื่อ สถานที่ใช้อบรมนี้ว่า สำนักโมกขวนาราม เพราะว่าภายในบริเวณนี้มี
ไม้โมกข์เป็นจำนวนมาก ในขณะเดึยวกันท่านได้กล่าวว่า
บริเวณที่แห่งนี้เคยเป็นวัดมาก่อนเมื่อปี 2454 จากนั้นเป็นต้นมาวัดโมกขวนารม ได้เป็นศูนย์กลางการปฏืบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อเท้ยน จิตตสุโภ มาโดยตลอดภายใต้การบริหารงานของเจ้าอาวาส
รวมทั้งสิ้น 8 รูป จนปัจจุบันได้แก่ พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชวะโร ที่เป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 รวม 35 ปีในปีนี้ พ.ศ.2566 โดยมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี ดังนี้
1.ทำบุญประกอบศาสนกิจและแสดงธรรม ทุกวัน
2.ฝึกสอนการเจริญสติตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ แก่ภิกษุ สามเฌร ผู้ปฏิบัติธรรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน นักเรียน นักศึกษา
3.แหล่งศึกษาวนศาสตร์และสมุนไพร
4.เป็นฌาปนสถาน ให้บริการแก่บุคคลทั่วไปและผู้ยากไร้
5.เป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติธรรมชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งชาวจีนจะเรียกวัดโมกขวนารามว่า บ้านที่สองของชาวจีน ทุกปีในเดือนกันยายน ชาวจีนจะเดินทางมาทบทวนแลกเปลี่ยน ความรู้การปฏิบัติธรรม มาคารวะพระเถระผู้ใหญ่ นำผู้ปฏิบัติธรรมรุ่นใหม่ๆมารู้จักวัดโมกขวนาราม และที่สำคัญคือมาร่วมรำลึกถึงวันจากไปของบูรพาจารย์หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ในวันที่ 13 กันยายนของทุกปี โดยได้มาบวชเป็นพระภิกษุและแม่ชี ถวายหลวงปู่เทียน จนในปี 2560 ญาติธรรมได้ร่วมมือกันก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมจนสำเร็จให้ชื่อว่า อาคาร 100 ปีหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ในปึ 2561 ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชปริยัติโสภณเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเปิดอาคาร และนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
(ตำแหน่งตอนนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น)เป็นประธานฝ่ายฆารวาท
ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมาสถานะภาพของวัดโมกขวนาราม ยังไม่ได้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายจนกระทั้งในเดือนกรกฎาคม 2566 ทางวัดโมกขวนาราม. ได้รับความเมตตาจากพระครูจันทสิริสาร เจ้าคณะตำบลบ้านเป็ด เจ้าอาวาสวัดท่าบึง แจ้งสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นใหัทราบว่าวัดโมกขวนารามเป็นวัดหนึ่งที่ตกสำรวจ และให้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานไว้ให้พร้อมเพื่อนำเสนอสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นรับรองสถานะภาพการเป็นวัด
และในเดือน 11 สิงหาคม 2566 พระครูสังฆรักษ์ เจ้าอาวาสพร้อมคณะได้ไปกราบขอคำแนะนำจากพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดซึ่งท่านได้แนะนำกระบวนการต่างๆและประสานการดำเนินงานกับท่านผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นให้ จนในว้นที่ 21 สิงหาคม 2566 ท่านผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น นายจุลสัน ทันอินทร์อาจ ได้เดินทางมาที่วัดโมกขวนารามด้วยตนเอง ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล ดูหลักฐานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบสถานที่ จนเป็นที่ประจักษ์เชื่อถือได้ จึงได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัด ว่าวัดโมกขวนาราม
เป็นวัดเก่าตกสำรวจ มีสภาพเป็นวัดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์พ.ศ.2505 (และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561) ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จึงได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัด ให้ตามหนังสือศาลากลางจังหวัดขอนแก่นที่ ขก.0035/21875
ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 จากนั้น นายจุลสัน ทันอินทร์อาจ
ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้รับมอบอำนาจจาก พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชะวโร ให้เป็นผู้ยื่นขอรังวัดออกโฉนดแทน ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่นได้นัดออกรังวัดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เมื่อได้โฉนดเรียบร้อยแล้วสำนักพุทธศาสนา
จังหวัดขอนแก่น จะได้นำเสนอมหาเถระสมาคมเพื่อออกเลขที่ทะเบียนวัดต่อไป(เลขทะเบียนวัด 12 หลัก)
ญาติธรรมชาววัดโมกขวนาราม ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นขอกราบขอบพระคุณท่าน....ที่ให้ความเมตตาวัดโมขวนารามด้วยดีตลอดมา
ภาษาจีนที่เราแปล
声明
参拜各位……
二五六六年,算是对于我们森林解脱寺院民们来说极吉祥的一年,因为是 เจ้าพระคุณราชสารเวที 孔敬府佛教院院长,与เจ้าพระคุณพระราชวีระมุณี 黎府佛教院院长定目标为的把 拥有 40 籁面积的โมก森林寺院,康海田头建造成修禅中心,因此东北大宗教边在这里举办了培训会,将隆波田委任成培训会的教师,还有隆波หาอ้ญญาปาโท为培训会的管理人,并且请了隆波田พ่อเจ้าคุณพระพิมลธรรม(当时的职位是สมเด็จพุทธาจารย์)就在那一次,他给这个培训会的地方赋予名为“森林流派” 因为这个地方许多森木,同时也说过,这里在 2454年曾经是寺院,从此之后就变成了森林解脱寺院,在 8 位僧侣们的行政之下从佛历 2531年到迄今佛历2566年一共35,成为了一成不变地按照隆波田修行法而修行的修禅中心,并且一整年一直在举办以下例的活动:
1.每天为宗教服务而行善与开示佛.
2.向僧徒,沙弥,政府部门与私人,学生,大学上开示佛
3.学习林学系和草药的中心
4.是普通人与贫民的火葬场
5.中国内地学员的正念动中修禅法的学习中心,中国人人把森林解脱寺院成为:“他们第二个家”,在每一年的九月份,会漂洋过海来交流交换,学习修行,给和尚大人敬拜,带新一代修禅者来认识森林解脱寺院。
最为主要是来在每年 13日 九月份,共同参加隆波田过逝的纪念日,出家当尼姑跟和尚供隆波田。
直到 2560 年,佛民们通力合作,同心协力,成功地建造了修禅楼房;称为 【100年,纪念隆波田楼房】。
在2561年,获得了พระราชปริยัติโสภณ孔敬院长的慈悲,在开幕仪式来担任了僧边的主席,和ประเสริฐ ลือชานนท์ 先生,前廊开市长(当时职位是孔敬府市长)担任了平民边主席。
55 有年以来,森林解脱寺院一直不是一家合法寺院;知道 2566年 8月,森林解脱寺获得了พระครูจันทสิริสาร บ้านเป็ด镇院长的慈悲,帮忙给森林解脱寺院向孔敬佛教办公室告知,森林解脱寺院是其中被调查的一家寺院之一,并且给我们通知要把必须向孔敬佛教办公室提供的资料证据准备好为了被认证为合法的寺院。
2566年 八月 11号,教师僧与僧侣和团队去给พระเทพปริยัติโสภณ 孔敬府佛教院的院长拜敬求建议,因此院长建议了种种行事的和和帮助与孔径办公室协调之后,直到八月份 二十一号 二五六六年,孔敬佛教办公室的所长จุลสัน ทันอินทร์先生,亲自来到了、审查了资料证据、口考了证人、观察即审查了环境,直到无懈可击,因此给寺院出了一本批准书,批准为被调查过的寺院,参考泰国和尚法令 佛历2505年 第31条(佛历2561有进行修改(第四版本))。
孔敬佛教院的院长,代表了พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชะวโร 担任申请人求测量出地契。
在十一月份,孔敬土地管理局把测量地契的日子定为 10号、11月份、2566年。
获得了地契之后,就继续给มหาเถระสมาคม提供证据为了继续给寺院登记号(寺院登记号 12个数字)。
感谢森林解脱寺院 บ้านเป็ด镇 เมือง县 民们,一成不变地给我们恩惠。
รบกวนช่วยแนะนำการแปลชื่อคนเป็นภาษาให้ด้วยนะคะ เราไม่รู้จะแปลยังไงค่ะ🙏🙏
เพื่อน ๆ ช่วยตรวจคำแปลเราหน่อยค่ะ
ต้นฉบับภาษาไทย
คำกล่าวรายงาน
...............................
กราบนมัสการ..........
ปี 2566 เป็นปีที่เป็นมงคลยิ่งสำหรับชาววัดโมกขวนาราม ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่น เป็นปีที่ครบรอบ 55 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 ที่เจ้าคุณพระราชสารเวที เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และเจ้าคุณพระราชวีระมุณี เจ้าคณะจังหวัดเลย สองเจ้าคณะจังหวัดในสมัยนั้น มีวัดถุประสงค์ที่จะทำให้ ดงไม้โมก วัดป่า
หัวทุ่ง-คำไฮ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ เป็นศูนย์ปฏิบัติกรรมฐาน
ของฝ่ายมหานิกายภาคอิสาน จึงได้จัดให้มีการฝึกอบรมขึ้นที่นี่ โดยแต่งตั้งให้ หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ เป็นอาจารย์สอนและอบรม หลวงปู่หา อ้ญญาปาโท
เป็นผู้บริหารการฝึกอบรม โดยได้นิมนต์ หลวงพ่อเจ้าคุณพระพิมลธรรม ( สมณะศักดิ์ตอนนั้นคือสมเด็จพุทธาจารย์) ในครั้งนั้นท่านได้ประทานชื่อ สถานที่ใช้อบรมนี้ว่า สำนักโมกขวนาราม เพราะว่าภายในบริเวณนี้มี
ไม้โมกข์เป็นจำนวนมาก ในขณะเดึยวกันท่านได้กล่าวว่า
บริเวณที่แห่งนี้เคยเป็นวัดมาก่อนเมื่อปี 2454 จากนั้นเป็นต้นมาวัดโมกขวนารม ได้เป็นศูนย์กลางการปฏืบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อเท้ยน จิตตสุโภ มาโดยตลอดภายใต้การบริหารงานของเจ้าอาวาส
รวมทั้งสิ้น 8 รูป จนปัจจุบันได้แก่ พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชวะโร ที่เป็นเจ้าอาวาสมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 รวม 35 ปีในปีนี้ พ.ศ.2566 โดยมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี ดังนี้
1.ทำบุญประกอบศาสนกิจและแสดงธรรม ทุกวัน
2.ฝึกสอนการเจริญสติตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ แก่ภิกษุ สามเฌร ผู้ปฏิบัติธรรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชน นักเรียน นักศึกษา
3.แหล่งศึกษาวนศาสตร์และสมุนไพร
4.เป็นฌาปนสถาน ให้บริการแก่บุคคลทั่วไปและผู้ยากไร้
5.เป็นแหล่งเรียนรู้การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวของผู้ปฏิบัติธรรมชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งชาวจีนจะเรียกวัดโมกขวนารามว่า บ้านที่สองของชาวจีน ทุกปีในเดือนกันยายน ชาวจีนจะเดินทางมาทบทวนแลกเปลี่ยน ความรู้การปฏิบัติธรรม มาคารวะพระเถระผู้ใหญ่ นำผู้ปฏิบัติธรรมรุ่นใหม่ๆมารู้จักวัดโมกขวนาราม และที่สำคัญคือมาร่วมรำลึกถึงวันจากไปของบูรพาจารย์หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ในวันที่ 13 กันยายนของทุกปี โดยได้มาบวชเป็นพระภิกษุและแม่ชี ถวายหลวงปู่เทียน จนในปี 2560 ญาติธรรมได้ร่วมมือกันก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมจนสำเร็จให้ชื่อว่า อาคาร 100 ปีหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ในปึ 2561 ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชปริยัติโสภณเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเปิดอาคาร และนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย
(ตำแหน่งตอนนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น)เป็นประธานฝ่ายฆารวาท
ตลอดระยะเวลา 55 ปีที่ผ่านมาสถานะภาพของวัดโมกขวนาราม ยังไม่ได้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมายจนกระทั้งในเดือนกรกฎาคม 2566 ทางวัดโมกขวนาราม. ได้รับความเมตตาจากพระครูจันทสิริสาร เจ้าคณะตำบลบ้านเป็ด เจ้าอาวาสวัดท่าบึง แจ้งสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นใหัทราบว่าวัดโมกขวนารามเป็นวัดหนึ่งที่ตกสำรวจ และให้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานไว้ให้พร้อมเพื่อนำเสนอสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นรับรองสถานะภาพการเป็นวัด
และในเดือน 11 สิงหาคม 2566 พระครูสังฆรักษ์ เจ้าอาวาสพร้อมคณะได้ไปกราบขอคำแนะนำจากพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดซึ่งท่านได้แนะนำกระบวนการต่างๆและประสานการดำเนินงานกับท่านผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นให้ จนในว้นที่ 21 สิงหาคม 2566 ท่านผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น นายจุลสัน ทันอินทร์อาจ ได้เดินทางมาที่วัดโมกขวนารามด้วยตนเอง ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล ดูหลักฐานแวดล้อม พร้อมตรวจสอบสถานที่ จนเป็นที่ประจักษ์เชื่อถือได้ จึงได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัด ว่าวัดโมกขวนาราม
เป็นวัดเก่าตกสำรวจ มีสภาพเป็นวัดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์พ.ศ.2505 (และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2561) ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น จึงได้ออกหนังสือรับรองสภาพวัด ให้ตามหนังสือศาลากลางจังหวัดขอนแก่นที่ ขก.0035/21875
ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 จากนั้น นายจุลสัน ทันอินทร์อาจ
ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น ได้รับมอบอำนาจจาก พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชะวโร ให้เป็นผู้ยื่นขอรังวัดออกโฉนดแทน ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดขอนแก่นได้นัดออกรังวัดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เมื่อได้โฉนดเรียบร้อยแล้วสำนักพุทธศาสนา
จังหวัดขอนแก่น จะได้นำเสนอมหาเถระสมาคมเพื่อออกเลขที่ทะเบียนวัดต่อไป(เลขทะเบียนวัด 12 หลัก)
ญาติธรรมชาววัดโมกขวนาราม ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองจังหวัดขอนแก่นขอกราบขอบพระคุณท่าน....ที่ให้ความเมตตาวัดโมขวนารามด้วยดีตลอดมา
ภาษาจีนที่เราแปล
声明
参拜各位……
二五六六年,算是对于我们森林解脱寺院民们来说极吉祥的一年,因为是 เจ้าพระคุณราชสารเวที 孔敬府佛教院院长,与เจ้าพระคุณพระราชวีระมุณี 黎府佛教院院长定目标为的把 拥有 40 籁面积的โมก森林寺院,康海田头建造成修禅中心,因此东北大宗教边在这里举办了培训会,将隆波田委任成培训会的教师,还有隆波หาอ้ญญาปาโท为培训会的管理人,并且请了隆波田พ่อเจ้าคุณพระพิมลธรรม(当时的职位是สมเด็จพุทธาจารย์)就在那一次,他给这个培训会的地方赋予名为“森林流派” 因为这个地方许多森木,同时也说过,这里在 2454年曾经是寺院,从此之后就变成了森林解脱寺院,在 8 位僧侣们的行政之下从佛历 2531年到迄今佛历2566年一共35,成为了一成不变地按照隆波田修行法而修行的修禅中心,并且一整年一直在举办以下例的活动:
1.每天为宗教服务而行善与开示佛.
2.向僧徒,沙弥,政府部门与私人,学生,大学上开示佛
3.学习林学系和草药的中心
4.是普通人与贫民的火葬场
5.中国内地学员的正念动中修禅法的学习中心,中国人人把森林解脱寺院成为:“他们第二个家”,在每一年的九月份,会漂洋过海来交流交换,学习修行,给和尚大人敬拜,带新一代修禅者来认识森林解脱寺院。
最为主要是来在每年 13日 九月份,共同参加隆波田过逝的纪念日,出家当尼姑跟和尚供隆波田。
直到 2560 年,佛民们通力合作,同心协力,成功地建造了修禅楼房;称为 【100年,纪念隆波田楼房】。
在2561年,获得了พระราชปริยัติโสภณ孔敬院长的慈悲,在开幕仪式来担任了僧边的主席,和ประเสริฐ ลือชานนท์ 先生,前廊开市长(当时职位是孔敬府市长)担任了平民边主席。
55 有年以来,森林解脱寺院一直不是一家合法寺院;知道 2566年 8月,森林解脱寺获得了พระครูจันทสิริสาร บ้านเป็ด镇院长的慈悲,帮忙给森林解脱寺院向孔敬佛教办公室告知,森林解脱寺院是其中被调查的一家寺院之一,并且给我们通知要把必须向孔敬佛教办公室提供的资料证据准备好为了被认证为合法的寺院。
2566年 八月 11号,教师僧与僧侣和团队去给พระเทพปริยัติโสภณ 孔敬府佛教院的院长拜敬求建议,因此院长建议了种种行事的和和帮助与孔径办公室协调之后,直到八月份 二十一号 二五六六年,孔敬佛教办公室的所长จุลสัน ทันอินทร์先生,亲自来到了、审查了资料证据、口考了证人、观察即审查了环境,直到无懈可击,因此给寺院出了一本批准书,批准为被调查过的寺院,参考泰国和尚法令 佛历2505年 第31条(佛历2561有进行修改(第四版本))。
孔敬佛教院的院长,代表了พระครูสังฆรักษ์ เอนก เตชะวโร 担任申请人求测量出地契。
在十一月份,孔敬土地管理局把测量地契的日子定为 10号、11月份、2566年。
获得了地契之后,就继续给มหาเถระสมาคม提供证据为了继续给寺院登记号(寺院登记号 12个数字)。
感谢森林解脱寺院 บ้านเป็ด镇 เมือง县 民们,一成不变地给我们恩惠。
รบกวนช่วยแนะนำการแปลชื่อคนเป็นภาษาให้ด้วยนะคะ เราไม่รู้จะแปลยังไงค่ะ🙏🙏